ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1319 ที่พึ่งของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
ในแผนการดั้งเดิมของพวกเขา ฟู่ถิงกับเหอซีสิงความจริงคิดจะรั้งอยู่บนโลกซ้อนโลก
ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ต้องการมา
ในการสืบทอดของยอดเขาอัศจรรย์ ผาบัวแดงแทบจะเป็นนิวาสสถานที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขากว่างเฉิงมากที่สุด
แม้แต่จักรพรรดิแพรอาพรณ์ขาว ก็มีมิตรภาพกับเขากว่างเฉิงเช่นกัน
หากในการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ต้องอยู่บนโลกซ้อนโลก ย่อมมีนิวาสสถานอื่นๆ ผาบัวแดงจึงออกจากจักรวาลสำนักเต๋าพร้อมกับเขากว่างเฉิง
แต่ว่าฟู่ถิงกับเหอซีสิงมีสถานการณ์ค่อนข้างพิเศษ
เหตุผลก็ไม่มีอื่น ก่อนที่จะอยู่ในระดับประมุขศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่คน สองคนต่างทราบถึงการดำรงอยู่ของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ จึงเพาะเมล็ดไร้รูปร่างไว้ในส่วนลึกจิตใจ
ต่อให้เหอซีสิงจะเลื่อนจากจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าเป็นขั้นสิบในภายหลัง ผลกระทบก่อนหน้าก็ยังคงอยู่
ภัยแฝงในนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น ในขณะเดียวกันยังส่งผลกระทบต่อคนอื่นด้วย
ต่อให้ไม่ส่งผลต่อคนอื่นๆ อาจอาจกลายเป็นเบาะแสงที่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับโถงเซียนใช้ตามหาเยี่ยนจ้าวเกอกับโถงเซียน
ดังนั้นแผนการเดิมของพวกฟู่ถิงคือการรั้งอยู่บนโลกซ้อนโลก เช่นนี้ขณะไม่ส่งผลต่อตำหนักโอสถ ยังปลอดภัยกว่าสำหรับพวกเขา
เมื่ออยู่บนโลกซ้อนโลก ความเป็นไปได้ที่โถงเซียนจะจัดการพวกเขามีน้อยมากอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นเพราะไม่มีความจำเป็น และไม่มีค่าพอให้พูดถึง
กระนั้น เยี่ยนจ้าวเกอส่งคำเชิญให้แก่ฟู่ถิงอย่างจริงจัง หวังให้พวกเขาร่วมทาง
“ข้ามีแผนการส่วนหนึ่งจริงๆ” พอได้ยินเยว่เจิ้นเป่ยถาม เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าตอบว่า “ในนี้มีความเสี่ยง แต่สุดท้ายปัญหาบางอย่างเราก็ต้องเผชิญ”
เยว่เจิ้นเป่ยถาม “เจ้ามีวิธีจัดการภัยแฝงจากคำสาปปฏิญาณของเทวกษัตรย์ไร้ประมาร?”
“ปัจจุบันยังไม่มี” เยี่ยนจ้าวเกอกดนิ้วบนขมับของตัวเองเบาๆ “แต่ว่าข้าคิดจะเปลี่ยนมุมมองในการมองปัญหานี้ดู”
“ข้าคิดถึงปัญหาหนึ่ง ตอนที่ใช้วิธีการทั่วไปหมดแล้ว แต่ยังไม่เจอคำตอบ ต้องลองกลับไปที่จุดเริ่มต้น เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้อีกรอบหนึ่ง”
เยี่ยนจ้าวเกออธิบาย “ถึงเทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะเกิดจากเซียนสวรรค์ไร้สุดบางคนในสำนักเต๋าสายหลักของเรา แต่ว่าเขาชำระล้างผู้สืบทอดสำนักเต๋าของเราได้ง่ายดายและดุร้ายเกินไป”
“เขาทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?”
เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับของตัวเองเบาๆ ทางหนึ่งใคร่ครวญทางหนึ่งกล่าว
เยว่เจิ้นเป่ยพอฟัง สายตากลายเป็นคมกริบ สีหน้าฉายแววกระจ่างแจ้ง “ศิลาฟ้ากำเนิด…”
“อืม ข้าเดาว่าหนึ่งในที่พึ่งพาของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ คือศิลาฟ้ากำเนิด” เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ “ครั้งกระโน้นสิ่งที่จักรพรรดิประกายกาฬชิงไปเป็นแค่เศษศิลาฟ้ากำเนิด ส่วนที่เหลืออยู่ของศิลาฟ้ากำเนิดสมควรอยู่ที่โถงเซียน”
“มีศิลาฟ้ากำเนิด หรือยังมีอะไรอย่างอื่น บวกกับที่ตัวเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเปลี่ยนมาจากเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลของสำนักเต๋าสายหลักของเรา เหตุผลมากมายเมื่อเอามารวมกัน จึงมีการชำระล้างที่รุนแรงปานนั้น”
เยี่ยนจ้าวเกอแตะนิ้วกับริมฝีปาก “น่าเสียดายที่การแตกออกเป็นเศษของศิลาฟ้ากำเนิดส่งผลดีต่อราชันพระอาทิตย์มากกว่า”
ตอนแรกหลังจากเสวี่ยชูฉิงได้เศษศิลาฟ้ากำเนิดมา ก็เป็นแค่เศษชิ้นส่วนอยู่แล้ว จึงได้กระจายมันไปทั่วโลกนับพันนับหมื่นใบ
แต่ว่าเรื่องราวได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่นางคาดไม่ถึง
พวก ‘ซือคงจิง’ ที่เกิดขึ้นหลังจากเศษชิ้นส่วนแยกจากกันอีกครั้ง ไม่เพียงแต่มีเงื่อนไขทางรูปลักษณ์ภายนอกสะดุดตาถึงขีดสุด พรสวรรค์วรยุทธ์ยิ่งโดดเด่นผิดธรรมดา
นี่ทำให้พวก ‘ซือคงจิง’ แม้จะกระจายอยู่ในประชากรจำนวนมหาศาล แต่ว่าทองสุดท้ายก็เปล่งประกาย แม้จะตายตั้งแต่วัยเยาว์ แต่ก็ยังคงมีส่วนใหญ่ที่เติบโตขึ้นมา
คนที่มีเงื่อนไขทางรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่น ทั้งหน้าตายังเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน พรสวรรค์ด้านวรยุทธ์และการฝึกปรือล้ำเลิศจำนวนมากขนาดนี้ ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกัน ไม่อยากดึงดูดความสนใจของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ยังยาก
การซ่อนใบไม้ในป่าย่อมมิดชิดที่สุด
แต่ว่าใบไม้สีทองใบหนึ่ง เมื่ออยู่กลางป่าสีเขียว ก็ไม่ได้มิดชิดเช่นเดิมแล้ว
ถ้าหากเป็นใบสีทองจำนวนมาก นั่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการซ่อนแล้ว
เสวี่ยชูฉิงหลีกเลี่ยงไม่ติดต่อกับพวกซือคงจิง เพื่อระวังตัว ป้องกันไม่ให้คนอื่นทำนายถึง
หลังจากนางได้พบกับเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกอีกครั้ง จึงสัมผัสได้ว่ามีปัญหา เกิดความรู้สึก ‘ตอนนั้นได้กระทำเรื่องโง่เง่า’
กระนั้น ความจริงในตอนท้ายก็คือ ความผิดพลาดที่ดูเหมือนไม่ตั้งใจของเสวี่ยชูฉิง ไม่ได้สร้างผลลัพธ์อย่างที่คาดไว้
สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิยอดฝีมือระดับสูงซึ่งเป็นผู้ปกครองโลกซ้อนโลกเมื่อก่อนหน้า ไม่ได้พบความพิเศษของพวก ‘ซือคงจิง’
สาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ ก็คือมีคนลอบรวบรวมใบไม้ที่เป็นสีทองเรืองรองเหล่านี้ไปก่อนแล้วก้าวหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอไม่ทราบถึงรากฐานของกษัตริย์เร้นลับ เพียงทราบว่าเขาสมควรปิดบังกษัตริย์ดินเจี่ยงเซิ่นในที่ลับ จึงได้คาดเดาว่า อาจจะเป็นเพราะกษัตริย์เร้นลับลอบเคลื่อนไหวอย่างลับๆ รวบรวมคนที่เหมือนกับซือคงจิงไปแล้วเป็นส่วนใหญ่
ปัจจุบันพอได้ทราบว่า ‘หยางเซ่อ’ ราชันพระเกตุเป็นร่างแยกของราชันพระอาทิตย์เกาหาน เยี่ยนจ้าวเกอก็แทบแน่ใจในเรื่องนี้
ทิศทางสุดท้ายของคนที่เหมือนกับซือคงจิงเหล่านี้ เก้าในสิบส่วนคือถูกแยกกันส่งเข้าไปในถุงย่ามของเกาหานในที่ลับ
ตามคำกล่าวของเสวี่ยชูฉิง ความคิดในการแบ่งเศษศิลาฟ้ากำเนิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตอนแรกไม่ใช่ความต้องการของนาง แต่ว่าเป็นความคิดที่อาจารย์ของนางเคยพูดถึง
ความคิดนี้มาจากอาจารย์ของเสวี่ยชูฉิง หรือว่ามาจากเกาหาน นั่นก็ยากจะบอกแล้ว
ความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของเศษศิลาฟ้ากำเนิดจากหูเยว่ซินอาจารย์ย่าของเสวี่ยชูฉิง ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมาจากพวกจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋และเกาหาน
“เขาบังฟ้าข้ามทะเล ได้รับประโยชน์ใหญ่หลวง แต่ว่ามารดาข้ากลับถูกทั่วโลกตามล่า” เยี่ยนจ้าวเกอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “แต่ว่าเรื่องราวต่างๆ ก็ยากจะสมบูรณ์แบบ เขาคิดรวมรวมให้หมดทุกคน ทำให้เศษศิลาฟ้ากำเนิดนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง กลับเป็นความฝันแล้ว”
พอถึงตรงนี้ เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะขึ้น “พวกเรามีส่วนหนึ่ง พวกเขามีส่วนหนึ่ง นี่นับว่าเป็นตัวเลือกอันชาญฉลาดที่ไม่วางไข่ไว้ในตะกร้าเดียวกันกระมัง? เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกโถงเซียนเหวี่ยงแหจับในทีเดียว”
เยว่เจิ้นเป่ยซึ่งที่แล้วมาเคร่งขรึมจริงจังพอฟัง อดยิ้มขึ้นไม่ได้
เขาส่ายหน้าเบาๆ “ถึงจะสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่า การกระทำของผู้อาวุโสหยางมีจุดที่ไม่ให้คนอื่นทราบ แต่คิดไม่ถึงจริงๆ ว่า เขาถึงกับเป็นร่างแยกร่างหนึ่งของราชันพระอาทิตย์”
“เดิมทีข้าเดาว่าเขาเป็นคนคอยประสานภายในกับราชันพระอาทิตย์ กลับคิดไม่ถึงว่า ความเกี่ยวข้องของพวกเขาใกล้ชิดกันจนไม่อาจแบ่งแยกจากกันจริงๆ ท่านก็คือข้า ข้าก็คือท่าน” เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก
ขณะที่กษัตริย์ดินกับกษัตริย์กระบี่อยู่ในมิตินอกเขตแดน ไม่ได้กลัมา เขากว่างเฉิงกับผากิเลนฉีกหน้ากันโดยสมบูรณ์ และเกิดสงครามขึ้น หวังเจิ้งเฉิงประมุขปฐวีถูกเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าตาย เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่าสองฝ่ายแตกหักโดยสิ้นเชิง ไม่อาจไกล่เกลี่ยกันได้อีก
ตอนนั้นกษัตริย์เร้นลับ เข้าฌานไม่ออกจากหุบเขาเซียนเร้นกาย ไม่ถามไถ่เรื่องทางโลก
ภายหลังได้พิสูจน์ว่า เขาไม่ได้เข้าฌานปิดตายไม่ถามไถ่เรื่องราวในโลกภายนอกจริงๆ หากให้ความสนใจกับเรื่องเล็กๆ ในน้อยบนโลกซ้อนโลกอย่างใกล้ชิดเสมอมา
การกระทำเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า เขาต้องการให้ความขัดแย้งของสองฝ่ายเพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง
ไม่อย่างนั้นถ้าเขาต้องการให้โลกซ้อนโลกสงบจริงๆ วิธีการที่เหมาะสมที่สุดไม่มีอะไรนอกจากการแสดงท่าทีสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในทันที เมื่อเป็นแบบนี้อีกฝ่ายจะมีสภาพเลวร้ายอย่างชัดเจน กลับอาจจะลดธงหยุดตีกลองรบ ทำให้สภาพการณ์สงบลง
ด้วยสถานการณ์กับการต่อสู้ระหว่างขุมกำลังต่างๆ ในตอนนั้น ยิ่งกษัตริย์เร้นลับไกล่เกลี่ยเปะปะ ยิ่งยากจะหยั่งถึงเจตนา
กษัตริย์ดินเจี่ยงเซิ่นใช่ว่าจะไม่ทราบถึงความผิดปกติของกษัตริย์เร้นลับ ทว่าเขาเข้าใจผิด ยึดถือกษัตริย์เร้นลับเป็นสายลับสองหน้าที่ฉกผลประโยชน์จากท้องสองฝ่าย ซึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นผู้แพ้ ต่อให้ไม่แพ้แก่เยี่ยนจ้าวเกอกับสั่วหมิงจาง ก็ตกไปในหลุมพรางของเกาหาน
………………..