คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 162 ทะเลทรายอันอบอุ่น
ตอนที่ 162 ทะเลทรายอันอบอุ่น
“หะ!!”
“ท่านรอง!”
“เดี๋ยวก็ตายพอดีกัน!”
หลังสิ้นเสียงกรีดร้องของพวกที่เข้ามาห้าม หมัดของถังจิ้นเหยียนก็ต่อยออกไปอย่างไม่หยุด ทั้งสองแลกหมัดกันไปมาอย่างรุนแรง พลั่ก!!พลั่ก!! ไม่มีใครยอมใคร!
ฉู่ลั่วหานเองก็ตกตะลึง!
เธอหลบอยู่ข้างหลังรถรอดูสถานการณ์อยู่ เมื่อเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นเธอก็แปลกใจมากที่เห็นถังจิ้นเหยียนสุภาพบุรุษคนนั้นมีความสามารถด้านการชกต่อยแบบนี้?
ไม่เพียงแต่ต่อยได้ แต่ละหมัดยังหนักขนาดนี้?นี่มัน……เหมือนกับถังจิ้นเหยียนคนละคนกับที่เธอรู้จักเลยจริงๆ!
เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง!
หลังจากขยี้ตามองให้ชัดเจนแล้ว เธอเห็นว่าถังจิ้นเหยียนชกเข้าไปที่ท้องของจี้ตงหมิง จนอีกฝ่ายถอยหลังไปสองสามก้าว
หมัดหนักจริงๆ เหมือนจะเกินไปแล้ว
จากเดิมจี้ตงหมิงคิดว่าเขาพอสู้กำลังของถังจิ้นเหยียนได้ แต่ถังจิ้นเหยียนออกหมัดรัวๆติดต่อกันอีกทั้งเพิ่มน้ำหนัก ทำให้จี้ตงหมิงคล้ายกำลังเป็นรอง
“พลั่ก!!!”
“อึก!”
ถังจิ้นเหยียนคว้าคอเสื้อของจี้ตงหมิงขึ้นมาแล้วต่อยไปที่หน้าของเขาหมัดแล้วหมัดเล่า! มุมปากของจี้ตงหมิงมีรอยเลือดไหลออกมา ใบหน้าของเขาเริ่มบวมขึ้น ดูแล้วน่าเวทนา
“ถังจิ้นเหยียน คุณเล่นละครตบตาเก่งนี่!”จี้ตงหมิงเช็ดเลือดแล้วยิ้มขึ้น
ถังจิ้นเหยียนเก็บหมัด “สำหรับคนบางคนควรรักษามารยาท แต่สำหรับคนบางประเภทคาดว่าคงต้องใช้กำลัง”
จี้ตงหมิงถูกเขาต่อยเสียจนหมดท่า ตาลายเดินเซ เมื่อทรงตัวได้จึงพูดว่า “หมายความว่าการที่คุณพูดว่าไม่รู้ถึงความเคลื่อนไหวของคุณหญิงก็เป็นเรื่องที่ตบตาผมขึ้นมาเหมือนกัน!”
ถังจิ้นเหยียนหยิบเสื้อขาวขึ้นมาจากพื้น “ไม่ ผมไม่รู้ คุณคงหาคนผิดแล้วละ”
พูดจบถังจิ้นเหยียนก็เดินจากไป เหลือไว้เพียงแพทย์ที่ยืนอยู่ด้านหลังพากันอกสั่นขวัญหายและจี้ตงหมิงที่ใบหน้าเขียวช้ำ
จี้ตงหมิงได้สติขึ้นมารีบวิ่งตามไป “ถังจิ้นเหยียน คุณชายหลงรักเธอมากจริงๆ!ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหญิงละก็ คุณชายหลงต่อให้แลกด้วยชีวิตก็ต้องจัดการคุณให้ได้!”
ถังจิ้นเหยียนหยุดฝีเท้าลง เขาหันหลังกลับมาแล้วพูดว่า “ในเมื่อรักเธอก็ควรจะปกปิ้งเธอ ไม่ใช่ปล่อยให้เธอสิ้นหวังแล้วเดินจากออกมา จากนั้นค่อยออกตามหาเธอ คุณจี้ครับ ผมไม่อยากลงไม้ลงมือกับคุณอีก ขอให้คุณอย่ามายุ่งกับชีวิตผม คุณก็รู้ดีว่าฉู่ลั่วหานสำหรับผมแล้วเธอไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป”
คำพูดนี้ช่างแหลมคมแต่เด็ดขาด ไม่สิ นั่นมันคือคำพูดว่าเขารักผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว อีกทั้งพูดออกมาอย่างเต็มปาก
แม่งเอ้ย!
จี้ตงหมิงเข็ดเลือดที่มุมปากอีกครั้ง เขากลับขึ้นไปยังยอดเขาและโทรหาหลงเซียว สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยออกมา จี้ตงหมิงมองไปยังฟากฟ้าแล้วนึกในใจว่า นี่มันอะไรกัน?
เมื่อโทรติดหลงเซียวแทบอดใจรอไม่ได้รีบถามออกมาว่า “เธออยู่ที่ไหน?”
จี้ตงหมิงกัดฟันด้วยความเจ็บพูดว่า “นายท่านครับ ถังจิ้นเหยียนไม่เอ่ยปากบอกอะไรออกมา หรือว่าเขาจะไม่รู้เรื่องจริงๆ?”
ไม่รู้อย่างงั้นเหรอ?
หลงเซียวไม่พอใจกับคำตอบนี้เท่าไหร่นัก
อีกฝั่งหนึ่งเงียบไปนาน หลงเซียวไม่ได้พูดอะไรออกมา มีเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้น ชัดเจนว่าเจ้านายเขากำลังโกรธ
จี้ตงหมิงรออยู่ถึงหนึ่งนาทีเต็มก่อนที่จะถามออกไปด้วยความระมัดระวังว่า “เจ้านายครับ ให้ผมจับตาดูเขาต่อไปไหม?”
“รอดูอีกคืนหนึ่ง” หลงเซียวขมวดคิ้วด้วยความไม่สบอารมณ์
เมื่อวางสายลง หลงเซียว1ครุ่นคิดว่าถ้าหากถังจิ้นเหยียนรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน การกระทำแสนสงบของเขาในตอนนี้อย่างน้อยก็บ่งบอกได้ว่าฉู่ลั่วหานยังปลอดภัยดี
หรือควรจะให้เวลาเธอเสียหน่อย ให้เธอได้ผ่อนคลายลงมากกว่านี้อีกนิด
การที่ไม่สามารถลุกขึ้นปกป้องเธอได้อันดับแรก เขาเองก็รู้สึกเสียใจแต่สิ่งที่ทำให้เขาร้อนรนใจไปกว่านี้คือ ทำไมเธอถึงต้องหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้?
เคนยายามค่ำคืน ดวงดาวเต็มท้องฟ้า ส่องสว่างระยิบระยับ
หลังจากจี้ตงหมิงทำแผลเรียบร้อย เขาก็ได้ตามถามแพทย์ทุกล้วนตอบว่าไม่เป็นคุณหมอฉู่ ตกดึกจี้ตงหมิงขับรถออกจากหมู่บ้านเพื่อสำรวจดูพื้นที่โดยรอบ
เพื่อเป็นการไม่ให้จี้ตงหมิงเกิดความสงสัย ถังจิ้นเหยียนรีบกลับเข้าห้องพักของตนโดยไม่ได้แม้แต่เข้าไปใกล้ประตูห้องของฉู่ลั่วหาน
ดังนั้นจี้ตงหมิงจึงไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม เมื่อเป็นเช่นนี้จี้ตงหมิงเองก็คล้ายกับจะถอดใจเสียแล้ว
วันต่อมา จี้ตงหมิงจึงได้ขับรถออกมาจากที่นั่น
รอจะกระทั่งสิ้นเสียงรถยนต์ ฉู่ลั่วหานจึงออกมามองตามหลังรถคันนั้นไป จี้ตงหมิงกำลังจะกลับประเทศแล้ว ประเทศที่เธอคงไม่ได้กลับไปอีก
“ลั่วหาน”
ถังจิ้นเหยียนยืนอยู่ด้านหลังเธอและเอ่ยชื่อเธอออกมาด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน เขาช่างอ่อนโยนมากเหลือเกินและเป็นแบบนี้ทุกครั้งเสมอมา เมื่อเปรียบเทียบกับประชากรที่นี่แล้วต่างกันราวฟ้ากับดิน
“รอยฟกช้ำบนใบหน้าของคุณยังเจ็บอยู่ไหมคะ ดีขึ้นหรือยัง?”
แม้ยังมีรอยอยู่บ้าง แต่เนื่องจากเขาจัดการเบื้องต้นได้อย่างดีจึงทำให้รอยหายไปไม่น้อย
ถังจิ้นเหยียนส่ายหัว ภาพใต้แสงอาทิตย์รอยยิ้มน้ำคล้ายกับมีความสุขมากเหลือเกิน เอาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาจริงๆ
“ไม่เจ็บแล้วครับ เรื่องเล็กน้อยเอง”
“เรื่องเล็กน้อยเหรอคะ? ไม่คิดมาก่อนว่าคุณจะชกต่อยกับใครเป็น” ฉู่ลั่วหานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ถังจิ้นเหยียนพูดอย่างมั่นใจว่า “ลูกผู้ชาย เมื่อถึงเวลาก็ควรสู้ครับ”
เอาเถอะถึงยังไงเรื่องเมื่อคืนนี้ก็เป็นเพราะเธอ
เขาไม่ได้พูดถึงหัวข้อนี้ต่อ แต่กลับเปลี่ยนหัวข้อสนทนาว่า “วันนี้ผมหยุด จะพาคุณไปที่ๆนึงนะครับ”
ฉู่ลั่วหานคิดไม่ถึงว่าที่ที่ถังจิ้นเหยียนจะพาไปนั้นคือทะเลทราย เคนยานั้นมีภูมิประเทศเป็นทะเลทรายที่กว้างใหญ่ เมื่อมองไปคล้ายกับโลกนี้เป็นสีเหลือง เนินทรายที่สูงๆต่ำเรียงรายอย่างไม่เป็นระเบียบขยายออกไปทีละชั้นๆ งดงามมาก!สุดยอดจริงๆ!
ขี่อูฐมองไปยังเนินทราย คล้ายกับกลิ้งเกลือกไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเม็ดทราย ฉู่ลั่วหานเล่นเหมือนกับเด็กๆ เธอโยนทรายขึ้นแล้วปล่อยให้ลมพัดผ่านทรายปลิวว่อนและมันก็สวยงามมาก
“ตะโกนไปเลยครับ!ถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่ทะเล แต่ก็เป็นทะเลทราย”
ถังจิ้นเหยียนยิ้มอย่างมีความสุข เขาทำมือเป็นรูปลำโพงแล้วตะโกนออกมาว่า “ฉู่ลั่วหาน เด็กโง่!”
ห้ะ อะไรนะ!
“ถังจิ้นเหยียน คุณกล้าว่าฉันเป็นเด็กโง่งั้นเหรอ!”
เขาไม่ตอบ แต่กลับตะโกนต่อว่า “คุณมันเป็นเด็กโง่ที่สุดในโลกใบนี้!!!”
ได้!จัดไป!คุณว่าฉันก่อนนะ!
ฉู่ลั่วหานยืนขึ้นและตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า “ถังจิ้นเหยียน คุณต่างหากเป็นคนโง่ คุณโง่ที่สุดในโลกเลย!”
“ใช่ ถังจิ้นเหยียนเป็นคนโง่!” เมื่อเขาพูดจบก็หันมาหัวเราะกับฉู่ลั่วหาน เสียงของพวกเขาหายไปในสายลม
ฉู่ลั่วหานหัวเราะและพูดว่า “คุณเป็นคนโง่!ฉัน……ก็เป็นคนโง่! ฉู่ลั่วหานแกมันโง่ที่สุด!”
“ฮ่าๆๆๆ!ฉู่ลั่วหานคุณยอมรับว่าตัวเองโง่แล้วเหรอ” เขาใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนเอ่ยออกมา
“ถังจิ้นเหยียน แต่คุณมันทั้งโง่และบ้ากำลัง!คุณกล้าต่อยกับคนอื่น!ฮ่าๆๆๆ คุณต่อยกับคนอื่น!”
ทั้งสองคนยืนเอามือเท้าสะเอวไว้ อูฐที่อยู่ข้างหลังทั้งสองมองดูด้วยความประหลาดใจ
ลมแรงพัดผ่านมา เมื่อฉู่ลั่วหานอ้าปากทรายก็เข้าปากเธออย่างจัง!
“แหวะๆ!!” ฉู่ลั่วหานแลบลิ้นบ้วนทรายออกมา แต่ในปากของเธอยังคงมีทรายอยู่เต็มไปหมด เธอเคี้ยวมันกรอบๆแล้วหัวเราะจนน้ำตาไหลว่า “ฮ่าๆๆๆ ฉันมันโง่เสียจริงๆนะ !!”
เมื่อได้มองดูรอยยิ้มของเธอเช่นนี้ เขาก็รู้สึกว่าคุ้มแล้ว และเขาหวังว่าในแต่ละวันจะทำให้เธอมีความสุขได้แบบนี้ เขาจะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องเธออย่างแน่นอน
ถังจิ้นเหยียนส่งกระบอกใส่น้ำให้เธอ “นี่ไงคุณโง่จริงๆด้วย? รีบล้างปากซะ เวลาลมพัดมาอย่าอ้าปากอีกนะ ไม่งั้นคงได้กินทรายจนอิ่มแน่ๆ”
ฉู่ลั่วหานรับกระบอกน้ำไปกลั้วปาก “ตอนแรกก็รู้สึกกรอบแกรบๆ แต่เคี้ยวไปสักพักก็ไม่เลวนะคะ”
ถังจิ้นเหยียนตกใจมาก เขายื่นมามือจับที่ศีรษะเธอ “เอ๊ะ ก็ไม่ได้ตัวร้อนที่ครับ?”
สีหน้าเธอจริงจังมาก “จริงๆนะคะ! ไม่เชื่อเหรอ?ถ้าไม่เชื่อคุณลองดูสิ รสชาติดีทีเดียว”
เมื่อพูดจบฉู่ลั่วหานก็กำทรายขึ้นมาแล้วทำท่าจะป้อนให้ถังจิ้นเหยียน แต่เขาหลบไปเสียก่อน ฉู่ลั่วหานจึงวิ่งตามไป “เร็วๆเข้า!อร่อยจริงๆนะคะ!คุณลองดูสิ ฮ่าๆๆๆ”
ถังจิ้นเหยียนวิ่งหลบมือหนึ่งปิดปากตัวเองไว้แล้วพูดว่า “คุณกินเองสิ!กินเยอะๆนะ”
“จริงๆนะคะ อร่อยๆๆ มาๆๆๆ” ฉู่ลั่วหานนิสัยเปลี่ยนไปคล้ายคนแถวนี้ขึ้นมาทุกวัน ความรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกเก็บไว้ถูกลืมไปชั่วขณะ เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงนกกระจอกเทศที่เอาหัวมุดลงทรายแล้วบอกตัวเองว่า ฉันไม่เป็นไรๆๆ!
“ตุ๊บ!”
ถังจิ้นเหยียนสะดุดล้มลง ตัวเขากลิ้งไปบนพื้นทราย ฉู่ลั่วหานรีบคว้าเอาไว้แต่ไม่ทันจึงทำให้ตัวเธอล้มลงไปทับตัวเขาอย่างจัง
“อั่ก!”ร่างทั้งร่างหล่นลงมาทับเขา
เสียงลมโชยมา ผมของเธอปลิวไสวมองไปยังใบหน้าสะอาดสะอ้านของชายผู้นี้ที่ถูกแสงแดดส่องจนแดงเรื่อ ทำให้มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นไม่น้อย
กลิ่นเหงื่อผสมฮอร์โมนของผู้ชายโชยมาอ่อนๆแตะเข้าที่จมูกเธอ
ฉู่ลั่วหานรู้สึกเขินอาย เธอกำลังจะลุกขึ้นแต่ทรายช่างร่วนเหลือเกิน ยิ่งใช้แรงยิ่งถูกดูดลงไปทำให้ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดกันยิ่งขึ้น
ถังจิ้นเหยียนยิ้มขึ้น มองไม่ออกว่าเนื่องจากแสงแดดส่องหรือเขินอายจึงทำให้หน้าเขาแดงเรื่อ ริมฝีปากสุดยั่วยวนเผยขึ้นและพูดว่า “คุณหมอฉู่ นี่คุณกำลังพุ่งตัวเข้าสู่อ้อมอกผมหรือเปล่านะ”
ฉู่ลั่วหานกำทรายแก้เขินแล้วยัดใส่ปากของเขา “ฉันป้อนทรายคุณต่างหากล่ะ!”
กำปั้นของเธอพยายามจะยัดเยียดทรายเข้าสู่ปากของเขา “ลองชิมดู!”
“ยัยตัวร้าย!” เขาหัวเราะขึ้นมาแล้วใช้มืออันแข็งแรงจับไปที่ข้อมือของเธอ พลิกเธอและกดสู่พื้นทราย ตอนนี้เธอถูกเขาทับอยู่
มองดูแล้วเป็นเพียงการเอาคืนเมื่อครู่ แต่……เขาพบว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้กำลังมองเขาอยู่อย่างใกล้ชิด ถังจิ้นเหยียนแทบจะขาดใจ
ผู้หญิงคนนี้ถูกมือของเขารัดกุมไว้และนอนอยู่บนทรายที่ละเอียดนุ่ม ผมพัดปลิวขึ้นไปพันตรงขอของเขา จั๊กจี้เสียจริง
สายตาของเธอเป็นประกายสว่างไสวคล้ายทะเลทรายนี้ ช่างทิ่มแทงดวงใจคนที่มองนัก
วินาทีที่ทั้งสองสบตากัน เวลาคล้ายกับหยุดลงเนิ่นนานเหลือเกิน
ถังจิ้นเหยียนกลืนน้ำลายอย่างลำบาก เขาอดไม่ได้ที่จะก้มตัวลงไป……
ฉู่ลั่วหานตกใจตาเบิกกว้าง เมื่อมองเห็นริมฝีปากเรียวบางของเขาใกล้เข้ามาทุกที ไออุ่นจากลมหายใจร้อนแรงยิ่งกว่าแสงแดดในตอนนี้ คล้ายกับสามารถทำให้ร่างกายหลอมละลายได้เลยทีเดียว
ถังจิ้นเหยียนค่อยๆหลับตาลงและทิ้งตัวลงไปที่เธอ ได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของเธอ มันทำให้เลือดเขาพลุ่งพล่านแทบเป็นบ้า
ฉู่ลั่วหานเคลิบเคลิ้มและเผยอปากเล็กน้อย แต่เธอก็หลบไปในตอนสุดท้าย
ริมฝีปากอันอบอุ่นของถังจิ้นเหยียนสัมผัสไปที่แก้มของเธอ เพียงเบาๆเหมือนหยาดฝนที่เริ่มโปรย
ถังจิ้นเหยียนลืมตาขึ้น เขาหน้าแดง “ผม……”
ฉู่ลั่วหานกัดปากตัวเองแล้วหัวเราะ “คุณอะไรคะ? คุณคิดว่าหนีพ้นงั้นเหรอ?มาสิ มากินทรายกัน!”
“ได้ๆ คุณเล่นแบบนี้เหรอ คอยดูว่าผมจะจัดการคุณยังไง!”
“มาสิ ฉันไม่กลัวคุณหรอกนะ!”
ผ่านไปสามวัน
คฤหาสน์ตระกูลหลง ณ เมืองหลวง
“คุณท่าน สิ่งที่ต้องการครับ”
หลงถิงตอบรับแล้วหยิบซองสีน้ำตาลปึกใหญ่ไป
“คุณชายใหญ่ไม่รู้ใช่ไหม?”
“คุณชายใหญ่ส่งคนไปดูแต่เหมือนไม่ได้เบาะแสอะไรจึงกลับมาแล้วครับ”
“จับตามองต่อไป”
“ครับ! เพียงแต่คุณท่านส่งเธอออกไปจากประเทศแล้ว ยังต้องทำแบบนี้อีกเหรอครับ?”
“ฉันส่งเธอออกไปก็จริง แต่เขามีวิธีมากมายนำเธอกลับมา”
ชายชุดดำพยักหน้าอย่างเข้าใจ “นายท่านคิดการรอบคอบจริงๆครับ”
เมื่อประตูห้องหนังสือถูกปิดลง หลงถิงจึงเปิดซองน้ำตาลออกดู