( อ่านต่อข้างล่าง )
ด้านนอกของประตูเขากว่างเฉิง ณ เกาะนภากลางแห่งนภาพิภพ หนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักวิทยายุทธ์มากมายในยุคปัจจุบันของโลกแปดพิภพ
เยี่ยนจ้าวเกอในอาภรณ์สีขาว ด้านนอกสวมทับด้วยชุดคลุมสีน้ำเงินแต่งขอบสีดำ บ่งบอกถึงตำแหน่งลูกศิษย์สืบทอดหลักของเขากว่างเฉิง
ส่วนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นชายหนุ่มในชุดสีเหลืองคนหนึ่ง ซึ่งกำลังยืนหน้าบูดบึ้ง “เยี่ยนจ้าวเกอ เจ้ามีดีแค่บิดาเก่งไม่ใช่หรืออย่างไร?”
“เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ? หากกล้าเจ้าก็ลองพูดดูอีกครั้งสิ” เยี่ยนจ้าวเกอตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“พูดก็พูดสิ คิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือ? เจ้ามันก็แค่มีดีแต่บิดาเก่งไม่ใช่หรือ?”
เยี่ยนจ้าวเกอจ้องเขา พลันฉีกยิ้มออกมา “เยี่ยม ประโยคนี้แหละ ข้าชอบที่คนอื่นว่าข้าด้วยประโยคนี้ที่สุด”
ในความมืดมิดอันปั่นป่วนโกลาหล หนุ่มน้อยเริ่นเสี่ยวซู่ผงะตื่นขึ้นพร้อมกับปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก จากนั้นก็หันไปมองเด็กชายอายุราวสิบสี่ปีที่ยืนอยู่ตรงประตู
“ลิ่วหยวน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม
แม้จะเรียกเด็กชายว่าลิ่วหยวน แต่ความจริงแล้วชื่อเขาคือเหยียนลิ่วหยวน
มองแวบแรก เหยียนลิ่วหยวนดูราวกับคนใสซื่อไม่มีพิษภัยอะไร ทว่าในมือเขานั้นกลับกำมีดกระดูกแน่น ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู ตอนนี้ดึกดื่นค่อนคืน แม้ว่าเขาจะดูง่วงงุนเพียงไร ก็ไม่หลับตาลงแม้แต่น้อยเพราะว่าจำเป็นต้องเฝ้ายามตอนกลางคืน
จวนโหวเต็มไปด้วยเสียงมโหรีดังอึกทึก ภายในประดับประดาด้วยโคมไฟและผ้าแพรหลากสี
อันหลิงเกออยู่ในชุดแต่งงานสีแดง นางกำลังใช้ชาดทาปากอยู่หน้ากระจก ด้านหลังมีสาวใช้สองคนกำลังช่วยนางหวีผมแต่งตัว
วันนี้ นางจะต้องเป็นเจ้าสาวที่งดงามที่สุดในเมืองหลวง