อัศวินดำ - ตอนที่ 39
◆ สตรีแห่งดาบ ชิโรเนะ
โอเกอร์หนีไปแล้ว เวรอสกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง
โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต เรื่องนี้ต้องขอบคุณคุโรกิ
ถ้าคุโรกิไม่มาขวางพวกโอเกอร์ไว้ มีหวังอาณาจักรเวรอสล่มสลายแน่
จากนั้นคุโรกิก็หายตัวไปพร้อมกับผู้หญิงผมสีเงิน
แม้ฉันจะจำได้ว่าเธอเป็นสาวสวย แต่เธอคนนั้นเป็นใครกันแน่? มันกวนใจฉันจริงๆ
ฉันนึกถึงคำพูดของคุณจิยูกิที่พูดไว้
เขาโดนควบคุมด้วยยาเสน่ห์ ดังนั้นแปลเธอคนนั้นเป็นคนใช้ยาเสน่ห์กับคุโรกิ?
ฉันคิดขณะที่อยู่ทางเดิน
อีคาราสกำลังเดินนำและตอนนี้เรากำลังเดินอยู่ในราชวัง
ไม่มีคนตาย แต่ก็มีคนที่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเลยรวบรวมคนที่บาดเจ็บไว้ในศูน์แพทย์กลางของราชวัง
ที่นั่นมีหมอของอาณาจักรและนักบวชที่ใช้เวทรักษากำลังรักษาผู้บาดเจ็บอยู่
แต่เพราะคนไม่พอ ฉัน คุณเคียวกะ และคุณคายะจึงได้ไปช่วย
ถึงจะไม่ถึงขั้นคุณซาโฮโกะ แต่ฉันก็ใช้เวทรักษาแบบง่ายๆ ได้อยู่ และคุณคายะก็มีวิชาที่ทำให้การฟื้นฟูเพิ่มขึ้น
ราชาอีคาราสที่ได้ยินเรื่องนี้จึงมาขอความช่วยเหลือจากเรา
จะว่าไป ทั้งที่พวกเราเป็นเป้าหมาย แต่ทำไมโอเกอร์กลับไปโจมตีอาณาจักรนี้แทนล่ะ
แล้วถึงจะไม่ขอร้องพวกเราก็ช่วยอยู่แล้วล่ะ
ราชาอีคาราสตอนนี้ยังบาดเจ็บอยู่ แต่เขากลับบอกให้ไปรักษาผู้คนกับโคฟิน่าก่อนตัวเองซะอีก
[ ขอโทษด้วย ที่ข้าต้องมาขอร้องให้พวกท่านช่วยแบบนี้… ]
ราชาอิคาราสก้มหัวให้เราขณะที่อยู่หน้าห้องพยาบาล
[ ไม่ต้องห่วง ปล่อยให้เราจัดการเถอะค่ะ คุณเองก็พยายามในส่วนของตัวเองเถอะ ]
คุณเคียวกะพูดด้วยเสียงเอื่อยๆ
เพราะคุณเคียวกะใช้เวทรักษาไม่ได้ จึงมีแค่ฉันและคุณคายะที่ทำงานเป็นหลัก
เมื่อเข้าไปในห้อง ด้านในมีขนาดใหญ่มากและมีเตียงอยู่มากมายเตรียมพร้อมเอาไว้
และมีผู้คนนอนเรียรายบนเตียเต็มไปหมด คนที่บาดเจ็บนอนกันไม่หลบเพราะความเจ็บปวดของบาดแผลกัน
ส่วนใหญ่แล้วคนที่บาดเจ็บจะเป็นทหารของอาณาจักรนี้
ทางด้านแขกมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บ
แต่ก่อนอื่น ราชาอิคาราสต้องไปทำให้แขกคนอื่นๆ สงบลงก่อน
ส่วนแขกที่แต่งชุดดูสวยงามนั้นถูกแยกกับทหารไว้
ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาก็มีแต่บาดแผลเล็กน้อย
บ้างก็เป็นบาดแผลที่ได้จากการหกล้มเพราะหนีโอเกอร์
ขณะที่เรากำลังมองไปรอบๆ ว่ามีใครบาดเจ็บสาหัสมั้ย
ตาของฉันก็ไปหยุดที่คนๆ หนึ่ง
[ อ-โอมิรอส! ]
ในกลุ่มคนบาดเจ็บมีโอมิรอสอยู่ด้วย
[ ท่านชิโรเนะ ]
โอมิรอสที่สังเกตเห็นพวกเราก้มหัวให้
[ มีอะไรงั้นเหรอ? ]
ฉันตรงไปหาโอมิรอส นี่เขาก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเหรอ?
ฉันเริ่มรู้สึกเสียใจที่ทิ้งเขาเอาไว้
แต่จู่ๆ ฉันก็เพิ่งรู้ตัวว่ามีใครอยู่ข้างๆ โอมิรอส
โอมิรอสไม่ได้อยู่คนเดียว
แต่มีผู้หญิงนั่งเก้าอี้อยู่ข้างๆ โอมิรอสอยู่
ข้อเท้าของผู้หญิงคนนั้นมีผ้าเปียกๆ อยู่
และดูเหมือนโอมิรอสจะกำลังรักษาแผลให้เธอ
[ ทั้งสองคนหนีจากโอเกอร์ จากนั้นเธอก็ข้อเท้าพลิกนะ… ]
[ งั้นเองเหรอ? ]
โอมิรอสกำลังดูแลเธอที่บาดเจ็บอยู่ ไม่สนิทกันไปหน่อยเหรอ? ฉันเองก็ไม่ได้ว่าอะไรโอมิรอสหรอกนะ แต่นี่เขาตัดใจจากเรจิน่าได้แล้วเหรอ?
ฉันมองไปที่หน้าของเธอ เธอค่อนข้างสวย
[ หืมม!? ]
ฉันเคยเห็นใบหน้านั้นมาก่อน
[ เอ๊ะ เร… เรจิน่า!? ]
พอฉันพูดออกไป เธอก็หันมามองที่ฉัน
[ อ่ะ! คุณที่อยู่กับผู้กล้าตอนนั้น! ]
เรจิน่าพึมพำ
ดูเหมือนว่าต่างฝ่ายจะจำกันได้แล้ว พวกเราเคยคุยกันนิดหน่อย
ดูเหมือนตอนนั้นเธอจะเข้าใจผิดว่าฉันเป็นภรรยาของเรย์จิน่ะนะ
[ ทำไมภรรยาของผู้กล้าถึงมาอยู่ที่นี่… ]
ฉันเองก็อยากถามเหมือนกัน จากที่โอมิรอสเล่าให้ฟัง เธอน่าจะถูกเนรเทศไปที่รังก็อบลินแดนเหนือนี่นา
[ ข้าได้ยินว่าเรจิน่าถูกเนรเทศไปที่รังก็อบลินแดนเหนือ แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? ]
โอมิรอสพูดสิ่งที่ฉันกำลังคิดออกไป… ใช่ ฉันเองก็อยากรู้
[ ไม่ เรื่องนั้น… ]
เรจิน่าเหมือนจะไม่อยากพูด
[ ใช่ๆ ฉันถูกคนใจดีช่วยเอาไว้นะ ตอนนี้ก็คิดว่าจะกลับไปหาคนๆ นั้นแล้ว ]
เรจิน่าทำท่าจะขยับแต่ล้มลงซะก่อน
โอมิรอสช่วยพยุงเรจิน่าที่ล้ม
[ ขาเป็นแบบนี้ยังเดินไม่ได้หรอกเรจิน่า ]
โอมิรอสพูดด้วยความไม่ห่วง
[ งั้นเองเหรอ ? ]
ฉันพูดอย่างนั้นแล้วใช้เวทรักษาให้เรจิน่า
[ ขาเป็นยังไงบ้าง? ]
เรจิน่าปล่อยมือจากไหล่ของโอมิรอสและยืนด้วยตัวเองได้แล้ว ดูท่าเวทรักษาของฉันจะช่วยได้มากเลยสินะ
[ อาา…. ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยรักษาให้… ]
เรจิน่าพูดออกมาจากนั้นก็พยายามวิ่งไป
[ รอเดี๋ยวเรจิน่า!! ]
[ ขอโทษนะโอมิรอส! ฉันต้องไปแล้ว! ]
แต่โอมิรอสไม่ยอมให้เธอไปโดยจับมือเรจิน่าไว้
ฉันเองก็อยากรู้เรื่องของเรจิน่าเหมือนกัน
[ รอเดี๋ยวก่อนคุณเรจิน่า คุณลืมของไว้น่ะ ]
คุณคายะแกว่งของในมือไปมา
ในมือนั้นคือดาบเล็มเล็กๆ ที่มีปลอกอันสวยงาม
[ เอ๊ะ!? ]
เรจิน่ากลับตัว
[ ขอบคุณมากค่ะ ]
เธอพูดอย่างนั้นแล้วพยายามรับดาบจากมือของคุณคายะ
แต่จู่ๆ คายะก็เอาดาบนั้นออกห่าง ก่อนที่มือของเรจิน่าจะแตะดาบ
[ เอ๋!? ]
ท่าทางของเรจิน่าดูตกใจมาก
[ คายะ… ทำอะไรนะ? ]
คุณเคียวกะเองก็ตกใจ เพราะคุณคายะไม่น่าจะล้อเล่นแบบไร้ความหมายแน่ๆ
จากนั้นคุณคายะก็ดึงดาบออก
ใบดาบนั้นมีสีดำและเปลวไฟสีดำปรากฏขึ้นรอบตัวดาบ
[ นี่มันเปลวไฟสีดำ… หมายความว่ายังไงกัน!! ]
คุณเคียวกะตะโกน
[ ตอนที่ฉันจับดาบเล่มนี้จับความรู้สึกแปลกๆ ได้นะคะ… แค่นี้ก็ชัดเจนแล้ว… ]
ฉันรู้สึกเปลวไฟสีดำนั้น
[ เปลวไฟของคุโรกิ ]
ฉันพึมพำ
เรจิน่าทำสีหน้าตกใจมาก
[ ทำไมถึงได้รู้ชื่อจริงของนายท่านได้… ]
[ เอ๊ะ?! ]
เมื่อได้ยิน ฉันก็มองไปที่หน้าของเรจิน่า
แต่ก่อนที่จะพูดจบ เรจิน่าก็เอามือไปปิดปากไปก่อน
[ เข้าใจล่ะ เขาคือคนใจดีที่ช่วยเธอไว้อย่างนั้นสินะคะ ]
ฉันพยักหน้าให้กับคำพูดของคายะ
บางทีคุโรกิคงช่วยเรจิน่าที่ถูกเนรเทศไปที่รังก็อบลินไว้
เพราะเหตุผลบางอย่างคุโรกิถึงได้มาที่เวรอสและเรจิน่าก็ตามมาด้วยตอนนั้นอย่างนั้นสินะ?
[ ดูเหมือนว่าจะปล่อยคุณไปไม่ได้ซะแล้วค่ะ ]
คุณคายะพูดและมองไปทางเรจิน่า
◆ เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรอัลโกลี่ เรจิน่า
[ ไม่บอกค่ะ! ]
ฉันพูดคำพูดนั้นต่อหน้าพวกเขา
ตอนนี้คนที่อยู่ข้างหน้าของฉันคือน้องสาวของผู้กล้าและเหล่าภรรยาของผู้กล้า
ฉันไม่คิดจะบอกอะไรเรื่องนายท่านทั้งนั้น
ตอนนี้ฉันกำลังถูกสอบปากคำอยู่ที่สำนักงานเขตของราชาเวรอส
เพราะว่าฉันรู้จักกับนายท่านถึงได้ถูกจับตัวไว้
จะดีกว่าถ้ารีบกลับไปที่นากอลโดยเร็ว ส่วนโอมิรอสนั้นช่างเถอะ
แต่โอมิรอสเองก็เป็นห่วงฉันมากถึงขนาดออกตามหา
และหินเวทมนตร์สำหรับเคลื่อนย้ายและดาบเล็กก็โดนเอาไปหมดแล้ว
แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องเอาดาบที่นายท่านให้กลับคืนมาให้ได้
คายะคนที่จับตัวฉันไว้ กำลังสอบปากคำฉันเรื่องนายท่าน
ใครจะไปบอกพวกคนที่คิดจะฆ่านายท่านล่ะ
พวกเขาเป็นศัตรูของนายท่าน ดังนั้นก็ถือเป็นศัตูของฉัน ฉันไม่มีต้องบอกศัตรูหรอก
ฉันหันไปข้างๆ
[ อืมม มีปัญหาแล้วสิ ฉันก็แค่อยากรู้เรื่องของคุโรกิเท่านั้นเอง ]
ผู้หญิงที่ชื่อชิโรเนะทำสีหน้าลำบากใจ
[ อยากจะให้เข็ญออกมาด้วยกำลังมั้ยคะ? ]
ผู้หญิงที่ชื่อคายะพูดออกมา
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ตัวฉันก็สั่นไปหมด
[ ได้โปรดอย่าเลยครับ…. อย่าทำเรื่องโหดร้ายกับลูกสาวของฟิลิโอน่าเลย… ]
ราชาของอาณาจักรนี้พูดออกมา
ซึ่งฟิลิโอน่าก็คือชื่อของแม่ฉันเอง
และดูเหมือนแม่จะเป็นคู่หมั้นของราชาของอาณาจักรเวรอสที่อยู่ข้างๆ ฉัน
เขามีรูปลักษณ์แบบคนแก่ใจดี
ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมแม่ถึงได้นอกใจเขาแล้วไปที่อัลโกลี่
แต่บางทีอาจจะเป็นหน้าตา? เพราะราชาตรงหน้าฉันหน้าตาไม่ได้เรียกว่าดีเลย แต่คุณพ่อของฉันน่ะหล่อมากเลยล่ะ
ในทางตรงกันข้าม ราชาคนนี้ดูจะเป็นคนที่ถูกคนอื่นรักใคร่
เรียกได้ว่าบุคลิกอ่อนโยนล่ะนะ
ไม่โกรธลูกสาวของคนที่เคยทิ้งตัวเองไปและคอยฝืนบังคับฉันเพื่อเข็ญข้อมูล
แต่ในอีกแง่ก็ดูเหมือนจะโดนคนเลวๆ หลอกเอาได้ง่ายๆ
[ ท่านคายะ! เธอต้องถูกเจ้าอัศวินดำเลวๆ นั้นหลอกอยู่แน่! อย่าทำร้ายเธอนะครับ! ]
โอมิรอสตะโกน
[ นายท่านไม่ได้เลวนะ!!! ]
[ คุโรกิไม่ใช่คนเลวนะ!!! ]
ผู้หญิงที่ชื่อชิโรเนะตะโกนออกไปพร้อมกันกับฉัน จะว่าไปแล้วเธอก็รู้ชื่อจริงของนายท่าน นี่เธอมีความสัมพันธ์ยังไงกับนายท่านกันแน่นะ?
โอมิรอสที่โดนฉันและชิโรเนะตะโกนใส่เหมือนตัวหดลง ฉันเองก็รู้สึกผิดนิดหน่อยนะ เพราะที่ทำเขาไปก็เพื่อปกป้องฉัน แต่อย่ามาพูดจาเสียหายกับนายท่านนะ
[ คายะ ฉันเองก็ไม่ชอบวิธีรุนแรงเกินไปเหมือนกันค่ะ ]
ผู้หญิงที่ชื่อเคียวกะ ซึ่งเป็นน้องสาวผู้กล้าปกป้องฉันอีกเสียง
ผู้หญิงที่ชื่อคายะดูจะโต้ตอบไม่ได้แล้วเพราะคำพูดของเคียวกะ ดูเหมือนฉันจะถูกช่วยเอาไว้สินะ อย่างน้อยก็คงไม่ต้องถูกทรมานล่ะ
[ เข้าใจแล้วค่ะ จะไม่ใช้ความรุนแรงค่ะ ]
คายะพูด
[ งั้นจะถามอย่างอื่นแทน ผู้หญิงผมสีเงินที่อยู่กับคุโรกิในคืนนั้นคือใคร? ]
[ ผมสีเงิน? ท่านคุนะ…. ]
ฉันตอบคำถามของผู้หญิงชื่อคายะไปเองอัตโนมัติ ทั้งที่ไม่คิดจะบอกอะไรแท้ๆ
[ หืม ผู้หญิงคนนั้นชื่อคุนะสินะคะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? ]
[……]
คราวหน้าไม่พูดอะไรแน่
[ ทำไมไม่ตอบอะไรซะแล้วล่ะ แสดงว่าเธอเป็นปีศาจชั้นสูงอะไรแบบนั้นสินะ ]
ถูกเผ่ง ท่านคุนะคือเจ้าหญิงซึ่งเป็นลูกสาวของราชาปีศาจ
[ ฉันเองก็กังวลเรื่องผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน… นี่ คุณเรจิน่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่? ]
แน่นอน ฉันไม่บอกหรอก
[ เด็กคนนั้นคงเป็นคนที่ควบคุมคุโรกิอยู่สินะ? ]
[ ควบคุมนายท่าน? ]
[ เธอไม่คิดว่ามันแปลกเหรอไง? ว่าทำไมนายท่านผู้แสนใจดีของเธอถึงได้ทำตามคำสั่งของราชาปีศาจน่ะ ]
ผู้หญิงชื่อคายะพูดออกมาอย่างเย็นชา
ถ้าถามว่าทำไมคนที่อ่อนโยนอย่างนายท่านถึงไปอยู่ที่นากอลเหรอ?
[ จะว่าไปท่านคุนะก็มักจะพูดว่าท่านคุโรกิเป็นสามีอะไรทำนองนี้… ]
พรรคพวกของน้องสาวผู้กล้าต่างมองมาที่ฉัน
[ คิดแล้วเชียว… เด็กคนนั้นเป็นต้นเหตุสินะ ]
[ ดูเหมือนว่าจะใช่ค่ะ… ]
[ เท่านี้ก็ดูเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์ของเขาหมดแล้ว ]
ดูแล้ว พวกน้องสาวของผู้กล้าจะคิดว่าท่านคุนะกำลังควบคุมนายท่านอยู่
แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอก
ถ้านายท่านถูกควบคุมให้เป็นคนรักของเธอ ก็ไม่น่าจะช่วยฉันเอาไว้
นอกจากนี้ท่านคินะยังคิดว่าฉันรบกวนชีวิตประจำวันของเธอ ถ้านายท่านถูกควบคุม ฉันองก็คงตายโดยน้ำมือของท่านคุนะไปแล้ว
แต่ว่าฉันไม่คิดจะบอกเรื่องที่ฉันสงสัยอยู่นี้ให้พวกเขารู้หรอก
[ แล้วจะเอายังไงต่อกันดีคะ จะกลับไปสมทบกับพวกท่านเรย์จิดีมั้ย? ถ้าเป็นท่านริโนะน่าจะหาข้อมูลจากเธอได้มากกว่านี้… อย่างน้อยฉันก็คิดว่าเราควรติดต่อท่านจิยูกิไว้ก่อนค่ะ ]
[ ใช่แล้ว ติดต่อคุณจิยูกิไว้ก่อนคงดีกว่า… ฉันเองก็อยากได้ข้อมูลอีกสักนิดด้วยสิ… อยากเจออีกจังน้า… คุนะงั้นเหรอ ]
ผู้หญิงที่ชื่อชิโรเนะหัวเราะออกมา
[ คุณชิโรเนะ… ใบหน้าน่ากลัวไปแล้วนะคะ… ]
จากนั้นการปรึกษาพูดคุยของพวกเธอก็ยังดำเนินต่อไป
แต่จู่ๆ ฉันก็ถูกจ้องด้วยสายตานั้น
เขาเข้ามาในห้องโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ผู้ชายคนนั้นคือ… พาซัส
ฉันเคยเจอเขาครั้งนึงเมื่อก่อน รู้สึกจะเป็นเพื่อนของโอมิรอส ก็ไม่เคยคุยกันหรอกนะ
เคยเจอกับเขาครั้งแรกเมื่อหกเดือนก่อน ตอนนั้นรู้สึกเขาจะอยู่คนละฝ่ายของตระกูลพ่อและเป็นเด็กหนุ่มหน้าสวยจนมีข่าวลือในหมู่สาวๆ ในตระกูลฉันเลยล่ะ
แต่เขาเป็นศัตรูของพ่อ พาซัสนั้นแข็งแกร่งจนบ้าบอทั้งเรื่องดาบและเวทมนตร์
แต่ยังไงก็ตาม พอเทียบกับนายท่านแล้วเขาก็เทียบไม่ติดสักนิด
ท่าทางของพาซัสแปลกๆ หายใจแรงมากและดวงตากำลังจ้องมองมาทางนี้
ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นผลมาจากเวทของท่านคุนะ
แต่ทำไมท่านคุนะถึงโจมตีพาซัสล่ะ
ฉันไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ดวงตาที่เขาจ้องมองมาที่ฉันนะสิที่น่ากังวล ตั้งแต่เขาเข้ามาในห้องก็เอาแต่จ้องฉันไม่กระพริบ
ไม่รู้เพราะอะไร พอถูกจ้องด้วยสายตานั้น ฉันถึงได้ตัวสั่นไปหมด
จะว่าไปตอนที่ยังอยู่อัลดกลี่ก็รู้สึกถึงสายตาที่เขาจ้องมองมาเหมือนกัน สายตาที่น่ารังเกียจ ฉันเลยหลีกเลี่ยงที่จะไปพบเจอหน้าเขา
แม้ว่าเขาจะเป็นหนุ่มหล่อรูปงามแค่ไหนก็ไม่อยากเข้าใกล้หรอก
ดวงตาของพาซัสจ้องเขม็ง
เขายิ้มเมื่อเห็นฉัน
เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นตัวฉันก็หนาวไปหมด
◆ สตรีแห่งดาบ ชิโรเนะ
[ เป็นยังไงบ้างคะคุณคายะ ]
ฉันถามคุณคายะ
ซึ่งกำลังใช้เวทติดต่อกับคุณจิยูกิอยู่
หลังจากเราคุยกับเรจิน่าเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องรับรองที่จัดไว้ให้ เรจิน่ากำลังนอนหลับอยู่ที่ข้างถัดไป ซึ่งคายะเป็นคนทำให้เธอหลับไปเองเพราะเห็นเธออาละวาด
เธออยากกลับไปหาคุโรกิเอ่ย แต่ฉันไม่ยอมให้เธอกลับไปได้หรอก เพราะเธอเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ ก็รู้สึกเศร้านิดหน่อยนะ
ถ้าใช้หินเคลื่อนย้ายที่เธอก็จะกลับไปได้ ที่นั้นคือที่ที่คุโรกิอยู่ ฉันเองก็คิดว่าจะใช้มัน แต่โดนคุณคายะขวางไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่ามันจะมีอันตรายขนาดไหน คุณคายะจึงไม่ปล่อยให้ฉันไป
[ ดูเหมือนจะต่อสายยากนิดหน่อยค่ะ… ]
คุณคายะพูดเสร็จแล้วแตะที่สร้อยข้อมือด้านซ้าย
สร้อยข้อมือนั้นมีพลังเวทที่ใช้ในการสื่อสาร
เวทสื่อสารเป็นเวทที่น่าหนักใจอยู่นิดหน่อย เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะติดต่อกันได้หากทั้งสองฝ่ายไม่ใช้อุปกรณ์เวทนี้พร้อมกัน
ในหมู่พวกเรามีเพียงคุณจิยูกิเท่านั้นที่ใช้เวทสื่อสารได้สบายๆ แต่หากมีอุปกรณ์เวทช่วยก็จะสามารถสื่อสารกันได้ไม่มีปัญหา
ซึ่งแม้แต่คนที่ใช้เวทสื่อสารไม่ได้ก็ยังสามารถสื่อสารกับผู้ใช้เวทสื่อสารได้หากมีสร้อยข้อมือนี้
เราได้สิ่งนี้มาจากคุณจิยูกิเผื่อเอาไว้มาสมทบกันอีกครั้ง หรือหากมีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องติดต่อไป
[ มีอะไรเกิดขึ้นที่นั้นเหรอคะ? ]
คุณเคียวกะถามคุณคายะ
[ ดูเหมือนคำขอของสมาคมผู้ใช้เวทจะค่อนข้างยุ่งยากนะคะ งานเลยยังไม่เสร็จเร็วๆ นี้หรอกค่ะ ]
คุณคายะก้มหัวไปทางคุณเคียวกะ
[ หมายความว่าพวกเรย์จิยังกลับไปที่ลีนาเรียเหรอคะ? ]
[ ใช่แล้วค่ะท่านชิโรเนะ ได้ยินว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่สาธารณรัฐอาเรียดิน่าค่ะ ]
[ สาธารณรัฐอาเรียดิน่า? นั่นมันที่ไหนนะคายะ? ]
[ ชายแดนทางทวีปตะวันตกซึ่งอยู่ด้านตะวันออกนะคะ เป็นอาณาจักรทางตอนใต้ของทุ่งราบมินอน คุณหนูคะ ฉันได้ยินว่าหาทำการค้าที่นั้นจะค่อนข้างประสบความสำเร็จเลยค่ะ ]
[ งั้นจะไปที่นั้นก็คิดยากแล้วสิ… ]
ถ้าหากเราจะกลับไปที่ลีนาเรียก็สามารถใช้เวทเคลื่อนย้ายได้ทันที แต่การจะไปที่สาธารณรัฐอาเรียดิน่ามันค่อนข้างใช้เวลา
[ งั้นจากนี้ไปจะทำยังไงดีคะ? มีความเป็นไปได้ที่ท่านคุโรกิจะมาพาตัวเรจิน่ากลับไปอยู่ค่ะ หากไม่สมทบกับพวกท่านเรย์จิ เราคงจัดการเขาไม่ได้แน่ค่ะ ]
คายะถามพวกเรา
คายะนั้นแข็งแกร่ง แต่คุโรกิแข็งแกร่งกว่า เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เราจะชนะได้เลย ถึงเมื่อโลกเดิมจะไม่ใช่แบบนั้นก็เถอะ
[ แน่นอน ฉันคิดว่าเราไปที่อาณาจักรอัลโกลี่ดีกว่า ถ้าเป็นที่นั้นคุโรกิจะได้มาสะดวกขึ้น ]
แต่ฉันต้องไปเท่านั้น
คุณคายะที่ได้ยินถอนหายใจ
[ ฮะฮะ อย่างที่คิดไว้เลยนะคะ… แต่หากคิดว่ามันอันตรายก็อย่างฝืนตัวเองแล้วถอนตัวทันทีเลยนะคะ ]
[ ค่ะ ฉันสัญญา ]
ทุกคนเป็นห่วงฉัน ดังนั้นฉันไม่อยากลากทั้งสองคนไปเสี่ยงอันตรายด้วย ดังนั้นฉันจะต้องไม่ฝืนตัวเองจนทำเรื่องอันตราย
แต่เมื่อถึงเวลาที่ได้เห็นคุโรกิ สัญญานี้อาจจะขาดลงก็ได้ แต่ยังไงฉันก็อยากจะไป
◆ เจ้าชายก็อบลินโกสุ
มีหญิงเปลือยกายมากมายกำลังนอนอยู่ข้างๆ ข้า
บางคนก็หน้าตาไม่เอาไหน บางคนก็สวยมาก
แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นน้องสาวของผู้กล้ากับเรจิน่า
แต่ตอนนี้ข้าต้องอดทนไปก่อน
หลังจบการสอบสวนเรจิน่า เธอก็ถูกพวกน้องสาวผู้กล้าพาตัวไป
โอมิรอสผู้น่าสงสาร ดูท่าจะถูกเรจิน่าเกลียดซะแล้ว เพราะโดนเธอตะคอกใส่ตอนนี้เลยซึมแล้วกลับที่พักไปแล้ว
เพื่อลดอาการปวดที่ช่วงล่างเพราะยาโด็ป ข้าจึงได้หาหญิงสาวพวกนี้จากงานเต้นรำมานอนด้วย
ด้วยเสน่ห์ของพาซัส เหล่าหญิงสาวต่างสมยอมอยู่แล้ว
แต่ว่าอาการปวดที่ช่วงล่างของข้าก็ยังไม่หาย
ฤทธิ์ยาเสน่ห์ของแม่มดสีเงินยังไม่หายไป
ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดนี้ได้เลย
[ ต้องเป็นเรจิน่าเท่านั้น… ]
จากนั้นข้าก็หัวเราะ
ข้าเจอแล้ว ผู้หญิงที่หายคิดว่าเสียเธอไปแล้ว
ที่แท้เรจิน่าก็ถูกแม่มดสีเงินลักพาตัวไปนี่เอง
ข้าไม่รู้เรื่องของแม่มดสีเงินคนนั้นหรอก เพราะเดิมก็ไม่ได้สนใจนากอลอยู่แล้ว
มีปีศาจที่แข็งแกร่งกว่าข้าในนากอลอยู่อีกมากมาย
ดังนั้นข้าจึงไม่คิดจะเข้าใกล้มันมากนัก ข้าจึงไม่ค่อยรู้เรื่องนากอล
ดังนั้นข้าเลยไม่รู้เรื่องแม่มดผู้งดงามคนนั้น
จากที่เรจิน่าเล่า ดูเหมือนเธอจะเป็นเจ้าหญิง-ลูกสาวของราชาปีศาจ
แต่มันก็ยากที่จะเชื่อว่าราชาปีศาจน่าเกลียดนั้นจะมีลูกสาวที่สวยขนาดนั้นได้ แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นลูกสาวของราชาปีศาจจริงๆ หากตัดสินใจจากพลังเวทเมื่อก่อนหน้านี้
พูดตามตรงคือเธอดูไม่เหมือนปีศาจแม้แต่นิด
และยังเจ้าอัศวินดำที่เอาชนะผู้กล้าได้นั้นอีก
ถึงข้าจะไม่รู้ทำไมก็เถอะ แต่เจ้าพวกนั้นก็พาเรจิน่ามาที่อาณาจักรเวรอส
แต่ตอนนั้นระหว่างที่งานเต้นรำ ข้ากลับถูกตรึงเอาไว้
ดูท่าที่พวกเขาออกเคลื่อนไหวจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาณาจักรอัลโกลี่
และตอนนั้นข้าก็ได้พบกับเรจิน่าอีกครั้ง
แต่เธอก็โดนพวกน้องสาวผู้กล้าจับตัวไป
ก็นะ สำหรับพวกเธอ นากอลก็คือศัตรูนี่นะ เพราะเรจิน่าถูกแม่มดสีขาวลักพาตัวไปและกลายเป็นคนรับใช้ของอัศวินดำไป แต่ก็โชคดีที่คนพวกนั้นไม่ได้ฆ่าเรจิน่า
อ๊า โอกาสที่ข้าจะหายจากอาการปวดที่ช่วงล่างกลับคืนมาแล้ว
ว่าแล้วเชียว ตัวข้ากับเรจิน่าถูกผูกกันด้วยด้ายแดงแห่งชะตากรรมจริงๆ
ข้าขอภาวนาต่อคาซ่า เทพธิดาแห่งชะตากรรม
คราวนี้ข้าจะไม่พลาดเด็ดขาด
ข้าจะไม่ยอมแพ้ให้ผู้กล้าหรือกระทั่งแม่มดสีเงิน
แต่ก่อนอื่นเลยพวกน้องสาวผู้กล้ากำลังเกะกะข้าอยู่
ดังนั้นข้าต้องวางแผนก่อน
◆ อัศวินดำคุโรกิ
[ เรจิน่าถูกจับตัวไว้? ]
ในตอนเช้า ขณะที่ผมอยู่ในคฤหาสน์ที่นากอล ผมก็ได้ยินรายงานว่าเรจิน่าถูกจับตัวไว้
จากรายงานดูเหมือนครอบครัวของเรจิน่าที่เวรอสจะจับตัวเธอไว้
และดูเหมือนกำลังมุ่งหน้าไปที่อาณาจักรอัลโกลี่กับชิโรเนะ
ตอนนี้เรจิน่าเลยกำลังอยู่ในรถม้า มีปัญหาแล้วสิ ผมต้องรีบกลับไปช่วยเธอ
[ กรุณา… กรุณาช่วยเจ้าหญิงด้วยเถอะค่ะ… ]
เธอขอร้องให้ผมช่วยเรจิน่า แน่นอนว่าเธอคนนี้คืออุปราชหลวงของเรจิน่า ผมจำได้ว่าตอนนั้นก็พาเธอไปที่เวรอสพร้อมกับเรน่าด้วย
แต่ดูเหมือนเธอจะไปเที่ยวในเมืองของเวรอส โดยไม่ได้เข้าไปในงานเต้นรำเหมือนเรจิน่า
[ ถ้าเจ้าหญิงถูกพาไปที่อัลโกลี่อาจจะถูกฆ่าก็ได้…. หรือบางทีอาจจะต้องบาเจ็บสาหัส… นายท่านได้โปรดช่วยเธอทีนะคะ ]
คุณยายของเรจิน่ากำลังร้องไห้ ครอบครัวเรจิน่านี่เสียงดังกันจังน้า
[ อย่ากลัวเลย เรจิน่าไม่ถูกฆ่าหรือโดนทำอะไรโหดร้ายหรอก ]
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดนั้นดูประหลาดใจ
[ ทำไมท่านถึงได้รู้เรื่องแบบนั้นล่ะ… ? ]
นี่ก็เพื่อให้คุณยายเหล่านั้นสบายใจล่ะนะ แต่มันไม่ใช่เรื่องโกหกหรอก
[ ถ้าโดนผู้กล้าจับก็ไม่เป็นไรหรอก… อย่างน้อยชิโรเนะก็ไม่ทำร้ายเด็กผู้หญิงที่ไร้ทางสู้แน่ หากมีใครคิดจะทำร้ายเรจิน่า รับร้องเลยว่าชิโรเนะต้องปกป้องเธออย่างเต็มกำลังแน่ ]
เพราะชิโรเนะเป็นคนที่รักความยุติธรรม มักจะโผล่ไปช่วยเจ้าหญิง เธอไม่มีทางทำร้ายคนที่ไร้ทางสู้หรอก
[ ดังนั้นเรจิน่าจะไม่ต้องเจอกับเรื่องน่ากลัวหรอก ]
ผมประกาศออกไป
ทันใดนั้นผมก็เห็นหน้าของคุนะ
จากนั้นคุนะก็ทำแก้มป๋อง(งอล)
[ งั้นคุโรกิสนิทกับยัยผู้หญิงที่ชื่อชิโรเนะ… ]
จู่ๆ คุนะก็พูดเรื่องของชิโรเนะขึ้นมา
[ มีอะไรเหรอคุนะ? ]
[ ไม่มีอะไรหรอกคุโรกิ ]
ทั้งที่บอกว่าไม่มีอะไร แต่น้ำเสียงดูโกรธอยู่ชัดๆ
[ บู่!! ]
เมื่อคุนะพูดจบเธอก็หันและออกไปจากห้องด้วยสีหน้าไม่พอใจ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ?
[ จะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอคะ? ]
คุณยายของเรจิน่าถามผม
[ แน่นอน เรื่องช่วยเรจิน่าไว้ใจผมได้เลย ดังนั้นรออยู่เฉยๆ อย่างหายห่วงได้เลย ]
[ อ-อา.. ค่ะ ]
ครอบครัวของเรจิน่าพูดแล้วก้มหัวลง จากนั้นก็ออกจากห้องไป เหลือเพียงผมอยู่ในห้องคนเดียว
เมื่อเห็นแล้วว่าไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว ผมก็เอามือไปกุมหัวจากนั้น
[ แย่… นี่มันสถานการณ์ที่แย่สุดๆ เลย… ]
ผมกุมหัวแล้วพูดออกมา ซึ่งภาพลักษณ์แบบนี้ผมคงให้ใครเห็นไม่ได้
[ โอ้ยย… ทำไม… มันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้… ]
ผมกุมหัวแล้วกลิ้งไปมาบนพรม
มีเหตุผลเดียวที่ชิโรเนะจับตัวเรจิน่าไว้ นั่นก็คือเพื่อล่อผม ผมไม่อยากเจอชิโรเนะอ่าาา
แล้วำไมเรจิน่าถึงถูกจับตัวได้
[ ไม่สิ สถานการณ์มันต่างกัน… ]
ผมลุกขึ้นและส่ายหัว
เหตุผลที่เรจิน่าถูกจับตัวไว้มีอยู่หลายประการ
ก่อนอื่นเลยเพราะแม่ของเรจิน่าเป็นขุนนางของอาณาจักรเวรอส
และดูเหมือนว่าแม่ของเรจิน่าจะเคยเป็นคู่หมั้นของราชาอาณาจักรนั้นและหนีไปที่อาณาจักรอัลโกลี่ในอดีต
และเรจิน่ายังคล้ายแม่ของเธอมาก ดังนั้นผมน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดปัญหาถ้าพาเรจิน่าไปที่นั้นด้วย
และดูเหมือนคนที่จับจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเรจิน่า เจ้าชายของอาณาจักรอัลโกลี่ยังมาที่เมืองเวรอส
ถึงผมจะรู้ว่าโกสุจะไปที่เวรอส แต่ไม่รู้มาก่อนว่าโอมิรอสจะมาด้วย
นอกจากนี้ยังได้ข่าวเรื่องที่ในอดีตโกสุกับเรจิน่าเคยพบกันมาก่อนด้วย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ผมน่าจะใส่ใจเรื่องของโกสุให้มากกว่านี้
แต่จะมานึกเสียใจก็สายไปแล้ว
โอ้ยย ผมนี่มันงี่เง่าจริงๆ เลย
นี่คงเป็นสาเหตุมาจากที่ผมไม่ได้ฟังเรื่องราวในอดีตของเรจิน่ามาให้ละเอียด
เรจิน่าถูกเนศเทศไปที่รังก็อบลินโดยฝีมืออาณาจักรอัลโกลี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้ครอบครัวส่วนใหญ่ของเรจิน่าถูกฆ่าตายโดยพวกก็อบลิน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดมาได้ เป็นธรรมดาที่เรจิน่าจะอยากแก้แค้นคนที่เนรเทศตัวเองออกมา
แต่เพราะผมรู้สึกไม่สบายใจเรื่องการแก้แค้นของใคร
เลยไม่ได้ถามเธอและตรวจสอบไว้ก่อน
นั่นคือความผิดพลาดของผม
เป็นความผิดของผม
แต่ถ้าในอาณาจักรเวรอสมีแค่มนุษย์หรือโกสุล่ะก็ด้วยพลังของผมคงทำอะไรได้อยู่หรอก
แต่เพราะคนที่จับตัวเรจิน่าไปคือชิโรเนะ มันถึงได้เป็นปัญหา
ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเรจิน่าอาจจะถูกชิโรเนะรู้แล้วก็ได้ แต่ชิโรเนะก็ไม่ใช่คนที่จะทำร้ายเด็กผู้หญิง ดังนั้นเธอก็น่าจะปลอดภัยอยู่
บางทีเรจิน่าคงกำลังรอให้ผมไปช่วยอยู่ก็เป็นได้
[ ผมควรทำยังไงดี… ]
หัวผมมันหนัก
ผมควรจะไปช่วย
แต่ที่นั่นก็มีชิโรเนะอยู่ อาจจะต้องสู้กับชิโรเนะก็ได้ ผมไม่อยากสู้กับเธอ…
ไม่อยากเศร้าหมองแบบนั้นอีกแล้ว
ตอนนี้ชิโรเนะคงจะเกลียดผมไปแล้ว เกลียดคนที่ทำร้ายเรย์จิคนที่เธอรัก
ผมรู้ดีอยู่แล้วว่าจะถูกพวกผู้หญิงปฏิบัติแบบไหนหากเป็นศัตรูกับเรย์จิแท้ๆ แต่มันน่าอึดอัดเกินไป
ผู้หญิงคนอื่นๆ กับชิโรเนะน่ะ
แค่ผมจินตนาการว่าถูกพวกเธอมองด้วยสายตารังเกียจอันแสนเย็นชา ก็รู้สึกเจ็บในใจแล้ว
นั่นคือเหตุผลที่ผมซ่อนใบหน้าไว้ใต้หมวกเกราะ ซึ่งคนที่ถูกเกลียดจะกลายเป็นคนอื่นที่ชื่อไดร์ฮาร์ดไปแทน ไม่ใช่คุโรกิ
แต่หน้าตาจริงๆ ของผมความแตกไปแล้ว ตอนนี้ชิโรเนะเกลียดผมแล้ว
ดังนั้นผมไม่อยากเจอหน้าเธอ
ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากถูกเธอมองด้วยสายตาเย็นชาแบบนั้นเลย
แต่ตอนนี้มันยากแล้วไม่ว่าจะก้าวไปข้างหน้าหรือถอยก็ยากทั้งนั้น
[ ช่างน่าสมเพซตัวเอง… ]
ทั้งที่เป็นคนเอาตัวเองเข้าไปสู้กับเรย์จิเอง แต่กลับมาปกปิดตัวจริงเนี่ยนะ?
เจ้าคนขี้ขลาดและน่าสมเพซนี่มันอะไร?
ชิโรเนะก็ต้องเลือกเรย์จิที่ดีกว่าอยู่แล้ว
ถ้าเป็นเรย์จิ เขาคงจะไปช่วยเรจิน่าแบบไม่คิดอะไรเลยแน่
เรจิน่านี่โชคไม่ดีเลยน้า ที่โดนคนอย่างผมช่วยมา ทั้งที่ควรจะเป็นเรย์จิ
เรื่องโกสุจะยังไงก็ช่าง เอาน่า ตอนนี้เรจิน่าได้กลับอาณาจักรอัลโกลี่เหมือนเดิมก็ดีแล้ว
จากที่ผมได้ยินจากคุนะมา ดูเหมือนโกสุจะไม่ใช่คนดีนัก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากยกเรจิน่าให้โกสุ
ถ้าเป็นโอมิรอสก็คงได้อยู่
เพราะคุนะบอกว่าโอมิรอสดูเหมือนจะเป็นคนดี
ชายที่ชื่อโอมิรอสคอยคิดถึงเรจิน่าอยู่เสมอ เขาถึงกับออกตามหาเรจิน่าและเข้าไปในรังก็อบลินที่อันตรายหลายต่อหลายครั้ง
ถ้าเรจิน่าจะได้อยู่กับคนดีๆ อย่างโอมิรอสในโลกมนุษย์ก็ดีแล้ว ดีกว่ามาอยู่ในดินแดนมืดมนอย่างนากอล
ถ้าแบบนี้ เรจิน่าก็คงไม่จำเป็นต้องมีผม
บางทีที่เรจิน่าถูกจับตัวไปและไม่ได้กลับมาที่นากอลโดยอยู่กับคนดีๆ อย่างโอมิรอส มันอาจจะเป็นการดีกว่าล่ะนะ
ถ้างั้นความคิดที่ว่าจะช่วยเรจิน่ามันก็โง่เง่าสิ้นดี
ดังนั้นหากผมไปช่วยเธอก็เหมือนผมเป็นจอมวายร้ายที่ขัดขวางเส้นทางรักของทั้งสองคน
และชิโรเนะซึ่งรักความยุติธรรมต้องช่วยทั้งสองคนได้แน่…
[ เป็นข้อสันนิษฐานที่พอเป็นไปได้นะ… ]
ผมพึมพำและคิด แบบนี้ดูท่าจะจบอย่างมีความสุขที่สุดแล้ว ส่วนทางผมมันก็แค่ตัวร้าย
แน่นอนมันมีโอกาสที่จะผิดพลาดอยู่
ผมไม่อยากเจอชิโรเนะ แต่ผมก็ต้องไปหาเรจิน่าเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ
ถึงจะไม่อยากเจอ แต่ก็ต้องทำอะไรสักอย่าง
ตอนนี้เรจิน่าอยู่ที่ไหนแล้ว? เรจิน่าน่าจะมีดาบเล็กๆ ที่ผมให้ติดตัวไว้
เพราะผมใส่พลังเวทไว้ในดาบนั้นด้วย
หากตั้งสมาธิและก็สามารถรู้ได้ว่าเธออยู่ที่ไหน
ดูเหมือนเรจิน่ากำลังมุ่งหน้าไปที่อาณาจักรอัลโกลี่
งั้นคงต้องไปที่อาณาจักรอัลโกลี่สินะ
เอาล่ะ มาเรียงลำดับเรื่องกัน
เด็กผู้หญิงที่ครอบครัวถูกฆ่าตายและถูกเนรเทศไปยังก็อบลินแดนเหนือ
มันเป็นชีวตที่โหดร้ายถึงขนาดว่าผมจินตนาการไม่ออก เพราะตัวเองเกิดมาในประเทศญี่ปุ่นอันสงบสุข
จากนั้นเธอก็ถูกผมไว้ช่วยเอาไว้ ผมหวังว่าจะให้เธอมีความสุขถึงได้ช่วย แต่ผมเป็นผู้ตอบรับความหวังนั้นไม่ได้