หมอผีแม่ลูกติด - บทที่ 239 ข้าตกหลุมรักเจ้า
บทที่ 239
ข้าตกหลุมรักเจ้า
ชายชรารู้สึกดีใจทันทีที่เขาได้ยินเช่นนั้น รู้ไหมว่าตัวเขานั้นไม่สามารถหายาพิษดีๆได้เลยมานานกว่า 10 ปีแล้ว แล้วแม่นางตรงหน้าเขานั้นก็ได้ให้ความหวังแก่เขา
“เจ้าต้องการอะไรจากข้า?” ชายชรายังไม่ได้รีบตกลงข้อเสนอของหลินซีเหยียน แต่กลับจ้องไปที่หลินซีเหยียนด้วยสายตาที่ชั่วร้าย
“ข้าต้องการให้ทานสอนวิธีใช้พิษเพื่อบำรุงร่างกายของท่านให้ข้าหน่อย”
แล้วชายชราก็ตกลงโดยไม่ลังเล จากนั้นก็มองไปที่ หลินซีเหยียนแล้วกล่าว “แม่นาง ข้ารู้สึกถูกชะตาเจ้า ข้าจะมอบเจ้าเด็กพวกนี้ที่ข้าเลี้ยงดูมายาวนานให้เจ้า”
เด็กพวกนี้? มันเป็นเรื่องยากที่จะขอบคุณจริงๆ เมื่อคิดถึงสิ่งที่เจ้าแมลงพิษพวกนี้จะต้องเจอต่อจากนี้แล้ว ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะถาม “ท่านปู่จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าข้าจะเอาแมลงพวกนี้ไปทำอะไร?”
ชายชราก็ได้แคะขี้หูของเขา “ต่อจากนี้ เจ้าเรียกข้าแค่ว่าตาเฒ่าสวีก็พอ และเด็กพวกนี้ที่ข้าให้เจ้าไป เจ้าจะเอาไปทำอะไรข้าไม่สนหรอก”
นี่คือคำตอบที่นางต้องการ หลินซีเหยียนก็ได้รับเอาแมลงพวกนี้กับชายชรามาอยู่ที่โรงหมอหุยชุน ซึ่งหลังจากจัดการเรื่องที่อยู่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองหน่อตัวเล็กใหญ่ก็ได้ส่งจดหมายมา บอกว่าจะกลับมาพรุ่งนี้เช้า
ในขณะที่หลินซีเหยียนกำลังหลอกล่อเจ้าแมลงอยู่นั้น ผู้เฒ่าสวีก็มาอยู่ที่ด้านหลังของนางตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เสียงของเขาทำให้นางสะดุ้งเล็กน้อย “ข้าไม่นึกเลยว่าคุณหนูอย่างเจ้านั้นจะสร้างแมลงวิปลาสด้วย”
“หรือว่าผู้เฒ่าสวีจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับแมลงวิปลาสด้วยเหรอ?” หลินซีเหยียนถาม จากในหนังสือนางจะต้องใส่พิษให้แมลงพิษเหล่านี้ แล้วปิดฝาเอาไว้และรอจนกระทั่งวันพรุ่งนี้เพื่อรอดูผล
ผู้เฒ่าสวีก็ได้ส่ายหัวด้วยสีหน้ารังเกียจบนใบหน้าของเขา “ข้านั้นเกลียดแมลงวิปลาสมากที่สุด ถ้าเจ้าทำมันล่ะก็ ช่วยเอาไปห่างๆข้าด้วย”
โดยไม่ถามว่าทำไม หลินซีเหยียนก็ได้ผงกหัว จากนั้นก็หยิบเอายาพิษจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าใบเล็กข้าที่เอวของนางแล้วส่งให้ผู้เฒ่าสวี
พอผู้เฒ่าสวีเห็นก็ได้รับ แล้วจากนั้นก็ไม่รอช้าหยิบเอาใส่ปากของเขาทันที จากนั้นเขาก็ได้มีอาการเมาปรากฏที่ใบหน้าของเขา “มันเป็นพิษที่ดีจริงๆ สาวน้อยข้ามองเจ้าไม่ผิดจริงๆ”
ในขณะที่หลินซีเหยียนอยากจะพูดอะไรบางอย่างอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงของลูกจ้างในร้านดังขึ้นมา “ท่านไม่สามารถเข้าไปได้ขอรับ”
“ข้ามาที่นี่ก็เพื่อขอบคุณแม่นางหลิน ทำไมข้าถึงเข้าไปไม่ได้?” หลีเจี้ยนเฉินที่สวมชุดสีแดงเพลิงนั้น ในมือหนึ่งได้ถือถุงกระดาษน้ำมันเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ถือไหเหล้าเอาไว้
หลินซีเหยียนนั้นไม่ได้สนใจหลีเจี้ยนเฉิน แต่นางรู้สึกในชุดสีแดงเพลิงของเขามากกว่า นางจึงได้บอกออกไป “ให้เขาเข้ามาได้!”
“ออกไปได้แล้ว เจ้าไม่ได้ยินที่เถ้าแก่เนี้ยของเจ้าพูดรึไง?” หลีเจี้ยนเฉินก็ได้ชนเด็กทำงานในร้าน แล้วเดินเข้าไปหา หลินซีเหยียนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา หลังจากที่เห็นผู้เฒ่าสวีเขาก็ได้ตบปากของตัวเองแล้วกล่าว “ผู้นี้คือพ่อของเจ้าเหรอ?”
มุมปากของหลินซีเหยียนก็ได้กระตุกขึ้นมา แล้วจากนั้นก็ได้จ้องไปที่หลีเจี้ยนเฉินแล้วกล่าว “ไม่ใช่”
“ก็ว่าดูไม่เหมือนกัน” หลีเจี้ยนเฉินก็ได้พูดอย่างเป็นกันเองมาก เขานั้นไม่ได้เห็นตัวเองเป็นคนนอกเลยแม้แต่น้อย แล้วเขาก็ได้วางเอาของในมือของเขาไว้ที่โต๊ะหินในสวน “มาดื่มกันเถอะ เป็นเรื่องยากมากที่จะได้เจอกับเจ้า ดังนั้นวันนี้ถ้าไม่เมาไม่กลับ”
“แล้วท่านมาหาข้าทำไม?” หลินซีเหยียนไม่คิดว่าตัวนางนั้นจะมีธุระอะไรกับคนที่อยู่ตรงหน้านาง ถึงเขาจะบาดเจ็บ บาดแผลของเขาก็น่าจะหายดีในไม่กี่วันนี้
หลีเจี้ยนเฉินก็ได้กะพริบตาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ข้าตกหลุมรักแรกพบกับเถ้าแก่เนี้ย ไม่ทราบว่าเถ้าแก่เนี้ยจะให้โอกาสกับข้าบ้างได้หรือไม่?”
“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็คงสายไปแล้วล่ะ ข้าเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้วนะ” หลินซีเหยียนก็ได้ตอบไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ ทำลายความฝันของหลีเจี้ยนเฉินลงทันที
แล้วหลีเจี้ยนเฉินก็ได้ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าอายุเท่าไรกันแน่? ข้าไม่เชื่อหรอก”
ก่อนที่นางจะได้ส่ายหัวปฏิเสธไป ก็ได้มีเสียงขอเด็กดังขึ้นมาอย่างชัดเจน “ท่านแม่ ท่านอยู่ที่ไหน? เทียนเอ๋อมาหาแล้วนะ”
หลินซีเหยียนที่ยังไม่ทันหันหน้าไป ก็ได้ถูกเจ้าหัวลูกชิ้นวิ่งเข้ามากอด แล้วนางก็ได้ดึงใบหน้ากลมๆของเทียนเอ๋อแล้วกล่าว “ไหนเจ้าเคยบอกจะอยู่ห่างๆแม่บ้างยังไงล่ะ?”
เทียนเอ๋อก็ได้ทำดวงตาเบิกกว้าง แล้วจากนั้นก็ได้บิดริมฝีปากของเขาอย่างเศร้าสลด “แต่เทียนเอ๋อรักท่านแม่ที่สุดเลยนะ” หลังจากที่พูดจบเขาก็ได้หันไปหาเจียงหวายเย่แล้วกล่าว “ท่านแม่ ดูสิ ท่านอาจารย์มาชวนทานข้าวด้วยกันแน่ะ”
เจียงหวายเย่ก็ได้ถือข้าวกล่องไว้ในมือของเขา แล้วจากนั้นก็ได้นำมาวางบนโต๊ะหินอ่อน แต่หลังจากที่พบชายชุดแดงแล้ว เขาก็ได้ตกใจขึ้นมาก่อนแล้วจากนั้นก็ปรากฏรังสีฆ่าฟันออกมา
อุตส่าห์เฝ้าระวังคนเข้าออกแล้วแท้ๆ แต่ก็ไม่อาจป้องกันเจ้าลูกหมาจากรัฐหลีได้เหรอเนี่ย?
หลีเจี้ยนเฉินก็รู้สึกได้ถึงรังสีฆ่าฟัน เขาก็ได้ยักคิ้วให้ เจียงหวายเย่ทันที หรือว่านางจะสามีและลูกแล้วจริง? แต่ดูจากความงามของนางแล้วก็น่าจะเป็นไปได้อยู่
ในตอนเย็นเทียนเอ๋อก็ได้ตามผู้เฒ่าสวีไปเล่นที่ไหนกันก็ไม่รู้ หลังจากที่ผ่านไปพักใหญ่ หลินซีเหยียนก็ได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าตาเฒ่าสวีนั้นเป็นเฒ่าทารกที่ชอบเล่นซุกซนเหมือนกับเด็กๆ
เจียงหวายเย่ก็ได้เดินไปหาหลินซีเหยียนแล้วจากนั้นก็ได้ถามด้วยเสียงเบาๆ “เจ้าไปรู้จักกับชายชุดแดงคนนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? เสี่ยวเหยียนเอ๋อไม่มีอะไรจะบอกเปิ่นหวางหน่อยเหรอ?”
เพราะระยะห่างระหว่างทั้งสองคนนั้นใกล้ชิดกันมาก ทำให้หลินซีเหยียนรู้สึกได้ถึงอารมณ์โกรธของเจียงหวายเย่
หลีเจี้ยนเฉินที่ถูกลืมโดยทั้งสองคนนั้น ก็ได้ทำเสียงดังขึ้นมาเพื่อให้รู้สึกได้ถึงตัวตนของเขา เขานั้นคิ้วขมวดแล้วมองไปที่เจียงหวายเย่ และมีความรู้สึกคุ้นเคยในใจของเขา
“ท่านหมอหลิน ข้านึกได้ว่าข้ามีของจะมอบให้เจ้า” หลีเจี้ยนเฉินก็ได้เดินมาหาหลินซีเหยียน แล้วเบียดตัวแทรกกลางระหว่างสองคนนั้น
“ข้าไม่ได้ทำอะไรให้สมควรต้องได้รับรางวัล ท่านไม่ต้องเอาอะไรมาให้ข้าก็ได้” หลินซีเหยียนก็ได้ถอยห่างออกมา แล้วทำสีหน้าหมางเมินเช่นเคย
หลีเจี้ยนเฉินก็ได้มองมาอย่างรู้สึกเสียใจ “ท่านหมอหลิน ข้ามอบให้เจ้าก็เพื่อตอบแทนที่เจ้าช่วยชีวิตข้าเอาไว้” หลีเจี้ยนเฉินก็ได้หยิบเอากำไลลูกปัดออกมาจากข้อมือของเขา ซึ่งกำไลลูกปัดเส้นนั้นส่องแสงออกมาอ่อนๆในความมืดได้ด้วย
ดวงตาสีดำของเจียงหวายเย่ก็ได้เบิกกว้างเมื่อเห็นเช่นนั้น เสี่ยวเหยียนเอ๋อนั้นอาจจะไม่รู้ แต่ในฐานะองค์ชายรัตติกาลแห่งรัฐเจียงแล้ว เขาย่อมรู้ดีถึงกำไลลูกปัดวิเศษอันนี้ที่สืบทอดมาโดยฮ่องเต้ของรัฐหลีจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งสามารถทำให้ผู้ที่ใส่นั้นจะไม่ถูกพิษใดๆหลายร้อยชนิดได้
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น กำไลลูกปัดเส้นนี้มักจะถูกมอบให้กับพระชายาที่จะแต่งงานกับฮ่องเต้เพื่อแสดงให้เห็นว่าความรักและความเข้าใจกันของสามีภรรยานั้นมีค่ามากกว่าทอง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจียงหวายเย่ย่อมไม่ยอมให้ หลินซีเหยียนสวมเด็ดขาด
“กำไลลูกปัดเส้นนี้สวยมาก เราจะเก็บไว้ให้ภรรยาของข้าเอง” เจียงหวายเย่ก็ได้ยื่นมือออกมาแล้วรับแทนหลินซีเหยียน แล้วก็ส่งสายตาบอกกับหลินซีเหยียนว่าเขามีอะไรจะพูดด้วย
หลินซีเหยียนก็เข้าใจได้ นางจึงได้บอกให้หลีเจี้ยนเฉิน กลับไปก่อน “ตอนนี้ก็มืดแล้ว ขอเชิญคุณชายกลับไปก่อน”
จากนั้นก็ได้หันหลังกลับไปแล้วเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับเจียงหวายเย่ ปล่อยให้หลีเจี้ยนเฉินนั้นต้องกัดฟันมองดูแผ่นหลังของทั้งคู่ “ท่านหมอหลิน ข้าจะต้องทำให้เจ้าเป็นพระชายาของข้าให้ได้”
“เรารู้ว่าพรุ่งนี้เจ้ามีงานยอมรับโดยบรรพชนที่สำคัญมากรออยู่ ดังนั้นข้าจะส่งคนไปคอยเฝ้าดูเจ้า” เจียงหวายเย่ก็ได้หรี่สายตาลงแล้วนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้เขารู้สึกรังเกียจขึ้นมาในใจอย่างอดไม่ได้
“มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ?” หลินซีเหยียนนั้นรู้อยู่นานแล้วว่าคนพวกนั้นในจวนมหาเสนาบดีคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่ แต่ก็ทำให้ความรู้สึกโกรธผุดขึ้นมาในใจของนางอยู่ดี
เจียงหวายเย่ก็ได้จับมือของหลินซีเหยียนแล้วจากนั้นก็จับแน่น “ดูเหมือนฮูหยินอวี้จะจัดการลงมือทำอะไรกับธูปทำพิธี ถ้าพี่ใหญ่เจ้าใช้มันพรุ่งนี้ มันจะดับทันทีที่จุดมัน”