หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 36 เอาลูกของฉันคืนมา
หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วตะโกนคำนั้นออกมาแล้ว ก็สลบไปในทันที ในขณะที่เจี๋ยนอี๋นั่วฟื้นขึ้นมานั้น เธอสะลึมสะลือรู้สึกว่ามีคนกำลังเดินมาทางเธอ เจี่ยนอี๋นั่วพยายามมองดูว่าใครกำลังเดินมา แต่เธอก็ไม่มีแรงแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง ทำได้เพียงแค่ก้มหน้าพร้อมหลับตาลง
เจี่ยนอี๋นั่วกำลังหลับไปในความฝัน ในความฝันที่มันมืดสนิท ท่ามกลางในความมืดนั้นเธอเห็นแสงสว่างนิดๆ เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะเดินตามแสงนั้นไป จากนั้นแสงสว่างก็กลายเป็นห้องห้องหนึ่ง มือของเจี่ยนอี๋นั่ววางอยู่บนประตู มือค่อยๆขยับลูกบิด ใจเธอเต้นแรงมาก เหมือนราวกับว่ามีอะไรกำลังเฝ้าคอยเธออยู่
ประตูห้องถูกเปิดออก เจี่ยนอี๋นั่วเดินเข้าไปในห้อง ห้องที่ว่างเปล่ามีเพียงแค่เปลนอนตั้งอยู่ ในเปลนอนมีเด็กน้อยคนหนึ่ง ทารกน้อยสวมใส่ชุดสีชมพู แววตาของทารกน้อยนั้นเหมือนองุ่นสีดำ มีผิวที่นุ่มนวล ในขณะที่เห็นเจี่ยนอี๋นั่วเดินเข้าไปใกล้นั้น ทารกน้อยก็ยื่นมือออกมา น้ำเสียงที่ไร้เดียงสาร้องเรียกเจี่ยนอี๋นั่วว่า:“แม่คะ……อุ้ม………”
เจี่ยนอี๋นั่วไม่รู้ว่าตัวเองคลอดลูกออกมาตั้งแต่ตอนไหน ทันทีที่เห็นเด็กคนนี้ ก็รู้ได้เลยว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของตัวเอง เจี่ยนอี๋นั่วเร่งรีบเดินไปหา แต่ว่าทันทีที่เธอสัมผัสทารกน้อยนั้น กลับสัมผัสเจอแต่ความว่างเปล่า เด็กน้อยหายไปทันที เหลือไว้เพียงเปลนอนอันว่างเปล่า
“ไม่นะ ลูกของฉันล่ะ?ลูกของฉัน……”เจี่ยนอี๋นั่วร้องไห้ตะโกนออกมา
หลังจากนั้นทุกอย่างก็หายไปหมด เจี่ยนอี๋นั่วกลับมาตกอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง
“ลูกของฉัน……”ทันใดนั้นเจี่ยนอี๋นั่วลืมตาขึ้นแล้วลุกขึ้นนั่ง
หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วตื่นขึ้นมา พี่งรู้ตัวว่าเธอนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงคนไข้ เรื่องราวเมื่อกี้นั้นมันเป็นเพียงแค่ฝันร้ายอันน่ากลัว เธอรีบร้อนยกมือไปกุมที่ท้องของตัวเอง จากนั้นเธอร้อนรนเบิกตากว้าง ค่อยๆก้มหัวลง สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนท้องของตัวเอง เจี่ยนอี๋นั่วกระวนกระวายรีบลูบไล้ท้องของตัวเอง น้ำตาเริ่มไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
เจี่ยนอี๋นั่วกุมหน้าท้องแบนราบแล้วร้องไห้พร้อมพูดว่า "แม่ …… ท้องของฉัน …… เด็กที่อยู่ในท้องของฉันล่ะ?มีใครอยู่ไหมคะ เด็กที่อยู่ในท้องฉันไม่มีอีกแล้ว มีใครอยู่ไหมคะ? รีบเอาลูกของดิฉันคือมา!”
เวลานี้พยาบาลเดินเข้ามาจากนอกห้อง เธอเห็นเจี่ยนอี๋นั่วกำลังกุมท้องของตัวเองอยู่ รีบตอบกลับ:“ คุณฟื้นแล้วเหรอคะ ถือว่าคุณโชคดีมากๆเลยนะคะ เจอสถานการณ์ที่อันตรายขนาดนี้แต่มดลูกของคุณกลับไม่ได้รับอันตรายร้ายแรงใดๆเลย คุณรู้ไหมคะ?คุณเกือบจะได้ตัดมดลูกทิ้ง แต่โชคยังดีที่สามีของคุณมาได้ทันเวลา เขาจึงเลือกตัดสินใจเอาเด็กออกค่ะ”
“อะไรนะ?สามีใคร?ลูกของฉันล่ะ?”เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้ามองไปทางพยาบาล ร้องไห้พร้อมถาม
พยาบาลหน้าแดงพูดด้วยน้ำเสียงเบา:“สามีของคุณเป็นผู้ชายหล่อมากๆคะ ฉันยังไม่เคยพบเคยเจอคนไหนที่หน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ คุณมีสามีที่หล่อเหลา ใส่ใจดูแลคุณ ถึงแม้ตอนนี้จะเสียลูกไปแต่ก็ไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ เพราะรอร่างกายของคุณกลับมาแข็งแรงเมื่อไหร่ คุณยังสามารถมีลูกได้อีกค่ะ”
เจี่ยนอี๋นั่วเบิกตาขึ้น จ้องมองพยาบาล ถามด้วยน้ำเสียงแหบว่า:“ลูกของฉันเสียแล้ว?”
พยาบาลพยักหน้าตอบรับพร้อมหน้าตาที่หดหู่ พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ:“ใช่ค่ะ ในขณะนั้นคุณเสียเลือดมาก ทำให้คุณแท้งแล้วค่ะ ทางเลือกเดียวคือต้องเอาเด็กออกค่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นคุณอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ……”
เจี่ยนอี๋นั่วใช้มือกุมที่ท้องของตัวเอง ร้องไห้พร้อมใส่หัว:“ไม่ พวกคุณจะได้ทำแบบนี้ไม่ได้นะ เขาเป็นลูกของฉัน พวกคุณมีสิทธิ์อะไรทำไมถึงตัดสินใจฆ่าเธอ”
“ผมเป็นคนตัดสินใจเอง”ทันใดนั้นเหลิ่งเซ่าถิงก็เดินเข้ามา
ในที่สุดเจี่ยนอี๋นั่วก็เข้าใจทำไมพยาบาลจึงเอ่ยถึงสามีแล้ว ที่แท้เหลิ่งเซ่าถิงอยู่หน้าห้องคนไข้ เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวดจ้องมองเหลิ่งเซ่าถิง :“คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?คุณมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจเอาลูกออก?”
เหลิ่งเซ่าถิงหันหลังเหลือบไปมองพยาบาลคนนั้น พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“คุณออกไปก่อนเถอะครับ”
ถึงแม้เหลิ่งเซ่าถิงจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาต่อพยาบาลคนนั้น แต่ว่าเมื่อพยาบาลสาวพบหน้าเหลิ่งเซ่าถิงถึงกับหน้าแดงทันที จากนั้นเธอก็รีบเดินออกไปจากห้องคนไข้ทันที
เหลิ่งเซ่าถิงมองไปทางเจี่ยนอี๋นั่วที่ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยรอยน้ำตา คิ้วขมวด:“ผมเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรออย่าร้องไห้ต่อหน้าผมอีก?”
เจี่ยนอี๋นั่วใช้มือปาดน้ำตาบนใบหน้า รีบร้อนพูดว่า:“ฉันไม่ร้อง ฉันไม่ร้องแล้ว ฉันขอร้องคุณ ได้โปรดบอกฉันเถอะ เกิดอะไรขึ้นกับลูกของฉันกันแน่”
“ลูกของคุณ……”เหลิ่งเซ่าถิงพูดได้แค่นี้ค่อยๆหยุด จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า:“ลูกของคุณ เขาตายแล้ว ……”
เจี่ยนอี๋นั่วหยุดชะงักอึ้งไปในทันที เธอแทบหยุดหายใจและสั่นไปทั้งตัว
เหลิ่งเซ่าถิงหรี่ตามองไปทางเจี่ยนอี๋นั่ว พูดด้วยน้ำเสียงเบา:“เมื่อคืนหลังจากที่คุณออกไป คุณย่าเป็นห่วงคุณมาก ท่านก็สั่งให้ผมตามคุณมาด้วย พอผมถึงโรงพยาบาล ก็พบว่าคุณสลบอยู่ตรงบันได จากนั้นก็เรียกคุณหมอ ถ้าหากปล่อยไว้นานเกินไป ร่างกายของคุณก็อาจจะได้รับอันตรายมากกว่านี้ ถึงแม้ฉัน……”
เหลิ่งเซ่าถิงพูดถึงนี่ก็หยุดพูดทันที ค่อยๆหรี่ตาพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ “ถึงผมจะรู้สึกเบื่อคุณ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะใจไม้ไส้ระกำ เห็นคนกำลังจะตายแล้วไม่ช่วยเหลือ ตอนนี้ผมคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณ ดังนั้นการผ่าตัดในครั้งนี้ ผมจึงสามารถตัดสินใจแทนคุณได้”
เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าร้องไห้พูดขึ้นว่า:“ฉันไม่เชื่อ ลูกของฉันยังมีชีวิตอยู่……คุณตั้งใจให้เป็นแบบนี้ใช่ไหม?ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณไม่เคยชอบเด็ก คุณไม่พร้อมที่จะมีลูก ตอนนี้ลูกตายแล้ว เหลิ่งเซ่าถิงสาสมแก่ใจคุณหรือยังคะ!”
เหลิ่งเซ่าถิงเหลือบมองเจียนอี๋นั่วอย่างเย็นชา:“ถึงแม้ฉันจะไม่ต้องการมีลูก แต่ว่านั้นมันก็คือสายเลือดของฉัน ฉันไม่โหดร้ายพอที่จะใช้วิธีนี้ทำให้เขาจากไป คุณกลับไปคิดทบทวนดีๆจะดีกว่า ว่าใครกันแน่ที่ทำร้ายคุณ ที่คุณกลิ้งตกจากบันได ปกติคุณเป็นคนที่ระมัดระวังมาก ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีคนจงใจที่จะผลักคุณ เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะกลิ้งตกลงจากบันไดเอง เด็กคนนี้เป็นสายเลือดตระกูลเหลิ่ง ผมเป็นคนกำหนดเองว่าเขาจะอยู่หรือจะไป ผมยังไม่ได้ลงมือกำจัดเขาด้วยมือของผมเลย ถ้าหากมีคนนอกคนไหนกล้าทำร้ายเขา ผมไม่มีวันปล่อยคนๆนั้นไปแน่”
เจี่ยนอี๋นั่วเม้มปากจนแน่นพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ: คิดออกแล้ว เงาที่อยู่ในมุมสลัวๆนั้น คนที่ปองร้ายฉัน?คือเฉิงซานซาน?”
“เฉิงซานซาน คนรักของฉู่เหมิงเซวียน?” เหลิ่งเซ่าถิงพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ
เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วได้ยินคำพูดของเหลิ่งเซ่าถิงนั้น รีบเงยหน้ามองไปทางเหลิ่งเซ่าถิง :“คุณรู้ได้ยังไงคะ?”
“เวลานี้คุณคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผม ผมจะไม่รู้อะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณได้อย่างไรกัน ?”เหลิ่งเซ่าถิงลุกขึ้น:“เรื่องนี้ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมจะทำให้มันได้ชดใช้ ในสิ่งที่ทำลงไปอย่างสาสม”
เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยน้ำเสียงเบา:“ฉันจะไปด้วย ฉันจะถามกับเธอว่า เธอก็จะเป็นแม่คนแล้ว เธอทำไมถึงโหดร้ายได้ขนาดนี้ ฆ่าลูกของฉันได้ลงคอ!”
แต่ว่าเจี่ยนอี๋นั่วกำลังจะลงจากเตียง ทันใดนั้นขาอ่อนหมดแรงล้มลงไป
เหลิ่งเซ่าถิงรีบเอามือไปพยุงเจี่ยนอี๋นั่ว พูดกับเจี่ยนอี๋นั่วว่า:“ตอนนี้ร่างกายของคุณต้องการฟักฟื้นไม่เหมาะที่ขยับตัวมากนัก ตอนนี้คุณเอาเวลาไปคิดคำตอบดีกว่าว่าจะตอบคุณย่ายังไง?ตอนนี้ไม่มีลูกแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ตระกูลเหลิ่งอีกต่อไป
เจี่ยนอี๋นั่วหนังตาตก ขนตาขยับนิดๆเงยหน้ามองเหลิ่งเซ่าถิง เหลิ่งเซ่าถิงมองเจี่ยนอี๋นั่วแล้วรีบปล่อยมือทันที และไม่มองเจี่ยนอี๋นั่วอีก
เหลิ่งเซ่าถิงเดินออกจากห้องคนไข้ หันหลังมองเจี่ยนอี๋นั่วอีกครั้ง เขามองลงไปและมองไปที่เลือดที่เปื้อนบนมือของเขา เหตุการณ์นื้เขาใช้มือข้างนี้เซ็นชื่อของตัวเอง เหลิ่งเซ่าถิงเซ็นชื่อของตัวเองมาทั้งชีวิตนับครั้งไม่ถ้วน เซ็นหนังสือสัญญาหลักหลายร้อยล้านก็เคยเซ็นมาแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย จนเหตุการณ์ในครั้งนี้แค่ลายเซ็นของเขาแค่ลายเซ็นเดียว มันเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นความตายของผู้หญิงคนหนึ่งและเด็กน้อยอีกคนหนึ่ง ในขณะที่เขาเซ็นชื่อไปด้วยมือของเขาก็สั่นไปด้วย
เจี่ยนอี๋นั่วนั่งเหม่อลอยอยู่เป็นเตียงคนไข้ ช่วงเวลาที่เธอตั้งครรภ์ยอยู่แสนยากลำบากมาก ไม่เพียงแต่นอนพักฟื้นขยับไม่ได้ยังไม่พอ ระยะเวลาที่ตั้งครรภ์มีอาการคลื่นไส้อาเจียนหล่อนต้องทนทุกข์ทรมานกับผลข้างเคียงจากการตั้งครรภ์ แล้วยังต้องรับประทานอาหารที่ไม่อร่อยสำหรับคนตั้งครรภ์โดยเฉพาะ เพื่อให้สัมผัสกับรังสีให้น้อยที่สุด แม้แต่โทรศัพท์มือถือก็ไม่ค่อยได้ใช้ และแม้แต่โทรทัศน์ก็ไม่ค่อยได้ดู
ถึงแม้ว่าเธอ……จะพยายามมามากมายขนาดไหน สุดท้ายก็ไม่สามารถเก็บลูกคนนี้ไว้ได้
“ถึงเวลาทำแผลใหม่แล้วค่ะ ”พยาบาลเดินเข้ามา
เจี่ยนอี๋นั่วใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวพร้อมพูดกับพยาบาลว่าด้วยน้ำเสียงเบา :“ฉันอยากเจอลูกของฉัน”
พยาบาลคิ้วขมวด ตอบอย่างลำบากใจ:“คุณผู้หญิงคะ เวลานี้สภาพจิตใจของคุณยังไม่ปกติ คงยังไม่เหมาะที่จะไปดูเด็กคนนี้”
เจี่ยนอี๋นั่วตาแดงจ้องมองไปที่พยาบาลคนนั้น:“ฉันอยากเห็นสภาพของเด็กคนนั้น เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง”
“ถ้าอย่างนั้น ได้ค่ะ”พยาบาลหันหลังเดินออกไป จากนั้นคิ้วขมวดกลับมาถึงห้องคนไข้ หยิบขวดแก้วใบหนึ่งออกมา ในขวดแก้วนั้นเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด มีเด็กทารกน้อยที่นอนเสียชีวิตอยู่ในขวดแก้วนั้น
เจี่ยนอี๋นั่วเอื้อมมือจับขวดแก้วใบนั้นอย่างเบาๆ เธอจ้องมองทารกน้อยที่อยู่ในขวดใบนั้น ทารกน้อยพัฒนาเป็นรูปร่างอย่างชัดเจน มีใบหน้ารูปร่างเป็นคนแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วกระพริบตาพร้อมน้ำเสียงสั่นเครือถาม:“เด็กคนนี้ เป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง สามารถมองออกหรือยังคะ?”
“เป็น……เด็กผู้หญิงคะ”พยาบาลตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เบา
เจี่ยนอี๋นั่วร้องไห้ออกมาทันที :“เด็กผู้หญิง?เธอเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆเหรอเนี่ย?ลูกของฉันเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆ ……”
เจี่ยนอี๋นั่วสัมผัสที่ขวดแก้วตลอดเวลา แต่ว่าสัมผัสได้แต่ความหนาวเย็น ลูกน้อยของเธอทำไมต้องมานอนหลับอยู่ในที่ที่เย็นขนาดนี้?ลูกน้อยของเธอควรนอนอยู่ในครรภ์ของหล่อนมิใช่หรือ หัวใจยังคงเต้นแรง บางครั้งยังขยับไปมาในท้อง ลูกน้อยของเธอควรจะค่อยๆเติบโตขึ้น รอเวลาที่ถึงกำหนดคลอด ก็ได้พบหน้ากัน
“ขอโทษ……”เจี่ยนอี๋นั่วใช้มือโอบกอดขวดใบนั้น พูดซ้ำๆว่า:“ขอโทษ……ที่แม่ไม่สามารถปกป้องลูกได้……”
แต่คนที่ทำร้ายหนู มันจะได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไปอย่างสาสม!
เฉิงซานซานเทน้ำร้อนให้ตัวเองอย่างร้อนรน เธอถือแก้วน้ำไว้จิบน้ำไปหนึ่งคำ จากนั้นก็ตื่นตระหนกแล้วลุกขึ้น เดินไปเดินมาอยู่ในห้อง ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออก เฉิงซานซานมองไปทางประตูด้วยอาการที่ตื่นตระหนกตกใจจนทำตัวไม่ถูก ก็เห็นฉู่หมิงเซวียนเดินจากประตูเข้ามา เฉินซานซานรีบหลบทันที สำลักพร้อมพูดขึ้นว่า:“หมิงเซวียน คุณกลับมาแล้วเหรอคะ ฉันคิดว่าคุณจะอยู่โรงพยาบาลนานกว่านี้สักอีก”
ฉู่หมิงเซวียนยิ้มและจับที่ไหล่ของเฉินซานซาน พูดด้วยน้ำเสียงเบา:“ไม่เจอเจี่ยนฉางรุ่น ผมจะรอต่ออีกไปทำไม?คุณนั่นแหละ ทำไมถึงรีบร้อนกลับมา ผมเดินหาคุณไปทั่วแต่ก็หาไม่เจอ!”
เฉินซานซานรีบคิ้วขมวด ตื่นตระหนกพร้อมพยักหน้าตอบกลับ :“ฉัน ฉันมีธุระด่วนเลยรีบกลับมาก่อนค่ะ……”
“โอ้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ ที่คุณไม่ได้เห็นเรื่องราวดีๆ ”ฉู่หมิงเซวียนหัวเราะเยาะ:“คุณรู้อะไรไหม?ลูกของเจี่ยนอั่วเสียชีวิตแล้ว……”