บทที่ 173 ปีศาจเฮยซาน

ในชั่วพริบตา เหลียงเฟยและเซียวหนิงเสวี่ยได้ใช้ท่วงท่าทั้งหมดอีกครั้ง และรวมพลังเป็นการโจมตีอย่างไร้ที่ติ

โหลวอิงเหวินที่เผชิญหน้ากับพลังที่เหลือกว่าการโจมตีครั้งก่อนของทั้งสองคนก็เริ่มลนลาน ยิ่งต้องเผชิญกับการโจมตีด้วยพลังทั้งหมดอีกครั้ง เขายิ่งรับมือไม่ไหว

เห็นลูกกลมแสงสีขาวพุ่งเข้าใส่โหลวอิงเหวินอย่างบ้าคลั่ง พลังอันทรงพลังมีความได้เปรียบอย่างชัดเจน ไม่นานแสงที่โหลวอิงเหวินปล่อยออกมาก็ถูกบีบให้เล็กลงมาก ดูเหมือนว่าอีกไม่กี่อึดใจก็จะสามารถทำร้ายร่างแท้ของเขาได้

โหลวอวี้ตี๋เห็นสถานการณ์แล้วก็รู้สึกกังวลใจอย่างยิ่ง อดไม่ได้ที่จะมองเหลียงเฟยอย่างเย็นชา แอบแค้นใจที่ตนเองไม่มีความสามารถจัดการกับอีกฝ่าย

หากวันหนึ่งเขาได้รับโชคลาภบางอย่างและแข็งแกร่งขึ้นในทันที เขาสาบานว่าจะต้องฆ่าเหลียงเฟยเพื่อแก้แค้นให้บิดาและญาติพี่น้องมากมายให้ได้

ส่วนเฉินต้านเยว่ก็ลุ้นให้โหลวอิงเหวินจนเหงื่อแตก ตั้งใจว่าจะไม่สนใจหน้าตาอีกต่อไปและจะช่วยเหลือโหลวอิงเหวิน

น่าเสียดายที่หน้าตาของตระกูลโหลว โดยเฉพาะในเวลานี้ สำคัญมากจนประเมินค่าไม่ได้ หากสูญเสียไปก็จะสูญเสียสถานะอันโดดเด่นของตระกูลโหลว และไม่สามารถเรียกร้องให้วีรบุรุษในยุทธภพมาร่วมมือกับตระกูลโหลวเพื่อสร้างอำนาจที่ยิ่งใหญ่ได้

ดังนั้น นางจึงไม่ลงมือช่วยจนกว่าจะถึงคราวจำเป็นจริง ๆ ได้แต่ส่งสายตาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง

แต่น่าเศร้าที่ด้วยใบหน้าของนาง กลับทำให้โหลวอิงเหวินรู้สึกท้อแท้และจมดิ่งลงสู่ความสิ้นหวังมากขึ้น

ความจริงก็เป็นเช่นนั้น เมื่อโหลวอิงเหวินเห็นใบหน้าน่าขยะแขยงของเฉินต้านเยว่ ก็ทำให้เขาเสียขบวนและยิ่งสับสนมากขึ้น

เมื่อเผชิญกับลูกกลมแสงสีขาวที่พุ่งเข้ามาไม่หยุด โหลวอิงเหวินก็ยิ่งต้านทานไม่ไหว

เซียวหนิงเสวี่ยเห็นดังนั้นก็อดมองเหลียงเฟยไม่ได้ หวังเพียงว่าโหลวอิงเหวินจะถูกฆ่าอย่างง่ายดายเหมือนกับโหลวอิงป้าในอดีต

ด้วยวิธีนั้น นางไม่เพียงแต่จะได้แก้แค้นครั้งใหญ่

สิ่งสำคัญกว่านั้นคือนางจะสามารถแต่งงานกับเหลียงเฟยได้อย่างถูกต้องตามครรลองคลองธรรม และไม่ต้องกังวลว่าเซี่ยซื่อหรือเย่หลิวซูผู้รวบรวมความโดดเด่นทั้งหมดไว้ในตัวจะแย่งชายของนางไป

ส่วนเย่หลิวซู แม้ว่าจะได้ยินจากมารดาว่าการตายของโหลวอิงเหวินหมายถึงอะไร แต่นางก็ยังหวังว่าจอมโหดร้ายผู้นี้ตกตาย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือฟ้าไม่เป็นใจ ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะพิสูจน์คำพูดที่ว่าคนดีอายุสั้น คนชั่วอายุยืน

อย่างน้อยโหลวอิงเหวินผู้เป็นภัยพิบัตินี้ก็ไม่ได้ตายง่าย ๆ ในตอนนี้

เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะถูกแสงสีขาวระเบิดจนแหลกละเอียด ชายชุดดำที่อยู่ข้าง ๆ ก็ส่ายหน้าและหัวเราะเยาะ

“ฮ่า ๆ ๆ โหลวอิงเหวิน ข้ารู้ดีว่าพลังของหนุ่มสาวคู่นี้แข็งแกร่งเพียงใด เจ้าไม่จำเป็นต้องฝืนอีกต่อไปแล้ว รีบเอาไม้กระบองออกมาเถอะ ไม่เช่นนั้นถ้าเจ้าตายก็จะน่าเสียดายเกินไป! ”

แม้ว่าคำพูดของชายชุดดำจะมีนัยเยาะเย้ยอยู่บ้าง แต่ก็ยังพอมีขอบเขต

โหลวอิงเหวินมองชายชุดดำด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย เมื่อเผชิญกับการโจมตีอันทรงพลังของเหลียงเฟย อีกทั้งพวกเขายังเคลื่อนไหวร่างกายอีกครั้ง ดูเหมือนว่าตั้งใจจะโจมตีต่อเนื่องจนกว่าจะฆ่าเขาให้ตายสนิท เขาจึงไม่กล้าอวดดีอีกต่อไป และเรียกอาวุธเทพชื่อ “ไม้พิชิตสวรรค์” ออกมา

ทันทีที่ไม้พิชิตสวรรค์ปรากฏขึ้น แสงสีฟ้าเขียวขนาดมหึมาก็แผ่กระจายออกมาอย่างงดงาม ในชั่วพริบตาก็สลายลูกแสงสีขาวไปเป็นจำนวนมาก

อาวุธเทพก็คืออาวุธเทพ ไม่มีอาวุธธรรมดาใดจะเทียบได้อย่างแน่นอน

ด้วยความช่วยเหลือของไม้พิชิตสวรรค์ วิถีเทพที่โหลวอิงเหวินปล่อยออกมาก็ทรงพลังมากขึ้นทันที อีกทั้งความเร็วก็เพิ่มขึ้นด้วย

สิ่งนี้ทำให้การรวมพลังถูกสลายในพริบตา!

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เหลียงเฟยและเซียวหนิงเสวี่ยได้ใช้ท่าดาวคู่รวมพลังกันอีกครั้ง ลูกแสงสีขาวขนาดมหึมาจำนวนมากพุ่งเข้าหาโหลวอิงเหวินอีก และระเบิดอย่างต่อเนื่องตรงหน้าเขา

โหลวอิงเหวินรู้สึกหนาวเย็นในใจ กัดฟันและปล่อยพลังออกมาต่อต้านอย่างสุดกำลัง แต่ถึงแม้เขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถ ใช้ทุกวิธีที่มี ก็ยังไม่สามารถสลายแสงทั้งหมดของพลังก่อนหน้านี้ได้ ก่อนที่เหลียงเฟยจะใช้ท่วงท่ารวมพลังอีกครั้ง

และสิ่งที่ทำให้รู้สึกสะใจยิ่งกว่าคือ ในช่วงเวลาที่เหลียงเฟยใช้ท่าติดต่อกัน โหลวอิงเหวินนี่อาศัยอาวุธเทพไม้พิชิตสวรรค์ ก็สามารถสลายพลังได้เพียงหนึ่งในสามของพลังเท่านั้น

นั่นหมายความว่าหากเหลียงเฟยและเซียวหนิงเสวี่ยสามารถใช้ท่าคู่รวมพลังติดต่อกันสามครั้งสำเร็จ การรวมพลังสองเท่าที่พุ่งเข้าหาโหลวอิงเหวิน ก็คงทำให้เขาไม่ห่างจากความตาย

ผู้อาวุโสก็มีวันนี้เหมือนกัน

ผู้คนมากมายจากตระกูลเย่ที่มาถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เคยถูกโหลวอิงเหวินรังแก เมื่อเห็นจุดนี้แล้วก็รู้สึกสะใจมาก

บางคนถึงกับตะโกนออกมา “เหลียงเฟย สู้ ๆ ขอให้กำจัดโหลวอิงเหวินนี่ในคราวเดียว ล้างเลือดให้พวกข้าด้วย! ”

จริง ๆ แล้วไม่ต้องรอถึงการโจมตีครั้งที่สาม เพียงแค่เหลียงเฟยและเซียวหนิงเสวี่ยใช้ท่ารวมพลังติดต่อกัน 2 ครั้ง โหลวอิงเหวินที่เผชิญกับพลังโจมตีที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ก็เกือบจะรับมือไม่ไหวแล้ว เริ่มถูกโจมตีที่ร่างกาย ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

คนที่เคยต่อสู้ทุกคนรู้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหน เมื่อได้รับบาดเจ็บก็จะยิ่งดูอ่อนแรง และแสดงท่าทีพ่ายแพ้

และเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลังจากโหลวอิงเหวินถูกโจมตีหนึ่งครั้ง ไม่นานก็ถูกโจมตีติดต่อกันอีกสามสี่ครั้ง ถึงกับพ่นเลือดออกมา

ในตอนนี้ ทั้งตระกูลโหลวยิ่งกังวลมากขึ้น กำหมัดแน่น เตรียมพร้อมที่จะลงมือ ไม่คิดจะคำนึงถึงหน้าตาอีกต่อไป ตัดสินใจช่วยโหลวอิงเหวินแก้ไขวิกฤต

แต่ในขณะเดียวกัน ผู้คนจากตระกูลเย่ก็มองด้วยดวงตาเป็นประกาย อยากให้โหลวอิงเหวินตายสนิทเสียที เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติของตระกูลโหลว พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ ต่างก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ทำท่าเตรียมพร้อมรบ ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน

ไม่สนใจว่านี่อาจเป็นแผนการอันแยบยลของตระกูลโหลว!

สาเหตุหลักคือโหลวอิงเหวินนี่น่าเกลียดเกินไป ฆ่าเขาเร็วเท่าไหร่ ใจก็จะสงบเร็วเท่านั้น ชาวโลกจะได้รับความสงบสุข

แต่ตระกูลเย่ไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ ส่วนตระกูลโหลวดูเหมือนจะคำนึงถึง เมื่อเฉินต้านเยว่เห็นว่าฝูงชนจากตระกูลเย่ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ด้วยสายตาจ้องมองอย่างดุร้าย นางก็มองโหลวอิงเหวินเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก้มหน้าถอนหายใจ โบกมือห้ามทุกคน

เฉินต้านเยว่หวังว่าโหลวอิงเหวินยังสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้

ชายชุดดำรู้สึกถึงบรรยากาศอันแปลกประหลาดในที่นั้น มุมปากเขาปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ จากนั้นก็โบกแขนเสื้อยาวสีดำ เตรียมพร้อมที่จะลงมือ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้ลงมือ พร้อมกับเสียงกรีดร้องแหลมสูง มีลำแสงสีเขียวเข้มอมดำพุ่งออกมาจากไม้พิชิตสวรรค์ หมุนวนรอบตัวโหลวอิงเหวินไม่หยุด ในชั่วพริบตาก็สลายลูกแสงสีขาวจำนวนมากไป

ต่อมาแสงสีดำเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ไม่นานก็กลายเป็นรูปร่างมนุษย์ขนาดใหญ่

รูปร่างที่ปรากฏขึ้นในทันใดนั้น ทำให้ชายชุดดำตกตะลึง และยังทำให้เหล่ายอดฝีมือตระกูลเย่ต่างหวาดกลัว

เพราะสิ่งนั้นไม่ใช่อื่นใด แต่เป็นปีศาจเฮยซานในตำนาน ผู้มีวรยุทธ์ล้ำลึกยากหยั่งถึง!

บางคนที่เคยไปถ้ำมังกรวิญญาณกับโหลวอิงเหวินครั้งก่อน และได้เห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้ ตอนนี้ยังคงตะลึงงัน รู้สึกตื่นตะลึงอย่างบอกไม่ถูก

ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็เต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดต่ออาวุธเทพ พวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาต่อผู้ที่ครอบครองอาวุธเทพอย่างไม่มีขีดจำกัด!