สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 387 คนดีนั้นเป็นยาก
ตอนที่ 387 คนดีนั้นเป็นยาก
เดิมทีบิดามารดาของสื่อเป็นคนซื่อตรง ครั้งที่ต้องขายตู้สื่อทั้งคู่ต่างเผยท่าทีที่แสนเจ็บปวดไม่น้อย! เมื่อรู้ว่าหยุนเถียนเถียนยอมเซ็นสัญญารับจ์สื่อเป็นทาสจึงรู้สึกซาบซึ้งใจมาก!
หลังจากที่หยุนเถียนเถียนเดินออกเรือนมา มารดาของจู้สื่อยังคงร่ําไห้พร้อมตะโกนว่า “แม่นางหยุน ข้ารู้ว่าท่านเป็นผู้มีจิตใจงดงามยิ่ง ถึงยอมรับเลี้ยงจู้สื่อไว้! แต่โปรดรู้ไว้ด้วยว่าข้ามีเด็กอีกจํานวนมากที่ต้องเลี้ยงดูจึงจําเป็นต้องขายสื่อด้วยความรู้สึกยากที่จะทําใจนัก! แต่ไม่ว่าอย่างไรบัดนี้ได้โปรดแม่นางช่วยให้ความยุติธรรมกับเขาด้วย!”
หยุนเถียนเถียนเห็นสามีภรรยาคู่นี้กําลังคุกเข่าอย่างไม่สมเหตุสมผล นางจึงรีบเข้าไปพยุงทั้งคู่ขึ้นมาทันที
“เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่ยอมปล่อยมันไปแน่! ข้าจะให้คนไปแจ้งความกับขุนนางให้ตรวจสอบที่มาที่ไปของเรื่องนี้ทั้งหมด!”
“ข้าจะไม่ปิดบังเจ้าว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่เรือนข้าจริง! คนของข้ากล่าวว่าจ์สื่อได้รับจดหมายจากคนนอกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านให้รีบกลับไปดูโดยเร็ว! ครั้งนั้นคนของข้าไม่ได้สังเกตเห็นความปิดปกติ จึงคาดไม่ถึงว่าจ์สื่อจะถูกฆ่าตายเช่นนี้!”
“ข้าคิดว่าคนที่ฆ่าสื่อและคนที่วางยาพิษเฉินเอ๋อน่าจะเป็นคนเดียวกัน! บัดนี้น้องชายข้าก็นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง เขาไม่อาจเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ร่วงครั้งนี้ได้! แม่นางสื่อ! ข้าอยากจับฆาตกรมากกว่าเจ้าอีก! รู้หรือไม่กว่าข้าจะเลี้ยงดูเฉินเอ๋อให้สามารถเข้ารับการสอบครั้งนี้ได้ช่างยากเย็นแสนเข็ญยิ่งนัก ทว่ากลับโดนทําลายง่าย ๆ เช่นนี้!”
มารดาของจู้สื่อตอบกลับอย่างรวดเร็วจนลืมแม้กระทั่งร้องไห้ “เราไม่ได้ส่งจดหมายถึงจู้สื่อ! เพราะเราเองทราบดีว่าถึงแม้ฐสือจะมีสัญญาทาสติดตัว แต่อย่างไรก็ยังไถ่ถอนออกได้ แต่ก่อน ไถ่ถอนเขายังต้องเชื่อฟังคําสั่งของแม่นางเท่านั้น! ทั้งสื่อยังรู้สึกขอบคุณแม่นางหยุนยิ่งนัก ดัง นั้นเขาไม่มีทําเรื่องที่เป็นพิษภัยต่อตระกูลของแม่นางหยุนเป็นแน่!”
“ข้าไม่ได้บอกว่าเป็นฝีมือของสื่อ ข้าเพียงกล่าวว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับคนที่ฆ่าจ์สื่อต่างหากเล่า!”
มารดาของจู้สื่อไม่กล่าวอะไร ทว่าในขณะเดียวกันดูเหมือนบิดาของจู้สื่อจะยังไม่เชื่ออยู่! เนื่องจากสายตายังคงมองหยุนเถียนเถียนอย่างโง่งมและไม่ยอมลุกขึ้น!
หยุนเถียนเถียนยิ้มตอบอย่างจนปัญญา นางเรียกเสี่ยวฉีโถวที่สนิทสนมกับจ์สื่อมากที่สุดออกมา! เสี่ยวฉีโถวกับจู้สื่อสองตระกูลนี้อยู่ไม่ไกลกันนัก ทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันด้วย!
พ่อจู้สื่อมองเสี่ยวฉีโถวราวกับเห็นหลักฐานชิ้นสําคัญ เขาคว้ามือฉีโถวและเอ่ยถามทันที “โถวเจ้าว่ามาซิ! เจ้าได้คุยอะไรกับชู้สื่อบ้าง?”
เสี่ยวฉีโถวกําลังตกใจกับศพที่นอนอยู่บนพื้นไปชั่วขณะจึงค่อยเอ่ยขึ้นช้า ๆ ว่า “ข้าไม่รู้วันนั้น ข้าบอกแค่ว่าเหมือนพ่อเขาจะไม่สบาย! จากนั้นเขาก็วิ่งออกไปทันที!”
“พอมาวันนี้ข้าเพิ่งได้ยินว่านายน้อยถูกวางยาก่อนสอบทําให้ลุกไม่ขึ้น! ต่อมาไม่นานคุณหนูก็เข้ามาสอบสวนเหล่าทาส ข้าจึงรู้ว่าจ์สื่อหายตัวไป! ข้าอยากจะถามให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าก็มีคนตะโกนบอกว่าพวกท่านมาที่นี่แล้ว!”
บิดาของสื่อขบกรามแน่นพลางเอ่ย “คนที่มาส่งข่าวคือผู้ใดกันแน่? บอกข้ามาซิ!”
จู่ๆ คนรับใช้หน้าประตูด้านข้างก็กล่าวแทรก “คนผู้นั้นไม่ได้เข้าประตูเรือนจึงไม่รู้แน่ชัดว่าคือผู้ใด? ทว่าข้าพอเห็นลาง ๆ อยู่บ้าง บนหน้าผากผู้นั้นมีไฝเม็ดใหญ่! สื่อเรียกเขาว่าท่านลุงเล็ก!”
แววตาบิดาของจู้สื่อพลันแข็งค้าง “เป็นไปได้อย่างไร? เขาเป็นลุงแท้ ๆ ของจู้สื่อ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องหลอกหลานตนเองเสียหน่อยถูกไหม?”
คนรับใช้หน้าประตูเบ้ปากเล็กน้อยและกล่าว “เกรงว่าจ์สื่อก็คงคิดเช่นนั้นจึงยอมให้เขาหลอกได้! ประจวบเหมาะกับหลายวันมานี้นายน้อยยุ่งอยู่กับการสอบจึงไม่มีเวลาถามไถ่ถึงจู้สื่อเท่าไหร่นัก!”
หยุนเกียนเถียนมองไปยังอีกฟากหนึ่งถนน ผู้ตรวจการแผ่นดินสวมชุดขุนนางนําคนเข้ามา เมื่อเห็นว่าหยนเถียนเถียนเป็นผู้แจ้งความก็ดีใจขึ้นมาทันที! ก่อนหน้านี้เพิ่งถูกตําหนิ คราวนี้ถึงเวลาต้องเผยความสามารถออกมาให้ดีที่สุด!
“ใครบังอาจมาสร้างปัญหาที่เรือนเมฆา?”
หยุนเถียนเถียนพูดไม่ออกจึงกระแอมอยู่ข้าง ๆ “ผู้ตรวจการ ข้าเรียกท่านมามิใช่ให้มายุ่งเรื่องชาวบ้านเหล่านี้ แต่เพื่อสืบคดีฆาตกรรมต่างหาก!”
ผู้ตรวจการรีบส่งสายตาไปยังศพบนพื้น หยุนเถียนเถียนเองก็สงสัยในการตายของจู้สื่อเช่นกัน! เนื่องจากเดิมที่ครอบครัวของเขาดูไม่เชื่อนางเท่าไหร่นัก ดังนั้นนางจึงไม่เปิดผ้าขาวเพื่อตรวจดู
ทว่าบัดนี้คนของทางการมาถึงแล้ว หยุนเสียนเถียนจึงหาโอกาสเดินเข้าไปปัดผ้าขาวผืนนั้นออกทันที!
ก่อนสื่อตายดวงตาของเขาเบิกกว้างพร้อมเปิดปากเล็กน้อยราวกับว่าเขาได้เห็นบางอย่างชวนน่าตกตะลึง!
มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมา โดยมีมีดเล่มหนึ่งปักอยู่คาหน้าอกและท้องของเขา!
หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมหันหน้าถาม “ท่านเป็นพ่อของฐ์สื้อใช่ไหม? ท่านเจอศพลูกชายของท่านที่ใดหรือ? ดูเขาส์ เขาน่าจะตายนานแล้ว ท่านเจอศพเขานานแล้วรึยัง?”
น้ําตาบิดาของจู้สื่อไหลรินออกมา “เช้านี้คนในหมู่บ้านของเราไปปล่อยน้ําในทุ่งนาจึงพบจู้สื่อในทุ่งหญ้าที่ไกลออกไปไม่มากนัก! คาดว่าตอนนั้นจ์สื่อน่าจะตายไปแล้วหนึ่งหรือสองวัน เพราะตัวของเขาทั้งเย็นเฉียบและมีแมลงวันตอมไปทั่วร่าง!”
หยนเถียนเถียนพยักหน้าสื่อว่านางทราบแล้ว จากนั้นจึงถามต่อว่า “ใครคือคนพบศพ? เขาตามเจ้ามาด้วยหรือเปล่า? ผู้ตรวจการช่วยสอบสวนให้ดี จากนั้นค่อยส่งคนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกทีว่ามีร่องรอยการต่อสู้หรือไม่!”
“ข้าเห็นสภาพศพแล้วคาดว่าน่าจะถูกคนที่เขารู้จักฆ่า มิเช่นนั้นเขาคงไม่ทันตั้งตัวถึงขนาดนี้! ซึ่งลุงเล็กของจู้สื่อเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด เราต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อจับเขาให้ได้!”
ผู้ตรวจการพยักหน้าและหันไปสั่งลูกน้องให้ทําตามทันที!
หยุนเกียนเถียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ บิดามารดาของสื่อยังคงยืนน้ําตาคลอเบ้าพร้อมสวมเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง ทั้งด้านข้างยังมีเด็กเล็กอยู่อีกหลายคน! เมื่อคิดดูดี ๆ ครอบครัวนี้ช่างน่าสงสารนัก นางตระหนักได้ว่าความจริงแล้วเป้าหมายหลักของคนร้ายคือเฉินเฉิน แต่คาดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวพันกับจู้สื่อด้วย!
“ข้าเห็นว่าชีวิตครอบครัวของเจ้าช่างน่าเวทนาเสียจริง บังเอิญมีเรือนว่างอยู่ พวกเจ้าไปพักที่นั่นก่อน แล้วค่อยไปทํางานที่เรือนของข้าอย่างน้อยก็น่าจะพออิ่มท้องบ้าง! สําหรับเรื่องศพของจู้สื่อ ข้าจะให้คนนําไปตรวจสอบก่อน แล้วค่อยคืนศพให้พวกเจ้า!”
บิดามารดาของจู้สื่อก้มหน้าไม่พูดไม่จา จนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่จึงตอบว่า “ที่บ้านขามีนาผืนเล็กที่แทบจะไม่พอกินด้วยซ้ํา! หากเด็กในบ้านไม่ป่วย จู้สื่อก็คงไม่ต้องออกบ้านมาเช่นนี้!”
“บัดนี้สื่อตายด้วยวิธีใด เรายังไม่รู้ เช่นนั้นโปรดยกโทษให้เราด้วยที่ไม่สามารถรับความปรารถนาดีครั้งนี้ของแม่นางหยุนได้!”
เซินสิ่งรีบยืดอกขึ้นแล้วเดินออกมาทันที “พวกเจ้าทําตัวโอหังเกินไปแล้ว! คุณหนูของข้าต้องการหาตัวฆาตกรด้วยความจริงใจ แต่พวกเจ้ายังสงสัยนางอีก! ทั้งนางยังหวังดีที่จะรับพวกเจ้าไว้ในเรือน ทว่าพวกเจ้ากลับยังอวดดีนัก!”
หยนเถียนเถียนรีบยื่นมือห้ามไว้ “เอาละ! ระวังหน่อย หยุดพูดได้แล้ว! คนนอกจะสงสัยเช่นนี้ ข้าก็พอเข้าใจได้ รอจนคดีคลี่คลายแล้ว ทุกอย่างย่อมคืนความบริสุทธิ์ให้ข้าเอง!”