ดลกรรีบเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าสะพายทันที เมื่อเห็นมัทนาเดินหน้าตาหมองเศร้ากลับมาหลังจากไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ
“แกเป็นยังไงบ้าง”
“ฉันไหว ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนัตตี้” มัทนาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เพื่อนสนิท
“แต่แกดูซีดเซียวมากเลยนะ ฉันว่าแกค่อยไปน่านพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ดีกว่า วันนี้ไปพักผ่อนกับฉันก่อน”
มัทนาส่ายหน้าน้อยๆ ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา มองตรงไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย
“ให้ฉันไปเถอะ…”
“โอเคๆ ถ้าแกคิดว่าการเดินทางไปไกลๆ มันจะทำให้แกรู้สึกดีขึ้น ฉันก็ไม่คิดจะห้ามแกแล้วล่ะ อ้อ แล้วนี่รถออกกี่โมงล่ะ”
มัทนายกมือป้ายน้ำตาป้อยๆ รู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางลืมแมทธิวได้ ไม่ว่าจะอยู่ไกลสักเพียงไหนก็ตาม
“อีกยี่สิบนาทีก็จะออกแล้ว”
“เดินทางปลอดภัยนะ นังมัท”
“ขอบใจนะนัตตี้ มีแต่แกนั่นแหละที่รักฉันจริงๆ นี่ถ้าแกไม่ชอบผู้ชายไปเสียก่อน ฉันเลือกแกเป็นผัวไปแล้วล่ะ”
“ไม่นะยะ ฉันไม่ชอบชะนี”
มัทนาหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา
“ฉันก็แค่ล้อเล่นน่ะ แกเหมาะจะเป็นเพื่อนรักของฉันมากกว่าผัว ฉันรักแกนะนัตตี้”
ดลกรน้ำตาไหล ดึงเพื่อนรักเข้ามากอด
“ฉันก็รักแกนังมัท ขอให้ทำใจได้เร็วๆ นะ จะได้กลับมาหาฉัน”
“ฉันจะพยายาม…”
เสียงเจ้าหน้าที่ประกาศเรียกให้ขึ้นรถดังขึ้น มัทนาจึงผละออกห่างจากเพื่อนรัก
“ฉันต้องไปแล้วนะ แกดูแลตัวเองด้วยล่ะ”
ดลกรเดินตามไปส่งเพื่อนขึ้นรถทัวร์
“แกก็ดูแลตัวเองนะนังมัท แล้วอย่าลืมวิดีโอคอลมาหาฉันด้วยล่ะ ฉันจะสแตนด์บายรอรับสายแกให้เหมือนพี่เว่นเลย ยี่สิบสี่ชั่วโมง”
มัทนายิ้มทั้งน้ำตา โผเข้ากอดเพื่อนรักอีกครั้ง ก่อนจะยกมือโบกอำลา
“ฉันไปแล้วนะ ไว้จะโทรหาจ้ะ”
ดลกรโบกมือให้เพื่อนรัก รอจนเพื่อนรักขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้วจึงเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารอีกครั้ง ตั้งใจว่าจะรอจนรถทัวร์คันที่มัทนาขึ้นออกจากชานชาลาแล้วถึงจะกลับ
“นัตตี้…มัทล่ะ มัทนาอยู่ไหน”
เสียงห้าวร้อนรนของใครบางคนดังขึ้นข้างตัว ดลกรเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะตกใจอ้าปากค้างเติ่ง
“คุณแมทธิวสุดหล่อ?!”
“มัทนาอยู่ไหนครับ ได้โปรดบอกผม…”
ดลกรลุกขึ้นยืน ก่อนจะชี้ไปที่รถทัวร์คันที่กำลังจะแล่นออกจากชานชาลา
“อยู่บนนู้นค่ะ”
แมทธิวกำลังจะพุ่งไปที่รถทัวร์คันเป้าหมาย แต่ดลกรคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน
“นังมัทกำลังโกรธมาก มันคงไม่ยอมลงมาจากรถง่ายๆ หรอกค่ะคุณแมทธิว”
“แล้วผมควรทำยังไงดีครับ”
ดลกรพยายามคิดหาทางช่วย แต่ก็คิดไม่ออก จึงส่ายหน้าไปมาอย่างจนปัญญา
“นัตตี้โง่ขึ้นมากะทันหันเลยค่ะ”
แมทธิวยืนครุ่นคิด ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นสตรีคนหนึ่งกำลังอุ้มทารกตัวน้อยอยู่ เขาระบายยิ้มออกมาทันที
มัทนาที่ยังคงนั่งร้องไห้เงียบๆ อยู่บนรถทัวร์จำต้องขมวดคิ้วและเงี่ยหูฟังเสียงประกาศตามสายของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีขนส่งผู้โดยสารด้วยความแปลกใจ เมื่อคลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนจะมีชื่อของหล่อนอยู่ในประโยคที่ได้ยินด้วย
‘ประกาศ นางสาวมัทนา เกิดลาภผล ที่กำลังจะเดินทางไปจังหวัดน่าน ตอนนี้สามีของคุณกำลังตามหาคุณอยู่ รีบกลับมาหาสามีด่วน เนื่องจากลูกน้อยของคุณกำลังร้องไห้หิวนม’
แล้วประกาศนี้ก็ดังซ้ำๆ อยู่หลายรอบเลยทีเดียว และพนักงานเก็บตั๋วบนรถทัวร์ก็เริ่มออกตามหาหล่อน
“คุณมัทนา เกิดลาภผล นั่งอยู่เบาะไหนครับ”
หล่อนเม้มปากแน่น พยายามที่จะนั่งนิ่งเฉย แต่พนักงานประจำรถทัวร์ก็เดินมาหยุดข้างๆ เสียก่อน
“คุณใช่คุณมัทนา เกิดลาภผลหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ…”
หล่อนไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี และก็อดงงกับคำประกาศของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีขนส่งผู้โดยสารไม่ได้
“ใช่ค่ะ ฉันมัทนา เกิดลาภผล แต่ฉันยังไม่มีลูกนะคะ น่าจะเกิดความเข้าใจผิดกัน”
พอทุกคนรอบๆ ตัวได้ยินว่าหล่อนชื่ออะไรก็พากันหันมาจ้องมองหล่อนเป็นตาเดียวกัน บางคนถึงกับชะโงกหัวข้ามเบาะมาเลยทีเดียวเพื่อจะมองหน้าหล่อน
“ตายแล้ว หน้าตาก็ดีเนอะ ไม่น่าทิ้งลูกทิ้งผัวแบบนี้เลย”
“นั่นสิ สงสัยต้องหนีตามชู้แน่ๆ”
หลายคนต่างก่นด่าหล่อนโดยไม่คิดจะถามความจริงจากปากของหล่อนสักคำ
มัทนาทนอับอายไม่ไหว จำต้องรีบคว้ากระเป๋าของตัวเองแล้วเดินลงไปจากรถทัวร์ด้วยความโมโห
“ใครมันเล่นบ้าๆ แบบนี้นะ”
“มัท…” ดลกรรีบวิ่งเข้ามาหาเมื่อเห็นมัทนาก้าวลงมาจากรถทัวร์ “แกไม่ไปแล้วใช่ไหม”
“ฉันจะไปได้ยังไงกันล่ะ คนบนรถด่าฉันอย่างกับฉันไปฆ่าพ่อแม่ของพวกเขาอย่างนั้นแหละ แล้วนี่ใครมันแกล้งฉันเนี่ย ฉันไปมีลูกตอนไหนกัน”
หล่อนพูดขึ้นอย่างโมโห ก่อนจะชะงักค้าง เบิกตากว้างเมื่อเห็นแมทธิวปรากฏตัวขึ้น ในอ้อมแขนของเขามีทารกตัวเล็กอยู่ด้วย
“แมทธิว…”
เขาระบายยิ้มกว้าง หันไปส่งเด็กคืนให้กับผู้หญิงคนหนึ่งพร้อมกับจ่ายเงิน จากนั้นก็เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าหล่อน
“ฉันไปก่อนนะ ขอให้แกได้ไปฟินแลนด์นะยะเพื่อนรัก”
ดลกรเห็นแมทธิวเดินเข้ามาก็รีบปลีกตัวเดินหนีไป
“นัตตี้…นังนัตตี้ รอฉันด้วยสิ”
หญิงสาวพยายามจะลากกระเป๋าตามเพื่อนรัก แต่ถูกแมทธิวกระชากแขนเรียวเอาไว้ พร้อมกับก้มลงมากระซิบเบาๆ ที่ข้างใบหูเล็ก
“กลับไปให้นมลูกก่อนสิ มัทนา”
หล่อนเม้มปาก มองคนใจร้ายไม่มีหัวใจอย่างแมทธิวผ่านม่านน้ำตา หัวใจเจ็บร้าวทรมานจนแทบแหลกสลาย
“คนไม่มีหัวใจ ไปให้พ้นนะ”
หล่อนดิ้นรน แต่เขาไม่ยอมปล่อย มือเล็กจึงตวัดลงบนใบหน้าหล่อจัดของเขาเต็มแรง
“ไปให้พ้นเลย!”
เขาคงเจ็บบ้างแหละเพราะผิวแก้มของเขามีรอยนิ้วของหล่อนขึ้นครบทุกนิ้วเลยทีเดียว
“เราจะไปด้วยกัน”
เขาพูดแค่นั้นก็กระชากหล่อนเข้าไปกอดจูบโดยไม่อายสายตาของคนในสถานีขนส่งผู้โดยสารแม้แต่นิดเดียว เขาจูบจนหล่อนอ่อนระทวย จึงกระซิบชิดปากอิ่ม
“ฉันรักเธอ…เราไปโรงแรมกันเถอะ”
“ไม่…”
เขาระบายยิ้มเจ้าเล่ห์ ย่อตัวลงช้อนร่างของหล่อนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วรีบเดินออกไปทันที เสียงผู้คนอุทานตามหลังมาด้วยความตกใจระคนอิจฉาดังไม่หยุด และมันก็ทำให้หล่อนอับอายจนต้องซุกหน้าลงกับแผงอกกว้างอย่างไร้ทางเลือก
รถสปอร์ตราคาแพงระยับเลี้ยวเข้ามาจอดในโรงแรมม่านรูดที่เดิมที่หล่อนเคยลากเขาเข้ามา
“นี่นาย…พาฉันมาที่นี่ทำไม” หล่อนหันมองไปรอบๆ ตัวและร้องโวยวาย
คนตัวโตหันมาส่งยิ้มหื่นกระหายให้ “คนมาโรงแรมเขามาทำอะไรกันล่ะ เล่นไพ่เหรอ”
หล่อนเม้มปากแน่น ดวงตาเบิกกว้างมองเขาอย่างโมโห “นายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะ ขับรถออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่…เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“งั้นก็ไปคุยที่อื่นก็ได้นี่ ร้านกาแฟไง”
หล่อนเอ่ยขึ้นน้ำเสียงร้อนรน แต่เขาส่ายหน้า ดวงตายังคงจับจ้องมาที่ใบหน้าของหล่อนและเลื่อนต่ำลงไปยังทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหอบหายใจ
หล่อนหน้าร้อนฉ่า กลัวเหลือเกินว่าเขาจะเห็นเม็ดทรวงที่ห่อตัวคัดเต่งอยู่ใต้บราเซียร์
“ผู้คนพลุกพล่านเกินไป ฉันไม่ชอบ”
“แต่ฉัน…ไม่อยากมาที่นี่นะ”
หล่อนโวยวาย แต่เขาไม่สนใจอีก หันไปกดกระจกรถลงและพูดคุยกับพนักงานรูดม่าน
“ค้างคืนหรือชั่วคราวครับ”
“ชั่วคราวค่ะ”
“ไม่ใช่ครับ ค้างคืน”
แล้วแมทธิวก็ยื่นธนบัตรสีเทาให้กับคู่สนทนา
“ไม่ต้องทอนนะ แล้วอย่าให้ใครมารบกวนล่ะ”
“ได้เลยครับคุณพี่ แม้แต่มดผมก็ไม่ให้เข้าไปกวนใจครับ”
“ดีมาก ไปได้แล้ว”
เด็กรูดม่านยื่นกุญแจห้องมาให้ แล้วเขาก็หันมามองหล่อน
“ลงจากรถสิคนสวย หรือว่าอยากให้ผัวอุ้ม”
หล่อนร้อนฉ่าไปทั้งหน้าและเนื้อตัว
“ฉัน…จะกลับ”
แล้วก็ผลุนผลันลงจากรถ จะวิ่งหนี คนตัวโตตามมาคว้าแขนเอาไว้ กระชากเข้าไปบดจูบอยู่พักใหญ่ จึงผละออกห่าง
“เข้าไปด้วยกัน เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันมากมาย”
“แต่ฉัน…”
เขาไม่สนใจคำคัดค้านใดๆ ของหล่อนอีก ร่างทรงพลังย่อตัวลงและช้อนร่างของหล่อนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน หล่อนตกใจ จำต้องตวัดมือโอบรอบลำคอแกร่งเอาไว้แน่น
“ปล่อยฉันลงไปนะ”
แมทธิวอมยิ้ม ไม่ตอบ พาหล่อนเข้าไปในห้องตรงหน้า วางร่างอรชรลงบนเตียง แล้วเขาก็ยืนค้ำศีรษะ
“ทำไมจะต้องหนีด้วย”
หล่อนน้ำตาซึม เชิดหน้ามองเขาด้วยความน้อยใจ
“ฉันไม่ได้หนี ฉันก็แค่จะไปอยู่ที่อื่น”
“นี่เธอกล้าทิ้งฉันหรือ”
“แล้วนายล่ะ ทำไมนายกล้าทิ้งฉัน”
หล่อนลุกขึ้นแล้วระดมกำปั้นทุบตีแผงอกกว้างสุดแรง หลายต่อหลายครั้งไม่ยอมหยุด
“นายมันคนใจร้าย คนใจดำ ฉันเกลียดนาย…เกลียดที่สุดเลย!”
เขารวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างเอาไว้ และตวัดมือใหญ่รัดรอบเอวคอดกอดหล่อนแนบแน่น
“ปล่อยนะ อย่ามายุ่ง”
“ไม่ปล่อยหรอก จะไม่ปล่อยไปตลอดชีวิต”
คนที่ดิ้นรนเอาเป็นเอาตายชะงักงัน ดวงตากลมโตฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาเบิกกว้าง
“นายหมายความว่ายังไง”
แมทธิวระบายยิ้มอ่อนโยน ก้มลงจูบหน้าผากเนียนแผ่วเบา
“คนรักกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ จริงไหม”
มัทนาอึ้งไปนาน กว่าจะตั้งสติและจัดการกับความปั่นป่วนของหัวใจได้ก็ผ่านไปนานเกือบนาที
“ใคร้…ใครรักนายกัน”
MANGA DISCUSSION