'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 116 ศัตรูความรักตัวฉกาจตัวนี้เธอเองก็ลุ่มหลง
ทางด้านหลัง เกาซินซินกำหมัดแน่น เม้มปาก แล้วถลึงตามองเยี่ยหลานชานด้วยความโกรธ
……
เย่หลานซานเดินมาด้านหน้า ฝีเท้าดูเร่งรีบเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้ลดทอนความงามของเธอเลยสักนิด
เฉียวเฟยฝานมองไปที่เงาด้านหลังของเธอตามไปเป็นพักๆ
ผมยาวสลวยของเธอถูกมัดเอาไว้ครึ่งหัว แผ่นหลังบางยืดตรงราวกับไม้บรรทัด ชุดราตรียิ่งส่งเสริมให้ร่างอรชรดูเพรียวขึ้นไปอีก
เขามองตาค้าง
บนดาดฟ้าเรือเงียบสงบมาก ลมทะเลค่อยๆพัดมาเบาๆ รู้สึกเย็นสบาย
เยี่ยหลานชานหยุดฝีเท้าลงในทันที หันหลังกลับ
พอมองเห็นสายตาล้ำลึกราวกับมหาสมุทรของเฉียวเฟยฝาน เธอขมวดหัวคิ้ว แล้วตีตัวห่างจากเขาโดยอัตโนมัติ
พออยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัยจากคนแปลกหน้า เธอถึงได้เอ่ยขึ้น “สิ่งที่ฉันจะพูดต่อจากนี้ไม่ได้แค่จะขู่ให้คุณกลัว และคุณจะต้องใส่ใจให้มากๆ!”
“อืม”
ภายในใจของเฉียวเฟยฝานก็คาดเดา เธอนั้นจะพูดอะไรกับตัวเอง? จะสารภาพว่าเธอนั้นผิดหวัง อยากจะกลับมาคบกับเขาอย่างนั้นเหรอ?
ถ้าเกิดว่าเธอพูดแบบนี้ เขานั้นจะต้องตัดสินใจอย่างไร?
นัยน์ตาของเฉียวเฟยฝานล้ำลึก เริ่มพิจารณาคำถามยี้อย่างจริงจัง
เขานอกใจเกาซินซิน หลังจากที่เลิกกับเย่หลานซาน แต่ไม่ได้เป็นเพราะว่าเขาไม่รักเธอ แต่เป็นเพราะว่าเธอนั้นเป็นคนเงียบๆไม่เรียกร้อง แถมยังเป็นผู้หญิงที่ไร้ชื่อเสียงและถูกรับมาเลี้ยง ไม่เหมาะกับเขาเลยสักนิด
แต่วันนี้ เธอนั้นงดงามชวนมอง มีพลังดูน่าหลงใหล
เขานั้นยังจะปฏิเสธเธออีกไหม?
เฉียวเฟยฝานคิด คงจะเป็นไปไม่ได้
ในตอนที่เขากำลังจมจ่อมอยู่กับความคิด เย่หลานซานก็พูดสิ่งที่เธอกังวลทั้งหมดออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ “วันนี้ฉันได้เจอกับคนที่น่าสงสัยมากคนหนึ่ง บนตัวของเขามีกลิ่นดินปืน ฉันสงสัยว่า บนเรือเฟอร์รี่ลำนี้จะมีอาวุธที่น่ากลัวปนอยู่ พวกเขาอาจจะทำอะไรกับใครบางคนบนเรือ หรือไม่ก็อาจจะทำกับทุกๆคนบนเรือ”
“……”
แววตาของเฉียวเฟยฝานนิ่งไปครู่หนึ่ง
เธอนั้นอยากพูดเรื่องนี้?
หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน มีท่าทีไม่เห็นด้วย “เพื่อการันตีความปลอดภัยของเรือ พ่อของผมใช้การรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดของตระกูลเฉียว แถมยังจ้างรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดในประเทศมาโดยเฉพาะอีก ไม่มีใครสามารถที่จะผ่านการตรวจที่เข้มงวดแบบนี้แล้วหาโอกาสสร้างความวุ่นวายได้หรอก คุณอย่ากังวลไปเลย”
“ฉันไม่ได้กังวลมากไป”
“เย่หลานซาน คุณรู้ไหมถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป จะสร้างความหวั่นวิตกได้มากขนาดไหน?” เฉียวเฟยฝานเตือนเธอ
“ฉันรู้ค่ะ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยเรียกคุณออกมาคุยเป็นการส่วนตัว”
แววตาของเฉียวเฟยฝานอ่อนแสงลง “ผมนึกว่า……”
คุณนึกว่าอะไรคะ?”
“ไม่มีอะไร”
เขาไม่ได้ใส่ใจอย่างนี้ ทำให้เย่หลานซานนั้นเหนื่อยใจ “เรื่องๆนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ยังไงเราก็ควรจะเตรียมตัวรับมือเอาไว้ คุณชายเฉียว คุณช่วยรีบเอาความรุ่นแรงของเรื่องนี้ไปบอกกับคุณเฉียวหย่วนฟานหน่อยนะคะ ให้ท่านแอบส่งคนไปตรวจสอบอย่างเงียบๆ ห้ามแหวกพงหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด
“ถ้ามันเป็นเรื่องที่รอบคอบขนาดนี้ ทำไมถึงปล่อยให้คุณรู้ได้ล่ะ?” เฉียวเฟยฝานมองเธอด้วยสายตานิ่งๆ “แถม คุณแยกออกได้ยังไงว่านั่นเป็นกลิ่นดินปืน? ชั้นใต้ท้องเรือเป็นห้องครัว คงจะเป็นกลิ่นถ่านแน่ๆ คุณเข้าใจผิดแล้ว”
เย่หลานซาน “……”
ดังนั้น ที่เธอพยายามพูดซ้ำๆย้ำๆด้วยความหวังดี เฉียวเฟยฝานก็ไม่ได้เชื่อเลยสักนิด
เย่หลานซานไม่มีอะไรจะพูด “ช่างมันเถอะค่ะ “เดี๋ยวก่อน!”
เฉียวเฟยฝานรั้งเธอเอาไว้
ในตอนที่เย่หลานซานหันมามองด้วยท่าทีไม่พอใจ เขาอดไม่ได้เลยเอ่ยถามขึ้น “นอกจากเรื่องนี้ คุณไม่มีอะไรจะบอกกับผมแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
“……มีสิคะ” สายตาของเย่หลานซานมองแขนของเขา
“อะไร?”
“คุณช่วยหยุดรั้งตัวฉันไว้ด้วย!”
“……”
“……”
ภายในวินาทีนั้นความเงียบสุดแสนประหลาดก็เหมือนจะแผ่ไปทั่วโลกทั้งใบนี้ แม้แต่เสียงคลื่นที่ตีกระทบกับตัวเรือก็ค่อยๆเงียบหายไป
เวลา ราวกับว่าถูกหยุดเอาไว้
บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนประหลาดไปเล็กน้อย เกาซินซินที่แอบฟังอยู่ในมุมหนึ่งก็เดินออกมาในจังหวะเวลาที่ถูกต้อง
เธอเดินควงแก้มแชมเปญออกมา แล้วควงแขนของเฉียวเฟยฝานเอาไว้ “พี่คะ พี่ก็อย่ากังวลไปเรื่อยเลย”
เฉียวเฟยฝานตั้งสติกลับมาอีกครั้ง น้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ “เธอมาได้ยังไง?”
“เมื่อกี้พี่สาวดูอารมณ์ไม่ค่อยดี ฉันก็แค่เป็นห่วงว่าพวกคุณจะทะเลาะกัน”
เกาซินซินไม่มีทางที่จะยอมรับ เธอนั้นกลัวว่าเย่หลานซานจะมาแย่งเฉียวเฟยฝานไป ดังนั้นก็เลยแอบตามอยู่ทางด้านหลัง มองทั้งสองคนไม่ให้คลาดสายตา
เธอเหลือบมองเย่หลานซานอย่างดูถูก มั่นใจว่าเพื่อที่จะเข้าหาเฉียวเฟยฝานเธอคงไม่สนใจว่าจะใช้วิธีไหน “พี่คะ คนระดับสูง ผู้มีอำนาจของตี้ตูต่างก็อยู่กันที่นี่ พี่อย่าพูดอะไรให้คนอื่นตกใจกลัวสิคะ”
“……”
ตอนนี้เป็นเวลาที่สำคัญ เธอไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งใส่ใจเกาซินซิน
เย่หลานซานหันหน้าไปทางอื่นทันที ทำเหมือนกับว่าน้องสาวต่างพ่อคนนี้เป็นเหมือนสุนัขตัวหนึ่งที่เห่าไปเรื่อย
เธอจ้องไปที่เฉียวเฟยฝาน ถามเป็นครั้งสุดท้าย “คุณไม่คิดจะตรวจสอบจริงๆเหรอคะ?”
ภายในแววตาของเฉียวเฟยฝานเต็มไปด้วยความมั่นใจกับความยโสอย่างเต็มเปี่ยม “ไม่จำเป็น”
“……”
เย่หลานซานไม่ได้พูดอะไรต่ออีก แล้วก็เดินออกไปทันที
เธอเพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงหลุดหัวเราะ”พรืด”ออกมาจากตรงหน้าต่าง
“ใคร?”
เธอหันหน้ากลับไปมอง
ร่างกายของเป๋าจิงเหรินพิงอยู่กับหน้าต่างด้วยท่าทางเกียจคร้านแต่ดูงดงาม ลำตัวช่วงบนเอนมาทางด้านหน้าเล็กน้อย โผล่ออกมาแค่ครึ่งตัว
หน้าอกถูกมือกดทับจนเสียทรง ราวกับว่าพร้อมจะทะลักออกมา
ในมือของเธอถือบุหรี่ไว้หนึ่งมวน ควันบุหรี่กำลังลอยขึ้นไปเป็นเส้นๆ
ในตอนที่เย่หลานซานมองมานั้น เธอกำลังพ่นควันบุหรี่ออกมาเบาๆ เค้นเสียงออกมา “อุตส่าห์ทำตัวเป็นคนดีแท้ๆ รู้สึกหงุดหงิดใช่ไหมล่ะ?”
“คุณแอบฟังฉันเหรอ?”
“พวกคุณมาคุยกันที่ห้องพักของฉันเอง ถ้าฉันอยากฟังก็ได้ยินทั้งนั้น”
บนใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มร้ายกาจประดับอยู่ “คุณไปบอกกับเฉียวหย่วนฟานก็ไม่มีประโยชน์หรอก เขานั้นมั่นอกมั่นใจในตนเองมากกว่าเฉียวเฟยฝานเสียอีก
เธอมากจะมองโลกอันวุ่นวายนี้จากที่สูงด้วยสายตาดูแคลน ไม่ใส่ใจแถมยังเย็นชา แต่ว่าเสน่ห์ของเธอต่างก็ทำให้ใครๆพากันเข้าหา
มองเธอจากระยะห่างอันใกล้ เย่หลานซานยิ่งสัมผัสได้ถึงความเย้ายวนของเธอ
นี่คือนางจิ้งจอกตัวหนึ่งที่มีความหยิ่งยโสสูงมาก
เย่หลานซานถอนหายใจออกมา
ถึงแม้เป๋าจิงเหรินจะนับง่าเป็นศัตรูหัวใจของเธอ แต่เธอก็ไม่เคยที่จะเกลียดผู้หญิงคนนี้จริงๆ
นี่เป็นคนที่ทำให้เธอนั้นชอบคนอื่นไปโดยไม่รู้ตัว
ความรู้สึกแบบนี้นี่มันน่าสมเพชนัก!!!
เย่หลานซานกลอกตามองบนไปครั้งหนึ่ง พิงอยู่กับกำแพง “ทั้งเฉียวหย่วนฟานกับเฉียวเฟยฝานไม่เชื่อ ตอนนี้ยังมีวิธีดีๆอะไรอีกที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายตกใจแต่สามารถที่จะใช้อำนาจของตระกูลเฉียวจับคนพวกนั้นเอาไว้?”
ภายในใจของเธอกำลังคิดวิธีรับมือ
ในตอนที่จิดใจถูกรบกวน ก็อยากจะสูบบุหรี่ “ขอบุหรี่ฉันมวนหนึ่งสิ?”
พูดจบ เธอก็หยุดความคิดนี้เอาไว้ แล้วก็ปฏิเสธไปด้วยตนเอง “ไม่เป็นไร ฉันกำลังเลิกบุหรี่”
“ชีวิตของคนเรานั้นมันสั้นความกอบโกยความสุขไว้ในตอนที่ยังมีเวลา” เป๋าจิงเหรินราวกับว่าตั้งใจจะจีบเธออย่างนั้นแหละ หันมาพ่นควันบุหรี่ใส่เธอ “ทำไมคุณต้องบังคับความต้องการของตัวเองด้วย”
หลบควันบุหรี่ที่เป๋าจิงเหรินพ่นออกมา เย่หลานซานเบะปาก “นี่เป็นคำสัญญาของฉันกับใครอีกคนหนึ่ง”
“ผู้ชายของคุณ?” เป๋าจิงเหรินถาม
“……ใช่”
“ดูเหมือนว่าคุณจะชอบเขามาก” เป๋าจิงเหรินคิดถึงใครบางคน แล้วสูบบุหรี่เข้าปอดไปอย่างแรง “ฉันเองก็ชอบคนๆหนึ่ง”
เย่หลานซาน: “……”
เป๋าจิงเหรินถาม: “คุณชื่อว่าอะไร?”
“เย่หลานซาน ช่วยจำชื่อของฉันเอาไว้ด้วย”
นี่เธอกำลังบอกเป๋าจิงเหริน เธอคือเย่หลานซานและกำลังประกาศสงคราม! ผู้ชายของเธอ ถ้าเกิดว่าชอบเธอขึ้นมา เธอก็ไม่มีทางปล่อยมือยอมให้!