บทที่ 176 รวบรวมแก่นธาตุไฟ
เมื่อคิดถึงเส้นทางของตัวเองแล้ว หนิวลี่ก็เริ่มลงมือทำโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
นี่เป็นข้อดีของหนิวลี่ เขาทำอะไรไม่ชักช้า ควรทำก็ทำ ไม่ลังเล โอกาสทั้งหมดล้วนสร้างขึ้นจากความพยายามของตัวเอง
หลังจากสั่งให้เหลิงต้านคอยระวังภัยให้ หนิวลี่ก็เริ่มฝึกฝนเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่หนิวลี่วางแผนเพิ่มพลังของตัวเองอย่างเป็นระบบ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
หนิวลี่วางแผนอย่างละเอียดสำหรับส่วนที่ต้องปรับปรุง และตั้งเกณฑ์ไว้อย่างเข้มงวด
อันดับแรกคือการดูดซับพลังงาน เติมเต็มพลังธาตุในตัว และรวบรวมแก่นธาตุอื่น ๆ
ธาตุของเขาคือ ลม ไฟ น้ำ และไม้ ที่เกิดจากการทำสัญญากับเอลฟ์
ตอนนี้เขามีแก่นธาตุลมแล้ว และพรสวรรค์ด้านธาตุไฟก็ไม่ด้อยไปกว่าธาตุลม ดังนั้นหนิวลี่จึงต้องการสร้างแก่นธาตุไฟเป็นอันดับแรก พอดีกับที่เพิ่งได้รับหินคริสตัลไฟมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะช่วยผลักดันการสร้างธาตุไฟได้อย่างมาก
เขาจมดิ่งสู่ภวังค์ เหลิงต้านที่สะสมพลังงานไว้มากพอแล้วก็เตรียมพลังงานไว้พร้อม เพื่อสนับสนุนได้ทุกเมื่อ
หนิวลี่หยิบหินคริสตัลไฟขึ้นมาก้อนหนึ่ง ค่อย ๆ ดูดซับธาตุไฟจากในนั้น และกลั่นกรองอย่างเงียบ ๆ
พลังเวทของหนิวลี่เองก็มากพอแล้ว แต่การสร้างแก่นธาตุไฟต้องใช้การรวมตัวของธาตุไฟจำนวนมหาศาล
ดังนั้นหนิวลี่จึงดูดซับธาตุไฟอย่างรวดเร็ว หินคริสตัลไฟถูกดูดซับพลังทั้งหมดภายในครึ่งชั่วโมง
หลังจากรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังธาตุไฟในร่างกาย เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย หนิวลี่หยิบหินคริสตัลไฟออกมาสองก้อนและเริ่มดูดซับพลังอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
คราวนี้ธาตุไฟเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น หนิวลี่มีรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า และยิ่งมีสมาธิในการดูดซับมากขึ้น
มิเรียมคอยสังเกตหนิวลี่อยู่ตลอด เมื่อเห็นว่าเขาจมอยู่ในการฝึกฝน ก็มีรอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้า แต่เมื่อรู้สึกถึงพลังธาตุไฟที่แผ่ออกมาจากตัวหนิวลี่ มิเรียมก็รู้สึกงุนงงอยู่บ้าง
เขาไม่ใช่นักเวทธาตุลมหรอกหรือ? ทำไมถึงฝึกฝนธาตุไฟอย่างบ้าคลั่งแบบนี้?
อีกอย่าง จากการรับรู้พลังเวทของเขา ก็อยู่ในระดับนักเวทขั้นกลาง การเลื่อนขั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย ทำไมถึงไม่เลื่อนขั้นล่ะ?
มิเรียมรู้สึกตกตะลึง ในใจมีความคิดมากมาย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา พลังธาตุไฟรอบตัวหนิวลี่ยิ่งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ธาตุสีแดงอ่อนชั้นหนึ่งแทบจะห่อหุ้มหนิวลี่ไว้ทั้งตัว
ผู้คนที่กำลังฝึกฝนอยู่ ต่างรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของหนิวลี่ ทุกคนต่างตกตะลึงจนต้องหยุดฝึกและมองมาที่เขา
มีเพียงอับเนอร์ที่ไม่สนใจ เขาคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่คนแข็งแกร่งอย่างหนิวลี่จะทำให้เกิดความเคลื่อนไหวเล็กน้อยแบบนี้ เขายังคงมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการฟันดาบของตัวเอง น้ำเหลว ๆ ที่ถูกเขาฟันดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทุกครั้งที่ถูกฟัน มันจะหยุดชั่วขณะ ไม่สามารถรวมตัวกันได้ แต่เร็วมากจนคนทั่วไปอาจคิดว่าตาฝาด
หนิวลี่ได้ดูดซับหินคริสตัลไฟมาแล้วกว่าสิบก้อน ธาตุไฟมหาศาลในร่างกายของเขากำลังเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะต้องสร้างแก่นธาตุไฟ เพียงแค่รวบรวมและบีบอัดธาตุไฟ แก่นธาตุไฟก็จะก่อตัวขึ้น
ในช่วงเวลาสำคัญ หนิวลี่ไม่กล้าประมาท เขารวบรวมพลังกายใจทั้งหมดเพื่อควบคุมการหมุนเวียนของธาตุไฟ
“ตู้ม!”
ราวกับเสียงระเบิดอันรุนแรง ธาตุสีแดงบนตัวหนิวลี่ระเบิดออกมาแล้วรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหายเข้าไปในร่างกายของเขาในชั่วพริบตา
มองจากภายนอก ตอนนี้หนิวลี่ดูธรรมดามาก
แต่ภายในร่างกายของเขากำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ธาตุไฟกำลังเคลื่อนไหว แยกสลาย และถูกบีบอัด
‘อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น!’
หนิวลี่ตะโกนในใจ จิ้งจอกสาวที่รับรู้ความคิดของเขาไม่ลังเลที่จะหยิบหินคริสตัลไฟห้าก้อนส่งให้หนิวลี่
เหลิงต้านก็แปลงพลังงานบริสุทธิ์ส่งให้หนิวลี่เช่นกัน
หนิวลี่ที่ได้รับการสนับสนุนมีสีแดงระเรื่อผุดขึ้นบนใบหน้า จากนั้นก็ใช้โอกาสนี้บีบอัดธาตุไฟสุดกำลัง
“ตู้ม!”
ครั้งนี้เสียงดังสนั่นเกิดขึ้นภายในร่างกายของหนิวลี่
เขารู้สึกว่าพลังจิตของเขายกระดับขึ้นในทันที ร่างกายรู้สึกสบาย จนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
บนหน้าอกของหนิวลี่ปรากฏจุดสองจุด จุดหนึ่งสีเขียว อีกจุดหนึ่งสีแดง
แก่นธาตุไฟได้ก่อตัวขึ้นแล้ว!
“เขากำลังรวบรวมแก่นธาตุไฟ!”
ในที่สุดมิเรียมก็รู้ว่าหนิวลี่กำลังทำอะไร เธออุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
“การรวมแก่นธาตุไฟ เขาเป็นเพียงนักเวทระดับกลางเท่านั้นเหรอ? เป็นไปได้อย่างไร?” มาเรียและคนอื่น ๆ ต่างสงสัยและไม่เข้าใจ
“เขาสามารถรวมแก่นธาตุได้ถึงสองธาตุ นี่…นี่ทำได้อย่างไรกัน?!” มิเรียมสับสนอย่างมาก
ตามประวัติศาสตร์เวทมนตร์ที่บันทึกไว้ ไม่เคยมีผู้ใดมีแก่นธาตุสองธาตุมาก่อน
นักเวททุกคนจะเลือกฝึกฝนธาตุหลักเพียงธาตุเดียว แม้จะฝึกเวทมนตร์อื่น ๆ ด้วย แต่ก็ไม่สามารถสร้างแก่นธาตุได้ ไม่เช่นนั้นธาตุจะปั่นป่วนจนระเบิด นี่คือความเชื่อของทุกคนมาตั้งแต่อดีต
แต่ตอนนี้มีคนทำลายความเชื่อนี้ มิเรียมจะไม่ตกใจได้อย่างไร!
“ฮู้วว เกือบไม่สำเร็จแล้ว”
หนิวลี่รู้สึกถึงแก่นธาตุไฟที่สอดคล้องกับแก่นธาตุลม เขายิ้มอย่างพึงพอใจ
ในขณะที่รวบรวมแก่นธาตุไฟสำเร็จ หนิวลี่รู้สึกว่าพลังจิตและพลังเวทของตนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
พลังจิตเพิ่มขึ้นสามระดับ ส่วนพลังเวทแม้จะไม่ได้เพิ่มมากนัก แต่ถูกบีบอัดให้เข้มข้นขึ้น หากเติมเต็มกลับมาก็จะเพิ่มขึ้นอีก และการใช้เวทมนตร์จะยิ่งทรงพลังมากขึ้น
“คุณ…คุณทำได้อย่างไร?”
มิเรียมอดใจไม่ไหว วิ่งเข้าไปถามด้วยดวงตาเป็นประกาย
หนิวลี่งุนงง ‘ทำอะไรเหรอ ฉันทำอะไร?’
“แก่นธาตุ ทำไมคุณถึงมีแก่นธาตุถึงสองธาตุ?” มิเรียมถามอย่างร้อนรน
“มีสองธาตุแล้วมันทำไมเหรอ แปลกตรงไหน?” หนิวลี่ทำหน้างุนงง
มิเรียมกัดฟันกรอด นี่ยังไม่แปลกอีกเหรอ?! หากเรื่องนี้แพร่ออกไปคงทำให้เขามีชื่อเสียงในสหพันธ์ดวงดาวแน่ ๆ
เมื่อมิเรียมอธิบายข้อจำกัดและข้อห้ามต่าง ๆ ของนักเวทจบ หนิวลี่ก็ตกตะลึง รีบเรียกดูข้อมูลเกี่ยวกับนักเวทจากเหลิงต้าน หลังจากอ่านครู่หนึ่งเหงื่อเย็นก็ผุดทั่วตัว
พระเจ้า! ทำไมนักเวทถึงสร้างแก่นธาตุได้แค่ธาตุเดียวล่ะ?
หนิวลี่ถามเหลิงต้านด้วยสีหน้าจริงจัง “นายรู้เรื่องข้อห้ามนี้ใช่ไหม ทำไมไม่เตือนฉัน”
เหลิงต้านตอบอย่างเรียบง่ายเช่นเคย “นักเวทสามารถสร้างแก่นธาตุได้หลายธาตุ มันเป็นไปได้ ในยุคโบราณ นักเวทจะรวบรวมธาตุต่าง ๆ เพื่อสร้างแก่นธาตุ แล้วอาศัยแก่นธาตุที่สมบูรณ์เพื่อตอบสนองกับธาตุทั้งห้า คำพูดก็จะกลายเป็นเวทมนตร์ทำลายล้างได้ทันที”
คำพูดของเหลิงต้านทำให้หนิวลี่อึ้งไป นี่มันเป็นไปได้หรือ? ทำไมในประวัติศาสตร์เวทมนตร์ถึงไม่มีบันทึกไว้เลย
“สิ่งที่นายท่านดูคือประวัติศาสตร์เวทมนตร์สมัยใหม่” เหลิงต้านดูเหมือนจะรู้ความคิดของหนิวลี่ เขาปรับหน้าจอแสงและปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกฝนโบราณและเวทมนตร์โบราณเมื่อหลายแสนปีก่อน
เมื่อมองดูเวทมนตร์โบราณเหล่านั้น ดวงตาของหนิวลี่ก็เปล่งประกายอีกครั้ง เมื่อเทียบกับเวทมนตร์สมัยใหม่ที่ถูกทำให้ง่ายขึ้น เวทมนตร์โบราณดูเหมือนจะทรงพลังกว่าและไม่จำเป็นต้องมีข้อจำกัดของคาถา เพียงแค่คุณมีพลังเวทที่แข็งแกร่งพอและความไวต่อธาตุที่เพียงพอ คำพูดของคุณก็จะกลายเป็นเวทมนตร์ทันที อานุภาพการทำลายล้างก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
“อันนี้ดีมาก เป็นเวทมนตร์ที่ดีมาก!” หนิวลี่ลืมเรื่องแก่นธาตุไปในทันที สมองของเขาเต็มไปด้วยวิธีการเรียนรู้เวทมนตร์โบราณ
“การเรียนรู้เวทมนตร์โบราณ อย่างน้อยนายท่านต้องเป็นนักเวทระดับสูง และยังต้องรวบรวมแก่นธาตุอย่างน้อยสามธาตุ ไม่เช่นนั้น นายท่านจะทนรับความเสียหายย้อนกลับจากเวทมนตร์โบราณไม่ไหว” เหลิงต้านเตือน
หนิวลี่ผิดหวังทันที นี่ก็เป็นอีกข้อจำกัด ‘นี่ฉันจะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อเลื่อนขั้นเป็นนักเวทระดับสูงและรวบรวมแก่นธาตุให้มากขึ้น เวทมนตร์โบราณนี้ ฉันต้องเรียนให้ได้!’
เมื่อออกจากการพูดคุยกับเหลิงต้าน หนิวลี่มองไปที่มิเรียมอีกครั้ง ใบหน้าของเขาไม่มีท่าทีตื่นตระหนกอีกต่อไป
ในสายตาของมิเรียม หนิวลี่เพียงแค่ครุ่นคิดสักครู่ แต่ทำไมสีหน้าของเขาถึงเปลี่ยนไปในทันทีล่ะ? เขาไม่กลัวการต่อต้านของแก่นธาตุหรอกหรือ? สำหรับนักเวท นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย
“ฮ่า ๆ ๆ ไม่ต้องกังวลไปหรอก สำหรับผม ยิ่งมีแก่นธาตุมากยิ่งดี” หนิวลี่พูดด้วยสีหน้าลึกลับ ทำให้มิเรียมพูดไม่ออกและยิ่งสงสัยในตัวหนิวลี่มากขึ้น
ชายคนนี้ตอนนี้มีอีกด้านที่ลึกลับเพิ่มขึ้นมา ดูเหมือนจะลึกลับยิ่งกว่าทายาทสายเลือดเทพอย่างเธอเสียอีก
“เอาล่ะ พวกเราเก็บของเตรียมออกเดินทางกันเถอะ หัวหน้าสาวสวย ค่อย ๆ ฝึกฝนระหว่างทางก็แล้วกันนะ” หนิวลี่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
มาเรียมองหนิวลี่อย่างไม่พอใจ จากนั้นก็เริ่มเตรียมตัว
ส่วนอับเนอร์เดินตรงไปหาชายวัยกลางคนและนักฆ่าเงาด้วยรอยยิ้ม
นักฆ่าเงาเข้าใจความหมายของอับเนอร์ เขาแบกชายวัยกลางคนขึ้นหลัง แล้วออกเดินทางพร้อมกับคุณชายอาร์ต
MANGA DISCUSSION