บทที่ 129 ทำการค้าครั้งใหญ่
เมื่อการตกลงเสร็จสิ้น เหล่าผู้อาวุโสไม่มีอารมณ์จะรับประทานอาหารอีกต่อไป ต่างหาข้ออ้างลุกออกจากโต๊ะทันที
หนิวลี่ก็ไม่ได้ขัดขวาง เพียงยิ้มส่งแขก
เมื่อสำนักใหญ่ ตระกูลใหญ่และคนของหน่วยงานความมั่นคงจากไปหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ก็มีแต่ชาวยุทธ์อิสระ และสำนักขนาดกลางไปจนถึงเล็ก
กระนั้นทุกคนต่างรู้ดีถึงสถานะของตัวเอง
การต่อสู้ระหว่างหนิวลี่กับหลี่ขุย นักมวยปล้ำเหล็กตั้งแต่เริ่มเข้ามาในสถานที่นั้นเป็นการเตือนโดยไม่ต้องพูด ว่าอีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือก่อนสวรรค์ตัวจริง กับยอดฝีมือหลังฟ้า ยามอยู่ต่อหน้าเขาก็เป็นเพียงขยะ
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการล่อลวงให้ก้าวขึ้นสู่ระดับก่อนสวรรค์ ใครเล่าจะอดทนได้ ดังนั้นชาวยุทธ์ที่อยู่ในที่นี้จึงไม่มีใครจากไป ต่างจ้องมองหนิวลี่อย่างกระหายใคร่รู้ ในใจต่างคิดไปต่าง ๆ นานา
หลี่เตาปาและคนอื่น ๆ มองดูฝูงชนที่จ้องมองอย่างหิวกระหาย บนใบหน้ามีรอยยิ้มเย็นชา
หนิวลี่ไม่พูดอะไรมาก ลุกขึ้นยืนมองดูเพื่อนร่วมวงการที่ยังเหลืออยู่ราว 50-60 คนแล้วยิ้ม “ผมเชื่อว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ที่นี่คงมีความคิดอยากก้าวขึ้นสู่ระดับก่อนสวรรค์เช่นกัน แม้ผมจะไม่ใช่คนขี้เหนียว แต่วิชาลับในการก้าวขึ้นสู่ระดับก่อนสวรรค์นี้ก็ไม่ได้ถูก ใครที่สามารถจ่ายได้ ผมก็จะขายให้คนนั้น”
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง
เมื่อข้อตกลงกับสำนักใหญ่ไม่สำเร็จ ราคานี้จึงพอสามารถต่อรองได้ ทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือในวงการ ใครบ้างจะไม่มีกิจการในมือ ทันใดนั้นหลาย ๆ คนจึงแสดงสีหน้ายินดีออกมา
“ใครที่สนใจสามารถไปคุยกับผู้อาวุโสหลี่ผิงซีของสหพันธ์สวรรค์ได้” หนิวลี่พูดเบา ๆ กับหลี่เตาปา
หลี่เตาปาไม่คิดว่าหนิวลี่จะให้เกียรติตนเองมากขนาดนี้ จึงยืดอกขึ้นทันที
ทุกคนมองไปที่หลี่เตาปาอย่างกระตือรือร้นอีกครั้ง ไม่มีท่าทีดูถูกเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป
“อ้อ ถ้าใครจ่ายราคาไม่ไหวจริง ๆ ก็สามารถเข้าร่วมสหพันธ์สวรรค์ของผมได้ เพียงแค่ต้องผ่านการทดสอบ ทำคุณประโยชน์ให้กับสหพันธ์สวรรค์ อย่างยิ่งใหญ่ก่อน แบบนั้นก็จะได้รับวิชาลับนี้เช่นกัน และยังได้รับคำแนะนำจากผมโดยตรงด้วย”
หนิวลี่ทิ้งระเบิดลูกใหม่อีกครั้ง คราวนี้มีคนสนใจมากขึ้นไปอีก
สำหรับคนที่อยู่ในยุทธภพ ใครบ้างจะไม่อยากได้ชื่อเสียงว่าเป็นยอดฝีมือ ถ้าได้รับคำแนะนำจากหนิวลี่ สามารถจินตนาการได้เลยว่าวรยุทธ์ของตนเองจะต้องก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแน่นอน
พูดจบประโยคนี้ หนิวลี่ก็ชำเลืองมองฝูงชนที่ตื่นเต้นแล้วจากไป ปล่อยให้ หลี่เตาปาคอยต้อนรับเหล่าชาวยุทธ์เหล่านี้
หากต้องการมีชื่อเสียง ก็ต้องวางตำแหน่งของตัวเองให้ถูกต้อง ถ้าหนิวลี่ ลดตัวลงมาต่อรองราคากับคนเหล่านี้ เรื่องคงจะแพร่สะพัดไปทั่วยุทธภพอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลานั้นบารมีก็จะตกต่ำลงอย่างแน่นอน
หนิวลี่จะไม่ทำเรื่องที่เสียเปรียบและไม่ได้ประโยชน์แบบนั้น
อีกทั้งหนิวลี่ก็ไม่มีความสนใจที่จะเล่นกับคนเหล่านี้ จึงพาหลี่ขุย นักมวยปล้ำเหล็กที่เพิ่งรับเข้ามาและเหวินชิงออกจากห้องโถงไป
พอออกจากห้องโถงใหญ่ก็เจอคนหนึ่งเข้าพอดี เขายืนยิ้มแย้มอยู่ที่ทางเข้า คล้ายจะรออยู่นานแล้ว
คนผู้นี้คือเจ้าของใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังโรงแรมเดอะคราวน์อันหรูหรา นามว่ามู่หรงฉางเทียน
หนิวลี่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของอีกฝ่ายมาก่อนแล้ว ยืนยันได้ว่าเป็นทายาทตระกูลมู่หรงแห่งเจียงซู แต่ดูเหมือนจะมีข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับเขา
“ท่านผู้นำหนิว ยินดีที่ได้พบ ผมมู่หรงฉางเทียน รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบท่าน” มู่หรงฉางเทียนดูเหมือนจะเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่รู้จักเอาอกเอาใจคนอื่น
“ผมไม่ชอบพูดอ้อมค้อม ดูเหมือนคุณจะมารออยู่ตรงนี้เพื่อพบผมโดยเฉพาะสินะ? คุณมู่หรงเป็นคนยุ่งมาก ผมจะให้เจ้าของโรงแรมใหญ่มารอได้อย่างไร” หนิวลี่ถามพร้อมรอยยิ้ม
มู่หรงฉางเทียนยิ้มอย่างเป็นมิตรมากขึ้นในทันที “ไม่มีอะไรหรอก ผมเป็นคนว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ แต่ครั้งนี้อยากจะมาทำธุรกิจกับท่านผู้นำหนิว ไม่ทราบว่าท่านผู้นำพอจะสนใจไหมครับ? ”
หนิวลี่มองสำรวจมู่หรงฉางเทียนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนยิ้มอย่างมีนัยยะ “ดูเหมือนคุณมู่หรงจะมีพลังยุทธ์ระดับหลังฟ้าตอนปลายสินะ ยังห่างไกลจากจุดสูงสุดอีกมาก รีบร้อนต้องการวิชาลับก่อนสวรรค์ขนาดนี้เลยหรือ? ”
“อ้า! ” สีหน้าของมู่หรงฉางเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าหนิวลี่จะมองสภาพพลังยุทธ์ของตนออกได้ในเวลาเพียงชั่วขณะเดียว แต่เขาก็เป็นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก จึงยังคงยิ้มไม่เปลี่ยน “ก็แค่เตรียมพร้อมไว้น่ะครับ ยังไง ๆ ผมก็เป็นคนในวงการยุทธภพ ก็หวังที่จะบรรลุถึงขั้นก่อนสวรรค์อยู่ไม่น้อยเช่นกัน”
“ผมว่าคุณต้องการวิชาลับทะลวงขั้นก่อนสวรรค์เพื่อเอามันไปเป็นทุนกลับสู่ตระกูลมู่หรงมากกว่า คุณนี่ไม่ซื่อเลยนะ พูดออกมาง่าย ๆ แบบนี้ คิดจะซื้อวิชาลับทะลวงขั้นก่อนสวรรค์ในราคาถูก ๆ เหรอ? ” สายตาของหนิวลี่ดูราวกับจะทะลุใจคน
มู่หรงฉางเทียนแช่งในใจว่าไอ้หมอนี่มันเก่งจริง ๆ สมแล้วที่เข้าสู่ขั้นก่อนสวรรค์นำหน้าคนอื่นไปก่อน แต่ในเมื่อตอนนี้ความจริงถูกพูดออกมาหมดแล้ว มู่หรงฉางเทียนจึงไม่ปิดบังอีก เขายิ้มขื่นพลางพูด
“ท่านผู้นำหนิวมองออกจริง ๆ ผมแยกตัวออกจากตระกูลมู่หรงมา 8 ปีแล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็เป็นความผิดของผมเอง ถ้าได้วิชาลับก่อนสวรรค์ ผมก็จะสามารถกลับคืนสู่ตระกูลได้ ดุจใบไม้ร่วงกลับคืนสู่ราก หวังว่าท่านประมุขจะเข้าใจความรู้สึกของผม”
หนิวลี่เงียบไป มองดูมู่หรงฉางเทียนที่แม้จะอายุเพียงสามสิบกว่า แต่ก็มีผมขาวหลายเส้นอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยความที่มีพลังยุทธ์อยู่ในตัว คนทั่วไปจะไม่แก่เร็วจนทำให้ผมหงอกก่อนวัยขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่ามู่หรงฉางเทียนคงมีความทุกข์ใจเป็นอย่างมาก จึงทำให้ผมหงอกเร็ว
“ก็ได้ คุณมีอะไรที่คู่ควรกับวิชาลับทะลวงขั้นก่อนสวรรค์ล่ะ? ” หนิวลี่ถอนหายใจถาม
ดวงตาของมู่หรงฉางเทียนเป็นประกาย แล้วเขาก็พูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ข้อแรกคือโรงแรมเดอะคราวน์แห่งนี้ ข้อสอง ผมขอเป็นตัวแทนตระกูลมู่หรงแห่งเจียงซู ประกาศมีความร่วมมือ เป็นพันธมิตรกับสหพันธ์สวรรค์ ข้อสาม ตัวผมขอติดค้างบุญคุณท่านผู้นำหนิว 1 ครั้ง”
3 ข้อที่พูดออกมาทำเอาคนฟังต้องอึ้ง แม้แต่หลี่ขุยที่ซื่อ ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะตาโต
ไอ้หมอนี่มันยอมทุ่มสุดตัวจริง ๆ
หนิวลี่งงเล็กน้อย แล้วก็พยักหน้า “คุณยอมทุ่มจริง ๆ ในเมื่อมีความจริงใจขนาดนี้ เอากระดาษปากกามาสิ ฉันจะเขียนวิชาลับให้คุณ”
“เขียนให้ผมเหรอ? ” มู่หรงฉางเทียนงงก่อน แล้วก็ถามออกมาอย่างตกตะลึง
“พูดเหลวไหล วิชาลับที่ผมเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ก็ให้สำนักใหญ่ ๆ กับตระกูลใหญ่ไปหมดแล้ว ไม่เขียนให้คุณ จะให้ผมกลับบ้านไปเตรียมแล้วค่อยเอามาให้คุณหรือไง! ”
“อ๋า! ได้ ๆ ผมจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้” มู่หรงฉางเทียนพูดอย่างงง ๆ แล้วรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า เพื่อหยิบสมุดเล่มหนึ่งกับปากกาออกมามาอย่างรวดเร็ว
หนิวลี่เอนตัวพิงกำแพง อาศัยโต๊ะหินเขียนวิชาลับสำหรับทำสมาธิ
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้มู่หรงฉางเทียนดูเหมือนตกอยู่ในภวังค์ รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นการเล่นขายของกัน ด้วยอีกฝ่ายเพียงให้ข้อมูลแค่นี้ ตนเองกลับต้องเสียเงินทองทรัพย์สินมากมาย แล้วยังติดบุญคุณอีก คุ้มกันไหมเนี่ย?
แต่เมื่อนึกถึงการรักษาหลังกลับไปที่ตระกูล มู่หรงฉางเทียนก็กัดฟัน ตัดสินใจเดิมพัน โอกาสแบบนี้ในชีวิตคนเราไม่ได้มีบ่อย ๆ
ไม่นานนักหนิวลี่ก็เขียนวิชาลับเสร็จ แล้วยื่นให้มู่หรงฉางเทียน “การค้าขายนี้ถือว่ามีผลบังคับใช้แล้ว ข้อตกลงที่ตามมา คุณไปคุยกับหลี่เตาปาให้เรียบร้อยแล้วกัน ผมเชื่อว่าคนของตระกูลมู่หรงจะไม่ผิดสัญญา”
มู่หรงฉางเทียนรีบยิ้ม “ไม่แน่นอน ไม่แน่นอน” จากนั้นก็เก็บสมุดเล่มนั้นไว้ในกระเป๋าราวกับของล้ำค่า
“ฮ่า ๆ งั้นก็ไม่รบกวนแล้ว ขอให้คุณมู่หรงหวนคืนสู่ตระกูลอย่างยิ่งใหญ่” หนิวลี่พูดด้วยรอยยิ้ม
พอออกมาจากโรงแรม เหวินชิงที่เดินตามหลังหนิวลี่มาตลอดก็ทนไม่ไหวพูดขึ้น “ท่านผู้นำ ท่านขายวิชาลับสำคัญออกไปแบบนี้เลยเหรอ? แบบนี้ สหพันธ์สวรรค์ของพวกเราก็ไม่ได้ถือไพ่เหนือกว่าแล้วสิ! ”
“ทำไมถึงจะไม่ถือไพ่เหนือกว่าล่ะ? ” หนิวลี่หัวเราะเย็น “ต่อให้ได้วิชาลับไป พวกเขาก็ต้องใช้เวลาศึกษามันอย่างจริงจัง จากนั้นค่อยลงมือฝึกฝน ยิ่งไปกว่านั้น วิชาลับก็ยังมีข้อกำหนดเรื่องคุณสมบัติของคน คนทั่วไปต่อให้บรรลุถึงขั้นสูงสุดของหลังฟ้า อาจจะไม่มีวาสนาไปถึงขั้นก่อนสวรรค์ นี่เป็นเรื่องของโชคชะตา ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงเวลานี้พวกเรากินข้าวเปล่า ๆ งั้นเหรอ? ปล่อยให้ฉันศึกษาไปก่อน ขอแค่ทุกอย่างราบรื่น ในอนาคต ฉันจะเลื่อนขั้นให้พวกนายทุกคนเป็นขั้นก่อนสวรรค์ให้หมด แบบนี้ถึงจะรับประกันได้ว่าอิทธิพลของสหพันธ์สวรรค์จะไม่ถดถอย”
“พวกเรา… ท่านผู้นำ ท่านบอกว่าพวกเรา… จะได้เลื่อนขั้นเป็นก่อนสวรรค์ด้วย? ”
คำพูดของหนิวลี่ทำให้เหวินชิงตื่นเต้นจนหน้าแดงก่ำ
หนิวลี่เหลือบมองเหวินชิงอย่างดูถูก “ตอนนี้ที่นายมีมันก็เท่านี้เอง รีบไปฝึกฝนให้ถึงขั้นสูงสุดของหลังฟ้าก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นฉันจะคุ้มครองแล้วส่งพวกนายเข้าสู่เขตก่อนสวรรค์เอง”
“ขอบคุณท่านผู้นำ! ”
ในเวลานี้เหวินชิงตื่นเต้นจนพูดไม่ออก พันคำพูดนับหมื่นประโยค สุดท้ายก็เหลือเพียงคำมั่นสัญญาว่าจะจงรักภักดี
มีเพียงหลี่ขุยที่เกาหัว น้ำเสียงเฉยเมย เขาฝึกฝนวิชากำลังภายนอก สำหรับเขาแล้ว วิชาลับก่อนสวรรค์ก็ไม่ต่างอะไรจากกระดาษเปล่า เอาไปเช็ดก้นยังเล็กไปเลย
แต่หนิวลี่ก็ไม่ได้พูดอะไร รอดูท่าทีของหลี่ขุยในภายหลัง ถ้าเขามีค่าพอที่จะฝึกฝนจริง ๆ การมอบปราณยุทธ์ให้เขาก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
หลังออกจากโรงแรมเดอะคราวน์นี้กลายเป็นสมบัติของสหพันธ์สวรรค์แล้ว หนิวลี่ก็ได้มอบหมายเรื่องการซื้อขายวิชาลับก่อนสวรรค์ให้หลี่เตาปารับผิดชอบไป ต่อจากนี้ยามตกลงกันว่าต้องใช้สิ่งแลกเปลี่ยนมากเท่าไหร่ก็แค่พูดออกมาคำเดียว สามารถบุกมาซื้อไปได้เลย
การค้าขายแบบนี้ทำได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น พอถึงครั้งที่สอง วิชาลับมีออกมาเยอะแยะมากมายจนเกร่อ ก็คงขายไม่ได้ราคาดีแบบนี้อีกแล้ว
ส่วนหนิวลี่ก็กลับบ้านไปดูความคืบหน้าการฝึกฝนของพ่อแม่และอารอง รวมถึงคนอื่น ๆ
วิชาลับจะสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากพ่อแม่ด้วย
MANGA DISCUSSION