บทที่ 256 ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดมาถึงแล้ว สังหารด้วยสามกระบี่!
เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หนึ่งวันหมดไปในชั่วพริบตาเดียว
วันนี้คือวันที่สามตามที่ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดได้กล่าวไว้
ขณะที่เวลาค่อย ๆ ใกล้ยามเที่ยงวัน ผู้ปลุกพลังตระกูลเฉียนต่างก็อยู่ในความตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อย ๆ
และทั่วทั้งเมืองหยวนซาน ตระกูลนับไม่ถ้วนต่างก็จับตาดูตระกูลเฉียนทั้งอย่างลับ ๆ และอย่างเปิดเผย เพราะพวกเขาอยากรู้ว่าตระกูลเฉียนจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร
ภายในห้องโถงคฤหาสน์ตระกูลเฉียน
เมื่อฉู่โม่วมาถึง เขาก็เห็นเฉียนเหิงนั่งอยู่บนที่นั่งหลักและมีผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลเฉียนนั่งเรียงรายอยู่ทั้งสองข้าง
นอกจากนี้
ยังมีผู้ปลุกพลังขั้นราชันย์ยุทธ์ที่ไม่คุ้นหน้าอีกสองคนอยู่ด้วย คนหนึ่งมีจิตวิญญาณชั่วร้ายที่แข็งแกร่ง เขาคือราชันย์ยุทธ์พิฆาตอสูร และอีกคนมีร่องรอยของไอน้ำ ซึ่งก็คือราชันย์ยุทธ์ชลพิสุทธิ์
เมื่อเห็นฉู่โม่วเข้ามา เฉียนเหิงก็พยักหน้าเบา ๆ และกล่าวทักทาย
ส่วนราชันย์ยุทธ์พิฆาตอสูรและราชันย์ยุทธ์ชลพิสุทธิ์ต่างก็ไม่สนใจฉู่โม่วราวกับเขาเป็นอากาศธาตุ
เมื่อเห็นอย่างนั้น
ฉู่โม่วก็ไม่ใส่ใจและตรงไปนั่งรออย่างสงบเสงี่ยม
อีกไม่นาน
เหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงจนกว่าจะเที่ยง
ขณะที่เวลาเดินผ่านไปเรื่อย ๆ ราชันย์ยุทธ์พิฆาตอสูรและราชันย์ยุทธ์ชลพิสุทธิ์ก็ยิ่งกระวนกระวาย
เมื่อเห็นดังนั้น เฉียนเหิงก็ถอนหายใจและกล่าว “ถ้าพวกนายสองคนอยากหนี ก็ใช้โอกาสนี้หนีไปก่อนเลย… ถ้ารอจนราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดมาถึงยังไงก็คงหนีไม่รอดแน่”
“ผู้นำตระกูลเฉียนล้อเล่นหรือ ฉันจะหนีไปตอนนี้ได้ยังไง ถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูใครเข้า ผู้คนจะมองฉันยังไง?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ราชันย์ยุทธ์ชลพิสุทธิ์ก็โบกมือไปมา
แต่แล้ว
เขาก็เปลี่ยนเรื่องและกล่าว “ก็แค่… ฉันได้ยินข่าวมาเมื่อคืนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับตระกูลเลยอยากจะกลับไปให้เร็วที่สุด ก็เลย…”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้
เขาก็อดมองไปยังเฉียนเหิงพร้อมยิ้มแหย ๆ ออกมา
“แล้วนายล่ะ?”
เฉียนเหิงหันไปมองราชันย์ยุทธ์พิฆาตอสูรแทน
“ฉัน…”
ราชันย์ยุทธ์พิฆาตอสูรทำหน้าลังเลเพราะอยากจะหาข้ออ้างออกไปจากที่นี่เหมือนกัน แต่เมื่อมองไปยังสายตาที่สงบนิ่งของเฉียนเหิง เขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
เวลาเที่ยงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดอาจปรากฏตัวขึ้นเมื่อไรก็ได้
ภายใต้เงาแห่งความตาย
ในที่สุด
เขาก็กล่าวด้วยความละอายใจ “ผู้นำตระกูลเฉียน ความจริงแล้วฉันมีความคิดที่จะหนีไปจริง ๆ !”
“ถ้าหากว่าหาคนมาได้มากกว่าสิบคน หรือแม้แต่ราชันย์ยุทธ์สักเจ็ดถึงแปดคน ฉันก็คงกล้าพอจะอยู่ที่นี่และต่อสู้กับราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดไปกับนายด้วย แต่ตอนนี้มีแค่นายกับฉัน แล้วก็ผู้ปลุกพลังขั้นราชันย์ยุทธ์ระดับต้น เราไม่มีทางชนะราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดได้แน่!”
“ฉันติดหนี้บุญคุณนายก็จริง แต่มันก็ไม่เพียงพอถ้าจะให้ฉันเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ เพราะฉะนั้น… ฉันขอโทษ!”
เมื่อพูดจบ
เขาก็ถอนหายใจยาว พยักหน้าให้กับเฉียนเหิง และกลับหลังหันเดินจากไป
“ผู้นำตระกูลเฉียน งั้นฉันก็ขอไปด้วย!”
เห็นดังนั้น ราชันย์ยุทธ์ชลพิสุทธิ์เองก็ลุกขึ้นและเดินตามออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นแผ่นหลังของพวกเขาที่เดินจากไปอย่างไม่ลังเล
เฉียนเหิงก็ถอนหายใจ ร่างกายของเขารู้สึกแก่ขึ้นมาในทันใด
ในตอนนี้
ราชันย์ยุทธ์พิฆาตอสูรและราชันย์ยุทธ์ชลพิสุทธิ์ไปถึงที่ลานด้านนอกและกำลังจะบินจากไป แต่ในตอนนั้นเอง สีหน้าของฉู่โม่วก็เปลี่ยนไปและสายตาของเขาพลันมองออกไปด้านนอก
แทบจะในขณะเดียวกัน
ทั้งสองบินขึ้นไปบนฟ้า แต่ทันใดนั้น ร่างกายของพวกเขาก็หยุดลงพร้อมกัน และร่วงลงจากท้องฟ้าทันทีราวกับว่าถูกพัดกลับมา และร่วงลงบนพื้นดินแล้วแน่นิ่งไป
ภาพตรงหน้าเกิดขึ้นในเวลาอันสั้นนี้ ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนล้วนตกตะลึง
แต่แล้ว
พวกเขาก็ได้สติกลับมา
“นั่นมันราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืด!”
“ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดอยู่ที่นี่แล้ว!”
“เขาที่หลบซ่อนอยู่ในความมืดมาตลอด!”
ผู้ปลุกพลังตระกูลเฉียนมากมายต่างอุทานลั่น ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดทันที
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดมาตรงตามเวลา
จุดสิ้นสุดของตระกูลเฉียนก็ได้มาถึงแล้ว!
“เฉียนเหิง ส่งสมบัติชิ้นนั้นมา!”
“ถ้าไม่ วันนี้คือวันที่ตระกูลเฉียนของแกจะถูกทำลาย!”
บนท้องฟ้า เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทุกสารทิศราวกับว่าเป็นคำสาปที่แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมทั่วเมืองหยวนซาน
หลังจากที่ประโยคนี้แพร่กระจายออกไป สายตาของทุกคนก็หันไปจ้องมองเฉียนเหิง
เมื่อเห็นสายตาของผู้คนมากมาย
เฉียนเหิงก็ลุกขึ้นยืนและตะโกนลั่น “ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืด วันนี้ตระกูลเฉียนของฉันยอมรับแล้ว และฉันยินดีมอบสมบัตินั้นให้ แต่… ฉันต้องการให้ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดปล่อยทุกคนในตระกูลเฉียนไป!”
ระหว่างที่พูด
เฉียนเหิงก็ล้วงเข้าไปในถุงเก็บของ และเมื่อเปิดมันออก ก็ปรากฏเหรียญอันหนึ่งขึ้นมา
ฉู่โม่วเองก็จับจ้องไปยังเหรียญนั้นเช่นกัน
เหรียญนั้นเป็นสีดำทะมึนแต่มีประกายสีม่วงแผ่ออกมา มันปกคลุมไปด้วยพลังทำลายล้างที่แพร่กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง
“นี่……”
“นี่น่ะเหรอสมบัติลึกลับของพรสวรรค์ธาตุสายฟ้า?”
ดวงตาของฉู่โม่วพลันจ้องเขม็ง
เขาสัมผัสได้ถึงร่องรอยของสมบัติลึกลับของพรสวรรค์ธาตุสายฟ้าจากเหรียญนั่น
และในตอนนั้นเอง
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดก็ปรากฏตัวขึ้นภายใต้เงามืด
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโลภจ้องมองมายังเหรียญและกล่าว “ฉันยอมรับข้อตกลงก็ได้!”
“แต่ว่า…”
“ฉันได้ยินว่าแกชวนเพื่อน ๆ มาจัดการฉัน มันทำให้ฉันโกรธมาก!”
“ถ้าอย่างนั้น หากแกอยากจะรักษาชีวิตของคนตระกูลเฉียนไว้ แกก็ต้องขอโทษด้วยตัวเองและมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลเฉียนมาให้ฉัน!”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
ทันทีที่เขาพูดจบ เหล่าผู้ปลุกพลังตระกูลเฉียนก็โมโหขึ้นมาทันควัน
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดคนนี้โลภมากเกินไปแล้ว!
นอกจากจะต้องการทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลเฉียนแล้ว เขายังอยากจะให้ผู้นำตระกูลเป็นผู้ตัดสินใจอีก!
“ปอกลอกกันเกินไปแล้ว!”
“นี่มันปล้นกันชัด ๆ !”
“ตระกูลเฉียนของฉันไม่เคยโดนเหยียดหยามถึงเพียงนี้มาก่อน!”
“ใช่แล้ว ถ้าเราสู้กับเขา อย่างมากก็แค่ตาย!”
สมาชิกตระกูลเฉียนทุกคนเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาล และพากันตะโกนเสียงดังลั่น
“หนวกหู!”
เสียงตะโกนเกรี้ยวกราดดังขึ้นราวกับว่าท้องฟ้ากำลังกรีดร้อง
จากนั้น
แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ไปทั่วบริเวณราวกับภูเขาและทะเลกดทับลงมา มันกดดันเหล่าผู้ปลุกพลังตระกูลเฉียนในทันที พวกเขาต่างก็กระอักเลือดและร่วงลงไปบนพื้นทีละคน ๆ
“เฉียนเหิง เพราะผู้ปลุกพลังตระกูลเฉียนของแกอวดดีเกินไป ชายแก่คนนี้เปลี่ยนใจแล้วละ!””
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดลอยอยู่กลางอากาศและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ส่งเหรียญนั่นมา ขอโทษฉัน และส่งทรัพย์สิน 90% ของตระกูลเฉียนมาให้ฉัน… ให้เวลาแกคิดแค่ครึ่งชั่วโมง พอหมดเวลา ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ ทุกคนจะต้องตาย!”
เสียงอันยิ่งใหญ่นั้นแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลก มันดังกึกก้องไปทั่วทั้งเมืองหยวนซานราวกับว่าเป็นคำพิพากษาของพระเจ้า
เหล่าผู้ปลุกพลังแห่งตระกูลเฉียน รวมไปถึงผู้ปลุกพลังที่ทรงพลังหลายคนในเมืองที่กำลังมองดูอยู่ต่างก็จับจ้องไปยังเฉียนเหิง
ในตอนนี้
นัยน์ตาของเฉียนเหิงพลันแสดงความลำบากใจออกมาราวกับว่ากำลังต่อสู้กับสวรรค์และโลกอยู่ในใจ
บนท้องฟ้า
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดยืนนิ่งและจ้องมองไปยังเฉียนเหิงด้วยสีหน้าร่าเริง
สิ่งที่เขาชอบทำมากที่สุดในชีวิตคือควบคุมโชคชะตาของผู้อื่น
เขาชอบการบังคับที่ทำให้ผู้อื่นหมดหนทางเลือก
เพราะทุก ๆ ครั้ง
มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด
“แกยังเหลือเวลาอีกครึ่งหนึ่ง!”
เขาตะโกน
“ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืด ฉันยอมรับข้อเสนอ!”
แทบจะพร้อมกันกับราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืด เฉียนเหิงก็ตัดสินใจในที่สุด “แต่หวังว่าคุณจะรักษาสัญญานะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดพยักหน้าตอบรับ
แล้วเขาก็ตะโกนลั่น “รีบเอาเหรียญมาให้ฉันและขอโทษซะ!”
เฉียนเหิงพยักหน้าและกำลังจะยื่นเหรียญออกไป
แต่แล้ว
ในตอนนั้นเอง
ร่างหนึ่งพลันลุกขึ้นและหยุดเขาเอาไว้
เป็นฉู่โม่วนั่นเอง
เขาที่ไม่เคลื่อนไหวใด ๆ เพราะแค่อยากจะเห็นว่าราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดจะแข็งแกร่งขนาดไหน
เมื่อสังเกตการณ์ดูแล้ว
ฉู่โม่วก็พบว่าราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดไม่ใช่แค่ราชันย์ยุทธ์ระดับสูงสุด แต่เป็นราชันย์เทพยุทธ์!
แต่
เขาเพิ่งจะเป็นแค่ราชันย์เทพยุทธ์ระดับต้นเท่านั้น
หลังจากที่ตัดสินใจ ชายหนุ่มก็พร้อมที่จะลงมือ
“คุณฉู่ นี่คุณ…”
เมื่อเห็นท่าทีของฉู่โม่ว เฉียนเหิงก็ตะลึงงันไปเล็กน้อย
แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดจบ ฉู่โม่วก็ส่ายหน้า ทันใดนั้น…
ชิ้ง!
เสียงกระบี่ถูกดึงออกจากฝักดังขึ้น ราวกับว่าเสียงนั้นดังกึกก้องไปทั่วทั้งโลก
หลังจากนั้น
ฉู่โม่วก็ไม่พูดอะไรอีก
เลือดและอณูแห่งชีวิตในร่างกายพลุ่งพล่านราวกับภูเขาไฟกำลังปะทุ
พละกำลัง 349 พลังมังกรระเบิดออกมาและเพิ่มขึ้นอีก 400 เท่าไป จนตอนนี้เกือบถึง 300,000 พลังมังกรแล้ว
จากนั้น
คมกระบี่ก็ถูกฟันออกไป!
“เป็นแค่ราชันย์ยุทธ์ระดับต้นยังจะกล้ามาโจมตีฉัน!”
“อยากตายสินะ!”
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของฉู่โม่ว ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดก็ฉุนเฉียวทันที
แล้วเขาก็ต่อยออกไป
เดิมที เขาคิดว่าคงสังหารผู้ปลุกพลังขั้นราชันย์ยุทธ์ระดับต้นได้อย่างง่ายดาย
แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อกำปั้นปะทะเข้ากับปราณกระบี่ หมัดของเขาจะพังทลายลงและปราณกระบี่ก็ยังคงพุ่งตรงมาทางเขา
“เป็นไปไม่ได้!”
“ผู้ปลุกพลังขั้นราชันย์ยุทธ์อย่างแกแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?!”
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดเบิกตากว้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้คิด
เมื่อเห็นว่าปราณกระบี่กำลังใกล้เข้ามา ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดก็พยายามหลบ
แต่กระบี่ของฉู่โม่วก็รวดเร็วจนมาถึงตัวเขาภายในชั่วพริบตา
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดได้แต่เอียงหัวหลบตามสัญชาตญาณ
ฉึบ!
สิ้นสุดเสียงฟัน แขนก็กระเด็นออกมาพร้อมกับเลือดสีทองมากมายที่สาดลงมาราวกับห่าฝนโลหิต
“แกไม่ใช่ราชันย์ยุทธ์ แกเป็นราชันย์เทพยุทธ์!”
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดตะโกนลั่นด้วยความหวาดผวา
และประโยคนี้ก็ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง
ราชันย์เทพยุทธ์เหรอ?!
เฉียนเหิงมองดูฉู่โม่วอย่างไม่เชื่อสายตา
ส่วนฉู่โม่วในตอนนี้นั้น เขาไม่พูดอะไร แต่โจมตีไปยังราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดอีกครั้ง
เมื่อเห็นภาพนี้
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดก็ฉุนเฉียวทันที “อย่าคิดว่าเป็นราชันย์เทพยุทธ์แล้วจะฆ่าฉันได้นะ… ชายแก่คนนี้ก็เป็นราชันย์เทพยุทธ์เหมือนกัน แล้วฉันก็ฆ่าราชันย์เทพยุทธ์มาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว!”
“ตายด้วยน้ำมือของฉันซะ!”
เมื่อพูดจบ
ร่างของเขาก็กะพริบและหายเข้าไปในเงามืดทันที
แต่
ฉู่โม่วยังคงไม่หยุด ทักษะรับรู้ห้วงมิติของเขาถูกใช้งานโดยพลัน แล้วเขาก็ฟันไปยังห้วงอากาศที่ว่างเปล่า
ตูม!!!
ปราณกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวถูกฟันออกไป ทำให้ห้วงมิติพังทลายลงในพริบตา
ร่างร่างหนึ่งที่ถูกฟัน
เป็นราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดนั่นเอง
“มองพรสวรรค์ธาตุความมืดของฉันออกด้วยเหรอ? เป็นไปได้ยังไงกัน?!”
ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดทำใจเชื่อสายตาตัวเองไม่ลง
ตั้งแต่เขาปลุกพรสวรรค์ธาตุความมืดขึ้นมา ด้วยพรสวรรค์นี้ ไม่มีใครเคยหาตัวเขาพบมาก่อน
แม้แต่ผู้ปลุกพลังขั้นราชันย์เทพยุทธ์ในระดับเดียวกันก็ถูกเขาลอบสังหารมาแล้ว
แต่ในตอนนี้กลับ…
น่าเหลือเชื่อยิ่งนักที่ฉู่โม่วหาเขาตัวเขาพบได้อย่างแม่นยำ
ฉู่โม่วไม่ได้พูดอะไร
แต่แค่ฟันออกไปอีกครั้ง
คมกระบี่นี้ทรงพลังและรวดเร็ว ราชันย์ยุทธ์แห่งเงามืดผู้ถูกฉู่โม่วฟันไปกว่าสองครั้งแล้ว จึงไม่มีจังหวะให้หลบหลีกได้อีก
ฉัวะ!
เสียงฟันดังกึกก้องขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ศีรษะกระเด็นออกไปพร้อมกับเลือดสีทองมากมาย ก่อนจะร่วงลงบนพื้นและกลายเป็นผุยผง
ในตอนนี้
ทั่วทั้งฐานหยวนซานตกอยู่ในความเงียบสงัด
ผู้ปลุกพลังนับไม่ถ้วนที่มองดูอยู่
พวกเขาต่างก็จ้องเขม็งไปยังภาพข้างหน้าด้วยความคิดที่ว่างเปล่าและสีหน้าหวาดผวา
MANGA DISCUSSION