ตอนที่ 83 จดหมายร้องเรียน
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็ผงะไป ลุกพรวดจากม้านั่งขึ้นมาถามอย่างร้อนรน “เกิดเรื่องกับหลินเจี้ยนเยี่ยเหรอ?”
หลินเจี้ยนจวินได้ฟังก็รีบลุกขึ้นมา มองเขาด้วยสีหน้าติดกังวล
“ไม่ใช่ผู้บังคับกองร้อยหลิน แต่เป็นผู้บังคับการโหวให้มาหาคุณ”
ได้ยินว่าผู้บังคับการโหวหาเธอ ในใจสวี่ม่ายซุ่ยก็พลันกังวล เพราะสองวันก่อนเธอเพิ่งเจาะยางรถเขาไป
แต่เธอตัดสินใจตั้งนานแล้วว่าต่อให้อีกฝ่ายบีบคั้นให้ตายยังไงก็จะไม่ยอมรับ เลยถามอย่างใจเย็นว่า “ผู้บังคับการโหวหาฉันทำไม?”
นายทหาร “ผมก็ไม่แน่ใจ”
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นเขาไม่รู้จริง ๆ ก็ไม่ได้ถามอีก พูดกับหลินเจี้ยนจวินว่า “ฉันจะไปดูหน่อย นายอยู่ดูแลไต้ฉิงนะ”
หลินเจี้ยนจวินเผลอเดินไปข้างหน้า “พี่สะใภ้ ฉันไปกับพี่ด้วย”
สวี่ม่ายซุ่ยหันมาปลอบโยนเขา “ไม่ต้อง น่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันจะไปดูหน่อย”
พอมาถึงก็มีหนุ่มน้อยตรงเข้ามารับเธอไปสำนักงาน ผลักประตูเปิดก็เห็นผู้บังคับการโหวที่มีผ้าก๊อซพันหัวนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะ
โซฟาด้านข้างยังมีผู้บังคับการนั่งอยู่สองสามคน หนึ่งในนั้นก็มีจ้าวเป่ากั๋ว
พอเธอเข้าไป จ้าวเป่ากั๋วก็ส่ายหัวให้เธอเบา ๆ
“มาแล้วเหรอ?” ผู้บังคับการโหวเห็นสวี่ม่ายซุ่ยเข้ามา ก็เดินเข้าไปใกล้ สองมือประสานกัน มองเธอด้วยสีหน้าเคร่งขึม
สวี่ม่ายซุ่ยพยักหน้า ตอบรับ “สวัสดีค่ะผู้บังคับการโหว”
“รู้ไหมว่าทำไมฉันเรียกเธอมา”
สวี่ม่ายซุ่ย “ไม่ทราบค่ะ”
หลังได้ยินว่าเธอไม่รู้ ผู้บังคับการโหวก็ยิ้มเยาะ หยิบจดหมายจากลิ้นชักโยนไปด้านหน้าสวี่ม่ายซุ่ย
“ได้ยินว่าเธออ่านหนังสือออก ดูเอาเถอะ”
สวี่ม่ายม่ายซุ่ยรับมาดูตรง ๆ อย่างไม่เกรงใจ ก็เห็นในนั้นเขียนคำฟ้องว่าเธอไม่กตัญญูเป็นข้อ ๆ
สวี่ม่ายซุ่ยหัวเราะเยาะ ซูเจวียนคนนี้ไม่เห็นตั้งหลายวันฝีมือดีขึ้นเยอะ คาดไม่ถึงเลยว่าจะเขียนบัตรสนเท่ห์*[1]เป็นด้วย
“เธอจะว่ายังไง”
สวี่ม่ายซุ่ย “ที่เขียนมาในนี้เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด”
“เรื่องเท็จ?” ผู้บังคับการโหวทุบโต๊ะอย่างแรง พูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ตอนนี้เธอยังกล้าพูดเหลวไหลอีกเหรอ ฉันโทรศัพท์ไปหาหัวหน้าหน่วยเธอตั้งนานแล้ว แม่สามีเธอยังอยู่โรงพยาบาลตั้งหลายวัน เธอยังกล้าพูดเท็จอีกเหรอ”
เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่จากในฐานทัพ สวี่ม่ายซุ่ยเลยไม่ได้กลัวผู้บังคับการโหว เงยหน้าขึ้นมาพูดกับเขา “หนึ่ง ฉันไม่รู้ว่าแม่สามีฉันป่วย ดังนั้นจึงไม่ได้กลับบ้านไปแสดงความกตัญญู”
“สอง ที่ฉันบอกว่าเป็นแม่สามีคือฉันแค่เคารพหล่อน หลินเจี้ยนเยี่ยถูกส่งให้ลุงเขาตั้งแต่เล็กก็นับว่าเขาเป็นลูกของลุง จะเลี้ยงดูใครก็ต้องเป็นลุงเขา ฉันให้ได้มากสุดแค่ในฐานะภรรยาลูกชายของหล่อนเท่านั้นแหละ”
“อย่าบอกนะว่าเป็นเหตุผลที่ลูกชายลูกสาวอยู่หมด แล้วจะให้ลูกสะใภ้ไปปรนนิบัติ”
เพราะลุงหลินไม่เชื่อใจแม่เฒ่าหลิน ตอนรับหลินเจี้ยนเยี่ยไปเป็นลูกเลยรับอย่างถูกต้องตามขั้นตอน แต่ตอนแม่เฒ่ารับหลินเจี้ยนเยี่ยกลับมา กลับไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอน
ดังนั้นหลินเจี้ยนเยี่ยเลยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของคุณลุง
“สาม ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับแม่สามีไม่ดี คนบนเกาะนี้แล้วก็คนในหมู่บ้านยืนยันได้ ถ้าให้ฉันไปปรนนิบัติหล่อน คงจะเป็นไปไม่ได้”
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้บังคับการโหวเห็นผู้หญิงที่ไม่กลัวเขา เมื่อถูกสวี่ม่ายซุ่ยพูดใส่รัวเป็นปืนกลก็โกรธจนหน้าเขียวทันที “ยัยผู้หญิงปากจัด เธอไม่เลี้ยงดูแม่สามีแก่ ๆ แล้วยังจะอ้างนู่นอ้างนี่อีกนะ”
สวี่ม่ายซุ่ยตอบอย่างเอื่อยเฉื่อย “ฉันมีเหตุผลของฉันค่ะ”
ผู้บังคับการโหวลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ ชี้หน้าด่าสวี่ม่ายซุ่ย “ถุย เหตุผลหมา ๆ น่ะสิ ตัวเธออยู่บ้านเจี้ยนจวิน ไม่กตัญญูต่อผู้เฒ่าผู้แก่นี่ยังมีเหตุผลอยู่อีกเหรอ”
สวี่ม่ายซุ่ย “ฉันบอกไปแล้วไงคะว่าหล่อนไม่ใช่แม่ฉัน ฉันไม่มีทางเลี้ยงดูหล่อน”
ผู้บังคับการโหว “เธอ…”
“เธอนี่ไม่กลัวกระทบสามีตัวเองเลยนะ”
สวี่ม่ายซุ่ยได้ฟังว่าเรื่องนี้จะกระทบสามีตัวเอง ก็ตาแดงก่ำ “ถ้าเรื่องนี้มันจะกระทบหลินเจี้ยนเยี่ย งั้นฉันก็บอกได้ว่าหัวหน้าของเขาตามืดบอดแล้ว ถูกผิดก็แยกไม่ออก หัวหน้าเหลวไหลแบบนี้กลับบ้านไปทำไร่เถอะ”
จ้าวเป่ากั๋วเห็นสวี่ม่ายซุ่ยแข็งข้อกับผู้บังคับการโหว ก็พูดกับสวี่ม่ายซุ่ยอย่างร้อนรนทันที “สหายสวี่เธอใจเย็นหน่อย”
สวี่ม่ายซุ่ยหันกลับไปต่อว่าจ้าวเป่ากั๋ว “ให้ฉันใจเย็นทำซากอะไรคะ ถ้าสามีฉันต้องกลับบ้านไปทำไร่ จะให้ฉันใจเย็นเหรอ”
“บอกพวกคุณไว้เลยนะใครกล้าเอาเรื่องนี้ไปกระทบหลินเจี้ยนเยี่ย อย่าโทษว่าฉันไปหาเรื่องละ หากพูดบนเกาะแล้วไม่ได้ผลตัดสินชัดเจน ฉันก็จะไปพูดในเมือง พูดในมณฑล พูดกับประธานเหมาไปเลย ยังไงก็ต้องมีสักคนที่ตัดสินให้ฉันได้”
ผู้บังคับการโหวยิ้มเยาะ “เธอไม่กตัญญูเองจนกระทบสามีเธอ ยังกล้าไปฟ้องอีก ฉันจะคอยดูว่าใครจะปกป้องเธอ”
สวี่ม่ายซุ่ย “กตัญญู? อะไรเรียกว่ากตัญญูคะ หล่อนก็มีลูกชายลูกสาว จะต้องให้ภรรยาลูกชายอย่างฉันไปดูแลทำไม หรือว่าแม่คุณป้าคุณป่วยแล้วเมียคุณต้องไปเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้หล่อนหรือไง”
ผู้บังคับการโหว “ยัยคนขี้โวยวายเถียงข้าง ๆ คู ๆ ไปเรื่อย เรื่องนี้มันเหมือนกันไหม?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ทำไมจะไม่เหมือนกัน”
ผู้บังคับการโหว “นั่นเป็นพ่อแม่ที่คลอดหลินเจี้ยนเยี่ยมาแท้ ๆ”
สวี่ม่ายซุ่ยหัวเราะเยาะเบา ๆ “พ่อแม่แท้ ๆ เหรอ คุณเคยเห็นพ่อแม่ที่เอาลูกไปขายแลกเนื้อกินไหมคะ เคยเห็นพ่อแม่บ้านใครให้ลูกทำงานในไร่ตอนเป็นไข้สูงไหม เคยเห็นบ้านใครแต่งงานแล้ว พ่อแม่ยังเกาะเป็นปลิงดูดเลือดอยู่ไหม”
“ตอนเราเพิ่งมาเกาะ สถานการณ์เป็นยังไงใช่ว่าเราไม่รู้ ทำเอาเด็กสองคนกินดื่มอะไรไม่ลง พอถึงวันหลินเจี้ยนเยี่ยเงินเดือนออกที แม่สามีฉันก็วิ่งมาขอเงินขออาหาร กลัวเรามีอะไรซ่อนไว้แล้วไม่ให้หล่อน มีรูมีถ้ำก็ล้วงเอาไปหมด”
“ขอแค่เราเก็บไว้หน่อยก็ร้องบอกเราไม่กตัญญู มาร้องเรียนปัญหากับพวกคุณ ฝ่ายเราก็กลัวผลที่ตามมา ไม่กล้าพูด ไม่กล้าปฏิเสธจนเราเกือบจะเป็นขอทาน”
“ฉันขอถามพวกคุณทั้งหลายที่นั่งตรงนี้ ใครบ้างไม่เคยได้ยินเรื่องบ้านฉัน หลินเจี้ยนเยี่ยเคยมาหายืมเงินพวกคุณบ้างไหม”
พอสวี่ม่ายซุ่ยพูดออกมา คนทั้งกลุ่มต่างก็ก้มหน้า ผู้บังคับการโหวมองดูก็โกรธมาก เห็นไม่มีใครพูดอะไรก็พูดแค่ “เธอทำไม่ถูก ยังไงหล่อนก็ยังเป็นแม่สามีของเธอ เธอควรดูแลเขาก็ควรดู”
สวี่ม่ายซุ่ย “ถุย ต่อให้ฉันตายฉันก็ไม่ดูแลหล่อน ตอนที่หล่อนมาเกาะฉันกิน พวกคุณก็ไม่สนใจ ตอนนี้เกาะไม่ไหวแล้ว พวกคุณกลับกระเหี้ยนกระหือรือมาจัดการ ตระกูลทหารบ้านฉันจะมีประโยชน์อะไร ถ้ายังสู้ยายเฒ่าที่ไม่รู้หนังสือสักตัวไม่ได้”
“เธอ… เธอนี่มันดื้อด้านจริง ๆ จ้าวเป่ากั๋ว หลินเจี้ยนเยี่ยล่ะ? ให้เขารีบไสหัวกลับมาหาหล่อนหน่อยสิ”
จ้าวเป่ากั๋วลุกขึ้นพูด “ผู้บังคับการโหว คุณลืมแล้วเหรอครับว่าหลินเจี้ยนเยี่ยพาคนออกสำรวจทะเล ไม่เลิกงานก็ไม่กลับมา”
ผู้บังคับการโหวฟังจบก็โกรธจนสองมือเท้าเอว ความรู้สึกเหมือนอยากด่าคนแต่ก็ด่าไม่ออก คับแค้นใจอย่างมาก
“พอแล้ว นายกลับไปก่อนเถอะ!”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังแล้วก็หมุนกายเดินไปโดยไม่หันมามอง พอเธอไป จ้าวเป่ากั๋วก็รีบลุกขึ้นมา “ผู้บังคับการ หล่อนเป็นแบบนี้ผมกลัวว่าจะเกิดเรื่อง ผมจะไปดูหน่อย”
ผู้บังคับการโหวฟังจบก็โบกมืออย่างทนไม่ไหว ส่งสัญญาณให้เขารีบไป
[1] จดหมายนิรนามที่เขียนกล่าวโทษผู้อื่น
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
นี่สินะสกิลปากที่แท้จริงของม่ายซุ่ยหลังกลับมาเกิดใหม่ แสบสันใช่ย่อยเลย
ทำไมเรื่องในครอบครัวม่ายซุ่ยจะต้องมีคนอื่นมาสาระแนจัดการแบบนี้ด้วยนะ ครอบครัวม่ายซุ่ยไปขุดรื้อหลุมบรรพบุรุษคนพวกนี้หรือไง
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION