บทที่ 117 ซื้อหน่วยกล้าตาย
เด็กคนนั้นถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น และมองมาที่เหยียนซีด้วยสายตาเย็นชา
เหยียนซีพบว่าเด็กคนนี้ใบหน้าซูบผอม แต่แสดงสีหน้าลึกซึ้ง ดูคล้ายเย็นชาไม่แยแส แม้จะอายุเพียงสิบกว่าปี แต่กลับไร้ซึ่งประกายของชีวิต
เด็กสาวที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็แน่นิ่งไม่ไหวติง หากไม่ได้เห็นว่าหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงก็คงดูไม่ออกว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
หลังจากที่ฝนฤดูใบไม่ร่วงโปรยปรายลงมา ทั้งเมืองก็อยู่ท่ามกลางความมืดครึ้มแทบมองไม่เห็นดวงตะวัน อากาศเริ่มหนาวเย็นลง แต่คนเหล่านี้สวมเพียงเสื้อผ้าบาง ๆ ไม่มีซับใน นั่งคุกเข่าบนพื้นหิน ทั้งกางเกงยังขาดวิ่น เผยให้เห็นหัวเข่าที่ช้ำม่วง
การเคลื่อนไหวของเหยียนซีทำให้คนอื่น ๆ ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างมีความหวัง ราวกับกำลังภาวนาให้ตัวเองถูกเลือกซื้อไป
ทว่าดวงตาของเด็กหนุ่มกลับมืดมน หมดสิ้นประกายแห่งความหวัง ราวกับเป็นบ่อน้ำลึกไร้ก้นบึ้ง ไม่มีแม้กระทั่งความรู้สึกมีชีวิตชีวา
เสื้อผ้าบนร่างของเขาขาดเป็นทางยาว เห็นได้ชัดว่าถูกฟาดด้วยแซ่ของนายหน้า ทุกพื้นที่ในร่างกายมีบาดแผลเต็มไปหมดยกเว้นเพียงใบหน้า หากไม่มีใครมาซื้อตัว พวกเขาจะมีชีวิตรอดต่อไปหรือไม่?
เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำว่า ‘ตกลง!’ ที่เคยได้ยินตอนฟื้นคืนสติขึ้นมาในโลกนี้ ถ้านางหวังไม่ได้ตัดสินใจซื้อตนในตอนนั้น จะเกิดอะไรขึ้นกับตนในตอนนี้ก็ไม่อาจทราบได้
ในฐานะคนยุคใหม่ เธอมักจะรู้สึกต่อต้านในใจเกี่ยวกับการค้ามนุษย์เช่นนี้ สมองส่วนเหตุผลกำลังบอกว่าตนไม่ได้ต้องการซื้อทาส และครอบครัวก็ยังไม่ได้มีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดูคนรับใช้ ทว่า…. เด็กหญิงลอบถอนหายใจ และเอาเงินหนึ่งตำลึงออกมา “ข้าซื้อสองคนนี้ก็แล้วกัน”
“ตกลงขอรับคุณหนู นี่คือสัญญาบังคับขายตัว” นายหน้ายิ้มอย่างพอใจ ในที่สุดก็ขายสองคนนี้ได้เสียที
เด็กสาวคนนี้จะตายอยู่รอมร่อตอนที่เขาได้มา มีลูกค้าคนหนึ่งมองหน้าและสัมผัสตัวนาง แต่นางกระแทกตัวใส่ลูกค้าคนนั้นอย่างแรง ถ้าไม่ใช่เพราะมีแรงเหลือเพียงน้อยนิด ลูกค้าคนนั้นก็อาจถึงตายได้ และการกระทำนั้นยังทำให้นางแขนหักเพราะล้มลงบนพื้น
ในที่สุด ตอนนี้เด็กสองคนนี้ก็พ้นจากมือไปได้เสียที เมื่อขายออกแล้วก็ไม่สำคัญว่าจะเป็นหรือตาย นายหน้าสนใจเพียงแค่ว่าตนเองได้หนึ่งตำลึงเงินจากการค้าขาย เขาเอ่ยอย่างนุ่มนวล “ข้าจะปลดตรวนให้พวกเจ้า เป็นโชคดีแล้วที่คุณหนูผู้อารีคนนี้ซื้อพวกเจ้าไป”
นายหน้าเอ่ยอย่างเย็นชา และเอากุญแจออกมาไข
เมื่อเด็กหนุ่มลุกขึ้น เหยียนซีก็เพิ่งเห็นว่าเขาถูกล่ามตรวนเอาไว้ที่ข้อเท้า ทำให้ผิวทั้งสองข้างบริเวณนั้นมีเลือดออก ทั้งยังมีน้ำหนองไหลออกมาเล็กน้อย ถ้าอากาศหนาวไปมากกว่านี้อาจทำให้เท้าของเขาเน่าเอาได้
เด็กหนุ่มที่ดูเหมือนตายจากภายในคนนั้นก้มลงพยุงเด็กสาวขึ้นมา และเดินไปหาเหยียนซี
ทุกย่างก้าวของเขาทิ้งรอยเลือดไปตามทาง
เมื่อมาถึงตรงหน้าเธอเด็กหนุ่มก็คุกเข่าลงทำความเคารพ ระหว่างที่เขากำลังจะทำความเคารพอีกครั้ง เหยียนซีก็ห้ามไว้
เด็กหญิงจ้างเกวียนจากข้างทางแล้วเอ่ยกับเขา “ขึ้นเกวียนเร็วเข้า เราต้องไปหาหมอกันก่อน”
เด็กหนุ่มขึ้นไปบนเกวียนพร้อมกับเด็กสาวในอ้อมแขน จากนั้นไม่นานเขาก็เอ่ยขึ้น “ท่านจ่ายแพงเกินไป”
“หา?” เหยียนซีไม่คาดคิดว่านี่จะเป็นสิ่งแรกที่ได้ยินจากปากเขา
“เมื่อวาน นายหน้าคิดราคาเพียงแปดร้อยอีแปะ”
เด็กหนุ่มพูดอย่างจริงจัง
เหยียนซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง อันที่จริงเธอก็รู้ว่าสามารถต่อรองราคาได้ แต่ตั้งแต่แรกก็ไม่ได้ต้องการซื้อใครเลย เพียงแค่เกิดความสงสารขึ้นมาเท่านั้น ประกอบกับการแสดงสีหน้าของเด็กหนุ่ม เด็กหญิงรู้สึกว่าการต่อราคาต่อหน้าเขามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างโหดร้าย บางที หากไม่ได้อยู่ต่อหน้าเขาตนอาจเอ่ยปากขอต่อราคาไปแล้วก็ได้
“ท่านซื้อเรามาแพงไป” เขาย้ำอีกครั้ง “ข้าไปเอาคืนมาให้ดีไหม”
คำแนะนำเช่นนี้คืออะไรกัน เงินอยู่ในมือคนอื่นแล้วจะเอาคืนมาได้อย่างไร สายเสียแล้วที่จะต่อรอง
เหยียนซีรู้สึกขึ้นมาอย่างไม่อาจอธิบายได้ว่าเด็กคนนี้ดูมีที่มาต่างจากที่รับรู้ เมื่อครู่ตนได้ยินจากนายหน้าว่าคนเหล่านี้เคยเป็นคนรับใช้ของจวนอันอ๋อง บางทีท่านอ๋องผู้นั้นอาจจะถูกประหาร และคนรับใช้ในครอบครัวจึงถูกพามาขาย
คนที่ร่ำรวยและมีอำนาจจริง ๆ มักดูแคลนการซื้อทาสที่ถูกเนรเทศมาจากการสำเร็จโทษเช่นนี้ เพราะคิดว่าจะเป็นตัวอัปมงคล นายหน้าค้าทาสอาจซื้อตัวพวกเขามาจากหลวงอีกทีทั้งกลุ่ม และเดินทางไปขายต่อทางใต้ หากนายหน้าพาพวกเขาไปขายยังเมืองถงอัน หรือไปที่อำเภอหมิงสุ่ย ไม่แน่ว่าอาจจะขายได้ราคาสูงกว่าที่หย่งโจว
แต่เมื่อมองสภาพของคนทั้งสอง เธอก็คิดว่าพวกนายหน้าคงกลัวว่าพวกเขาจะตายก่อนไปถึงที่นั่น
“นายท่าน?” เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยความสงสัย
เหยียนซีตกตะลึง “อย่าเรียกข้าว่านายท่าน” นั่นเป็นคำเรียกที่ชวนอึดอัดเล็กน้อย
“ขอรับ คุณหนู” เด็กหนุ่มเปลี่ยนคำอย่างว่าง่าย
แต่ถึงอย่างนั้นหน้าตาของพวกเขา… เหยียนซีมองดูรูปลักษณ์ของทั้งสองแล้วถามขึ้น “เจ้า…เจ้าทำงานในจวนอ๋องมาจริงหรือ”
“ขอรับ”
“แล้วเจ้าทำหน้าที่อะไรในนั้นล่ะ”
เด็กหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฝึกการต่อสู้ขอรับ”
ฝึกศิลปะการต่อสู้นับว่าเป็นงานด้วยอย่างนั้นหรือ
เหยียนซีมองไปยังคนขับเกวียนด้านนอก จากนั้นก็เอ่ยเสียงเบาลง “อย่าโกหกข้า ฝึกศิลปะการต่อสู้เป็นงานแบบไหนกัน ทำไมที่จวนอ๋องจึงให้เจ้าทำอะไรอย่างนั้น แสดงว่าฝึกแล้วเจ้าได้ไปต่อสู้ด้วยหรือไม่” ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะปิดบังต่อไปจึงขู่เพิ่ม “ถ้าเจ้าไม่พูดตามตรง ข้าจะกลับไปถามนายหน้า”
“ไม่ ข้าเป็นทหารหน่วยกล้าตาย ยังไม่สำเร็จวิชาทั้งหมด แต่คนอื่น ๆ ในหน่วยตายหมดแล้ว ข้ากับน้องสาวอยู่ที่จวน เป็นเด็กรับใช้และสาวใช้” เด็กหนุ่มตอบอย่างเร่งรีบ เห็นชัดว่าเขาไม่ค่อยได้พูดมากนัก จึงตอบออกมาอย่างห้วน ๆ
แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด เหยียนซีก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวขึ้นได้ นั่นคือเด็กคนนี้และน้องสาวของเขาน่าจะอยู่ในหน่วยกล้าตายทั้งคู่ อันอ๋องคงตั้งใจที่จะฝึกฝนพวกเขาไว้ใช้งาน เมื่อจวนอ๋องถูกยึด พวกเขาโชคดีที่อยู่ในจวน จึงถูกปฏิบัติเช่นเดียวกับคนใช้คนอื่น ๆ ถูกจับมาขายเป็นทาสด้วยกัน
“ทำไมถึงไม่หนีไปเล่า” เหล่าหน่วยกล้าตายล้วนมีวิชาต่อสู้ที่แข็งแกร่ง นายหน้าคนนั้นตัวใหญ่กว่าแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถึงจะพอรู้วิธีการต่อสู้บ้าง แต่ก็ไม่มีทางเทียบกับหน่วยกล้าตายที่ได้รับการฝึกฝนมาเช่นนี้ ต่อให้เป็นเด็กที่ยังไม่ได้สำเร็จวิชาทั้งหมด การหลบหนีก็ยังไม่ใช่เรื่องยากอยู่ดี
“นางยังบาดเจ็บอยู่” เด็กหนุ่มเหลือบมองน้องสาวที่นอนนิ่ง
เหยียนซีไม่ได้มีคำถามใดเพิ่มเติมอีก
เมื่อไปถึงสำนักแพทย์ ท่านหมอชราได้ยินว่าเด็กสองคนนี้เป็นทาสที่เธอซื้อมา และถูกนายหน้าทำร้ายจนเป็นแผลเต็มตัว พวกเขาก็บ่นพึมพำถึงความโหดร้ายของนายหน้าค้าทาสพวกนั้น “กระดูกแขนของนางเป็นเช่นนี้ หากไม่เชื่อมต่อกันอย่างถูกต้องจะใช้การไม่ได้ในอนาคต”
“ท่านหมอเจ้าคะ ท่านพอจะรักษานางได้หรือไม่ นางยังอายุน้อยอยู่เลย”
หมอชราเห็นว่าเหยียนซีเองก็ยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็กที่เพิ่งปล่อยผมยาวได้ไม่นาน แต่กลับพูดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็ก จึงอดขำขึ้นมาไม่ได้ แต่เพราะเห็นว่านางเป็นเจ้านายที่ซื้อทาสทั้งสองมาเขาจึงกล่าวต่อ “เด็กสาวคนนี้บาดเจ็บสาหัส ข้าจะสั่งยาสองสามอย่างให้นาง กระดูกแขนต้องต่อใหม่ ต้องหักแล้วต่อใหม่ นางอาจจะเจ็บ…”
ก่อนที่หมอชราจะพูดจบ เด็กหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ ก็ลงมือทันที พวกเขาได้ยินเสียง “กร๊อบ” และเด็กสาวที่หมดสติอยู่ก็ร้องด้วยความเจ็บปวด เด็กหนุ่มเป็นคนหักกระดูกนางด้วยมือของเขาเอง
หลังจากที่เด็กสาวร้องออกมาเพราะความเจ็บ นางก็หลับตาลงอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่าหมดสติไปเพราะทนความเจ็บไม่ไหวหรือไม่
เด็กหนุ่มตอบด้วยสีหน้านิ่งเรียบต่อหมอชรา น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “แบบนี้ได้แล้วใช่หรือไม่ขอรับ”
MANGA DISCUSSION