บทที่ 51 เหมือนฉากในละคร
ชาติก่อน เกาซูสร้างร้านอาหารจนประสบความสำเร็จ ก็ยังถูกคนนินทาลับหลัง หาว่าเป็นผู้หญิง ทำได้ถึงขนาดนี้ คงต้องผ่านผู้ชายชุบเลี้ยงมามากมาย
ในสายตาคนพวกนั้น ผู้หญิงเป็นเพียงแค่เครื่องประดับ เป็นแค่ตุ๊กตา ที่ต้องอาศัยผู้ชายคอยชักนำ ถึงจะขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดได้
พวกเขายิ่งทนไม่ได้เมื่อเห็นผู้หญิงประสบความสำเร็จ พอเห็นว่าได้ดีเข้าหน่อยก็เอาแต่พูดจาดูถูกหาว่าขายตัวแลกเงินมา
ตอนนี้ เธอได้เกิดใหม่อีกครั้ง เรื่องแบบนี้ก็ต้องเจออีกรอบอย่างนั้นเหรอ?
ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเลย! เธอไม่กลัวหรอก เธอจะเตะคำพูดเหล่านี้ให้จมหายไปพร้อมกับคนพูดเลย!!
เกาซูดึงมู่เยี่ยนฟางขึ้นมา “พี่เยี่ยน ลุกขึ้น แล้วไปกันเถอะ!”
มู่เยี่ยนฟางร่ำไห้จนตัวโยน “เสี่ยวซู! กลับบ้านเถอะนะ! ถ้าเสี่ยวเฉิงรู้ว่าเธอถูกคนพวกนั้นรังแกแบบนี้ เขาจะต้องเสียใจมากแน่ ๆ!”
แม้ชื่อของมู่อวิ่นเฉิงจะทำให้ใจของเกาซูสั่นไหว แต่เธอกลับยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เพราะอวิ่นเฉิน ฉันถึงต้องทำให้คนพวกนั้นเห็นยังไงล่ะ! คนที่จมอยู่กับความต่ำตม พยายามจะสาดโคลนใส่เรา หวังจะลากเราลงไปด้วยกัน ฉันจะไม่ยอมหรอก! ฉันจะตะเกียกตะกายขึ้นมาจากกองโคลน และใช้ชีวิตอย่างสง่างามให้พวกนั้นเห็น!”
ชาติที่แล้ว เธอต่อสู้เพียงลำพังก็ยังไม่เคยย่อท้อ แล้วชาตินี้ เธอมีทั้งมู่เยี่ยนฟาง มีพ่อแม่สามี และที่สำคัญที่สุดคือ มู่อวิ่นเฉิง คอยเป็นกำลังใจ แล้วเธอจะต้องกลัวอะไรอีก!
ภายในโรงงาน ตอนนี้คนงานทุกคนมาพร้อมหน้ากันแล้ว
สีหน้าของแต่ละคน บ่งบอกชัดเจนว่าพวกเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ได้เห็นถ้อยคำหยาบคายที่ถูกเขียนถึงเกาซู เมื่อสบตากับเธอ ทุกคนต่างหลบสายตาเพราะรู้สึกหมดศรัทธาในตัวเธอ
เกาซูกวาดสายตามอง ก่อนจะนับจำนวนคนงานในใจ ทุกคนมาครบ ยกเว้นฟู่จิงซือ
“เอาล่ะ ทุกคน กลับไปทำงานกันต่อเถอะ หลังจากทำชุดนี้เสร็จ ฉันจะสอนแบบใหม่ให้” เกาซูพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“คุณ… คุณเกาซู…” เสียงเล็ก ๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นอย่างเกรง ๆ
หญิงสาวคนนั้นชื่อ เสี่ยวเจียว อายุเพียง 19 ปี ตอนที่คนงานคนอื่น ๆ ก่อเรื่องวุ่นวาย เธอไม่ได้มาร่วมด้วย แต่เพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่ทุกคนกลับเข้าโรงงานแล้ว เธอเป็นคนขยันขันแข็ง มักจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่เสมอ
“มีอะไรไม่เข้าใจเหรอ?” เกาซูเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“คือ… คุณ… คุณจะยังสอนแบบใหม่ให้พวกเราอีกเหรอคะ?” เสี่ยวเจียวถามอย่างลังเล
“แน่นอนสิ! ทางเป่าเป้ยสั่งชุดแบบใหม่จากเราตั้ง 3,000 ชุดนะ!”
เสี่ยวเจียว ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เกาซูไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้
“ฉันคิดว่า… คุณจะจากเราไป…” เสียงของเสี่ยวเจียวเบาลงอีกครั้ง “ทุกคนบอกว่าคุณจะไม่ทำงานที่นี่แล้ว…”
“ไม่มีทาง!” เกาซูปฏิเสธอย่างหนักแน่น “ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น มาเริ่มทำงานกันเถอะ!”
“ได้ค่ะ!” น้ำเสียงของหญิงสาวสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แสดงว่า… ในโรงงานนี้ ก็ยังมีคนที่ชอบเธออยู่นี่นา
ตลอดช่วงเช้า เกาซูอยู่ในโรงงานโดยไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ
กระทั่งถึงเวลาพักกลางวัน
เธอเดินไปที่โรงอาหารอย่างสบายใจ ไม่มีใครพูดจาเสียดสีอะไรสักคำ
ตรงกันข้าม คนงานที่กำลังต่อแถวรอรับอาหาร เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา ต่างพากันหลีกทางให้เธอได้ตักอาหารก่อน และยังคงเว้นระยะห่างจากเธออย่างน้อยสองเมตร ราวกับกลัวว่าจะเข้าใกล้เธอมากเกินไป
เกาซูรู้สึกขบขันในใจ นี่พวกเขาคงกลัวจนฝังรากลึกในจิตใจไปแล้วสินะ กลัวว่าเธอจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก เหมือนตอนที่สาดน้ำขี้ใส่พวกเขาไปคราวก่อน
ด้วยเหตุนี้ มื้อกลางวันจึงผ่านไปด้วยดี
ในช่วงบ่าย เกาซูยังคงทำงานอยู่ในโรงงาน และเมื่อถึงเวลาอาหารเย็นที่โรงอาหาร เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
เธอเพิ่งก้าวเข้าประตูโรงอาหาร ก็มีหญิงวัยกลางคนร่างกำยำคนหนึ่งพุ่งเข้ามา ในขณะที่เกาซูไม่ทันตั้งตัว เธอก็ง้างมือเตรียมจะตบเกาซูอย่างเต็มแรง
มู่เยี่ยนฟางและสามีติดตามเกาซูอย่างใกล้ชิด ตู้เหลียงมีสายตาที่ว่องไว จึงผลักเกาซูออกไปทันที ทำให้การตบนั้นโดนเขาแทน
หญิงวัยกลางคนที่ตบไม่โดนเป้าหมายก็รู้สึกร้อนรน จึงตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง “นังผู้หญิงต่ำช้าคนนี้! นังโสเภณี! มีผู้ชายคอยปกป้องจริง ๆ ด้วย! พวกเรา! ตีมันให้ตายเลย! ดูสิว่านังนี่จะยังกล้าหว่านเสน่ห์อีกไหม!”
ผู้หญิงคนนั้นมาพร้อมกับความพร้อม เธอพาพรรคพวกมาด้วยมากมาย ทั้งหญิงร่างกำยำ และผู้ชายร่างสูงใหญ่หลายคน
พวกผู้ชายเข้ารวบตัวตู้เหลียงเอาไว้ ส่วนพวกผู้หญิงก็กรูเข้ารุมทำร้ายมู่เยี่ยนฟางและเกาซู
ด้วยจำนวนที่มากกว่า ฝ่ายเกาซูซึ่งมีเพียงแค่สามคนจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างรวดเร็ว เกาซูกลายเป็นเป้าหมายหลัก พวกผู้หญิงรุมกันจับตัวเธอไว้ ดึงผม และกระชากเสื้อผ้า
หญิงร่างท้วมที่เป็นหัวหน้าตะโกนสั่ง “อีหน้าด้าน! มันมีปานที่หน้าอก! ถอดเสื้อผ้ามันออกดูซิ! ว่าปานของมันเป็นยังไง!”
เสียงตะโกนโวยวาย บวกกับคำพูดหยาบคาย กลับทำให้พวกผู้ชายพากันหัวเราะชอบใจ สายตาลุกวาวด้วยความหื่นกระหาย
“ฮ่า ๆ ๆ นังนี่มีปานที่อกเหรอ? รีบ ๆ ถอดเสื้อผ้ามันออกมาให้ดูหน่อยสิ!”
“ฮ่า ๆ ๆ เกิดมายังไม่เคยเห็นปานที่อกเลย!”
“ผู้จัดการเซี่ยเคยเห็นใช่ไหม? ไม่แปลกที่ผู้จัดการเซี่ยยอมทุกอย่าง!”
“ยังไงเธอก็ช้ำมือชายมาแล้ว ให้พวกเราดูหน่อยจะเป็นไรไป!”
ในที่สุด เกาซูก็เข้าใจแล้วว่า คนที่แอบเปิดม่านห้องอาบน้ำของเธอ ต้องการเห็นอะไร…
พวกผู้หญิงที่รุมจับตัวเธอ เริ่มล้วงมือเข้ามาที่คอเสื้อ พยายามจะดึงกระดุมเสื้อของเธอ ในที่สุดกระดุมเม็ดแรกก็หลุดกระเด็น
เกาซูพยายามป้องกันเสื้อผ้าของตัวเองอย่างสุดชีวิต
แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เธอก็คงไม่สามารถต้านทานได้อีก
เมื่อไม่สามารถป้องกันได้ ก็คงต้องสู้ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!
หญิงร่างท้วมยังคงตะโกนด่าทอไม่หยุด “อีนังชั่ว! กล้าดียังไงมาอ่อยผัวฉัน! วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกให้หลาบจำ!”
ที่แท้ก็เป็นเมียของผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ย
แค่เพราะเธอได้ร่วมงานกับโรงงาน พวกเขาก็คิดกันไปเองว่าเธอต้องใช้เส้นสาย หรือไม่ก็ยอมเอาตัวเข้าแลกสินะ
คนชั้นต่ำ ก็มักจะคิดอะไรต่ำ ๆ แบบนี้เสมอ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาวิเคราะห์จิตใจคน พวกผู้หญิงสองคนยังคงพยายามดึงเสื้อของเธออยู่ ร่างกายของเธอถูกพวกมันกดไว้แน่น ขยับไปไหนไม่ได้
แต่เพราะมือของพวกมันกำลังพยายามดึงเสื้อ จึงทำให้เธอเห็นช่องโหว่ ต่างจากตอนที่โดนดึงผม บีบเนื้อตัว และข่วน แบบนั้นเธอแทบจะหาโอกาสโต้กลับไม่ได้เลย
จังหวะที่มือของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะแกะกระดุมเม็ดที่สอง เกาซูก้มลงอย่างรวดเร็ว แล้วกัดเข้าที่ข้อมือของมันเต็มแรง
“โอ๊ย!!”
เสียงร้องโหยหวนของผู้หญิงคนนั้นดังลั่น เหมือนกับเสียงหมูโดนเชือด
แรงกดทับบนตัวเกาซูหายไปครึ่งหนึ่ง
ภายในโรงอาหารมีโต๊ะสี่เหลี่ยมและม้านั่งยาววางอยู่
เกาซูถูกจับกดลงบนโต๊ะ
ตอนนี้แรงกดลดลง เกาซูจึงคว้าขอบโต๊ะและพลิกมันอย่างแรง ใช้แรงนั้นพลิกผู้หญิงที่กดเธอออกไป พร้อมกันนั้นโต๊ะก็ล้มทับตัวผู้หญิงคนนั้น ทำให้อีกฝ่ายร้องกรีดด้วยความเจ็บปวด
“ว๊ากกก!!!”
เกาซูคว้าม้านั่งตัวหนึ่งขึ้นมาถือไว้ข้างหน้าอก พร้อมที่จะฟาดใครก็ตามที่เข้ามาใกล้ด้วยท่าทางดุดัน
ผมของเธอยุ่งเหยิง มุมปากมีเลือดซึม ผิวหน้าถูกข่วนจนเป็นรอย กระดุมเม็ดแรกของเสื้อหายไป คอเสื้อเผยอเล็กน้อย แต่ยังดีที่ไม่ได้เปิดเผยมากเกินไป เหมือนกับการใส่เสื้อยืดแขนสั้นในหน้าร้อนทั่วไป
เธอหอบหายใจ มองไปรอบ ๆ
มู่เยี่ยนฟางและตู้เหลียงยังคงต่อสู้กับคนอื่นอยู่ โรงอาหารมีคนมุงดูเป็นวงใหญ่ ทุกคนกำลังดูเหตุการณ์วุ่นวายนี้อย่างลุ้นระทึก
ใช่แล้ว เธอเป็นคนนอกในโรงงานนี้อยู่แล้ว พวกเขาไม่มีสิทธิ์ช่วยเธอหรอก! ทำได้มากสุดก็คงแค่ส่งเสียเชียร์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครอยู่ฝั่งไหนกันแน่
นี่มันเหมือนละครน้ำเน่าที่ภรรยาหลวงกับเมียน้อยตบตีกัน คนรอบข้างก็คงทำได้แค่ยืนดูอยู่เฉย ๆ
เกาซูสูดหายใจลึก ตะโกนเสียงดัง “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
แต่ไม่มีใครสนใจเสียงของเธอ
MANGA DISCUSSION