บทที่ 49 มาตรการไฟรนรังมด
ฟู่จิงซือรู้ว่าเริ่มควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่แล้ว จึงหันไปมองลูกน้องคนสนิท “อาเจี้ยง! ซ่งเอ๋อร์มุ่ย! ต้าหนัว! พวกแกจะทรยศพวกพ้องด้วยเหรอ?!”
ลูกน้องทั้งสามคน ต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง คนหนึ่งบอกว่า “พี่ ผมทำไม่ได้ แม่ผมด่าผมมา” อีกคนก็บอกว่า “พี่ ผมมีลูกต้องดูแล ยังต้องหาเงินไปซื้อนมให้ลูกกินอยู่เลย” ส่วนคนสุดท้ายบอกว่า “ผมต้องเก็บเงินเพื่ออนาคต ถ้าวันไหนเจอผู้หญิงดี ๆ ขึ้นมา ผมจะได้รีบสู่ขอเธอ”
“ได้! พวกมันทรยศ! ไปให้พ้นเลย!” ฟู่จิงซือตะโกนอย่างเหลืออด
แท้จริงแล้ว มันเป็นเพียงคำพูดที่พูดออกมาด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่ไม่น่าเชื่อว่า ลานออกกำลังกายที่เคยเต็มไปด้วยผู้คน กลับว่างเปล่าในพริบตา เหลือเพียงฟู่จิงซือยืนอยู่เพียงลำพัง
“พวกแก…พวกแกมันอกตัญญู!” ฟู่จิงซือสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินกลับไป
ระหว่างทาง สายตาของเขาเหลือบไปเห็นหอพัก เขาจึงเดินเข้าไป เคาะประตูห้องห้องหนึ่ง พอเข้าไปข้างใน ก็เริ่มก่นด่าทันที “ฉันโมโหแทบตาย! พวกมันไม่มีน้ำใจเลย! ไม่ยอมทำงานแล้ว! แค่เงินไม่กี่หยวนก็ซื้อใจพวกมันไปได้!”
“ใจเย็น ๆ ก่อน” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น “ลองเปลี่ยนวิธีดูสิ…”
รุ่งเช้า
เสียงกริ่งก็ดังขึ้น เหล่าคนงานก็ทยอยเดินเข้ามาในโรงงาน
วันนี้ เป็นครั้งแรกที่ทุกคนแต่งกายเรียบร้อย สวมชุดทำงาน ไม่มีใครถือหมากรุก ไพ่ หรือแม้แต่เมล็ดทานตะวันติดตัวมาด้วย สีหน้าของทุกคนดูเศร้าหมอง และวิตกกังวล
แต่เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในโรงงาน กลับพบว่า คนงานชั่วคราว 20 กว่าคนที่เกาซูจ้างมานั้น กำลังทำงานอยู่ที่โต๊ะของตัวเอง
“พวกเธอ… มาเช้าจังนะ?” หญิงคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
ป้าคนเดิมที่เคยตอบคำถามเธอเมื่อวาน เงยหน้าขึ้นมาจากงานแล้วเอ่ยด้วยความรำคาญใจ “ก็ต้องเช้าสิ! ทำเยอะได้เยอะ ทำน้อยได้น้อย ใครบ้างไม่อยากได้เยอะ ๆ”
“ใช่ พวกเรายังอยากทำงานล่วงเวลาตอนกลางคืนด้วยซ้ำ แต่คุณเกาซูไม่อนุญาต”
เกาซูไม่ต้องการให้งบประมาณบานปลายโดยไม่จำเป็น เธอต้องขอดูผลงานไปก่อนสักระยะ เพื่อให้แน่ใจว่างานที่ออกมาจะได้ตรงตามใจ จากนั้น ค่อยกระตุ้นให้คนงานอยากทำให้มากขึ้น เพียงเท่านี้ เธอก็จะได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ และจะสามารถส่งสินค้าได้ตรงตามสัญญาอีกด้วย
บรรดาพนักงานประจำต่างถอนหายใจกันด้วยความไม่สบอารมณ์ เหตุใดพวกเขาต้องทำงานเท่ากันแต่เงินน้อยกว่าคนเหล่านี้ด้วย ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!!
ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ากลัว! เธอไม่ต้องด่าว่าให้เปลืองน้ำลาย แต่ใช้วิธีกดดันได้อย่างเหนือชั้นกว่า
ตอนแรกพวกเขาดูถูกเธออย่างไร ตอนนี้ก็จะถูกเอาคืนมาแบบเดียวกัน!
ระหว่างที่แต่ละคนกำลังสำนึกผิด เกาซู ตู้เหลียง และมู่เยี่ยนฟางก็เดินเข้ามาพอดี
ทั้งสามคนไม่สนใจพวกเขา แต่กลับหันไปมองกลุ่มคนงานชั่วคราวที่กำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น คนงานกลุ่มเดิมก็เริ่มกระวนกระวายใจ พวกเขาผลักกันไปมา มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง
ในที่สุด พี่สาวคนหนึ่งที่ดูท่าทางซื่อ ๆ ก็รวบรวมความกล้า เดินเข้าไปหาเกาซู พร้อมกับเอ่ยเรียก คุณเกาซู”
“คุณเกาซู คือว่า… พวกเรา…”
เกาซูหันกลับมา ทำท่าทางเหมือนไม่เข้าใจ มองพวกเขาด้วยสีหน้างุนงง อยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ แล้วพยักหน้า “อ้อ… พวกคุณนั่งเล่นกันต่อได้เลยค่ะ จะคุยกัน จะเล่นหมากรุก หรือจะกินขนมก็ตามสบายเลย”
“แต่ว่า…” พี่สาวทำสีหน้าลำบากใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ! ฉันยังมีคนงานอีกยี่สิบกว่าคน พรุ่งนี้ก็จะมาถึงแล้ว พวกคุณไปทำธุระส่วนตัวของพวกคุณเถอะค่ะ อย่าเสียเวลาเลย” เกาซูพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูใจดี แต่ประโยคที่พูดกลับแฝงไปด้วยการประชด
บรรดาคนงานประจำได้ยินอย่างนั้น ก็หน้าซีด เหงื่อตกกันเป็นแถบ!
เห็นชัด ๆ ว่าเกาซูตั้งใจจะกวนประสาท
แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาจะทำอะไรเธอได้? ถึงแม้เกาซูจะเล่นตัว แต่ก็เป็นเพราะพวกเขารังแกเธอก่อน แล้วจะไม่ให้เธอเอาคืนบ้างเลยหรืออย่างไร?
สุดท้าย หญิงวัยกลางคนก็ตัดสินใจพูดตรง ๆ ออกมา “คุณเกาซู คือว่า…พวกเรา อยากกลับมาทำงานแล้วล่ะ ไม่ทราบว่า… มีอะไรที่พวกเราพอจะทำได้บ้างไหม?”
ได้ยินอีกฝ่ายร้องขอด้วยสายตาน่าสงสาร เกาซูจึงเริ่มพิจารณาพวกเขาอย่างจริงจัง
หลังจากเดินวนรอบพวกเขาหนึ่งรอบ เธอก็ทำท่าแปลกใจ “คุณบอกว่า…อยากกลับมาทำงานเหรอ?”
“ใช่! เราอยาก!!!”
“ใช่แล้ว”
“เราอยากทำงานจริง ๆ นะ”
แต่ละคนรีบแสดงตัวกันอย่างกระตือรือร้น แน่นอนว่าเกาซูเองก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องลงเอยแบบนี้ เธอจึงกระตุกรอยยิ้มของผู้ชนะออกมา
“จะทำจริงเหรอ? ไม่ใช่การทำงานแบบนั่งแทะขนม เล่นไพ่ หมากรุก หรือจับกลุ่มคุยกันใช่ไหม”
พวกเขาพยักหน้ารับอีกครั้ง “ทำงานจริง ๆ เราจะตั้งใจทำงาน! จะไม่นั่งเล่น จะเย็บผ้าตามแบบที่คุณเกาซูให้มา!!”
“ใช่แล้ว!! เราจะทำงานแบบพวกเขา!” คนหนึ่งพูดพลางชี้ไปที่กลุ่มคนงานชั่วคราว
เกาซูพยักหน้ารับเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบ “ได้”
ใบหน้าของทุกคนสดใสขึ้นมาในทันตาเห็น พร้อมกับคิดไปในทางเดียวกันว่า หมายความว่าเธอยอมรับแล้วใช่ไหม?
แต่เกาซูยังพูดไม่จบ เธอจึงแทรกขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันพูดว่าได้ก็จริง แต่…”
“ฉันไม่ใช่พนักงานประจำของที่นี่ ฉันเป็นแค่คนงานชั่วคราว ฉันไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรหรอกนะ พวกคุณก็ไม่ได้ขึ้นตรงกับฉัน เรื่องที่พวกคุณจะได้ทำงานหรือไม่ จะทำงานอะไร หรือจะทำงานยังไง ฉันไม่สามารถตัดสินใจแทนได้หรอก” เกาซูพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่หนักแน่น ทุกคำพูดล้วนคมคายราวกับศรธนู
เหล่าคนงานที่เคยหยิ่งผยอง ต่างตกตะลึงอีกครั้ง
หมายความว่ายังไงกัน…?
มีคนที่ตอบสนองเร็วที่สุดก็พูดขึ้นทันทีว่า “ฉันจะไปหาคนที่สามารถตัดสินใจได้!”
พูดจบก็วิ่งออกไปข้างนอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
ทันใดนั้น ทุกคนก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง พวกเขาวิ่งตามออกไปจากโรงงานอย่างรวดเร็ว
โรงงานที่เคยเต็มไปด้วยผู้คน กลับมาเงียบเหงาอีกครั้ง
มู่เยี่ยนฟางเดินเข้าไปใกล้ ๆ เกาซู ก่อนจะเอ่ยถาม “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเหรอ? ทำไมถึงไล่พวกเขาไปล่ะ?”
เกาซูยิ้ม ก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า “เราไม่ได้ทำธุรกิจเล่น ๆ ที่นี่ไม่ใช่ที่เล่นขายของของพวกเด็ก ๆ อยากจะทำอะไรก็ทำ อยากเลิกก็เลิกง่าย ๆ บอกเลยว่าฉันเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด ถ้าชีวิตมันง่ายมากก็ไม่ใช่ชีวิตน่ะสิ พวกเขาควรได้รับบทเรียน”
ไม่นานนัก กลุ่มคนงานเหล่านั้นก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้ พวกเขามีผู้นำ นั่นก็คือ ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ย
พวกเขายังคงฉลาดและรู้ว่า คนที่สามารถตัดสินใจในโรงงานได้ และมีความสัมพันธ์อันดีกับเกาซูจะสามารถโน้มน้าวใจเธอได้
พวกเขาอ้อนวอนอยู่หน้าห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยเป็นเวลานาน จนในที่สุด ผู้จัดการฝ่ายขายก็ถอนหายใจ และตัดสินใจยอมบากหน้า ออกมาช่วยพูดกับเกาซูให้
ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยเดินเข้ามาหาเกาซู ใบหน้าอ้วนกลมประดับด้วยรอยยิ้ม เขาเรียกเกาซูว่า ‘คุณเกาซู’ เหมือนกับที่คนงานชั่วคราวคนอื่น ๆ เรียก ทั้ง ๆ ที่เกาซูเป็นแค่หญิงสาวที่เกิดหลังเขาตั้งหลายปี
“คุณเกาซู คือว่า… คนงานในโรงงานของเราสำนึกผิดแล้ว พวกเขาอยากกลับมาทำงาน ฉันรู้เธอเป็นคนใจกว้าง เลยอยากจะมาขอโอกาสแทนพวกเขา”
เกาซูแสร้งทำท่าทางลำบากใจ “เอ่อ…”
“คุณเกาซู คนงานของเราล้วนเป็นช่างฝีมือดี เสื้อผ้าพวกนี้ก็เป็นฝีมือพวกเขา พวกเขารู้จักโครงสร้างเสื้อผ้าเป็นอย่างดี ถ้าให้พวกเขาช่วยดัดแปลง รับรองว่า งานจะเสร็จเร็ว และเรียบร้อยแน่นอน!”
“เรื่องนั้นแหละค่ะ ที่ฉันกังวล…” เกาซูมองไปยังกลุ่มคนงานที่ยืนอยู่ด้านหลังผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ย พร้อมกับขมวดคิ้วเอ่ย “ฉันกลัวว่างานที่ดัดแปลงออกมา จะไม่ตรงกับแบบที่ฉันออกแบบไว้ เพราะพวกเขาเก่งกาจกันเหลือเกิน และฉันก็กลัวว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับแบบของฉัน”
MANGA DISCUSSION