“ฮ่าฮ่า!” เย่ชิวยิ้มอย่างไร ้ความปรานี เขาชอบเห็นเย่ฉิงซวนทา หน้าเหมือนอยากจะสังหารเขาแต่ท าอะไรเขาไม่ได้เป็ นพิเศษ “เจ้าคน พาล เพราะบุปผาคู่สหายระดับเก้าของพ่อเจ้า วันนี้ข้าจะไม่ทาเรื่อง ยุ่งยากให้เจ้าต้องล าบากใจ หากเจ้ามีค าถามใด ๆ เข้าไปถามพ่อของ เจ้าเอง”

เย่ชิวไม่ได้ทาอะไร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็แค่ยอมรับ ของขวัญจากพ่อของอีกฝ่ าย เขาจะจัดการกับลูกชายคนผู้นั้นทันที ได้อย่างไร เขารู ้ขีดจ ากัด

ขณะที่เขาพูด เย่ชิวกาลังจะออกไปก็มีเสียงฝี เท้าอีกสองสาม เสียงมาจากชั้นล่าง

“หืม” เย่ชิวและหมิงเยว่มองไปและตกตะลึง “วันนี้วันอะไร เหตุใด ถึงมีคนมาที่ศาลาลิขิตดาราเยอะขนาดนี้”

เย่ชิวงงงวย มีใบหน้าที่คุ้นเคยสองสามคนในกลุ่มนั้น เช่น เซียว โม่, ฮุ่ยไฉ่อี้, หลู่จือ และคนอื่น ๆ เย่ชิวยังเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยอีก สองสามคน

“ศิษย์พี่หญิงหมิงเยว่ ไม่เจอกันนาน” ชายที่เดินอยู่ข้างหน้าเดิน ขึ้นด้วยรอยยิ้มและทักทายหมิงเยว่

 

“หลิงเทียน” หมิงเยว่ตกตะลึงเมื่อเห็นชายชุดเขียวเดินผ่านมา

เย่ฉิงซวนเปิดเผยสายตาสังหารที่เย็นชา เห็นได้ชัดว่า ชายชุด เขียวที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นไม่ธรรมดา การที่จะทาให้หมิงเยว่และเย่ฉิง ซวนตอบสนองเช่นนี้ได้ในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

เย่ชิวก็เดาได้ทันทีและอดไม่ได้ที่จะคาดเดาอีกฝ่ าย “หืม กายา จักรพรรดิความเชี่ยวชาญขั้นยิ่งใหญ่”

เมื่อเย่ชิวเห็นร่างกายของอีกฝ่ าย เขาก็ตกใจทันที ก่อนหน้านี้ พวกเขายังคงพูดคุยกันถึงเก้าร่างนักบุญนี้ พวกเขาไม่คาดคิดว่ากา ยาจักรพรรดิความเชี่ยวชาญขั้นยิ่งใหญ่นี้จะมาปรากฏตัวเช่นนี้

เย่ชิวตกใจเป็ นอย่างมาก เขาไม่คิดว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยา สวรรค์จะมีกายาจักรพรรดิความเชี่ยวชาญขั้นยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากพื้นฐานและพรสวรรค์ของอีกฝ่ ายแล้ว อีกฝ่ าย มาถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว เขาสามารถเห็นวิหารสวรรค์ทั้งสิบที่ มองเห็นได้เลือนรางอย่างชัดเจน

“ฟู่ ว” เย่ชิวอดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเย็น ๆ ว่ากันว่าดินแดน ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์เต็มไปด้วยพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ ตอนแรก เขา ไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ เขาเชื่อแล้วจริง ๆ ที่นี่ ตัวตนที่น่าสะพรึงกลัว วิหาร สวรเก้าแห่งไม่ถือว่าน่าประทับใจ

หากเขาต้องการแข่งขันกับตัวตนอายุน้อยและโดดเด่นเหล่านี้ โดยไม่ต้องมีกายาจักรพรรดิ อย่างน้อยเขาก็ต้องมีความแข็งแกร่งที่

 

น่าสะพรึงกลัวของวิหารสวรรแห่งที่สิบ มิฉะนั้นเขาจะไม่มีคุณสมบัติที่ จะท้าทายพวกเขา

ในช่วงเวลานั้น หัวใจของเย่ชิวเย็นชาไปหมด

หมิงเยว่เริ่มต้นได้ดีจริง ๆ ก่อนที่นางจะทาลายตานานของวิหาร สวรรแห่งที่เก้า ทุกคนจะไม่กล้าก้าวหน้าไปกว่านี้หลังจากบ่มเพาะสู่ วิหารสวรรแห่งที่เก้าเพราะความเสี่ยงนั้นมากเกินไป

หลังจากหมิงเยว่เปิดวิหารสวรรแห่งที่สิบ เส้นทางที่พร่ามัวใน ตอนแรกก็ชัดเจนในทันที ต่อมา พวกเขาค่อย ๆ มีเป้ าหมายและรู ้ว่า หลังจากวิหารสวรรแห่งที่เก้า ก็ยังมีวิหารสวรรค์แห่งที่สิบอยู่

พวกเขาเป็ นคนภาคภูมิใจและเย่อหยิ่งตั้งแต่แรกเริ่ม ดังนั้นพวก เขาจึงไม่สามารถด้อยกว่าคนอื่นได้ พวกเขาทั้งหมดจึงเริ่มที่จะบุก ทะลวงไปยังวิหารสวรรแห่งที่สิบสูงสุด

ผลทางอ้อมคือวิหารสวรรแห่งที่สิบได้กลายเป็ นเกณฑ์ของ อัจฉริยะของโลกไปแล้ว หากไม่ถึงระดับนี้ พวกเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่ จะแข่งขันกับพวกเขา

“ฮ่าฮ่า… ศิษย์พี่หญิง ท่านเริ่มต้นได้ดีจริง ๆ ” เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เย่ ชิวก็อดหยอกเย้าไม่ได้ หมิงเยว่เหลือบมองและไม่พูดอะไร

แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะมีวิหารสวรรแห่งที่สิบ แต่หมิงเยว่ก็มั่นใจ อย่างยิ่งว่าไม่มีใครสามารถเอาชนะนางได้ทันเวลา นี่คือความมั่นใจที่ ไร ้เทียมทานของนาง และนางมีทุนที่จะมั่นใจมากพอ

 

ไม่ต้องสงสัยว่าเส้นทางที่นางเดินมาตลอดทางนั้นยากกว่าที่อื่น เป็ นร ้อยเท่า ตานานที่นางสร ้างขึ้นนั้นไม่ใช่สิ่งที่แค่วิหารสวรรแห่งที่ สิบเท่านั้นที่จะทาได้

หลิงเทียนยิ้มทักทายหมิงเยว่ แต่เขาไม่สนใจเย่ชิวและไม่แม้แต่จะ มองมาที่อีกฝ่ าย เมื่อเห็นสิ่งนี้ เย่ฉิงซวนจึงรู ้สึกขบขันทันที “ฮิฮิ เจ้า โง่ วันดี ๆ ของเจ้าจบลงแล้ว”

ในฐานะหนึ่งในตระกูลโบราณเพียงไม่กี่คน เย่ฉิงซวนและหลิง เทียนเป็ นเหมือนไฟและน้า ไม่เพียงแต่ทั้งสองมีความแค้น แต่ตระกูล ของพวกเขาก็มีความแค้นเช่นกัน

เมื่อเห็นหลิงเทียนไม่สนใจเย่ชิว เย่ฉิงซวนก็หัวเราะในใจทันที เขารู ้ดีว่าเย่ชิวเป็ นคนแบบไหน และเขายังรู ้ถึงความแข็งแกร่งของห ลิงเทียนอีกด้วย เขาเริ่มแอบดีใจทันที

“มันควรจะเป็ นเช่นนี้ เย่ชิว เจ้ากาลังมีปัญหา! สวดภาวนาให้ ตัวเองเถอะ” ขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เย่ฉิงซวนก็เผยรอยยิ้มที่ชั่ว ร ้ายและค่อย ๆ กลายเป็ นคนอวดดี

เมื่อเทียบกับหลิงเทียนแล้ว ความขัดแย้งกับเย่ชิวเป็ นเพียงการ ต่อสู้เล็ก ๆ เขาเต็มใจมากกว่าที่จะเห็นเย่ชิวจัดการกับหลิงเทียนและ จัดการกับทัศนคติที่เย่อหยิ่งจนเกินทนของอีกฝ่าย

 

“โอ้ นี่ไม่ใช่นายน้อยเย่หรอกรึ พวกเราเจอกันครั้งล่าสุดก็สิบปีที่ แล้ว เหตุใดข้าถึงรู ้สึกว่าเจ้าอ่อนแอกว่าเดิม” ในตอนนี้ หลิงเทียน แสร ้งทาเป็ นว่าเพิ่งเห็นเย่ฉิงซวนและพูดด้วยความประหลาดใจ

ใครก็ตามที่มีสายตาที่เฉียบแหลมสามารถเห็นการเยาะเย้ยใน ค าพูดของอีกฝ่ ายได้ และด้วยความเข้าใจของทุกคนเกี่ยวกับเย่ฉิง ซวน ปฏิกิริยาปกติของอีกเขาหลังจากได้ยินประโยคนี้ควรจะโกรธ มาก แต่ทว่า ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เขาไม่โกรธ เขายังเผยรอยยิ้มที่ดูเศร ้า หมองอีกด้วย

ทุกคนต่างงงงวย ทันใดนั้น เย่ฉิงซวนก็สะกิดไหล่เย่ชิวแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจท่าน ท่านทนได้อย่างไร”

ทันใดนั้นประโยคนี้ก็ทาให้ทุกคนตะลึง

เย่ชิวมองอีกฝ่ ายอย่างไม่อยากเชื่อ “เวรเอ๊ย! เด็กคนนี้มีสมอง แล้ว เขาเริ่มฉลาดแล้วหรือ”

เย่ชิวรู ้สึกประหลาดใจมาก นั่นไม่ถูกต้อง ความประทับใจที่มีต่อ เย่ฉิงซวนไม่ใช่เช่นนี้ เป็ นไปได้หรือไม่ว่าเด็กคนนี้โกรธเขามากจน พลันนึกอะไรบางอย่างออกและเริ่มฉลาดขึ้น

ทันทีที่เย่ฉิงซวนพูดเช่นนี้ บรรยากาศก็แปลกไปทันที เมื่อเขา เตือนพวกเขาว่าทุกคนค่อย ๆ ค้นพบเย่ชิวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หมิงเยว่

หลายคนไม่เคยเห็นเย่ชิว นับประสาอะไรกับตัวตน หลิงเทียนก็ เช่นเดียวกัน เขานึกไม่ออกว่าจะมีใครในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยา

 

สวรรค์ที่กล้าเดินเคียงข้างกับหมิงเยว่ มันเป็ นการละเมิดกฎไม่มากก็ น้อย

“เจ้าคือ” หลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะถาม เขามีความรู ้สึกเป็ นลางไม่ ดี ทันทีที่เขามาถึง เขาทักทายหมิงเยว่โดยไม่แสดงความเคารพใด ๆ เพราะสถานะของหมิงเยว่นั้นชัดเจน แต่ทว่า เย่ชิวถูกเขาเพิกเฉย เพราะเขาคิดว่าเย่ชิวเป็ นเบี้ยที่ไม่รู ้จักเท่านั้น

ก่อนที่เย่ชิวจะทันตอบ เย่ฉิงซวนก็พลันตะโกนอย่างโกรธจัด “เจ้าคนอวดดี เจ้าตาบอดหรือ เจ้ารู ้หรือไม่ว่านี่คือใคร”

“เวรเอ๊ย!!” เย่ชิวตกตะลึงเล็กน้อย

เย่ฉิงซวนพูดอย่างเย็นชาว่า “หลิงเทียน เจ้าคิดว่าไม่มีใครใน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ทั้งหมดที่สามารถจัดการกับเจ้าได้รึ เจ้ากล้าดีอย่างไรมาดูถูกท่านเทพ เจ้าท้าทายอ านาจของศาลา เยียวยาสวรรค์ของข้า”

ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ใบหน้าของหลิงเทียนซีดลง ทันที และสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป