ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - ตอนที่ 119 คำพูดของเฮยฉาน!

ฉางหลุนกับเหยาเจียและคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึงแล้วพวกเค้าก็ยืนงงไปซักพัก

ฉินเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วพูดว่า "ออกไปเถอะ ก่อนที่ฉันจะออกไปจากที่นี่ ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้ามาในนี้"

"โอเค…ค่ะ ประธานฉิน!" เหยาเจียพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

หลังจากแยกย้ายกันไปแล้ว ฉินเฉิงก็เดินตรงไปที่น้ำตกขนาดใหญ่

น้ำตกแห่งนี้แทบจะไม่มีใครเคยเข้ามาแตะต้องมันเลย มันมีร่องรอยของพลังอยู่ในน้ำตกแห่งนี้

ฉินเฉิงเดินไปที่หน้าน้ำตกแล้วนั่งลงอย่างช้าๆ

เค้าวางมือลงบนขาของเค้าและหลับตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็ปล่อยให้อารมณ์สงบลงอย่างช้าๆ

ตลอดทั้งวันจนถึงกลางคืน ฉินเฉิงก็ค่อยๆลืมตาขึ้น

"ใกล้แล้วสินะ" ในตอนนี้ฉินเฉิงสงบนิ่งราวกับสายน้ำ ดวงตาของเค้าดูไม่มีความผันผวนอะไรเลย

ข้างหน้าเค้ามีราชาแห่งยาที่สั่งสมมาหลายปี พืชสมุนไพรสามชนิดที่มีอายุกว่าหนึ่งพันปีและพืชสมุนไพรที่ไม่รู้จักจากตระกูลชู

หลังจากเลือกอย่างระมัดระวัง ในที่สุดฉินเฉิงก็ตัดสินใจปรับแต่งยารวมชีพจร!

ยารวมชีพจรนี่เป็นยาเม็ดอมตะที่แท้จริง มันแตกต่างจากเม็ดยาบ่มเพาะจิตวิณญาณ แม้ว่ามันจะทำให้เป็นอมตะ แต่มันก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก

ว่ากันว่ายาบ่มเพาะจิตวิญญาณแต่ละอันก็สามารถสร้างผลลัพธ์ได้แตกต่างกันออกไป บางคนสามารถไปถึงจุดสูงสุดของระยะสร้างฐานรากของพลังปราณ บางคนต่อให้ใช้มันไป แต่ก็ไม่เกิดผลลัพธ์อะไรเลย

เพื่อที่จะปรับปรุงความแข็งแกร่งของเค้าโดยเร็วที่สุด ฉินเฉิงจึงตัดสินใจเสี่ยงกับมัน

ในฝ่ามือของเค้ามีเปลวไฟสีฟ้าลุกโชนและเปลวไฟนี้มันก็สั่นไหวอยู่ในฝ่ามือของเค้า ท่ามกลางความมืดมันก็ดูน่ากลัวเล็กน้อย

"เผา!"

ฉินเฉิงพูดขึ้นมาเบาๆแล้วโสมพันปีก็ถูกห่อด้วยเปลวไฟ

หลังจากนั้น ฉินเฉิงก็ได้นึกถึงสูตรสำหรับการปรุงยารวมชีพจรขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วต้นโสมก็มีขนาดเล็กลง! พลังที่มีอยู่ในโสมมันก็เริ่มบริสุทธิ์และเข้มข้นมากขึ้น

ตลอดทั้งคืนจนถึงตอนเช้า เปลวไฟในฝ่ามือของฉินเฉิงก็ค่อยๆจางหายไป

ในมือของเค้ามันไม่มียาเม็ด มันมีแต่ขี้เถ้า

"ล้มเหลวอย่างงั้นเหรอ" ฉินเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมา มันเห็นได้ชัดเลยว่าสภาพจิตใจของเค้ามันไม่ได้สงบลงอย่างสมบูรณ์ มันก็เลยทำให้การควบคุมเปลวไฟนี่มันยังไม่เสถียรมากพอ

"เห้อออ" ฉินเฉิงสูดลมหายใจเข้ายาวๆ เค้ามองดูน้ำตก จากนั้นจึงเดินเข้าไปใต้น้ำตกแล้วปล่อยให้กระแสน้ำไหลแรงกระทบกับร่างกายของเค้า

ในตอนเย็น ฉินเฉิงก็เริ่มปรุงยาใหม่อีกครั้ง

ด้วยยานี่มันก็เหลืออีกแค่สามเม็ดเท่านั้น เค้าปรุงยารวมชีพจรสองเม็ดได้สองเม็ดแล้ว

"ยารวมชีพจรสองเม็ด ฉันไม่รู้เลยว่ามันจะปรุงความแข็งแกร่งได้มากแค่ไหน" ฉินเฉิงแอบคิดในใจ

เค้าไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะก้าวไปสู่จุดสูงสุดทีละขั้น เค้าแค่ต้องการก้าวเข้าสู่ระยะการสร้างฐานรากของพลังปราณขั้นที่ห้าก็เท่านั้น!

ด้วยความแข็งแกร่งของชั้นที่ห้านี้ ฉินเฉิงมั่นใจว่าจะสามารถต่อสู้กับมหาเจ้าแห่งพลังปราณได้อย่างแน่นอน!

เค้าไม่รอช้า เค้ากลืนยานี้ลงในท้องของเค้า พับมือ กลั้นลมหายใจแล้วซึมซับยารวมชีพจรอย่างเงียบๆ

….

เซียงเหม่ยเอ๋อที่อาศัยอยู่ที่ภูเขาหลงไห่ เธอก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย เธอเองก็ไม่เจอใครมาแล้วถึงสามวัน

"ทั้งสองหายตัวไป นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่" เซียงเหม่ยเอ๋อขมวดคิ้ว

เธอพยายามโทรหาซูวาน แต่ซูวานก็ไม่รับสายของเธอเลย

ในตอนนี้เอง เหล่าซ้งก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า "คุณหนูครับ ฉันพบรูปแบบของพลังบางอย่างที่น่าสงสัยบนภูเขาหลงไห่"

"รูปแบบของพลัง?" ในแววตาของเซียงเหม่ยเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยขึ้นมา

"พาฉันไปดู" เซียงเหมยเอ๋อพูดขึ้นมา

เธอใช้จิตของเธอรับรู้ถึงพลังนั่นแล้วแววตาของที่ดูประหลาดใจของเซียงเหม่ยเอ๋อก็ดูเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ

"รูปแบบของพลังนี่มันละเอียดอ่อนมากและเทคนิคก็ยอดเยี่ยมมาก!" เซียงเหม่ยเอ๋อพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ "หรือว่าฉินเฉิงนั่นเค้าจะเป็นคนที่มีพลังแรงกล้า?"

"เป็นไปไม่ได้" เหล่าซ้งก็ไม่ค่อยชอบฉินเฉิงซะเท่าไหร่ ดังนั้นเค้าก็เลยรีบปฎิเสธมันโดยไม่คิดทบทวนอะไรเลยด้วยซ้ำ

"ถ้าเค้าจะมีความสามารถมากคนได้กล้าเป็นเจ้าแห่งพลังปราณในอายุเพียงแค่นี้หละก็ นี่มันน่าเหลือเชื่อมาก" เหล่าซ้งก็วิเคราะห์ขึ้นมา "มันไม่มีใครในโลกที่สามารถบรรลุความสามารถด้านพลังเวทและการต่อสู้ไปได้พร้อมๆกันหรอกนะครับ"

"นี่มันก็เลยทำให้ฉันประหลาดใจไงหละ" แววตาของเซียงเหม่ยเอ๋อก็กรอกไปมา มันไม่รู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

นี่มันก็สามวันแล้ว ฉินเฉิงยังไม่เดินออกจากบ้านริมเขาของเฝิงชื่อเลย

ในตอนนี้เอง อากาศมันก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ นอกจากสาวสวยคนหนึ่งแล้ว แทบทุกคนก็สวมเสื้อโค้ท

อย่างไรก็ตามบนถนนที่เจริญรุ่งเรืองนี้ มันก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่ง

เค้ามีผมหงอก มีกลิ่นแปลกๆบนร่างกายและเสื้อผ้าของเค้ามันก็บาง เค้าสวมแต่เสื้อผ้าสีดำทั้งตัว

"พี่ ฉินเฉิงไม่สนใจฉันเลย ฉันเองก็ไม่รู้จะทำยังไงดี" ที่หน้าร้านขายอาหาร ผู้หญิงสองคนในชุดกันหนาวก็กำลังคุยกัน

สีหน้าของหลินชิงเฉิงก็ดูไม่ได้เลย ตระกูลหลินไม่สามารถทนได้อีกต่อไป หากพวกเค้าไม่สามารถหาทางแก้ไขำด้ ตระกูลหลินจะต้องล้มละลายอย่างแน่นอน

"สองสามวันมานี้ฉันไปที่ภูเขาหลงไห่มา ฉันเข้าไปที่นั่นไม่ได้เลย" หลินชิงซือก็ถอนหายใจออกมา

"อย่างงั้นจะให้ฉันพาเข้าไปไหมหละ" ในตอนนี้เอง ชายชราในชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างๆทั้งสองคน

หลินชิงชือก็ตกใจ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยในตอนที่เธอกำลังจะพูด

กลิ่นของคนๆนี้…เหมือนจะคุ้นๆนะ!

"แย่แล้ว!" หลินชิงชือก็นึกถึง"ขอทาน" ในวันนั้นได้ เธอลากหลินชิงเฉิงมาแล้ววิ่งหนีไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ!

เฮยฉานมองไปที่หลินชิงชือด้วยความตื่นเต้นและเลียที่มุมปากของเค้า

ในวินาทีต่อมานี้เอง เค้าก็เข้ามาขวางทางของหลินชิงชือเอาไว้

"แก… แกคิดจะทำอะไรของแก!" หลินชิงซือพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่สะพรึงกลัว เธอเอามือปิดไปที่หน้าอกของเธอ

เฮยฉานยิ้มและหรี่ตาลง เค้ายกมือขึ้นเล็กน้อยแล้วลมสีดำที่มีกลิ่นเหม็นมันก็พุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเขา จากนั้นหลินชิงชือกลอกตาและหมดสติไป

…

บยภูเขาลูกนึงในปีนัง เฮยฉานก็กำลังร่ายคาถาอยู่

อากาศสีดำห่อหุ้มร่างของหลินชิงชือที่เปลือยเปล่า จากร่างของหลินชิงชือมันก็มีพลังบางอย่างที่โพงพุ่งออกมา

พลังนี้มันผสานเข้ากับร่างของเฮยฉาน จากนั้นเฮยฉานก็รู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น

"นี่คือพลังหยางที่บริสุทธิ…" เฮยฉานเลียริมฝีปากของเค้า ใบหน้าของเค้าเต็มไปด้วยความโลภ

"เมื่อฉันดูดซับร่างของเธออย่างสมบูรณ์แล้ว ฉันจะฆ่าฉินเฉิงซะ!" เมื่อเค้านึกถึงพลังแห่งจิตศักดิ์ของเค้าก็สูญสลายไป เฮยฉานก็โกรธแค้นขึ้นมา

หลังจากผ่านไปแล้วสามวัน จู่ๆบนภูเขามันก็เกิดเสียงดังขึ้นมา!

ร่างกายของเฮยฉานมันก็ลอยอยู่ในอากาศ จากนั้นกลิ่นเหม็นมันก็ปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ของภูเขา

ต้นไม้ในรัศมีหลายสิบเมตรก็สูญเสียพลังชีพไป จากนั้นทั้งยอดเขามันก็แห้งแล้งและไม่มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลืออยู่

"นี่คือร่างของหยางที่บริสุทธิ์!" เฮยฉานก็ตื่นเต้นมาก เค้าดูดซึมพลังได้เพียงแค่สามวันเท่านั้น เค้าก็เข้ามาถึงระดับขั้นของมหาเจ้าแห่งพลังแล้ว!

เค้ามองไปที่หลินชิงชืออย่างตะกละตะกลามแล้วพูดเบาๆขึ้นมาว่า: "เมื่อฉันฆ่าฉินเฉิงแล้ว ฉันจะพาเธอกลับไปที่เมืองซวนหมิง เพื่อเลี้ยงหนอนกู่ของฉัน! เมื่อถึงตอนนั้น มันจะไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถสู้ฉันได้อีก!"

หลังจากพูดจบ ร่างของเฮยฉานก็หายไปในอากาศ มันเหลือเพียงแค่พลังงานสีดำที่ระเบิดออกมาเท่านั้น

เช้าวันต่อมา มันก็มีข่าวที่ดังไปทั่วทั้งเมืองปีนัง:

อาจารย์พลังเวทตะวันตกเฉียงใต้ต้องการฆ่าฉินเฉิง!

ภายในสามวันถ้าฉินเฉิงยังไม่ปรากฎตัวออกมา เค้าจะเริ่มลงมือจากคนรอบข้าง!