ฟีนิกซ์นิพพาน-ตำนานหยวนชิงหลิง - ตอนที่ 177 มากกว่าความสุข
ซีมามาจึงกล่าวต่อไปว่า "คนสนิทที่อยู่ข้างกายพระชายาในยามนี้ มีฉีมามา เฉียนมามา ลู่หยา ฉีโหลวและหม่อมฉัน นอกจากพวกเราห้าคนนี้แล้ว ข้ารับใช้คนอื่นในจวนไม่สามารถเข้าใกล้พระชายาได้อีก"
อวี่เหวินฮ่าวพลันกำชับเพิ่มอีกว่า "ซวีอี หลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าไม่ต้องติดตามเปิ่นหวางแล้ว เจ้าคอยอยู่ดูแลพระชายาภายในจวนก็พอ จงจำไว้ หากมีผู้ใดมาเยี่ยมเยียน เจ้าต้องแจ้งแก่ทังหยางและซีมามา หากว่าพวกเขาสองคนนี้อยู่ในจวนละก็ ถึงสามารถให้เข้ามาได้ เจ้าต้องคอยระวังให้ดี ไม่ใช่ผู้ใดจะเข้ามาหาพระชายาก็สามารถเข้ามาได้"
ถ้าหากข่าวคราวเรื่องการตั้งครรภ์กระจายออกไปแล้ว พระชายาชินอ๋องทั้งหลายรวมไปถึงองค์ชายทั้งหมด พร้อมทั้งคนในจวนจิ้งโหวต้องกรูกันมาเป็นแน่ ยิ่งคนมากยิ่งมากเรื่อง เช่นนั้นจะทำให้การป้องกันยิ่งยากลำบากเข้าไปอีก
"พะยะค่ะ!" ซวีวีพลันรับคำสั่งด้วยเสียงหนักแน่น
ทังหยางเหลือบมองไปที่ซวีอี พร้อมกล่าวกำชับออกมาว่า "ครั้งนี้เจ้าห้ามทำผิดพลาดเป็นอันขาด รู้หรือไม่"
"ขอรับ พ่อบ้านทังวางใจได้ ซวีอีขอเดิมพันทั้งชีวิตนี้ เพื่อปกป้องท่านอ๋องน้อยขอรับ" ซวีอีพลางรู้สึกกระตือรือร้นไปกับภารกิจที่ตนได้รับทันที เมื่อคิดถึงพระชายาจะให้กำเนิดคุณชายตัวอยแล้ว เขารู้สึกว่าเลือดในกายพลันร้อนระอุขึ้นมา
เมื่อเทียบกันดูแล้ว เขายังตื่นเต้นกว่าฮูหยินของตนเองคลอดลูกออกมาเสียอีก ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่มีฮูหยินก็ตาม. หมอหลวงจึงไล่ทุกคนออกจากห้องไป เพื่อที่จะได้ให้พระชายาได้พักผ่อน
ในที่สุดทุนคนก็ออกไปจากห้อง เหลือเพียงแค่อวี่เหวินฮ่าวที่อยู่ข้างกายหยวนชิงหลิงเท่านั้น อวี่เหวินฮ่าวพลางค่อยๆโอบกอดหยวนชิงหลิงด้วยความระมัดระวัง
มือพลันค่อยๆเลื่อนมาวางด้านข้างของท้องน้อยหยวนชิงหลิง พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "ลำบากเจ้าแล้ว"
หยวนชิงหลิงจึงชำเลืองหน้าขึ้นไปมองเขาเล็กน้อย ทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเกรงกลัว นางไม่เคยเห็นเขาตกอยู่ในอาการเช่นนี้มาก่อนเลย
หยวนชิงฟลิงจึงค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสกับดวงตาที่ปูดบวมทั้งสองข้าง ใต้ตาที่ปรากฏลอยคล้ำของดวงตา หยวนชิงหลิงจึงค่อยๆเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแห้บแห้งว่า "ท่านมีความสุขหรือไม่ ?"
"มิใช่แค่ความสุข หากแต่เป็นความรู้สึกที่มั่นคงเสียมากกว่า " อวี่เหวินฮ่าวพลันเอื้อมมือมากุมมือของหยวนชิงหลิงพร้อมทั้งจุมพิตที่มืออย่างแผ่วเบา
"มั่นคง?" นางไม่ค่อยเข้าใจนัก
อวี่เหวินฮ่าวเพียงแย้มยิ้มเล็กน้อย "ใช่แล้ว มั่นคง ข้ารู้สึกว่าจากนี้ เจ้าก็หนีข้าไปไหนไม่ได้อีกแล้ว"
"ข้าจักหนีท่านไปทำไมกัน ?" หยวนชิงหลิงยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่
อวี่เหวินฮ่าวจึงจ้องจ้องมองมาที่หยวนชิงหลิง สายตาเต็มไปด้วยความแวววาวระยิบระยับ "ไม่รู้งั้นหรือ ข้ารู้สึกอยู่ในในใจมาโดยตลอดว่าต้องมีสักวันหนึ่งที่เจ้าจะจากข้าไป"
หยวนชิงหลิงรู้สึกแปลกใจยิ่งนัก "เหตุใดท่านถึงคิดเช่นนั้นกัน ?"
"อาจะเป็นเพราะว่า จู่ๆเจ้าก็รู้จักการทักษะการแพทย์ขึ้นมากระมัง จู่ๆก็มีกล่องยา จู่ๆเจ้าก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นอีกคนหนึ่ง ที่จริงแล้ว ข้าไม่กล้าที่จะพยายามค้นหาคำตอบมากนัก หลังจากที่เจ้าและข้าค่อยๆดีกันแล้ว เจ้าเห็นว่าข้าเคยถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้หรือไม่เล่า ?"
"สองวันที่ผ่านมา ท่านก็ยังถามข้าอยู่เลย อีกทั้งท่านยังหาว่าข้ามีอะไรปิดบังท่านอีกด้วย พวกเรายังใช้เม็ดยาจื่อจินและกล่องยาในการโต้เถียงกันอยู่" หยวนชิงตอบ
"ข้าก็ยังไม่กล้าถามลึกไปกว่านี้ อีกทั้ง ข้าก็เพียงแค่ลองถามเจ้าเฉยๆ ข้าอยากจะรู้เรื่องของเจ้า แต่ก็ไม่กล้าที่จะฟังเช่นกัน "อวี่เหวินฮ่าวพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก "ทว่า ในยามนี้ ข้าวางใจได้แล้ว เจ้าตั้งครรภ์เช่นนี้ เสมือนว่ามีโซ่ทองคล้องใจ อย่างไรเจ้าก็ไม่ไปจากข้าเป็นแน่ ในตำราล้วนแต่เขียนไว้เช่นนี้ หลังจากที่เทพธิดาตกจากสวรรค์ หากมีบุตรเมื่อใด พวกนางย่อมไม่อาจหักห้ามใจหนีไปได้"
"อะไรกัน? ข้ามิใช่เทพธิดาเสียหน่อย" หยวนชิงหลิงพลันหุบยิ้มลง
อวี่เหวินฮ่าวจึงหัวเราะออกมา "ไม่รู้ บางทีข้าก็มีคิดอันใดไปเรื่อยเปื่อยเช่นกัน เรื่องเช่นนี้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้. รวมไปถึงความเป็นมาที่เป็นปริศนาของกล่องยาของเจ้าอีก"
"ท่านคิดไปเรื่อยเปื่อยเสียจริง? " หยวนชิงหลิงพลันขยับตัวเล็กน้อย นางรู้สึกมาตลอดว่าเขามักจะทำตัวต่อต้านนาง หากแต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะแอบเก็บเรื่องพวกนี้ไปคิดเสียได้
"ใช่ ยามที่รู้สึกใจสงบแล้ว ข้ามักจะครุ่นคิดอยู่เสมอว่าแท้จริงแล้วเจ้าคือใครกันแน่"
"ข้าก็คือหยวนชิงหลิง! ไง" นางชะงักไปครู่หนึ่ง
อวี่เหวินฮ่าวจึงจ้องมองไปที่นาง "ใช่แล้ว เจ้าคือหยวนชิงหลิง เป็นมารดาของบุตรชายข้า"
หยวนชิงหลิงพลันค่อยๆหายใจออกมา ตกลงว่าเขาเชื่อหรือไม่เชื่อกัน ? ภายในใจเขาแอบคิดอันใดอยู่กัน ?
"หลังจากนี้ท่านไม่ต้องคิดอันใดไร้สาระแล้ว แม้ว่าท่านจะครุ่นคิดเสียจนสมองพังลงไป ข้าก็คือหยวนชิงหลิงอยู่ดี"หยวนชิงหลิงพลันกล่าวขึ้นมา
เขาเหลือยมองหยวนชิงหลิงเล็กน้อย "เช่นนั้น มิใช่เทพธิดาจริงๆนะหรือ ?"
นางหัวเราะพร้อมกล่าวคำด่าออกมา "เทพธิดาอะไรกัน ? พูดจาไร้สาระเกินไปแล้ว!"
อวี่เหวินฮ่าวพลันถออนหายใจออกมา "ข้ารู้แล้วว่าไม่ใช่ เจ้าที่เป็นอย่างนี้นะหรือ จะไปเป็นเทพธิดาได้? เพียงอีกนิดเดียว เจ้าก็จะทำลายภาพลักษณ์เทพธิดาในความคิดของข้าไปหมดแล้ว"
หยวนชิงหลิงมิได้โมโหแต่อย่างใด นางเพียงแต่หัวเราะออกมา ทว่า จู่ๆก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ "ใช่แล้ว พรุ่งนี้ท่านจะเข้าวังไปกราบทูลใช่หรือไม่ ?"
"อื้ม ไปกราบทูล" อวี่เหวินฮ่าวพลางกล่าวขึ้นมา
"มิใช่ว่ายังมิถึงสามเดือนก่อน ค่อยไปกราบทูลหรอกหรือ ? "
อวี่เหวินฮ่าวจึงกล่าวว่า "คืนนี้จวนฉู่อ๋องทำตัวเอิกเกริกถึงเพียงนี้ แม้ว่าจะมีแต่คนของเรากันเอง หมอหลวงถูกเรียกมาหาดึกดื่นได้เช่นนี้ อย่างไรย่อมต้องเป็นจุดสนใจอย่างแน่นอน เจ้าเชื่อหรือไม่ พรุ่งนี้หมอหลวงต้องถูกเรียกไปสอบสวนเป็นแน่? แม้ว่าเราจะไม่สามารถปกปิดเรื่องนี้ได้ เช่นนั้น พวกเราก็เปิดเผยเรื่องนี้กันเองเป็นอย่างไร? "
"พวกเรากำลังถูกจับตามองอยู่หรือไม่ ?" หยวนชิงหลิงราวกับรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
อวี่เหวินฮ่าวพลันค่อยๆยกมือที่โอบกอดบนท้องของหยวนชิงหลิงออกมา "ข้าก็ยังเป็นชินอ๋องที่ไร้ความโปรดปรานเช่นเดิม แม้จะมีใครบางคนคิดว่าข้าตาบอด มีคนต้องการลอบสังหารข้า มิต้องพูดถึงตำแหน่งเจ้ากรมการพระนครของข้าเลย และเจ้ายังสามารถรักษาเจ้าหกให้หายดีเช่นนี้อีก ยังเป็นที่โปรดปรานของไท่ซั่งหวงอีกด้วย พวกเราสองคนสามีภรรยาล้วนแต่เป็นขวากหนามทิ่มแทงใจให้กับใครหลายๆคน เป็นเนื้อชิ้นใหม่ที่ใครๆก็อยากจะจัดการ"
เมื่อหยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดเช่นนี้ออกมา จึงจับจ้องไปที่อวี่เหวินฮ่าวในทันที "หากเป็นเช่นนั้น ยามที่ลูกของเราเกิดมา ย่อมเป็นอันตรายอย่างแน่นอน"
เช่นนั้น หากพวกเราอย่าเพิ่งให้ลูกของเราเกิดมารับเคราะห์เลย หยวนชิงหลิงพลันขบคิดกับตนเองอยู่ครู่หนึ่ง ทว่า ก็ไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาอยู่ดี
อวี่เหวินฮ่าวจึงโอบกอดหยวนชิงหลินให้แน่นนขึ้น พร้อมกล่าวออกมาอย่างมั่นใจว่า "ปกป้องภรรยาและบุตรของตนย่อมเป็นหน้าที่ของบุรุษที่พึงกระทำ เจ้าเพียงแค่วางใจเสียเถอะ ข้าย่อมไม่ปล่อยให้พวกเจ้าโดนผู้ใดรังแกเป็นแน่"
หน้าอกที่แข็งแรงของบุรุษ พร้อมทั้งคำพูดที่อ่อนโยนและคำมั่นสัญญาที่แน่วแน่ ย่อมต้องทำให้สตรีรู้สึกซาบซึ้งใจ หยวนชิงหลิงรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทั้งสองได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว นางรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเขา เขามิได้บ้าอำนาจและเย็นชาเฉกเช่นแต่ก่อน ทว่าตอนนี้ เขาคิดแต่จะร่วมรักกับนางอย่างเดียวและยังรู้จักอ่อนโยนมากขึ้นพร้อมใส่ใจนางมากขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะในตอนนี้ หยวนชิงหลิงรับรู้ได้ดีว่าเขามีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้นแล้ว แม้แต่ก่อนเขาก็มีความรับผิดชอบของตนเอง. หากแต่ในยามนี้เขาต้องแบกรับความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ชายคนนี้เป็นคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไปจนสุดทางได้จริงๆ
ในยุคสมัยนี้ ขุนนางแต่ละคนมักจะมีสามภรรยาสี่อนุ ทว่าเขาไม่มี แม้ว่าเขาจะมีรักเก่าอยู่บ้าง หลั
งจากที่ได้อยู่กับนางแล้ว เขาก็ตัดขาดการติดต่อจากรักเก่าอย่างเด็ดเดี่ยว ทำทุกอย่างสะอาดหมดจดมิให้ผู้ใดสาดสีสาดโคลนได้. แม้ว่าก่อนหน้านั้น เขาจะดุร้ายไปบ้าง นั้นเป็นเพราะเขาเข้าใจดีว่าเขาไม่จำเป็นต้องแบกรับหน้าที่ในคราก่อนแล้ว เหลือเพียงแค่ต้องทำหน้าที่รับผิดชอบต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเพียงอย่างเดียว
อวี่เหวินฮ่าวจริงใจต่อนาง มิได้ใส่หน้ากากท่านอ๋องเข้าหา อีกทั้งยังพูดคุยกับนางอย่างตรงไปตรงมาและยังรับฟังความคิดเห็นของนางอย่างจริงใจ เขายังรักนางและรักในสิ่งที่นางชมชอบอีกด้วย แม้ว่าที่แรกเขาจะไม่ค่อยชอบตัวเป่า จนถึงตอนนี้เขาก็ยังเล่นกับตัวเป่า แม้ในคราก่อนจะไม่ชอบคนจากบ้านเดิมของนาง หากแต่ในครานี้ เขาก็ยังทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อหาสามีให้น้องสาวนางอย่างเต็มใจ นางบอกกล่าวกับตนเองในใจว่า หยวนชิงหลิง บุรุษผู้นี้เป็นคนดีมากแล้ว ในยุคนี้ เจ้าไม่สามารถไปหาคนเช่นเขาได้จากที่ใดแล้ว เจ้าคลอดบุตรชายบุตรสาวให้เขา นั่นเป็นสิ่งที่สมควรกระทำที่สุดแล้ว
ในยุคก่อนของนางนั้น ก็ถือว่าเป็นยุคของบุรุษเจ้าชู้เช่นกัน ฉะนั้นเมื่อมาอยู่ในยุคนี้แล้ว อย่างไรนางก็ไม่สามารถไปหาผู้ใดที่จะดีต่อนางได้เช่นนี้อีก เจ้าควรรู้จักพอได้แล้วหยวนชิงหลิง!
"มือของท่านกำลังทำอันใด?" หยวนชิงหลิงพลันดึงมือของเขาไว้ได้ทัน แต่เดิมมือของเขาที่วางอยู่บนท้องของนางนั้น ค่อยเคลื่อนตัวไปดึงขากางเกงของนางลงไป หมายความว่าอันใดกัน?
ประโยชน์เพียงอย่างเดียวที่บุตรคนนี้มอบให้นางได้ก็คือเวลาว่างในตอนกลางคืน อวี่เหวินฮ่าวอดไม่ได้ที่จะดึงมือกลับไป พร้อมกับถอนหายใจออกมา การมาของบุตรคนนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก เวลาว่างในตอนกลางคืนของเขาหายไปหมดเลย
"อะไรกัน? แค่นี้ก็อดใจไม่ได้แล้วหรือ? อีกสิบเอ็ดเดือนที่เหลือท่านจะทำอย่างไรกัน ?" หยวนชิงหลิงพลันกล่าวถามด้วยความเยาะเย้ย
อวี่เหวินฮ่าวได้แต่ท่องคำว่าอมิตาพุทธภายในใจ พร้อมกล่าวออกมาอย่างงียบๆว่า "สิบเอ็ดเดือนจะแค่ไหนกัน? มิใช่ว่ายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาข้าก็ผ่านมาได้หรอกหรือ? ข้ามีวิธีของข้าเอง"
"วิธีอะไรกัน ?" หยวนชิงหลิงพลันหุบยิ้มลงทันที
อวี่เหวินฮ่าวพลันมองมาที่หยวนยชิงหลิงด้วยความลึกซึ้ง "มือของเจ้าว่างหรือไม่ ?"
หยวนชิงหลิงพลันเอื้อมมือออกไปตบหน้าเขาทันที "ว่างสิ ท่านจะให้ข้าตีไปที่ใด?"
อวี่เหวินฮ่าวพลันพ่นลมหายใจออกมา "พระรูปนี้ หากมิได้กินเนื้อก็คงดี เมื่อกินไปแล้ว เกรงว่าจะต้องกินเพิ่มอีก เปิ่นหวางกับพระเป็นเช่นนี้มายี่สิบหว่าปีแล้ว ในเมื่อได้ลิ้มลองเนื้อ ก็ไม่สามารถกินให้อิ่มได้ หากให้หยุดกินเนื้อไปเลย นั่นก็คงจะโหดร้ายเกินไปหน่อย"
"เช่นนั้น ก็ได้ตามใจท่าน พรุ่งนี้ท่านก็ต้มยาแท้งลูกให้ข้าสักชามเถิด" หยวนชิงหลิงพลางหันข้างมองเขา