ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 46 เด็กที่ถูกทอดทิ้ง
"องค์หญิงระวังนะเพคะ" เฉี่ยนอินตะโกนอย่างกังวล วิ่งไปข้างหน้า กอดหยุนชางไว้ ผลักนางไปที่ฝั่ง แต่ตัวเองดันลื่นลงไปในทะเลสาบ
"มีคนตกน้ำ"
พอหยุนชางได้สติ ก็เห็นเฉี่ยนอินผลุๆโผล่ๆในทะเลสาบ หยุนชางหรี่ตาของนาง จากนั้นก็ขึ้นเสียง "ยังไม่รีบมาช่วยคนอีก?"
เหล่าขันทีที่ตามหลังก็กระโดดลงน้ำทีละคน ว่ายไปหาเฉี่ยนอิน
"องค์หญิง ท่านไม่เป็นไรใช่ไหมเพคะ" ฉิงยีรีบเข้าไป เอนไปทางด้านข้างของหยุนชางและถามด้วยความกังวล หยุนชางส่ายหัว "ข้าไม่เป็นไร ถูกเฉี่ยนอินผลักออกมา เพียงว่าเฉี่ยนอิน…"
หยุนชางขมวดคิ้ว สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
"ชางเอ๋อร์ ไม่ต้องกังวล มีคนมากมายเช่นนี้ ต้องช่วยนางกำนัลของเจ้าได้อย่างปลอดภัยอย่างแน่นอน นางกำนัลของเจ้าดูเป็นคนอารมณ์ดี มีความกล้าหาญ ช่วยชีวิตเจ้าในช่วงเวลาที่สำคัญ" ฮองเฮาเดินไปที่หยุนชาง ตบมือนางและกระซิบเบาๆ
หยุนชางพยักหน้า "เพคะ…"
ฮองเฮาเห็นหยุนชางจ้องมองไปที่ทะเลสาบอย่างกังวล พอใจอย่างมาก จึงหยุดพูด
"ช่วยได้แล้ว ช่วยได้แล้วเพคะ องค์หญิง" ขันทีหลายคนร่วมมือช่วยกันยกเฉี่ยนอินขึ้นฝั่ง หยุนชางรีบเดินไปที่ข้างเฉี่ยนอิน เมื่อเห็นเฉี่ยนอินคายน้ำออกมาสองสามครั้ง และดูอ่อนแอมาก ก็รีบนั่งลง ถามด้วยความเป็นห่วง "เฉี่ยนอิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? "
เฉี่ยนอินเหลือบมองไปที่หยุนชางและส่ายหัว "หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ องค์หญิงปลอดภัยก็ดีแล้วเพคะ" ทันทีที่เสียงลดลง นางก็เป็นลมไป
"ยังไม่รีบไปตามหมอหลวง" เสียงอันสง่าผ่าเผยของฮองเฮาดังมาจากด้านหลัง แต่หยุนชางกลับเห็นมือของเฉี่ยนอินขยับเล็กน้อย
หลังจากช่วงเวลาแห่งความวุ่นวาย ตำหนักชิงซินก็ค่อยๆสงบลง หยุนชางเดินไปที่เตียงและนั่งลง พูดเบาๆว่า "เอาล่ะ ไปกันหมดแล้ว อย่าแกล้งอีกเลย"
คนบนเตียงลืมตาขึ้นข้างหนึ่ง มองไปที่หยุนชาง แล้วก็ค่อยๆลืมตาทั้งคู่ หยุนชางรู้สึกตลกเล็กน้อย จงใจพูดด้วยใบหน้าบึ้งตึงว่า "ฮองเฮาขอให้เจ้าทำเช่นนี้"
เฉี่ยนอินพยักหน้า "โดยให้ขันทีที่ส่งอาหารมาพูดกับหม่อมฉันก่อน เวลาฉุกเฉิน อีกทั้งไม่รู้ว่ากำแพงมีหูหรือไม่ จึงไม่กล้าที่จะพูด แต่องค์หญิงก็เดาได้แล้วใช่ไหมเพคะ? ถุงหอมกุ้ยฮวานั่น……"
ถุงหอมกุ้ยฮวามีกลิ่นซูเหอเซียงซึ่งเป็นที่โปรดปรานของฮองเฮา
หยุนชางรู้ความหมายของคำพูดของเฉี่ยนอิน และเพราะกลิ่นของซูเหอเซียงนั่น หยุนชางจึงตกลงตามข้อเสนอที่จะไปที่สวนอุทยานอวี้ฮวา เพียงแต่ว่า หยุนชางไม่รู้ว่าการแสดงที่ริมทะเลสาบคืออะไร?
"ฮองเฮาอาจได้ยินมาว่าหม่อมฉันไม่เป็นที่โปรดปราณในตำหนักชิงซิน องค์หญิงไม่โปรดหม่อมฉัน จึงต้องการช่วยเหลือหม่อมฉัน ดังนั้นฮองเฮาจึงส่งจดหมายมาให้หม่อมฉัน จะต้องพาองค์หญิงไปที่สวนอุทยานอวี้ฮวา เมื่อถึงเวลานั้นจัดเตรียมอุบัติเหตุบางอย่างไว้ หม่อมฉันจะต้องมุ่งความสนใจไปที่องค์หญิงอย่างแน่นอน เมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นกับองค์หญิง ต้องช่วยองค์หญิงอย่าวโดยเร็วที่สุด หากหม่อมฉันบาดเจ็บเล็กน้อย มันคงจะดีกว่านี้ไม่ได้แล้วเพคะ"เฉี่ยนอินยิ้มและมองไปที่หยุนชางด้วยกระพริบตาซ้ำๆ
"ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง ฮองเฮาช่างรีบร้อยจริงๆ เจ้ามาตำหนักชินซิงเพียงไม่กี่วันเอง" หยุนชางกระซิบ
เฉี่ยนอินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "องค์หญิง อีกไม่กี่วัน ก็จะเป็นวันเหมายัน เป็นวันที่ฝ่าบาทบบวงสรวงฟ้า ฮองเฮาเคยกำชับไว้ว่า จะต้องได้รับความไว้วางใจจากองค์หญิงก่อนวันเหมายัน หม่อมฉันรู้สึกว่า…… "
"เจ้าหมายความว่าฮองเฮาต้องการจัดการกับข้าในวันเหมายันงั้นหรือ" หยุนชางยิ้มเล็กน้อย "เป็นความจริงที่ว่า ข้าไม่ได้รุกรานคนอื่น แต่เป็นคนอื่นกำลังโจมตีข้า ถ้าเช่นนี้ข้า ครั้งนี้ ข้าจะฉวยโอกาสก่อน"
เฉี่ยนอินได้ยินเช่นนี้ ลุกขึ้นนั่งจากเตียงทันที ดวงตาของนางสว่างขึ้น "องค์หญิงจะทำยังไงเพคะ? หม่อมฉันหมั่นไส้ฮองเฮาผู้ที่น่ารำคาญมานานแล้ว องค์หญิง คราวนี้ต้องให้นางไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยนะเพคะ"
หยุนฉางยิ้มเล็กน้อย "อย่าเพิ่งใจร้อน ให้ข้าดูสิ่งที่นางต้องการจะทำก่อน"
เฉี่ยนอินพยักหน้าและพูดอีกครั้ง "องค์หญิง จะเล่าสิ่งที่น่าสนใจให้ท่านฟัง พักนี้ ฝ่าบาทไม่ได้ไปที่ตำหนักซีอู๋มาเป็นเวลาสองเดือนแล้วเพคะ ดูเหมือนว่าในช่วงนี้ฮองเฮาจะมีอารมณ์ไม่ดี หม่อมฉันได้ยินว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ฮองเฮาได้เลือกนางกำนัลที่ดูดีเพื่อต้องการส่งนางกำนัลไปให้ฝ่าบาท เป็นการดีที่จะมัดตัวฝ่าบาท"
"จริงหรือ มีเรื่องเช่นนี้หรือ ถ้าเช่นนั้นข้าต้องช่วยนางหน่อยแล้ว" หยุนชางได้ยินเช่นนี้ มีรอยยิ้มที่มุมปากของนาง "นางกำนัลที่ดูดีในตำหนักซีอู๋เหรอ ข้าพอจะรู้จักคนคนหนึ่ง"
"เฉี่ยนอิน ในตำหนักฮองเฮา คนของเราอยู่ที่ไหน?"
เฉี่ยนอินมองไปรอบๆ สักพักก่อนที่นางจะไปเข้าใกล้หยุนชางและพูดอะไรบางอย่าง หยุนชางพยักหน้าและกล่าวว่า "เป็นสถานที่ที่ไม่ดึงดูดความสนใจมากนัก เอางี้ เจ้าหาวิธีส่งข้อความถึงนาง ให้นางช่วยข้าทำอะไรบางอย่าง" หยุนชางโน้มตัวไปที่หูของเฉี่ยนอินและออกคำสั่ง หลังจากพูดไม่กี่คำ ก็เห็นดวงตาของเฉี่ยนอินสว่างขึ้นและนางก็พยักหน้าและพูดว่า "หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ"
หลังเที่ยง อากาศที่แจ่มใสแต่จู่ๆฝนก็ตกลงมา ภายในห้องเล็กๆ ด้านหลังตำหนักซีอู๋ มีร่างหนึ่งนอนอยู่บนเตียงโดยกอดเข่าไว้ แลดูเจ็บปวด
"ใครก็ได้มานี่หน่อย…" น้ำเสียงสั่นเครือ หลังจากเรียกอยู่นานก็ไม่มีใครให้ความสนใจ
คนบนเตียงทนความเจ็บปวดและลุกขึ้นนั่ง สวมรองเท้าและลุกจากเตียง แสงจากหน้าต่างสะท้อนบนใบหน้าของคนผู้นั้น และได้เห็นใบหน้าของนาง ที่แท้เป็นฉิงเมิ่ง ฉิงเมิ่งเดินออกไปนอกประตู แต่รู้สึกเจ็บปวดทุกย่างก้าว
"ใครก็ได้ ไปเอาน้ำร้อนมาให้ข้าหน่อย" หน้าผากของฉิงเมิ่งมีเหงื่อไหลออกมา มีเสียงผู้คนอยู่ด้านนอกประตู แต่ไม่มีใครสนใจนาง
ฉิงเมิ่งลากสองขาด้วยความเจ็บปวด เดินไปที่ประตู เสียงข้างนอกค่อยๆชัดเจน "ได้ยินหรือไม่ มันน่าสังเวชแค่ไหน"
อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น "ยังคิดว่าที่นี่เป็นตำหนักชิงซินสินะ ที่นี่มันตำหนักซีอู๋ ตอนนี้นางเป็นหมากรุกที่ไร้ประโยชน์ของฮองเฮา ฮองเฮาต้องการให้แม่นางเฉี่ยนอินไปที่ตำหนักชิงซินเลยเปลี่ยนตัวนางมาเลี้ยงดูที่นี่ เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ รอแม่นางเฉี่ยนอินได้หยั่งรากในตำหนักชิงซินแล้ว คาดว่า จะเป็นวันที่นางหายตัวไป"
"ใช่สิ ข้าได้ยินมาว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนแม่นางเฉี่ยนอินได้ช่วยองค์หญิงฮุ่ยกั๋วไว้ที่อุทยานอวี้ฮวา องค์หญิงฮุ่ยกั๋วซาบซึ้งมาก ตอนนี้นางก็วางใจแม่นางเฉี่ยนอินเยอะมากแล้ว"
"ใช่แล้ว ไม่ต้องสนใจคนไร้ประโยชน์นี้ ปล่อยให้นางดูแลตัวเองดีกว่า จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าเมื่อวานฮองเฮาทรงเกรี้ยวอย่างมาก เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?"
"เพราะฝ่าบาทไม่มาที่ตำหนักซีอู๋เป็นเวลานานแล้ว ฮองเฮาต้องการเลือกนางกำนัลเพื่อมอบให้ฝ่าบาท เพื่อต้องการรักษาหัวใจของฝ่าบาทไว้ แต่ยังไม่พบคนที่ทรงพอพระทัย"
"ซูว์ เรื่องนี้พูดไม่ได้ ระวังหน่อย…"
เสียงของทั้งสองคนค่อยๆห่างออกไป แต่ไม่มีใครรู้ว่าฉิงเมิ่งที่ยืนพิงประตูอยู่ในห้อง ตัวสั่นไปทั่วพร้อมกับกัดฟันแน่น แต่น้ำตาไหลอาบหน้า "หมากรุกที่ไร้ค่า ข้ากลายเป็นหมากรุกที่ถูกทิ้งไปแล้ว"
การใช้ชีวิตในวังมานาน ฉิงเมิ่งรู้อย่างชัดเจนที่สุดว่า การกลายเป็นหมากรุกที่ถูกทิ้งโดยเจ้านายมันจะลงเอยอย่างไร เป็นเพราะรู้ว่าเป็นเช่นไร เลยกลัวความรู้สึกนั้นเป็นพิเศษ ราวกับว่าดูปลายมีดแทงคอของตนทีละนิด แต่ก็ไม่สามารถส่งเสียงใดๆได้เลย
ฉิงเมิ่งกัดฟัน ไม่ได้ นางยังไม่อยากตาย
เพียงแต่ว่า นางจะทำอย่างไรดี?
ฉิงเมิ่งลากขาที่เจ็บปวดของนาง เดินกลับไปนั่งที่เตียง ตอนนี้ฮองเฮาถือว่านางเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้ง และมีคนใหม่ในตำหนักชิงซินแล้ว นอกจากฮองเฮาแล้ว ยังมีใครอีก ยังมีผู้ใดในพระราชวังแห่งนี้ที่สามารถช่วยนางได้
ฉิงเมิ่งคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้าๆ ความหนักแน่นก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง นางคิดว่า นางต้องการโอกาส โอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของนาง