ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5605 อย่างช้าที่สุดรอคุณถึงวันมะรืน(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5605 อย่างช้าที่สุดรอคุณถึงวันมะรืน(2)
จางเอ้อเหมาพูดอย่างหมดหนทาง:“ท่าน ผมก็ทำงานให้เขา เขากำหนดราคาเท่าไหร่ ผมก็ต้องขายราคาเท่านั้น ถ้าท่านคิดว่าราคาสูงก็ไม่ต้องรีบ ยังไงก็มีของสิ่งนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อชิ้นที่สองเลย”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งยื่นไปมือไปตัดบทเขาทันที พูดอย่างเคร่งขรึมว่า:“ผมต้องการของอยู่แล้ว แค่คิดว่าตระกูลนี้กำหนดราคาไม่สมเหตุสมผลเลย ผมมีเงินนะ แต่ไม่พอใจเท่าไหร่”
จางเอ้อเหมาพยักหน้า ทำราวกับว่าเข้าใจคุณ เขาพูดอย่างจริงจัง:“พูดตามตรงนะท่าน ผมเข้าใจความรู้สึกคุณ แต่ขอบอกอะไรจากใจเลยนะ ของเก่าแก่แบบนี้ หายากและแพงอยู่แล้ว แหวนหยกปานจื่อคู่นี้ ทำออกมาทั้งหมดสองวง ถ้าคุณซื้อไปแล้ว เอาเก็บไว้วันข้างหน้าจะต้องเป็นของหายากแน่ ๆ ไม่แน่เอาไปขายอีกสองสามปี ราคาอาจจะสูงขึ้นอีกเท่าหนึ่งเลยก็ได้”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งคิดในใจ:“ผมซื้อเครื่องมือทางธรรมมาแล้วยังต้องเอาไปขายทิ้งอีก?ให้ร้อยล้านก็ไม่มีทางขาย!”
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็ไม่อยากคุยเรื่องราคากับจางเอ้อเหมาอีก ยังไงก็ยังหวังให้จางเอ้อเหมาช่วยเป็นสื่อกลางให้ตัวเอง ซื้อเครื่องมือทางธรรมกลับมาเยอะ ๆ !
ดังนั้น เขาจึงโอนเงินให้จางเอ้อเหมาอย่างคล่องแคล่ว หลังจากจ่ายเงินแล้ว จึงถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า:“ใช่สิเอ้อเหมา คุณช่วยผมถามตระกูลนั้นหน่อยสิ จะมีปล่อยสินค้าดี ๆ แบบนี้อีกเมื่อไหร่?ถ้าสะดวก ก็ปล่อยให้ผมเลยสิ แค่เป็นสินค้าดี ๆ ผมรับหมด!”
สำหรับท่านเอิร์ลฉางเซิ่งแล้ว เขามีเวลาเพียงสามวัน ตอนนี้บ่ายแล้ว ถ้าผ่านไปอีกครึ่งวัน ก็จะเหลืออีกแค่สองวันครึ่งเท่านั้น
ตกดึกอีกสองวันครึ่งข้างหน้า ตัวเองจำเป็นต้องลงมือกับคนตระกูลอานแล้ว ถึงตอนนั้นเมืองจินหลิงจะมีแต่ความนองเลือด ตกอยู่ในความตื่นตระหนกแน่นอน ถึงตอนนั้น จะซื้อก็น่าจะไม่มีโอกาสแล้ว
จางเอ้อเหมามองท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง ใช้คำพูดที่เย่เฉินสั่งมาพูดไปว่า:“ท่าน ปล่อยสินค้าครั้งหน้า น่าจะเจ็ดถึงสิบวันเลย”
“อะไรนะ?เจ็ดถึงสิบวันเลย?!”ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งร้อนรนทันที โพล่งไปว่า:“ทำไมถึงรอนานขนาดนี้?!”
จางเอ้อเหมาอธิบายอย่างหมดหนทาง:“คุณดูสิ ของของพวกเรานี้ มีที่มาที่ไปไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ชายสามอย่างนี้ให้คุณ รวมแล้วมากกว่าสองล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่เราชำระเงินตราต่างประเทศแล้ว ยังต้องหาวิธีกระจายออกไปยังบัตรเอทีเอ็มของบุคคลอีก และค่อยให้เขาถอนเงินสดทีละนิด กระบวนการนี้ต้องใช้เวลา”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งขมวดคิ้วถามว่า:“หมายความว่ายังไง?ทำไมยุ่งยากขนาดนี้?”
จางเอ้อเหมาพูดอย่างหมดหนทาง:“ท่านเข้าใจหรือไม่เนี่ย!พวกเราจะเก็บเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทิ้งช่วงฟอกเงินด้วยสิ!ไม่อย่างนั้นถ้าเงินยังอยู่ในบัญชีของตัวเอง จะถูกดึงดูดความสนใจได้ง่าย และถ้าวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้น และเงินยังอยู่ในบัญชี จะไม่ถูกตำรวจยึดหรือไง?”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเข้าใจรูปแบบการทำงานของคนพวกนี้ รายได้จากการขุดของผิดกฎหมายและขายของเก่าคือเงินสกปรก ไม่ฟอกเงินก็จะเสี่ยงได้
แม้ในใจเขาจะเข้าใจ แต่ก็ร้อนรนอย่างช่วยไม่ได้ จึงโพล่งออกไปว่า:“เอ้อเหมา ผมรอถึงเจ็ดถึงสอบวันไม่ไหวหรอก!”
จางเอ้อเหมาผายมือออก:“คุณรอไม่ไหวผมก็ช่วยไม่ได้ พูดตามตรง ครั้งที่แล้วได้ของหลายอย่างมาจากหลุมศพ ผมก็อยากจะขายให้คุณเยอะ ๆ แต่ฉันก็แค่คนต่ำต้อยของที่นี่ เรื่องนี้ผมตัดสินใจไม่ได้”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งไม่เต็มใจ รีบขอร้องไปว่า:“เอ้อเหมา แบบนี้ละกัน คุณช่วยผมหน่อย ในสองสามวันข้างหน้าผมซื้อขายได้ตลอดเวลา เรื่องเงินคุณไม่ต้องกังวล ผมมี!แค่คุณช่วยโน้มน้าวตระกูลคนรวยให้รีบเอาของมาให้ผมก็พอ เมื่อซื้อขายเสร็จ ผมจะให้ค่าผลประโยชน์กับคุณ 10% แต่ถ้าช้าเกินไป ผมอาจจะต้องไปแล้วจริง ๆ”
จางเอ้อเหมาพูดอย่างลำบากใจว่า:“เอ่อ……สองสามวันฉุกละหุกไปหน่อย อย่างน้อยต้องห้าถึงเจ็ดวัน”
ในใจของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็ยิ่งร้อนรน โพล่งออกไปว่า:“ผมยุ่งมาก ไม่มีเวลาอยู่ที่เมืองจินหลิงจริง ๆ ……”
พูจบ เขาก็กัดฟัน และพูดไปอีกว่า:“เอ้อเหมา อย่างช้าที่สุดผมรอคุณถึงวันมะรืนก่อนฟ้ามืด ช่วงนี้ถ้าคุณเอาของมาได้ ก็มาหาผมที่เดลี่โฮเทลตรงประตูตะวันตกของตลาดของโบราณ!”