วันต่อมา หลังจากได้รับวันหยุด ผมก็ยืนอยู่หน้าห้องของอลิเซียเพื่อชวนเธอทันที
ก่อนจะเคาะประตู ผมก็จัดการกับแมลงมารที่อยู่หน้าประตูออกไปก่อน
พวกมันเข้ามาทางช่องว่างของคฤหาสน์ กี่ครั้งๆ ก็เหมือนเดิม ผมแค่บี้มันทิ้งเท่านั้น
“อืม… ถ้าเข้าไปแบบกะทันหัน เธอจะรู้สึกแย่ไหมนะ…?”
เรายังไม่ได้สนิทกันถึงขั้นกินข้าวด้วยกัน และก็ยังไม่ได้ผ่านเรื่องราวอะไรด้วยกัน
แล้วจะทำยังไงถึงจะสนิทกันได้ล่ะ?
ผมรู้ดี
ว่าในโรงเรียนมีการจัดงานปาร์ตี้แลกเปลี่ยนที่เรียกว่า “งานเลี้ยงน้ำชา” ไงล่ะ!
ลองเลียนแบบดูดีกว่า
ดื่มกาแฟอย่างสง่างามพร้อมทานอาหารเช้าไปพลางๆ และพูดคุยกันไปด้วย
สาวๆ ทุกคนต้องชอบ “มื้อเช้า” แน่ๆ
“ท่านอลิเซีย อรุณสวัสดิ์ครับ อาหารเช้ามาแล้วครับ”
เคาะประตูแล้วแต่ไม่มีเสียงตอบรับ
ถ้าเปิดประตูเข้าไปเลยก็คงจะง่าย แต่พอเป็นผู้หญิงก็ทำแบบนั้นไม่ได้สิ
ปึงๆๆๆ! แคร่กๆๆๆ! แอ๊ดๆๆๆ!
“มื้อเช้าที่ทุกคนชื่นชอบมาแล้วครับ! มาทานด้วยกันเถอะ!”
“ตื่นแล้ว! ตื่นแล้วค่ะ! เข้ามาเลยค่ะ! ประตูจะพังแล้ว!”
ดีจัง ดูเหมือนจะตื่นแล้ว
ผมเคยเป็นห่วงว่าคุณหนูผู้มีการศึกษาดีจากตระกูลสูงส่งอาจจะตัดสินใจฆ่าตัวตายได้
ไม่เหมือนขุนนางกระจอกที่ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะตาย แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นไร
“ขออนุญาตครับ”
ผมเข็นรถเข็นอาหารเช้าเข้าไปในห้อง อลิเซียก็นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ราวกับเจ้าหญิงที่ถูกจองจำ
เธอมองมาที่ผมด้วยสีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย
“รุนแรงจังเลยนะคะ ถ้าประตูพังขึ้นมาจะทำยังไงคะ?”
“ถ้าพังก็ซ่อมใหม่ก็ได้ครับ ที่ดินแดนเบรฟน่ะ พังบ่อยจะตายไปครับ ต้องขอบคุณที่ทำให้ผมซ่อมเก่งขึ้นนะครับ”
ตอนเด็กๆ การที่บ้านพังไปทั่วเป็นเรื่องปกติ
เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้น หมู่บ้านใกล้เคียงก็มักจะกลายเป็นทุ่งร้าง
การจลาจลของปีศาจก็ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ง่ายๆ
ถึงอย่างนั้น ผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนเบรฟก็มีความดื้อรั้นราวกับวัชพืช
“งะ…งั้น…เหรอคะ…”
“ช่างเรื่องนั้นก่อนครับ! มาทานอาหารเช้ากันเถอะครับ”
อาหารเช้าที่สาวใช้ผู้รอดชีวิตในคฤหาสน์บอกให้ผมนำไปให้เธอนั้นคือ แฮมแซนด์วิช
ขนมปังนุ่มๆ แบบนี้ อาหารเช้าของผมไม่มีหรอก
เด็กผู้ชายตระกูลเบรฟโดยพื้นฐานแล้วถูกเลี้ยงด้วยเนื้อมอนสเตอร์
ถึงแม้จะมีพิษ แต่ถ้ากินมาตั้งแต่เด็กแล้วก็ถือว่าใช้ได้เลยล่ะ
“ช่างเรื่องนั้นก่อนนี่…”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทานอาหารเช้าร่วมกับผู้หญิง อาจจะมีมารยาทที่ไม่ดีบ้าง
หวังว่าคุณจะช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ”
ผมย้ายจานแซนด์วิชจากรถเข็นมาที่โต๊ะ และชงกาแฟ
“ใส่นมไหมครับ? ใส่น้ำตาลไหมครับ? ที่ดินแดนเบรฟเขาว่ากันว่าผู้หญิงชอบกาแฟรสหวานนะครับ?”
เธอเงียบอยู่นาน ผมก็เลยพูดไปเรื่อยๆ จนเธอพูดขึ้นมาว่า
“…ไม่รู้”
อลิเซียพึมพำแค่คำนั้นคำเดียว
“ไม่เคยดื่มค่ะ ก็เลยไม่รู้ ที่บ้านฉันปกติจะดื่มชาค่ะ”
“อย่างนั้นหรือครับ”
เสียดายจังที่ไม่ดื่มกาแฟ
ในโลกนี้มันควรจะหาซื้อง่ายและราคาถูกนี่นา?
ส่วนชาต่างหากที่แพงจนซื้อไม่ได้ ที่บ้านผมเลยดื่มแต่กาแฟมาตลอด
สำหรับชนชั้นสูงแล้ว คงคิดว่าชาชั้นดีดีกว่ากาแฟราคาถูกสินะ?
ไม่ดีหรอก! ชาดื่มแล้วไม่มีแรงหรอกนะ!
ถ้าไม่เติมคาเฟอีนตั้งแต่เช้า ก็ทำงานเอกสารไม่ไหวหรอกนะ
บางครั้งก็ต้องสู้โดยไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยนะ?
กาแฟราคาถูกในดินแดนเบรฟคือแหล่งพลังงานของเรา
“ขออภัยที่ไม่ได้เตรียมชาไว้ให้ครับ เพราะที่นี่เป็นดินแดนบ้านนอกชายแดนนะครับ”
“…ไม่เป็นไร”
อลิเซียพูดเช่นนั้นแล้วดื่มกาแฟโดยไม่ใส่อะไรเลย
“เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” เป็นคำกล่าวที่มักได้ยินบ่อยๆ แต่มีคนน้อยนักที่จะทำได้จริง
ดื่มโดยไม่บ่นอะไรเลย ถือเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งเลยนะ
“แค่กๆๆ ขะ…ขม…”
แล้วเธอก็สำลัก
“เพราะคุณดื่มแบบไม่ใส่อะไรเลยไงครับ… ครั้งแรกควรจะดื่มกาแฟหวานๆ กันก่อนนะครับ…”
ถ้าไม่คุ้นเคยก็เป็นแบบนั้นแหละนะ?
ผมเองก็ไม่ชอบชาที่ไม่ได้ดื่มจนชินเหมือนกัน
อยากจะนำสิ่งที่คุ้นเคยมาให้เธอดื่ม แต่ชาดำไม่ได้อยู่ในขอบเขตการสนับสนุนของผม
ที่ดินแดนชายแดนมันแพงหูฉี่ คงต้องทนไปก่อน
“…หวานดีค่ะ แบบนี้ค่อยยังชั่ว”
“กาแฟที่ไม่หวานน่ะ ถ้าคนที่ไม่คุ้นเคยดื่มก่อนนอนอาจจะนอนไม่หลับได้นะครับ
ระวังด้วยนะครับ อืม ความนุ่มละมุนนี้”
ดูเหมือนเธอจะชอบแล้ว ผมก็เลยลิ้มรสกาแฟบ้าง
ตอนทำงานเอกสารผมดื่มกาแฟดำตั้งแต่เช้า แต่จริงๆ แล้ว
ผมเป็นคนชอบกินของหวานมาก
ผมชอบดื่มเครื่องดื่มหวานๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นนมหรือกาแฟกันแน่
ชีวิตในต่างโลกมันลำบากขนาดนี้แล้ว
กาแฟหวานๆ ก็คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม?
“เดี๋ยวทานเสร็จแล้วสักพัก ผมจะส่งคนมาให้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปข้างนอกกันเถอะนะครับ
การเก็บตัวอยู่ในห้องตลอดเวลาก็ไม่ดีต่อทั้งร่างกายและจิตใจนะครับ”
เวลาที่ลำบาก การออกกำลังกายและลืมมันไปให้หมดคือสิ่งที่ดีที่สุด
ความแค้นจะระบายใส่มอนสเตอร์ก็ได้นะ
เพราะฆ่าเท่าไหร่พวกมันก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ใช่ไหมล่ะ?
“…ฉันสงสัยอยู่อย่างหนึ่งค่ะ”
อลิเซียถามขณะถือแก้วและจ้องมองหน้าผม
“ทำไมคนรับใช้ก็มี แต่คุณถึงต้องเอาอาหารเช้ามาให้ด้วยตัวเอง?”
“ทำไมเหรอครับ ก็เพราะคนไม่พอน่ะสิครับ ถ้าจำเป็นคนรับใช้ก็ต้องออกไปสู้เหมือนกันครับ
และส่วนใหญ่ก็ตายในสนามรบหมดแล้วครับ”
“…อย่างนั้นเหรอคะ”
เมื่อผมบอกไปตามตรง อลิเซียก็ถึงกับกลืนน้ำลาย
คงจะตระหนักถึงเหตุผลที่นี่ถูกเรียกว่าดินแดนที่ถูกทอดทิ้งแล้วสินะ
ไม่ต้องกังวลหรอกนะ
ตระกูลเบรฟมีหน้าที่ยืนอยู่แนวหน้า แต่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น
แต่ถ้าอยากยืน ก็ยืนได้เลย
ผู้หญิงแบบนั้นเป็นที่ชื่นชอบมากในดินแดนแห่งนี้
เพราะฉะนั้น—
“—ท่านอลิเซีย ท่านช่างน่ายกย่องจริงๆ”
ผมยกผมที่ปกคลุมอยู่บริเวณตาซ้ายของเธอขึ้น เพื่อดูรอยแผลไหม้
“!”
คงเป็นบาดแผลที่เธอไม่อยากจดจำ
เธอจึงพยายามหลีกเลี่ยงเล็กน้อย แต่ผมยอมรับมัน
“ที่นี่มันคือเครื่องหมายของการต่อสู้ด้วยเกียรติยศ และเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญครับ”
“อึ…”
ถ้าตายก็คือจบ แต่เธอยังมีชีวิตรอดมาได้
ที่ตระกูลเบรฟ ความพ่ายแพ้ที่ไม่มีความตาย ไม่ใช่ความพ่ายแพ้
การรอดชีวิตอย่างเหนียวแน่นและลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้งต่างหากคือเกียรติยศ
“แน่นอนว่าผมเองก็มีเหมือนกันนะครับ”
ผมยกผมหน้าม้าขึ้นเพื่อแสดงรอยแผลเป็นที่หน้าผาก
รอยแผลที่ถูกออร์คทำไว้ตั้งแต่เด็กยังคงอยู่
ตอนนั้นผมได้รู้จักความกลัวในการต่อสู้ เอาชนะมันได้ และมีวันนี้
“ที่บ้านเราไม่ปฏิเสธบาดแผลครับ ตรงกันข้าม เราภูมิใจในมันด้วยซ้ำ”
เมื่อพูดถึงตรงนั้น ผมก็เพิ่งสังเกตว่าหน้าของผมอยู่ใกล้ใบหน้าของอลิเซียมากเกินไป
ผมแค่จะดูรอยแผลไหม้ แต่กลับจับคางเธออย่างหยาบคาย
แย่แล้วสิ ผมทำไปตามความเคยชินเหมือนตอนดูทหารที่บาดเจ็บที่ศีรษะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ครั้งนี้ที่ผมนำอาหารเช้ามาให้ ก็เพื่อจะได้คุยกับคุณด้วยนะขอรับ”
ผมปล่อยมือออกอย่างรวดเร็วแล้วเปลี่ยนเรื่อง
“ถึงแม้จะเป็นดินแดนที่ไม่มีอะไรเลย มีแต่พวกคนเถื่อน แต่ธรรมชาติที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์มากเลยนะครับ
สนใจจะไปเดินเล่นด้วยกันไหมครับ? เมื่ออยู่ต่อหน้าธรรมชาติแล้ว
ความขัดแย้งของมนุษย์ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยในดินแดนแห่งนี้”
“เล็กน้อย…”
ใช่แล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้าธรรมชาติอันยิ่งใหญ่แล้ว มนุษย์เราก็เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เท่านั้น
แม้แต่มังกร แม้แต่เฟนริล แม้แต่ยักษ์ ก็เป็นเพียงเท่านั้น
การต่อสู้ระหว่างชนชั้นสูงเป็นเรื่องเล็กน้อยยิ่งกว่านั้นอีก
“…ไปค่ะ”
ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องนั้น อลิเซียก็พึมพำคำนั้นออกมา
“คุณจะพาฉันไปสำรวจดินแดนแห่งนี้ได้ไหมคะ?”
“แน่นอนครับ ด้วยความยินดี”
แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่สายตาของเธอวันนี้แตกต่างจากห้าวันก่อน เธอมีแววตาที่ดีขึ้น
เป็นแววตาที่ผมชอบเลยล่ะครับ
TL/N
ลองปรับการใช้คำดูเรื่อยๆ นะ
แนะนำได้ว่าควรจะยังไง เพราะไม่เคยอ่านมาก่อนเลยจริง…
MANGA DISCUSSION