ตอนที่ 2 ชุดเดรสยับหมดแล้วนะ?”
แฟนของฉันน่ะ ไม่ว่ายังไงก็น่ารักสุดๆ ไปเลย
ถึงจะคิดว่าหน้าตาตรงสเปกมาตั้งแต่แรกแล้วก็เถอะ
แต่พอยิ่งได้พูดคุยกันจนสนิทสนมมากขึ้น แล้วก็ได้คบหากัน
ฉันก็ตกหลุมรักยัยนั่นไปเสียทั้งหมดแล้ว
ทั้งเสียงของเธอ ทั้งความขี้อาย ทั้งความจริงจังและอ่อนโยน ทั้งร่างกายที่นุ่มนิ่มน่ากอด แล้วก็… ทั้งๆ ที่ดูเผินๆ เหมือนเป็นคนนุ่มนิ่มสบายๆ แต่พอถึงเวลามีเซ็กซ์ กลับกลายเป็นฝ่ายรุกฉันเสียอยู่หมัด… อะไรแบบนั้นด้วย
……ไม่สิ
เรื่องทำนองนั้นพักไว้ก่อนดีกว่า
นี่ยังอยู่ระหว่างทำงานนะ
ถ้าร่างกายเกิดร้อนผ่าวขึ้นมาล่ะแย่เลย
“REN จะเริ่มถ่ายต่อแล้วนะ—”
พอคุณมาจิมะ ผู้จัดการ ตะโกนเรียก ฉันก็เก็บสมาร์ตโฟนที่กำลังดูอยู่ลงในกระเป๋า
“ค่า”
การถ่ายทำวันนี้น่ะถึงจะยาวนานน่าเหนื่อยหน่ายก็จริง แต่เพราะได้ดูรูปของชิโนะก่อนหน้า ก็รู้สึกว่ามีเรี่ยวแรงมากกว่าตอนก่อนพักเสียอีก
มันส่งผลได้ง่ายๆ ขนาดนั้นเลยล่ะนะ
อืม ถ้าให้พูดกันตรงๆ เลยก็คือ
ตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย จวบจนปัจจุบัน
ฉัน ชิรายูกิ เร็น—รักซาโอโตเมะ ชิโนะ สุดหัวใจ
“มองมาทางนี้หน่อยค้าบ! ขอท่าทางยั่วยุมากกว่านี้ครับ!”
ฉันขยับร่างกายไปตามคำสั่งของช่างภาพ
“ดีเลย REN! ลองเสยผมขึ้นแบบนั้นแหละ!”
พอฉันใช้มือข้างหนึ่งเสยผมหน้าม้าขึ้นตามที่ถูกบอก เสียงชัตเตอร์ก็ดังขึ้นไม่หยุดนับครั้งไม่ถ้วนพร้อมกับเสียงชื่นชม
การโพสท่า ไม่ได้หมายถึงแค่การยืนนิ่งๆ อยู่กับที่
เพื่อมอบภาพที่ดีที่สุดออกมา นางแบบต้องขยับร่างกายอย่างละเอียดอ่อนตามความคิดของตนเองพลางฟังคำสั่งของช่างภาพ ส่วนช่างภาพก็จะจ้องมองผ่านช่องมองภาพด้วยความมุ่งมั่น เพื่อตัดเอาเสี้ยววินาทีที่นางแบบเปล่งประกายที่สุดออกมา
ทำได้ตามคำสั่งก็แค่พอผ่านเกณฑ์
หากไม่สามารถทำได้เหนือความคาดหมาย ความต้องการในฐานะนางแบบก็จะหมดไป
ดังนั้น นางแบบทุกคนต่างก็พยายามฝึกฝนอยู่เสมอ และทุ่มเทให้กับงานเกินกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์
ถึงแม้คนภายนอกมักจะมองว่าเป็นโลกที่สวยหรู แต่ฉันคิดว่าวงการนี้เหมาะกับคำว่าปลาใหญ่กินปลาเล็กอย่างแท้จริง
หลังจากจบมัธยมปลาย และเรียนต่อที่โรงเรียนวิชาชีพด้านแฟชั่น ฉันก็เริ่มต้นทำงานนางแบบแฟชั่น—งานที่เคยช่วยทำอยู่บ้างตั้งแต่สมัยเรียน—อย่างเต็มตัว
ถึงแม้ชั่วโมงทำงานจะไม่แน่นอน และบางครั้งก็รู้สึกว่ามันหนักหนา เพราะการต้องใส่เสื้อผ้าบางๆ ถ่ายแบบเสื้อผ้าฤดูร้อนกลางฤดูหนาวถือเป็นเรื่องปกติก็ตามที
แต่โลกของการท้าทายต่องานที่ได้รับมอบหมายด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี แล้วสิ่งนั้นจะได้รับการประเมินค่าตอบกลับมาน่ะ ฉันก็ไม่ได้เกลียดเท่าไหร่นักหรอกนะ
“ดีมาก REN! สุดยอด!”
ปฏิกิริยาของช่างภาพ ทำให้อารมณ์ของฉันค่อยๆ พลุ่งพล่านตื่นเต้นขึ้น
ท่ามกลางความยากลำบากและความเหนื่อยล้า ก็เริ่มค้นพบความสนุกสนานที่เหนือกว่านั้นได้บ่อยครั้งขึ้น ทั้งยังเข้าใจได้โดยสัญชาตญาณหลายครั้งว่าในฐานะผู้ถูกถ่ายทอดแล้ว ตัวเองถูกคาดหวังสิ่งใด
จนเริ่มรู้สึกขึ้นมาว่า อาชีพนางแบบนี่อาจจะเหมาะกับฉันก็ได้
ความคิดเช่นนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และอันที่จริง อิทธิพลจากชิโนะก็มีส่วนอย่างมากทีเดียว
ชิโนะทุ่มเทให้กับงานครูมัธยมปลายอย่างสุดกำลัง ชนิดที่ถ้าเป็นฉันคงแทบไม่อยากเชื่อสายตาเลย
ถึงแม้ฉันจะก้าวเข้าสู่สังคมวัยทำงานก่อนถึงสองปี แต่พอได้เห็นชิโนะพยายามอย่างสุดความสามารถอยู่ใกล้ๆ… ก็ทำให้ฉันคิดขึ้นมาว่า ฉันเองก็ต้องตั้งใจทำให้ดีเหมือนกันนะ
อีกอย่าง การที่จะได้อยู่กับชิโนะต่อไปในอนาคตนั้น ต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้
อยากจะมีความสามารถพอที่จะเลี้ยงดูชิโนะได้ด้วยสิ
หากทำเพื่อตนเองก็อาจจะพยายามไม่ได้ถึงเพียงนี้ แต่ถ้าเพื่อแฟนสาวสุดน่ารักคนนั้นแล้วล่ะก็ รู้สึกว่าสามารถทำได้ทุกอย่างเลย
เพราะชิโนะคือตัวตนพิเศษ ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกสุดสำหรับฉัน
◆
งานในสัปดาห์ถัดมา เป็นการถ่ายแบบที่จัดอยู่ในประเภทที่ไม่เคยทำมาก่อนสำหรับฉัน
“คอลัมน์พิเศษชุดเดรสทางการเนี่ย… ทำไมถึงได้เลือกฉันกันนะ รู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับฉันเลยแท้ๆ”
ในตารางงานมีเขียนไว้เพียงว่า ‘ถ่ายทำที่โรงแรม Link Hamilton’ เท่านั้น
ระหว่างที่ช่างกำลังแต่งหน้าทำผมให้ ต่อฉันที่บ่นพึมพำว่าน่าจะตรวจสอบรายละเอียดการถ่ายทำมากกว่านี้นั้น
“พูดอะไรน่ะ! ที่รับข้อเสนอนี้มาก็เพราะอยากให้ REN ใส่ชุดแบบนี้โดยเฉพาะเลยนะ! REN ที่ปกติได้รับความนิยมในสไตล์ลำลอง พอมาสวมชุดเดรสเช่นนี้ก็จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มจากความหายาก! แล้วเด็กสาวที่ชื่นชมในตัว REN ก็จะรู้สึกขึ้นมาว่า ‘ฉันเองก็อยากลองใส่ชุดแบบนี้ดูบ้าง…!’ แล้วก็~~~”
คุณมาจิมะก็ร่ายยาวอธิบายอย่างแข็งขัน
หูของฉันเข้าสู่โหมดฟังผ่านๆ ไปเรียบร้อยแล้ว
แต่เดิมฉันก็เป็นพวกที่ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว
ไม่ได้มีแรงจูงใจต่ำสักหน่อย
ไม่ต้องอธิบายอย่างกระตือรือร้นขนาดนั้นก็ได้ ไม่หนีไปไหนหรอกน่า ไม่ต้องห่วง
“ว่าแต่ว่า มันดูงดงามจริงๆ นะ เหมาะกับเธอมากเลย”
คุณมาจิมะเหลือบมองฉันที่สวมชุดเดรสอยู่แล้ว ก่อนจะทำหน้าอย่างภาคภูมิใจ
ถึงจะรู้สึกไม่ชินกับเครื่องแต่งกายและกังวลอยู่บ้างก็เถอะ แต่เพราะรู้ว่าคนคนนี้ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็จะพูดออกมาตรงๆ ฉันจึงรู้สึกมั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย
“อืม ได้ยินแบบนั้นก็ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ”
“ใช่ๆ อีกอย่าง โรงแรมหรูหราขนาดนี้ ไม่ใช่ที่ที่เด็กสาวอายุแค่ยี่สิบต้นๆ จะหาเงินมาพักเองได้ง่ายๆ หรอกนะ อุตส่าห์ได้โอกาสทั้งที ก็เพลิดเพลินให้เต็มที่เถอะ ไม่เสียหายอะไรนี่?”
‘โรงแรม Link Hamilton’ สถานที่ถ่ายทำในวันนี้ เป็นโรงแรมชื่อดังที่แม้แต่ฉันก็รู้จักเพียงแค่ชื่อเท่านั้น
“ถ้างั้น คงต้องขอซึมซับประสบการณ์อย่างเต็มที่หน่อยแล้วสินะ สถานที่ถ่ายทำของฉันคือห้องจัดเลี้ยงงานแต่งงานกับห้องพักแขกใช่ไหมคะ?”
“ใช่จ้ะ ห้องจัดเลี้ยงงานแต่งงานน่ะ ฉันก็เคยไปร่วมงานครั้งหนึ่งเหมือนกัน เป็นสถานที่ที่โอ่อ่าอลังการมากเลยนะ”
“เห— …ว่าแต่ว่า ถ้าพักที่นี่คืนหนึ่ง ราคาประมาณเท่าไหร่เหรอคะ?”
“นั่นสิน้า… นี่ ราคาต่ำสุดของห้องพักระดับเริ่มต้นที่สุด”
ถึงจะเป็นคำถามง่ายๆ ที่ถามไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอคุณมาจิมะยื่นหน้าจอสมาร์ตโฟนให้ดู ฉันก็แทบจะเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึง
“หา!? ศูนย์เกินมาตัวหนึ่งหรือเปล่าเนี่ย!?”
“ก็บอกแล้วไงว่าเป็นโรงแรมหรูน่ะ? ระวังให้จงหนักเลยนะ อย่าให้ข้าวของเครื่องใช้สกปรกหรือมีริ้วรอยเด็ดขาด”
“…ค่า”
คุณมาจิมะหัวเราะเบาๆ ให้กับฉันที่ร่างกายแข็งเกร็งยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“ทำตัวตามปกติก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะน่า เอ้า นึกถึงชิโนะจังเข้าสิ! มีกำลังใจขึ้นมาเลยไม่ใช่เหรอ?”
คุณมาจิมะรู้ว่าฉันกับชิโนะคบกัน ทั้งยังเข้าอกเข้าใจด้วย ซ้ำร้ายยังเป็นคนที่ถึงกับใช้ชื่อของชิโนะมาเป็นเครื่องมือเพื่อปลุกขวัญกำลังใจของฉันแบบนี้อีกต่างหาก
ถึงจะรู้สึกเหมือนถูกปั่นหัวอยู่บนฝ่ามือก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไรเป็นพิเศษ
เพราะการที่ฉันพยายามก็เพื่อชิโนะน่ะ มันก็เป็นความจริงด้วยนี่นะ
“อา ใช่ เพราะถ้าคิดถึงชิโนะแล้ว ไม่ว่าอะไรฉันก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ”
ช่างแต่งหน้าทำผมที่ได้ยินถ้อยคำจากใจจริงของฉันก็เอ่ยว่า
“ยอดเยี่ยมไปเลยนะคะ”
หลังจากนั้นไม่นาน การแต่งหน้าก็เสร็จสมบูรณ์
ภาพตัวเองในชุดเดรสที่สะท้อนอยู่ในกระจก อืม ก็นึกขึ้นมาว่ามันค่อนข้างเหมาะกับตัวเองอยู่เหมือนกันแฮะ
“วันนี้ก็งดงามนะ REN ไปกันเถอะ”
ฉันลุกขึ้นตามคำพูดของคุณมาจิมะ
เอาล่ะ ไปกันเถอะ
พอเดินด้วยรองเท้าส้นสูง ก็มีเสียงที่แตกต่างไปจากปกติก้องกังวานขึ้น
การถ่ายทำในห้องพักแขกเริ่มต้นขึ้น
หากไม่ได้ยินค่าที่พักตั้งแต่แรก ฉันก็คงคิดแค่ว่า ‘เป็นห้องที่ดูท่าทางแพงจังนะ’ เท่านั้น แต่ฉันในตอนนี้กลับมองเห็นทุกสิ่งในห้องนี้เป็นของหรูหราระดับสูงสุดไปหมด ถึงแม้จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโตเกียวได้อย่างงดงามสุดๆ จากหน้าต่างที่ใหญ่โตเกินไปนั่น แต่กลับไม่มีแก่ใจจะเพลิดเพลินกับมันได้อย่างเต็มที่เลย
“เอาล่ะ ก่อนอื่นจะกำหนดแค่จุดก่อน ช่วยโพสท่าไปตามสบายเลยนะ”
ฉันทำตามคำสั่งของช่างภาพ ลองใช้มือเท้าเก้าอี้ดูบ้าง ลองนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเผชิญหน้ากับตัวเองดูบ้าง การถ่ายทำโดยใช้ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องดำเนินต่อไป
ปฏิกิริยาตอบรับดีเยี่ยม
ฉันเองก็เริ่มอินกับบรรยากาศมากขึ้น
ความประหม่าก็ผ่อนคลายลง
“งั้นต่อไป ลองยืนนิ่งๆ ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย พลางเหลือบมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนด้วยหางตา โดยให้หน้าต่างอยู่ด้านหลังดู!”
ฉันจ้องมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนตามคำสั่ง…… ทิวทัศน์จากตึกระฟ้าเนี่ย มันแตกต่างจากปกติจริงๆ แฮะ
ถ้าเป็นชิโนะล่ะก็ คงจะทำตาเป็นประกายวิบวับพลางพูดว่า “สวยจังเลยนะ!” แล้วก็ยิ้มให้สินะ
อยากให้เธอได้เห็นจังนะ
เสียดายแย่เลยที่ต้องมาเห็นคนเดียวแบบนี้
……แย่ล่ะ
ต้องตั้งสมาธิหน่อย
ถ้ามัวแต่คิดถึงเรื่องชิโนะ เดี๋ยวเผลอยิ้มออกมาพอดี ทั้งๆ ที่ได้รับคำสั่งให้ทำสีหน้าเศร้าสร้อยแท้ๆ
พอรู้สึกตัวว่าแก้มเริ่มจะคลายลง (กำลังจะยิ้ม)
“ไม่สิ… สีหน้าเมื่อกี้น่ะดีกว่าแฮะ! REN ลองทำหน้าให้ดูเป็นสาวน้อยกว่านี้หน่อยสิ!”
ช่างภาพก็ออกคำสั่งที่ฟังดูไม่รู้เรื่องออกมา
เดี๋ยวนะ
หน้าสาวน้อยมันคืออะไรกันฟะ!
ขนาดตัวเองยังไม่รู้เลย แล้วจะให้ทำออกมาโดยตั้งใจได้ยังไงกันเล่า!
……ถึงแม้ในใจจะแอบสบถออกมาก็เถอะ…… แต่พอได้ยินคำว่าสาวน้อย คนที่นึกถึงขึ้นมา ก็คือใบหน้าของชิโนะอยู่ดี
ยัยนั่นถ้าโดนกล้องใหญ่ขนาดนั้นจ่อใส่ คงจะลนลานทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ
หูย อยากเห็นแฮะ
ชิโนะที่หน้าแดงก่ำแถมยังน้ำตาคลอ ต้องน่ารักสุดๆ ไปเลยแน่!
“โอเค! แบบนั้นแหละ! ดีมาก REN!”
แค่มโนภาพแฟนตัวเองอยู่แท้ๆ ไหงถึงโดนชมขึ้นมาได้ل่ะเนี่ย!?
แบบนี้มันใช้ได้จริงๆ เหรอ!?
มีเพียงคุณมาจิมะเท่านั้น ที่คงจะล่วงรู้ถึงสภาพจิตใจที่กำลังสับสนวุ่นวายของฉันอยู่สินะ
ตอนที่สบตากัน เธอก็ยักไหล่ให้แบบโอเวอร์พลางหัวเราะออกมา
◆
และแล้ว การถ่ายทำคอลัมน์พิเศษชุดเดรสทางการก็เสร็จสิ้นลงอย่างราบรื่น
ถึงจะคิดว่าผลลัพธ์ของงานออกมาเป็นที่น่าพอใจก็เถอะ…… แต่หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้ว ฉันก็เอาแต่คิดถึงเรื่องโรงแรม Link Hamilton—แล้วก็เรื่องของชิโนะมาตลอด
ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายที่เริ่มคบกัน ฉันกับชิโนะก็ออกเดทด้วยกันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
แต่สมัยเรียนเราไม่สามารถไปพักโรงแรมแบบนั้นได้
อันที่จริง มันไม่เคยอยู่ในตัวเลือกด้วยซ้ำไป
แต่ถ้าเป็นฉันในตอนนี้…… ถึงจะยังพูดไม่ได้เต็มปากว่าสบายๆ แต่ก็พอจะจ่ายค่าที่พักสำหรับสองคนไหวอยู่
──ถ้าได้มากับชิโนะ ต้องสนุกมากแน่ๆ เลย
ชิโนะจะดีใจไหมนะ?
“……เอาล่ะ”
ภาพของชิโนะที่ดีใจจนออกนอกหน้าผุดขึ้นมาในความคิด ฉันก็ตัดสินใจแน่วแน่แล้วเปิดแอปส่งข้อความขึ้นมา
เพราะเราใช้เวลาช่วงคริสต์มาสด้วยกันมาตลอด ก็คิดว่าเธอคงจะเว้นตารางไว้ให้อยู่แล้วล่ะนะ…… แต่เพื่อความแน่ใจ ก็ต้องตรวจสอบดูก่อน
‘ชิโนะ คริสต์มาสว่างอยู่แล้วใช่ไหม?’
ถึงจะเป็นข้อความที่ส่งไปตอนกลางคืนค่อนข้างดึก แต่คำตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
‘ก็คิดว่าถ้าได้ใช้เวลาอยู่กับเร็นก็คงจะดี ก็เลยเว้นว่างไว้น่ะสิ’
ค่อยยังชั่ว
ถึงจะถามไปเผื่อไว้เฉยๆ ก็เถอะ แต่คำพูดที่ว่าเว้นไว้เพื่อฉันก็ทำให้โล่งใจ
‘หรือว่าเร็นมีงานเหรอ…?’
พอเห็นข้อความที่ถูกส่งตามมาติดๆ ฉันก็รีบพิมพ์ตอบกลับไป
‘ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร ปีนี้ฉันจะวางแผนเอง วางใจได้เลย’
การที่เธอคิดเรื่อง ‘งาน’ ขึ้นมาก่อนทันที ก็คงหมายความว่าเธอไม่เคยคิดว่าฉันจะนอกใจเลยสินะ…… ถึงจะไม่ทำแน่ๆ ก็เถอะ ไม่เคยคิดจะทำเลยแม้แต่น้อยนิดก็เถอะนะ
ชิโนะไม่เคยหึงหวงเลยตั้งแต่ไหนแต่ไร
……บอกตามตรง… ทั้งๆ ที่ฉันน่ะ อิจฉาแม้กระทั่งพวกนักเรียนที่ได้เห็นหน้าชิโนะทุกวันและได้เข้าเรียนคาบของเธอแท้ๆ
เวลาแบบนี้… ฉันมักจะรู้สึกไม่มั่นคงเอาเสียเลยนะ
‘จริงเหรอ? ดีใจจัง! จะตั้งตารอเลยนะ’
ทว่า ความกังวลของฉันก็ปลิวหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เมื่อได้อ่านข้อความที่สามารถจินตนาการเสียงของชิโนะตามได้อย่างสบายๆ
มัวแต่มาอึดอัดใจกับความหึงหวงแบบเด็กๆ ของตัวเองไปก็ช่วยอะไรไม่ได้นี่นะ
ชิโนะชอบฉันอย่างแน่นอนอยู่แล้ว แค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง
ว่าแล้วก็ ถ้ามันทำให้แฟนสาวสุดน่ารักของฉันยิ้มได้ล่ะก็ มีแต่ต้องทำเท่านั้น
‘ตั้งตารอไว้ได้เลย จะทำให้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมที่สุดเอง’
จะว่าไปก็เผลอพูดจาโอ้อวดเกินจริงไปหน่อยเหมือนกันนะ
ฉันที่ไม่อาจระงับความรู้สึกตื่นเต้นเอาไว้ได้ ก็รีบเปิดโฮมเพจของโรงแรมแล้วตรวจสอบหน้าการจองทันที
◆
ปลายเดือนพฤศจิกายน
ฉันกับชิโนะกำลังดื่มด่ำกับช่วงเวลาและบรรยากาศที่ไม่ธรรมดา พลางจิบกาแฟอยู่ที่เลานจ์ของโรงแรม Link Hamilton
“ระ รู้สึก… ประหม่าจังเลยนะ……”
ชิโนะที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเผยรอยยิ้มที่ดูเกร็งกว่าปกติออกมา
“อุตส่าห์ได้โอกาสทั้งที สนุกให้เต็มที่เถอะน่า ทำตัวมั่นใจหน่อยสิ”
“กะ ก็…… ระ เร็นน่ะทั้งการแต่งตัวทั้งสถานที่ดูเข้ากันไปหมดเลย แต่ฉันน่ะ ต้องดูไม่เข้ากับที่นี่แน่ๆ เลย……”
ชุดเดรสที่ชิโนะสวมใส่อยู่ตอนนี้ เป็นชุดที่ซื้อมาใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ถ้าใส่กางเกงยีนส์มาที่โรงแรมแห่งนี้คงดูแปลกแยกน่าดู แถมการจะเข้าร้านอาหารก็มีเดรสโค้ดอีกต่างหาก
“พูดอะไรน่ะ เหมาะสุดๆ ไปเลยต่างหาก”
“……งะ งั้นเหรอ? ……ก็เพราะเร็นไปช่วยเลือกซื้อด้วยกันต่างหากล่ะ ถะ ถ้าให้ฉันเลือกคนเดียว คงเลือกชุดแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ……”
ชุดที่ชิโนะสวมอยู่คือชุดเดรสสีเทาที่ปักลวดลายดอกไม้ไว้ทั่วทั้งตัว เป็นทรงเมอร์เมดที่ช่วยขับเน้นความงามสง่าของชิโนะออกมา อีกทั้งดีไซน์ที่เน้นสัดส่วนเรือนร่างแบบนี้ก็ค่อนข้างจะตรงรสนิยมของฉันด้วย
“ก็ฉันมั่นใจในการเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับชิโนะนี่นา เพราะคงไม่มีใครรู้จักเสน่ห์ของชิโนะได้ดีไปกว่าฉันแล้ว ใช่ไหมล่ะ?”
“ทะ ทั้งๆ ที่แต่งตัวแบบนั้น อย่าพูดอะไรเท่ๆ แบบนั้นสิค้า~……”
‘แต่งตัวแบบนั้น’ ที่ว่า คงจะหมายถึงชุดเดรสที่ฉันสวมอยู่สินะ
ชุดเดรสของฉันเป็นดีไซน์เรียบๆ สีน้ำเงินกรมท่า ชายกระโปรงสั้นกว่าเมื่อเทียบกับชุดของชิโนะ ถึงแม้จะรู้สึกเย็นไปบ้างสำหรับฤดูกาลนี้ แต่ก็เลือกมาเพราะคิดว่าชิโนะน่าจะชอบ
และก็เป็นไปตามคาด ตั้งแต่ชั่ววินาทีแรกที่เห็นฉันในชุดนี้ ชิโนะก็ชมไม่หยุดปากเลย
อันที่จริง ฉันก็สังเกตเห็นอยู่ว่าสายตาของเธอมักจะมองมาที่ขาของฉันบ่อยๆ
อีกอย่าง การเลือกดีไซน์แบบที่เปิดช่วงอก ก็คิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วด้วย
ต้องขอบคุณลูกไม้ตรงปกคอเสื้อ ที่ทำให้มันไม่ดูไร้รสนิยม ซึ่งนั่นก็เป็นจุดที่ฉันชอบใจ
“รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ท่านพึงพอใจ”
พอฉันยิ้มกว้าง ชิโนะก็ดื่มกาแฟราวกับจะใช้ถ้วยบังใบหน้าที่เขินอาย
น่ารักชะมัด
ทุกสิ่งทุกอย่างในการเดทวันนี้ มีไว้เพื่อให้ชิโนะมีความสุข
ทั้งเสื้อผ้า ทรงผม ทั้งหมดนั่น ล้วนคิดโดยมีเกณฑ์ว่า ‘ชิโนะน่าจะชอบหรือไม่’ เป็นหลัก
หากให้คะแนนตัวเองจากปฏิกิริยาของเธอล่ะก็ คงต้องบอกว่าสอบผ่าน
“อื้ออ…… เดี๋ยวหลังจากนี้ ขอถ่ายรูปเยอะๆ เลยนะ……”
“จะทำตามรับสั่งทุกประการขอรับ คุณหนู?”
ฉันแกล้งทำท่าทางเหมือนพ่อบ้าน โดยใช้มือซ้ายทาบหน้าอกแล้วโค้งคำนับ ชิโนะก็หน้าแดงก่ำพลางใช้มือกุมแก้มไว้
พอโดนคนรักชม ฉันก็อารมณ์ดีขึ้นมาเหมือนกัน
ได้ใช้เวลายามค่ำคืนด้วยกันในโรงแรมระดับสูงสุด กับแฟนสาวสุดน่ารักที่แต่งตัวสวยงาม
ท่ามกลางสถานการณ์อันสมบูรณ์แบบนี้ หากจะให้กล่าวถึงความไม่พอใจเพียงอย่างเดียวล่ะก็— ก็คงจะเป็นวันที่ในวันนี้นี่เอง
เสียงถอนหายใจเล็ดลอดออกมาโดยไม่รู้ตัว
“……อันที่จริงแล้ว อยากจะจองช่วงคริสต์มาสแท้ๆ แต่ฉันคิดตื้นเกินไป ขอโทษนะ? ปีหน้าจะพยายามจองให้เร็วกว่านี้ก็แล้วกันนะ”
ความจริงแล้ว ฉันอยากจะใช้เวลาคืนก่อนวันคริสต์มาสกับชิโนะที่นี่
ทว่า ฉันที่เพิ่งจะเคยคิดจองโรงแรมราคาแพงแบบนี้เป็นครั้งแรก ก็ต้องตกใจตั้งแต่ขั้นตอนการจองแล้ว
เพิ่งจะรู้ว่าช่วงเทศกาลคริสต์มาสน่ะ ห้องพักถูกจองเต็มล่วงหน้าไปปีกว่าแล้ว
คนธรรมดาทั่วไปใช่ว่าจะหาห้องพักได้ง่ายๆ ก่อนหน้าแค่เดือนเดียวเสียเมื่อไหร่
“อื๊อ ดีใจมากๆ เลยนะ ไม่ว่าอะไรที่เร็นคิดเผื่อฉันน่ะ ฉันก็ดีใจทั้งนั้นแหละ”
ชิโนะเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยนและนุ่มนวลที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแอบแฝง
……เพื่อแฟนสาวสุดน่ารักคนนี้แล้ว ฉันคงต้องเรียนรู้อะไรต่างๆ ให้มากกว่านี้สินะ
ไม่ว่าจะมองจากอายุ หรือจากจุดที่หาเงินและจ่ายภาษีได้ด้วยตัวเอง ฉันก็ถือเป็นคนทำงานเต็มตัวแล้วนี่นะ
ความรู้สึกที่ชอบชิโนะ และคิดว่าเธอสำคัญยิ่งกว่าใครอื่น ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากสมัยมัธยมปลายเลยแม้แต่น้อย
มีเพียงสภาพแวดล้อมรอบตัวเราและสถานะที่เปลี่ยนไปเท่านั้น ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
การที่ต้องพยายามเขย่งสุดตัวเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง บางครั้งก็ทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน
แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ได้อยู่กับชิโนะต่อไปในอนาคตล่ะก็ ฉันก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร
“พอเธอพูดแบบนั้นก็ค่อยโล่งใจหน่อย”
“อื้ม เพราะงั้นไม่ต้องใส่ใจหรอกนะ เร็น”
ฉันปฏิญาณในใจว่าปีหน้าจะวางแผนให้ดีกว่านี้
“อืม แต๊งกิ้วนะ ชิโนะ”
“ดะ……แต่ว่าจะดีจริงๆ เหรอ? โรงแรมหรูหราขนาดนี้……”
“อา ใช่ ก็ส่วนหนึ่งฉันทำงานก็เพื่อชิโนะนี่นา”
พอถ่ายทอดความรู้สึกจากใจจริงออกไป แก้มของชิโนะก็พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออีกครั้ง
เห็นชิโนะดีใจแบบนี้ ก็รู้สึกจากใจจริงเลยว่าดีแล้วที่ทุ่มทุนในครั้งนี้
“งั้น ได้เวลาไปเช็คอินกันแล้วสินะ”
ชิโนะที่ลุกขึ้นยืนตามฉัน คงจะยังไม่มั่นใจ
เธอกอดตัวเองแน่นด้วยแขนทั้งสองข้างแล้วยืนหลังค่อมเล็กน้อย
“อื้อ อื้ม…… วะ ว่าแต่ฉันดูโอเคใช่ไหม? รู้สึกเหมือนโดนคนรอบข้างมองอยู่เลย ใจคอไม่ดีเลยอ่า~……”
“ไม่มีตรงไหนแปลกสักนิดน่า เธอน่ารักที่สุดในโลกแล้ว”
“เอ๋!? ……งะ งั้นเหรอ……?”
“อา ใช่ ไม่ผิดแน่”
ชิโนะคงจะกังวลว่าตัวเองดูโดดเด่นในทางที่ไม่ดีเพราะไม่คู่ควรกับสถานที่แห่งนี้สินะ แต่เป็นการเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิงเลยล่ะ
ทุกคนที่มองชิโนะน่ะ ที่มองก็เพราะว่าชิโนะน่ารักต่างหากเล่า
ถ้าเด็กน่ารักขนาดนี้มาทำตัวไร้การป้องกัน ก็ต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้างอยู่แล้ว เผลอๆ อาจจะมีไอ้บ้าที่ไหนเข้ามาทักทายก็ได้
……เพื่อไม่ให้ยัยนี่ต้องหวาดกลัวด้วย ก็ต้องแสดงตัวตนของฉันที่เป็นคนรัก และคอยข่มขู่พวกนั้นเอาไว้สินะ
ฉันเดินไปตามทางเดินในโรงแรม พลางเดินแนบชิดอยู่ข้างกายชิโนะยิ่งกว่าปกติ
“เอ๊ะ นี่มันอะไรน่ะ…… กุ้ง?”
“ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร แต่ว่าอร่อยเนอะ—!”
อาหารที่ดูหรูหราเกินไปจนไม่เคยเห็นมาก่อน ถูกเสิร์ฟมาเป็นคอร์ส นอกจากคำว่าอร่อยแล้วก็ไม่มีคำอื่นจะพูด
คงจะรีวิวอาหารอะไรทำนองนั้นไม่ได้แน่
ทั้งรสชาติ ทั้งการบริการของพนักงาน ทั้งบรรยากาศโดยรวม ไม่มีคะแนนอื่นใดนอกจากคะแนนเต็ม
แต่ทว่า──
“อาหารที่นี่แน่นอนว่าอร่อยอยู่แล้วล่ะนะ แต่ว่า ฉันชอบอาหารที่ชิโนะทำให้กินมากกว่าแฮะ”
ถึงแม้จะเกรงใจไม่กล้าพูดเสียงดังก็เถอะ แต่มันคือความรู้สึกจากใจจริง
อาหารที่ชิโนะทำให้กินน่ะอร่อยทุกอย่างเลย แถมฝีมือก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
คาราอาเกะทอดใหม่ๆ ที่เธอทำให้กินตอนเดทที่บ้านครั้งก่อนน่ะ อร่อยจนแก้มแทบจะร่วงเลยล่ะ
……ใช่แล้ว วันนั้นเอง ที่ฉันเผลอ ‘จู่โจม’ ชิโนะกลางคันระหว่างมื้ออาหารเสียได้
ทั้งได้เดทกับแฟนสาวสุดน่ารักหลังจากไม่ได้เจอกันนาน ทั้งยังอยู่ที่บ้านกันเพียงลำพังสองต่อสอง
มันอดทนไว้ไม่ได้จริงๆ นี่นา
“มะ ไม่มีทางหรอกน่า!”
ชิโนะส่ายหน้าปฏิเสธไปมาอย่างแรง ฉันจึงจ้องมองเธออยู่เช่นนั้น
──และในวันนี้ก็เช่นกัน ในหัวของฉันมันเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา
นิ้วเรียวยาวสีขาวสะอาดที่ยกขึ้นมาแตะแก้มแดงๆ นั่น ดึงดูดสายตาของฉันไปเสียหมด อีกทั้งริมฝีปากอวบอิ่มเป็นมันวาวตอนที่เธอนำอาหารเข้าปาก ก็ทำให้ฉันรู้สึกถึงความปรารถนาอันไม่สมควรขึ้นมา
อยากจะสัมผัส อยากจะให้เธอสัมผัสเร็วๆ อดคิดแบบนั้นไม่ได้เลย
“อะไรกัน ไม่เชื่อคำพูดของฉันหรือไง?”
“……ขี้โกงจังนะ เร็นเนี่ย—……”
พอเห็นชิโนะเผยรอยยิ้มที่ไม่อาจปิดบังความยินดีเอาไว้ได้หมด ฉันเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย
สัมผัสได้ถึงความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอ ด้วยความรู้สึกอันบริสุทธิ์
แต่ทว่า ในขณะเดียวกัน
ฉันก็เอาแต่คิดถึงเรื่อง ‘หลังจากนี้’ เสียแล้ว
……ไม่ใช่ว่าฉันเป็นพวกโรคจิตหรอกนะ แต่เป็นเพราะชิโนะน่ารักเกินไปต่างหากล่ะ
เป็นฤดูที่ดวงอาทิตย์ตกดินเร็ว
พอกลับมาถึงห้องพัก ทิวทัศน์ที่มองเห็นก็เปลี่ยนไปจากตอนที่เช็คอิน
ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโตเกียวที่มองเห็นได้สุดลูกหูลูกตาจากหน้าต่าง ชิโนะก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย
“ว้าว—! สวยสุดยอดไปเลย!”
“ว้าว—! สวยสุดยอดไปเลยนะ เร็น!”
คำพูดสุดแสนจะเชยเฉิ่มว่า—ชิโนะสวยกว่าอีกนะ เกือบจะหลุดออกจากปากไปเสียแล้ว
“อา ใช่ สวยจริงๆ นั่นแหละ”
“……อ๊ะ จริงสิ เร็นเคยเห็นตอนถ่ายทำแล้วนี่นา นี่เป็นครั้งที่สองสินะ วะ ว่าแต่ฉันดีใจออกนอกหน้าอยู่คนเดียว น่าอายจังเลยนะ”
ส่วนหนึ่งก็เพราะฉันกำลังเผลอมองชิโนะอยู่ด้วย ปฏิกิริยาของฉันก็เลยอาจจะดูเฉยเมยไปสินะ
ต่อชิโนะที่ดูหงอยลงไปเล็กน้อย ฉันก็รีบพูดแก้ทันที
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อยน่า ถึงจะเป็นทิวทัศน์เดียวกัน แต่การได้ดูกับชิโนะน่ะ มันต้องสวยกว่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ใบหน้าของชิโนะก็พลันแดงก่ำขึ้นมาทันทีราวกับมีซาวด์เอฟเฟกต์ประกอบ
ทั้งๆ ที่รู้เหตุผลอยู่แล้วแท้ๆ แต่เพราะปฏิกิริยาของชิโนะมันน่ารักเหลือเกิน ฉันก็เลยเผลอถามออกไปอย่างใจร้าย
“หน้า แดงแจ๋เลยนะ? เพราะเหล้าเหรอ?”
“ทะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าฉันไม่ได้ดื่มแท้ๆ เลย—……”
ใช่แล้ว เหตุผลที่ชิโนะในค่ำคืนนี้ไม่ได้ดื่มเหล้าเลยก็คือ “เพราะไม่อยากให้ความทรงจำมันเลือนลางเพราะความเมาน่ะสิ ไหนๆ ก็ได้มาพักโรงแรมหรูหรากับเร็นเป็นครั้งแรกแล้วแท้ๆ”
ถึงแม้ฉันจะชอบชิโนะตอนเมาที่ดูน่ารักดีก็เถอะนะ (เฉพาะตอนที่อยู่กับฉันเท่านั้นนะ ตอนไปดื่มข้างนอกน่ะดูน่าเป็นห่วงจะตาย อันที่จริงแล้วอยากจะห้ามเลยด้วยซ้ำ) แต่ความรู้สึกที่อยากจะจดจำวันนี้ไว้ให้ดีของชิโนะ ก็ทำให้ฉันซาบซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก
อยากจะเป็นคนรักที่สามารถพาชิโนะมาโรงแรมหรูหราแค่ไหนก็ได้ กี่ครั้งก็ได้
ต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้สินะ… ฉันคิดแบบนั้น
“ฉันเองก็ไม่ได้ดื่มไปเยอะเท่าไหร่หรอกนะ แต่ว่า… ขอเอนตัวลงนอนหน่อยนะ”
ฉันนั่งลงบนขอบเตียง แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนไปทั้งอย่างนั้น
“ตอนทำงานน่ะ จะมานอนเอกเขนกบนเตียงแบบนี้ไม่ได้เลยนี่นา—”
ทั้งชุดเดรสจะยับ ทั้งผมจะเสียทรง เดี๋ยวโดนคุณมาจิมะดุยกใหญ่พอดี
แต่ว่า คืนนี้คือการเดทนะ
จะจู่โจมเข้ามาตอนนี้เลยก็ได้นะ… ก็แอบมีความคิดไม่ดีไม่ร้ายอยู่บ้างเหมือนกัน
“ระ…… เร็นไม่ได้ถ่ายแค่ที่ห้องจัดเลี้ยง แต่ถ่ายในห้องพักด้วยใช่ไหมคะ?”
……ดูเหมือนว่า ความรู้สึกของฉันคงจะส่งไปไม่ถึงชิโนะสินะ
แถมยังทำสีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ด้วย
“อืม ถึงจะไม่ใช่ห้องนี้ แต่ก็มีการถ่ายทำในห้องพักแขกอยู่ เปลี่ยนชุดเดรสจากตอนอยู่ที่ห้องจัดเลี้ยงแล้วก็ถ่ายไปเยอะพอสมควรเลยล่ะ เพราะเป็นคอลัมน์พิเศษชุดเดรสทางการ ก็เลยต้องมีการปรับเปลี่ยนนู่นนี่นั่นให้เข้ากับ TPO (เวลา สถานที่ โอกาส)~ มันก็เลยใช้เวลาไปพอสมควรไง”
“งะ งั้นเหรอ…… เป็นงานที่ลำบากจริงๆ สินะคะ……”
รู้สึกถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างคำพูดกับสีหน้าอย่างบอกไม่ถูก
ชิโนะชำเลืองมองฉันเหมือนจะสังเกตสีหน้า แล้วก็อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ในลำคอ
“อะไรกัน มีอะไรอยากจะพูดก็ว่ามาสิ?”
มีเรื่องไม่พอใจที่ทนไม่ได้จริงๆ เกี่ยวกับการเดทวันนี้งั้นเหรอ?
……หรือว่า ไม่ใช่เรื่องเดท แต่เป็นเรื่องไม่พอใจเกี่ยวกับตัวฉัน!?
จู่ๆ ก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา
ฉัน ไปทำอะไรพลาดหรือเปล่าเนี่ย?
“……ไม่ว่าฉันจะพูดอะไร ระ เร็น จะฟังไหมคะ?”
“มะ…… มันก็ต้องแล้วแต่เนื้อหาล่ะนะ……”
เหงื่อเย็นๆ ไหลซึมไปทั่วแผ่นหลัง
จะ จะโดนพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย?
ทั้งๆ ที่ในใจกำลังร้อนรนสุดขีด แต่ทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามกับชุดเดรสที่ไม่คุ้นเคย ก็อยากจะทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงสุดคูลไปเสียได้
ฉันลองถามออกไปพลางแสร้งทำเป็นใจเย็น ซ่อนเร้นหัวใจที่กำลังสั่นไหวเอาไว้
“ตะ แต่ว่า เอาเถอะ…… เดทวันนี้น่ะ ก็เหมือนของขวัญคริสต์มาสล่ะนะ ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”
“……เอ่อ คือว่านะ”
ชิโนะนั่งลงบนเก้าอี้ริมหน้าต่าง
“……นี่ เร็น”
พอเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยนั้น หัวใจของฉันก็เริ่มเต้นระรัวขึ้นมา
“มะ มีอะไร?”
ริมฝีปากอวบอิ่มเป็นมันวาวของชิโนะ ค่อยๆ เผยอออก—
“ช่วยทำท่าตอนถ่ายแบบให้ดูหน่อยสิ ว่าโพสแบบไหน”
คำพูดที่ได้ยินนั้น มันเหนือความคาดหมายไปไกลลิบ
“…………หา?”
รู้สึกเหมือนแรงตกไปเลย
ผิดคาดชนิดที่เกือบจะเผลอทำท่าหงายหลังตึงแบบในการ์ตูนแก๊กสมัยก่อน
“ทะ… หมายความว่า ให้คิดว่าชิโนะเป็นช่างภาพ แล้วลองโพสท่าให้ดู อย่างนั้นเหรอ?”
“ชะ ใช่! ก็ แค่อยากลองดูสักครั้งน่ะสิ ก็เลยคิดว่า……”
“……ไม่เอาหรอกน่า อายจะตายชัก”
ความรู้สึกหมดแรงหลังจากที่โล่งใจก็ถาโถมเข้ามาในคราวเดียว
ฉันเงยหน้ามองเพดานพลางหัวเราะแห้งๆ…… ไม่ผิดแน่
โคมไฟนี่ก็คงใช้ของแพงน่าดูเลยน้า—
ขณะที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อยไร้สาระด้วยสมองที่ว่างเปล่า เตียงข้างๆ ที่ฉันนอนเอกเขนกอยู่ก็ยุบตัวลง
พอหันหน้าไปมอง ชิโนะก็มานั่งอยู่ข้างๆ เสียแล้ว
“เร็น……”
นี่ มันเป็นบรรยากาศที่จะ ‘ทำ’ กันต่อเลยหรือเปล่านะ?
จะเอางั้นฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ
ทางนี้พร้อมเสมออยู่แล้ว
ฉันคิดพลางจ้องมองชิโนะ แต่เธอกลับประสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู แล้วเอียงคอเล็กน้อย
“ยะ อยากดูให้ได้เลยจริงๆ น้า—…… ไม่ได้เหรอคะ?”
ยังจะพูดอีกเรอะ!?
……ดูเหมือนว่าวันนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็อยากจะให้ฉันทำตามคำขอเอาแต่ใจนี้ให้ได้เลยสินะ
“ไม่น่า ก็บอกแล้วไงว่า—”
ฉันพยายามจะปฏิเสธอีกครั้ง แต่ทว่า…… ปรากฏการณ์เดียวกับเมื่อครู่ ก็เกิดขึ้นอีกครั้งจนได้
ชิโนะในค่ำคืนนี้ที่สวมชุดเดรสหรูหราอยู่ในโรงแรมอันโอ่อ่า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดูเหมือนราชินีหรือเจ้าหญิงกันแน่ ถึงได้เปล่งประกายเสน่ห์อันน่าพิศวง ชนิดที่ไม่อาจขัดขืนได้เลย
ฉันกล้ำกลืนคำพูดลงไป แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
“……เข้าใจแล้วๆ เข้าใจแล้วน่า”
ยอมแพ้โดยสิ้นเชิงแล้ว
โดนบรรยากาศเล่นงานเข้าเต็มเปาเลย
……ว่าไปแล้ว อันที่จริง ฉันก็ไม่ได้เกลียดชิโนะเวลาที่เธอเอ่ยปากขออะไรเอาแต่ใจอยู่แล้ว
พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่มีทางเลือกที่จะปฏิเสธมาตั้งแต่แรกแล้วนั่นเอง
“ท่าโพสก็จะทำแบบคร่าวๆ เท่าที่จำได้ก็แล้วกันนะ แบบนั้นพอได้ไหม?”
“อื้ม! ขอบคุณนะ!”
พอชิโนะส่งยิ้มที่น่ารักสุดๆ มาให้แบบนั้น ความอายก็เลยถูกพักไว้ก่อน
เพื่อให้เธอดีใจด้วย ก็คงต้องลองพยายามดูสินะ “งั้น เริ่มล่ะนะ—”
“ฝะ ฝากด้วยนะคะ!”
ชิโนะลงจากเตียงไปนั่งบนเก้าอี้แล้วจ้องมองฉันอยู่
เหตุผลก็คืออยากจะมองจากมุมกว้างนั่นเอง
เอาเถอะ ในใจฉันตอนนี้ความรู้สึกอายมันก็หายไปแล้วล่ะนะ
เพื่อตอบสนองความต้องการของแฟนสาว ฉันก็นั่งลงบนขอบเตียงแล้วลองโพสท่าต่างๆ ไปเรื่อยเปื่อย
อันที่จริงแล้ว ตอนทำงานไม่ได้มีการถ่ายทำโดยใช้เตียงหรอกนะ
แต่เหตุผลที่ฉันไม่ยอมลุกไปจากเตียงก็เพราะ… แอบมีความคิดไม่ซื่อแฝงอยู่นั่นเอง ว่าอยากจะให้ชิโนะที่ ‘เกิดอารมณ์’ ขึ้นมาแล้ว รีบผลักฉันลงไปเร็วๆ สักหน่อย
ได้อยู่กับแฟนสาวสุดน่ารักขนาดนี้ทั้งวันนี่นา
การจะคิดถึงแต่เรื่องนั้นมันก็ช่วยไม่ได้นี่นา
ใช่ไหมล่ะ?
ลองใช้มือข้างหนึ่งเสยผมขึ้นดูบ้าง
ลองนั่งไขว่ห้างดูบ้าง
สิ่งที่ทำก็ไม่ได้ต่างจากการถ่ายแบบปกติเท่าไหร่นักหรอก
แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากปกติก็คือ… คนที่อยู่ตรงหน้าฉัน ไม่ใช่ช่างภาพที่ถือกล้องตัวใหญ่และคอยส่งเสียงสั่งการ
แต่คือคนรักผู้เป็นที่รักของฉันต่างหาก— ผู้ซึ่งกำลังจ้องมองฉันด้วยใบหน้าอันน่ารักและดวงตาคู่โต ราวกับจะประทับภาพของฉันทั้งหมดไว้บนเปลือกตา
“เร็น เท่สุดๆ ไปเลย……!”
พอเห็นชิโนะทำตาเป็นประกายวิบวับ ฉันก็เผลอยิ้มออกมา
“โอ้ว ถ้าเธอพอใจก็ดีแล้วล่ะน่า”
“พอได้เห็นกับตาตัวเองแล้วก็รู้สึกทึ่งเลยค่ะ ว่าเป็นนางแบบมืออาชีพจริงๆ…! วะ ว่าแต่ ฉันขอใช้มือถือถ่ายรูปไว้ได้ไหมคะ……?”
“ได้สิ แต่คิดเงินนะ”
“ค่ะ จ่าย! ทะ เท่าไหร่คะ?”
“ยัยบ้า ล้อเล่นน่า ก็บอกไปแล้วไงที่เลานจ์ว่า ‘จะทำตามรับสั่งทุกประการ’ น่ะ? ถ้าเป็นชิโนะล่ะก็ จะถ่ายกี่รูปก็ได้ สิทธิพิเศษเลยนะ?”
“เอเฮะเฮะ…… ขอบคุณนะ เร็น”
ต่อหน้าสมาร์ตโฟนที่ชิโนะผู้กำลังตื่นเต้นดีใจชูขึ้นมา ฉันก็โพสท่าต่อไปเรื่อยๆ
ชิโนะพลางส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดออกมา
ทุกครั้งที่ฉันโพสท่า เธอก็กดชัตเตอร์รัวๆ ไม่หยุด
ถึงจะพูดไม่ได้เต็มปากว่ามันใกล้เคียงกับการถ่ายทำจริงจังก็เถอะ แต่ดูเหมือนว่าชิโนะจะทึ่งไปกับทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหวของฉันในฐานะ “REN” เสียทุกครั้งไป
พอผู้ชมมีปฏิกิริยาตอบรับดี ฝ่ายนางแบบเองก็พลอยมีอารมณ์ร่วมตามไปด้วยเป็นธรรมดา
ฉันที่คิดว่าจะโชว์ช็อตพิเศษที่ปกติไม่ค่อยได้ทำเป็นของแถมให้ดู ในตอนที่เปลี่ยนท่าไขว่ห้างนั้นเอง… ฉันก็ไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นว่าสายตาของชิโนะกำลังไล่มองตามชายกระโปรงของฉันอยู่
──หรือว่า?
ลองโน้มตัวไปข้างหน้ามากๆ ดู
ชุดเดรสที่เปิดช่วงอกนี้ ถ้าไม่คอยระวังให้ดี ก็จะเผยส่วนที่ไม่น่ามองให้คนอื่นเห็นได้
ฉันเหลือบสายตาขึ้นมองสำรวจท่าทีของชิโนะ
ถึงจะดูเหมือนว่าเธอไม่อาจปิดบังความหวั่นไหวเอาไว้ได้ แต่คนรักผู้ซื่อตรงต่อความปรารถนาของตนเองคนนี้ ก็กำลังจ้องมองมาที่ช่วงอกของฉันอย่างไม่วางตา
ต้นอ่อนแห่งความอยากรู้อยากเห็นก็พลันผลิยอดขึ้นมา
ชิโนะจังที่ทำหน้าตาน่ารักแต่ความจริงแล้วกลับลามกสุดๆ คนนี้ จะสามารถรักษาความสงบนิ่งต่อการยั่วยุของฉันไปได้ถึงเมื่อไหรกันนะ?
ความรู้สึกที่อยากจะลองทดสอบดูเริ่มจะควบคุมไว้ไม่อยู่แล้ว
พอลองใช้สองมือรวบผมด้านหลังขึ้นสูงราวกับจะอวดต้นคอให้เห็น… ก็ดูเหมือนว่าดวงตาของชิโนะจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
ฉันที่ได้ใจจากปฏิกิริยาของชิโนะ ก็จัดการรั้งชายกระโปรงขึ้นสูง เผยให้เห็นต้นขา จนถึงระดับที่ล่อแหลม ชนิดที่เกือบจะมองเห็นชุดชั้นในอยู่รอมร่อ
ชอบแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?
พอคิดแบบนั้นแล้วชำเลืองมองดูท่าทีของชิโนะ เธอก็เปลี่ยนจากหน้าตาก่อนหน้านี้ กลายเป็นสีหน้ากังวลใจไปเสียแล้ว
“ระ……เร็น? ตอนถ่ายจริงก็โพสท่าแบบนี้ด้วยเหรอคะ?”
ถึงจะเป็นนิตยสารแฟชั่นสำหรับผู้หญิง แต่แน่นอนว่าฉันไม่ได้โพสท่าโดยมีจุดประสงค์เพื่อขายในลักษณะนี้อยู่แล้ว
“ก็แหงสิ ถ้ามีคำสั่งมาก็ต้องทำอยู่แล้ว ก็นะ มืออาชีพนี่นา”
ทว่า ฉันก็ลองผสมคำโกหกไปนิดหน่อย
ก็เพราะอยากจะทดสอบดูว่าชิโนะจะอดทนไปได้ถึงเมื่อไหรกันแน่น่ะสิ
อุตส่าห์ได้มาโรงแรมดีๆ ทั้งทีนี่นา
ถึงฉันจะทำตัวเอาแต่ใจไปบ้างนิดหน่อย ก็คงไม่โดนลงโทษหรอก
ใช่ไหมล่ะ?
“งะ งั้นเหรอ……”
ชิโนะทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คนที่เอ่ยปากขอให้โพสท่าให้ดูตั้งแต่แรกก็คือตัวชิโนะเอง
อีกอย่าง… ในเมื่อทางนี้ก็โดนยั่วให้อยากอยู่เหมือนกัน ก็ต้องให้ชิโนะได้ลิ้มรสความรู้สึกแบบเดียวกันบ้างสิ
จริงไหม?
“งั้น ทำต่อละนะ”
ฉันจงใจโพสท่าในลักษณะที่ปลุกปั่นความปรารถนาของชิโนะต่อไปเรื่อยๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง— เสียงกดชัตเตอร์ก็เงียบหายไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
สายตาอันร้อนแรงของชิโนะกำลังจับจ้องมาที่ใบหน้าและร่างกายของฉันโดยตรง
เพียงแค่สายตานั้นก็ทำให้ตัวฉันเองรู้สึกถึงความตื่นเต้นอย่างมหาศาลขึ้นมา
……อา โชคดีจริงๆ ที่ตอนทำงานไม่ได้มีการถ่ายทำบนเตียงด้วย
ถ้ามัวแต่คิดถึงเรื่องชิโนะจนควบคุมสีหน้าได้ไม่ดีเท่าที่ควร เผลอๆ อาจจะโดนคุณมาจิมะหัวเราะเยาะเอาอีกก็ได้
เพียงแค่ถูกจ้องมอง ร่างกายก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา
คิดว่าจะ… เผยช่วงอกให้เห็นมากกว่านี้ แต่ก็เปลี่ยนใจ
การเปิดเผยที่มากเกินไปอาจจะกลายเป็นความไร้รสนิยมได้
การขีดเส้นแบ่งระหว่างความภูมิใจในฐานะนางแบบกับการยั่วยวนชิโนะนั้น มันยากเอาเรื่องเหมือนกัน
แต่ถึงไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น เกมต่อรองที่ฉันเริ่มขึ้นมาเองฝ่ายเดียวนี้น่ะ เกรงว่าฉันคงจะเป็นฝ่ายชนะ
เพราะการที่ฉันใกล้จะถึงขีดจำกัดของความอดทนแล้ว ก็หมายความว่าชิโนะเองก็น่าจะใกล้ถึงขีดจำกัดแล้วเช่นเดียวกัน
ซิปชุดเดรสของฉันอยู่ด้านหลัง
ถ้าเธอจะถอดให้ล่ะก็ ถอดออกได้ง่ายๆ เลย
“เร็น”
เป็นช่องว่างเพียงชั่วพริบตา ที่สมาธิของฉันหันไปจดจ่ออยู่กับซิป
เงาหนึ่งก็ทาบทับลงบนใบหน้าของฉัน
พอเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าชิโนะมายืนอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
“……ชิโนะ”
ฉันถูกผลักให้ล้มลงบนเตียงนอนหรูหราที่ให้สัมผัสแตกต่างไปจากปกติ
เหนือร่างของฉัน คือชิโนะ
ใบหน้านี้ ฉันรู้จักดี
ใบหน้าของแฟนสาวสุดน่ารัก ที่กำลังมีอารมณ์ปรารถนาในตัวฉัน
……มันช่าง… เกินจะห้ามใจไหว
แค่ได้เห็นใบหน้านี้ ก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองกำลังปรีดา
ถึงขนาดที่เตรียมพร้อมจะต้อนรับเธอได้ในทันที
“……ชุดเดรส… ยับหมดแล้วนะ?”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ถอดแล้ว”
“……ฮะฮะ นี่เต็มที่เลยนี่นา”
ถึงปากจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่คงเพราะรอคอยให้ชิโนะสัมผัสมาตลอดกระมัง เพียงแค่ปลายนิ้วของชิโนะสัมผัสถูกใบหู ฉันก็รู้สึกวาบหวามขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
“นี่ เร็น”
ถูกเรียกชื่อแผ่วเบาข้างใบหู
ทั้งๆ ที่อยู่ในห้องอันกว้างขวางและหรูหราเช่นนี้ ในพื้นที่ส่วนตัวที่มีเพียงฉันกับชิโนะสองคนเท่านั้น แต่กลับเป็นเสียงกระซิบแผ่วเบา ราวกับจะให้ได้ยินเพียงแค่ฉันคนเดียว
“นับจากนี้ไป แสดงเร็นที่ฉันรู้จักเพียงคนเดียวออกมาให้ดูสิ”
ทั้งเสียงของชิโนะที่แว่วผ่านเข้ามาในหู ทั้งถ้อยคำนั้น เกือบจะทำให้ฉันเข่าอ่อนทรุดลงไปกองกับพื้น
ช่างเป็นคำขอเอาแต่ใจที่แสนหวานล้ำอะไรเช่นนี้
พอโดนดวงตาที่สื่อความปรารถนาในตัวฉันออกมาอย่างชัดเจน จับจ้องมาตรงๆ แล้วถูกขอร้องแบบนั้นเข้า
เซลล์ทุกอณูในร่างกายก็พลันตื่นตัวมีชีวิตชีวา
ความตื่นเต้นอันซาบซ่านก็แล่นปราดไปทั่วแผ่นหลัง
ถึงจะไม่รู้ว่าสวิตช์ของชิโนะถูกเปิดขึ้นตอนไหนก็เถอะ แต่ก็คิดว่าคุ้มค่าที่ได้ยั่วยุไป
‘เพราะอยากให้ชิโนะดีใจ’ ‘เพื่อชิโนะ’ ‘เพราะชิโนะน่าจะชอบ’
เหตุผลว่า ‘เพื่อชิโนะ’ ในการเลือกชุดเดรสนี้ เป็นเพียงข้ออ้างบังหน้า
ฉันซุกซ่อนความปรารถนาในใจของตัวเองเอาไว้
ว่าถ้าเป็นชุดนี้แล้ว… ชิโนะอาจจะเกิดอารมณ์ปรารถนาในตัวฉันรุนแรงยิ่งขึ้นหรือไม่นะ
คาดหวังว่าเธออาจจะอดใจไม่ไหวจนอยากจะกอดฉันเร็วๆ หรือไม่นะ
เพราะฉันเฝ้าหวังให้เรื่องราวมันดำเนินไปในทิศทางนี้มาตลอดอยู่แล้ว
“……เร็นที่ชิโนะรู้จักเพียงคนเดียวเนี่ย…… ตัวอย่างเช่น แบบไหนเหรอ?”
ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว แต่ก็ยังถามออกไปอย่างใจร้าย
ปลายนิ้วเรียวของชิโนะไล้ไปตามกระดูกไหปลาร้าของฉัน
“……อย่างเช่น ใบหน้าที่เม้มริมฝีปากเหมือนกำลังจั๊กจี๋ เวลาที่ถูกสัมผัสอย่างอ่อนโยนน่ะสิ”
ปลายนิ้วเลื่อนไล้ไป วางลงบนเนินอก… แล้วลูบไล้คลึงเคล้นที่ส่วนยอดเบาๆ
“อ๊ะ”
“อย่างเช่น ใบหน้าที่ทำหน้ามุ่ยอย่างเขินอายเล็กน้อย หลังจากที่เผลอหลุดเสียงออกมาแล้วน่ะสิ”
ปลายนิ้วของชิโนะสอดแทรกเข้ามาในชุดเดรสของฉัน
และในชั่วพริบตา ก็มาถึงยังส่วนที่ร้อนระอุที่สุดของฉันจนได้
“อึ่ก อ๊า…”
“……อย่างเช่น ใบหน้าที่น่ารักเสียจนเกินไป ที่แสดงออกมาในยามที่รู้สึกอย่างถึงที่สุดน่ะสิ”
……วันนี้ฉันอาจจะ… ไม่ไหวแล้วก็ได้
รู้สึกว่าร่างกายมันไวต่อสัมผัสมากกว่าปกติ
ไม่ใช่แค่ปลายนิ้วของชิโนะ ทั้งคำพูด ทั้งน้ำเสียง ไม่สิ… เพียงแค่ถูกจ้องมองด้วยดวงตาคู่นั้น ก็แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว
“ใบหน้าแบบนั้นของเร็นน่ะ ฉันคิดว่ามีแค่ฉันคนเดียวที่รู้จัก… ไม่ใช่เหรอ?”
ชิโนะแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน…… พอโดนทำสีหน้าแบบนั้นใส่ตรงนี้เข้า ก็จนปัญญาโดยสิ้นเชิงแล้ว
อยากจะให้ช่วยจัดการกับร่างกายที่กำลังร่ำร้องนี้เร็วๆ ฉันจึงคว้าข้อมือของชิโนะไว้
“มะ ไม่ใช่หรอกน่า เพราะงั้น……”
การที่เผลอถามไปเมื่อครู่ว่า ‘ตัวอย่างเช่น แบบไหนเหรอ?’ นั้น ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ
ไม่คิดเลยว่าจะโดนยั่วให้อยากถึงขนาดนี้
เสียงแหบพร่า
ดวงตาเอ่อคลอ
จนไม่อาจคิดถึงเรื่องความอายอะไรได้อีกแล้ว
ฉันมาถึงขีดสุดแล้ว
“……อย่าแกล้งกันนักสิ”
ชิโนะประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของฉัน
“อื้ม น่ารักจัง เร็น”
บนเตียงนอนที่ใหญ่กว่าปกติและดูท่าทางแพงกว่ามากนัก
ดูเหมือนว่าการถูกยั่วให้อยากนั้นจะเป็นกันทั้งสองฝ่าย หรืออาจจะเป็นเพราะแรงสะท้อนกลับ ชิโนะจึงเรียกร้องในตัวฉันอย่างรุนแรง
ฉันที่ไม่มีทางจะรู้สึกไม่พอใจที่ถูกเรียกร้อง ก็พยายามอย่างสุดกำลังที่จะใช้ร่างกายนี้รองรับทุกสิ่งทุกอย่างของชิโนะเอาไว้
“เร็น”
เพียงแค่ถูกเรียกชื่อ ก็แทบจะถึงจุดสุดยอดอยู่แล้ว
สถานการณ์ที่แตกต่างไปจากปกติ ก็อาจจะเป็นอีกสิ่งที่ปลุกเร้าฉันอยู่ก็เป็นได้
“เร็น…… ตรงนี้?”
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี นับตั้งแต่เริ่มคบกับชิโนะ
อาจจะเพราะไม่มั่นใจในตัวเองกระมัง ดูเหมือนจะมีบางครั้งที่เธอคิดว่าความรู้สึกที่เธอมีให้ฉันนั้นมันรุนแรงกว่า
──แต่ว่า มันไม่ใช่เลย
ฉันคิดว่าความรักที่ฉันมีให้ชิโนะนั้นยิ่งใหญ่กว่าอย่างแน่นอน
“เร็น รู้สึกดีไหม?”
ไม่ว่าจะมีเพื่อนมากแค่ไหน ไม่ว่าจะถูกใครๆ บอกว่าเป็นคนดังก็ตาม ไม่ว่าจะทำงานที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนก็ตาม
อันที่จริงแล้ว เพียงแค่ได้รับความรู้สึกจากชิโนะเพียงผู้เดียว แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
หากเพียงชิโนะรักฉัน แค่นั้นก็พอแล้ว
แต่ทว่า ไม่ว่าจะพยายามเอ่ยเป็นคำพูดสักกี่ครั้ง ไม่ว่าจะสัมผัสผิวกายกันสักกี่หน
ตราบใดที่ตัวตนของฉันและชิโนะยังคงดำรงอยู่อย่างแยกจากกัน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายทอดความรู้สึกของฉันทั้งหมดให้ชิโนะได้รับรู้อย่างครบถ้วน
บางครั้ง ก็มีค่ำคืนที่ความเจ็บใจนั้นมันเกินจะทนไหวอยู่เหมือนกัน
ถึงกระนั้น…… ฉันก็ไม่อยากจะยอมแพ้หรอกนะ
วิธีการเดียวและสำคัญที่สุด ที่มนุษย์—ที่ฉัน—สามารถทำได้ ก็คือการเอ่ยบอกออกไป
“……ชิโนะ…… ชอบ นะ……”
ร้อยครั้ง พันครั้ง หมื่นครั้ง—ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม ฉันก็จะยังคงเอ่ยบอกถ้อยคำนั้นแก่ชิโนะต่อไป
ตราบใดที่ชิโนะยังคงอยู่เคียงข้างฉันในอนาคตหลังจากนี้
“……เร็น……”
ฉันสบตากับชิโนะที่กำลังใช้มือปัดผมหน้าม้าของฉันที่กำลังหอบหายใจรวยรินออกอย่างอ่อนโยน
ถึงจะอธิบายได้ไม่ดีนัก แต่ในชั่วขณะนั้น
ฉันคิดขึ้นมาว่า ตัวเองอาจจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้วก็ได้
“ฉันก็ชอบเร็นเหมือนกันนะ”
พอถูกพูดเช่นนั้น ริมฝีปากก็ถูกปิดผนึกด้วยจุมพิต
ตอนนี้จึงไม่อาจเอื้อนเอ่ยสิ่งใดได้มากกว่านั้น
แต่พวกเรายังมีเวลาเหลือเฟือ
ต่อจากนี้ไป ฉันจะยังคงถ่ายทอดความรักนี้ ให้กับคนรักผู้แสนสำคัญต่อไป
◆
ไม่รู้ว่าพวกเรามอบความรักให้แก่กันเนิ่นนานเท่าใด
มันช่างเลือนรางเหลือเกิน
เพราะฉันจมดิ่งอยู่กับชิโนะจนแทบแยกไม่ออกว่านี่คือความฝันหรือความจริง คนที่เตรียมห้องอาบน้ำในห้องพักให้คงจะเป็นชิโนะสินะ
พอหย่อนกายลงไปในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำร้อน ก็เผลอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว
“……อา—…… สบายจังเลยนะ”
“คิกคิก ใบหน้าอ่อนระทวยของเร็นน่ะ น่ารักจัง”
ชิโนะที่เมื่อครู่ยังรุกเร้าฉันจนแทบจะหมดสติ กลับแย้มยิ้มออกมาอย่างสงบ
……ฉันน่ะ แพ้ทางให้กับความแตกต่างแบบนี้จริงๆ เลยน้า—
พวกเรานั่งหันหน้าเข้าหากันในอ่างอาบน้ำที่ค่อนข้างกว้างขวางพอสำหรับสองคน
ถึงจะเหยียดขาได้ไม่เต็มที่นัก แต่การที่หน้าแข้งหรือปลายเท้าไปโดนตัวชิโนะบ้าง แบบนี้มันก็สนุกไปอีกแบบเหมือนกัน
“อะ เอ่อ…… เร็น ขอโทษนะ? อุตส่าห์มาโรงแรมหรูหราทั้งที แต่การที่เอาแต่อยู่ในห้องตลอดอาจจะน่าเสียดายไปหน่อยรึเปล่านะ……”
“……หมายความว่าอยากจะลองไปที่บาร์หรือสปาด้วยเหรอ?”
“มะ ไม่ใช่ฉัน แต่คิดว่าเร็นอาจจะอยากไปน่ะสิ…… ขอโทษนะ”
……แฟนของฉันนี่ใจดีจริงๆ นะ
แต่ชอบกังวลเรื่องแปลกๆ จังเลยน้า
ฉันใช้นิ้วดีดน้ำใส่หน้าชิโนะที่กำลังขอโทษอย่างหยอกล้อ
“พูดอะไรน่ะ ถ้าลองคิดดูว่าการเลือกที่จะอยู่ในห้องทั้งๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายน่ะ มันคือความหรูหราฟุ่มเฟือยที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ”
“……งั้น… เหรอ?”
ฉันเลยใช้สองมือวักน้ำสาดใส่ชิโนะที่ยังคงทำหน้าหงอยอยู่อีกครั้งเต็มๆ
ใบหน้าที่แต่งหน้าไว้อย่างสมบูรณ์แบบเปียกโชกไปหมด
ชิโนะส่งเสียงน่าสงสารออกมาว่า “เฟ้……” แล้วใช้นิ้วปาดหยดน้ำออก
“อีกอย่าง มันก็เป็นความทรงจำที่ดีไม่ใช่เหรอ? การมีเซ็กซ์กันในโรงแรมดีๆ แบบนี้น่ะ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้บ่อยๆ นี่นา?”
ด้วยคำศัพท์ที่ฉันเอ่ยออกมา เธอคงจะนึกถึงเรื่องเร่าร้อนเมื่อครู่ขึ้นมาสินะ
ทั้งๆ ที่ทำกับฉันซะปั่นป่วนไปหมดขนาดนั้นแท้ๆ ชิโนะก็เกิดอาการเขินขึ้นมากะทันหัน
“นั่…… นั่นสินะคะ……! อื้ม เป็นความทรงจำที่ดีมากๆ เลยล่ะค่ะ”
……ทำไมถึงต้องมาเขินอายเอาตอนนี้ด้วยนะ
ช่างเป็นปริศนาจริงๆ
แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นชิโนะที่น่ารัก หรือชิโนะตอนที่กำลังรุกฉัน ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรอกนะว่าฉันชอบทั้งสองแบบนั่นแหละ
สมัยมัธยมปลายก็เคยไปเที่ยวออนเซ็นแบบเช้าเย็นกลับด้วยกัน แถมยังเคยอาบน้ำด้วยกันที่บ้านของชิโนะตอนไปค้างคืนตั้งหลายครั้ง
แต่ทว่า เช่นเดียวกับที่ฉันจะไม่มีวันลืมวันนี้ไปตลอดชีวิต ก็อยากให้ชิโนะจดจำเรื่องราวในค่ำคืนนี้ไว้ตลอดไปเช่นกัน
“……ว่าแต่ว่า ทำไมจู่ๆ ถึงได้ถามขึ้นมาล่ะว่า ‘ถ่ายแบบกันยังไงเหรอ?’ น่ะ? การต้องมาโพสท่าทั้งๆ ที่ไม่มีกล้องน่ะ ตอนแรกมันก็ค่อนข้างน่าอายนะรู้ไหม”
ถึงแม้ฉันจะยอมทำตามคำว่า “อยากดูจัง” ของชิโนะแต่โดยดี แต่เธอก็ไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อนเลย
เพิ่งจะมาสงสัยเอาตอนนี้นี่แหละ
……ก็จริงอยู่ที่ว่าความอายมันมีแค่ช่วงแรกเท่านั้นแหละนะ
ช่วงหลังๆ กลายเป็นสนุกกับการยั่วชิโนะไปเสียแล้วก็เถอะ…… เรื่องนั้นไม่พูดออกไปน่าจะดีกว่าสินะ
“เอ๊ะ เอ่อ คือว่านะ……”
ชิโนะยกมือขึ้นมาขยับไปมาอย่างประหม่าในอ่างอาบน้ำ แล้วเหลือบสายตาขึ้นมองฉัน
“ทะ ถึงจะเคยเห็นงานของเร็นผ่านทางนิตยสารหรืออินสตาแกรมมาตลอดก็จริง แต่พอได้มายังสถานที่ที่เร็นทำงานจริงๆ เข้า…… ก็รู้สึกขึ้นมาจริงๆ เลยว่าเธอกำลังพยายามอยู่นะ สุดยอดไปเลยนะ……”
“……งั้น เหรอ”
คำพูดของชิโนะแพร่กระจายโดยตรงเข้ามาสู่สมอง ร่างกาย และ… สิ่งที่คล้ายกับค่านิยมของฉัน แล้วโอบล้อมฉันไว้ด้วยความรู้สึกอันน่าพิศวง ราวกับจะสร้างตัวตนของฉันขึ้นมาใหม่ทั้งร่าง
หากเทียบกับชิโนะที่ทุ่มเทสุดตัวอยู่เสมอแล้ว ฉันอาจจะพูดไม่ได้เต็มปากก็ได้ว่าตัวเองทำงานอย่างจริงจังด้วยความทะเยอทะยานมาตลอด…
ถึงกระนั้น ฉันก็ภูมิใจที่ได้ทำงานที่ได้รับมอบหมายมาอย่างดีเสมอ
การที่สามารถตอบสนองความคาดหวังในฐานะนางแบบได้ด้วยผลงานที่เหนือกว่า และทำให้ผู้ว่าจ้างพึงพอใจนั้น ฉันก็เริ่มจะรู้สึกถึงคุณค่าของมันแล้วเหมือนกัน
แต่ทว่า ในตอนนี้ การที่ชิโนะรู้สึกได้ว่างานของฉันมัน “สุดยอด” นั้น กลับมีตัวฉันที่รู้สึกซาบซึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอยู่ตรงนี้
มันหมายความว่าในฐานะ “REN” แล้ว ฉันก็มีเสน่ห์มากพอในสายตาของชิโนะ จนทำให้เธออยากจะเห็นด้วยตาตัวเองสินะ
สิ่งนั้นช่วยผลักดันแรงจูงใจของฉันให้พุ่งสูงขึ้น
……บางที ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายกว่าที่ตัวเองคิดไว้มากก็ได้
เพียงแค่ได้รับการยอมรับจากชิโนะ—จากคนที่ชอบเท่านั้น ทั้งกำลังใจ ทั้งเรี่ยวแรง ก็พรั่งพรูออกมาได้มากมายขนาดนี้เชียวหรือ
“……เร็น? เป็นอะไรไปเหรอ?”
“หืม—? ไม่มีอะไรสักหน่อยน่า ก็หมายความว่า ชิโนะตกหลุมรักฉันซ้ำอีกครั้งแล้วสินะ?”
พอฉันลองยิ้มออกมาอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม แก้มของชิโนะก็แดงวาบขึ้นมา
นี่ก็คงไม่ใช่เพราะไอร้อนจากการแช่น้ำในอ่างแน่ๆ
ช่างเป็นแฟนสาวที่น่ารักจริงๆ
ถึงขนาดที่ทำให้คิดว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยทีเดียว
“ชิโนะ…… ไว้มากันอีกนะ”
หากทำได้เพียงแค่ผูกพันธะสัญญาสำหรับอนาคตอันใกล้ต่อไปเรื่อยๆ เท่านั้น ที่จะรับประกันอนาคตอันไกลโพ้นได้ล่ะก็
งั้นก็จะขอให้สัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
ฉันไม่มีความคิดที่จะปล่อยชิโนะไปหรอกนะ
และฉันก็เชื่อว่าชิโนะเองก็คงจะ…… รักฉันเหมือนกัน
“อ๊ะ อื้ม! คะ ครั้งต่อไป ฉันจะเป็นคนให้ของขวัญเป็นการเดินทางกับเร็นเองนะ!”
“โอ้ว แต๊งกิ้วนะ จะตั้งตารอเลย”
ที่ผ่านมาพวกเราก็ทำแบบนี้กันมาตลอดนี่นา
ถ้าเป็นพวกเราล่ะก็ ต่อจากนี้ไปก็ต้องไม่เป็นไรแน่นอน
พอคิดเช่นนั้นได้จากใจจริง ก็รู้สึกว่าร่างกายและจิตใจผ่อนคลายลงได้อย่างเต็มที่
ฉันจึงเหยียดแขนขาออกไปเต็มที่ในอ่างอาบน้ำ จนไปชนเข้ากับร่างของชิโนะ แล้วการหยอกล้อเล่นกันก็เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับเสียงที่ถามว่า “อะไรเหรอ?”
ฉันคว้าข้อเท้าเรียวบางของชิโนะไว้ แล้วจั๊กจี้เธอ
ถึงเสียงหัวเราะจะน่ารักน่าเอ็นดูจนอยากจะแกล้งต่อก็เถอะ แต่ฉันกลับสังเกตเห็นน่องของเธอที่ดูตึงกว่าปกติมากกว่า
เป็นเพราะส้นสูงเหรอ?
หรือว่า…….
“ชิโนะ เท้าไม่เมื่อยเหรอ? งานยังคงยุ่งเหมือนเดิมหรือเปล่า?”
ได้ยินมาว่าตอนสอนส่วนใหญ่ต้องยืนตลอดนี่นา
สำหรับชิโนะที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงแล้ว คงจะมีบางครั้งที่รู้สึกว่ามันหนักหนาอยู่สินะ
พอลองกดจุดที่ฝ่าเท้าให้ ชิโนะก็ทำสีหน้าดูสบายอกสบายใจ
“ขอบใจนะ— แต่ถึงจะบอกว่ายุ่ง แต่ก็ไม่เท่าเร็นหรอกน่า?”
“ถ้ามองจากมุมของฉันล่ะก็ ดูเหมือนงานของชิโนะจะลำบากกว่านะ”
“อาจจะ… ลำบากก็ได้ แต่ก็สนุกนะ ทั้งนักเรียน ทั้งคุณครูเพื่อนร่วมงานก็ดีกับฉัน ที่เหลือก็แค่ ถ้าฉันสามารถสอนได้เก่งขึ้นกว่านี้ก็คงจะดี… ต้องพยายามสินะ”
“……เป็นครูที่ดีจังเลยนะ ชิโนะเนี่ย”
“มะ ไม่ใช่ครูที่ดีอะไรขนาดนั้นสักหน่อยค่ะ~ ทั้งโดนชวนคุยเรื่องไม่เกี่ยวกับบทเรียนจนต้องหยุดสอนบ่อยๆ แถมตอนที่นักเรียนมาปรึกษา ก็ไม่คิดว่าตัวเองให้คำแนะนำที่ดีได้เลย…… ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยค่ะ”
……นี่มันครูที่ดีสุดๆ ไปเลยไม่ใช่หรือไงกัน
คุณครูที่ทั้งน่ารัก ทั้งใจดี แถมยังคิดถึงนักเรียนขนาดนี้ ตอนมัธยมปลายของพวกเราไม่มีสักหน่อยนี่นา?
“……ขอคลายความเหนื่อยล้าให้นะค้า~……”
ฉันเพิ่มแรงกดจุดให้หนักขึ้น ด้วยความรู้สึกขอบคุณในความเหนื่อยยากของเธอ
“โอ๊ยๆ…… แต่ว่า อาจจะเจ็บสบายดีก็ได้……”
“ตรงนี้คือบ่า—…… ตรงนี้คือ กระเพาะ!”
“อ๊ะ! โอ๊ยๆๆๆ!”
“ชิโนะน่ะมีนิสัยที่จริงจังเกินไปอยู่นะ ตรงไหนที่ผ่อนแรงได้ก็อู้งานไปบ้างเถอะน่า? ถ้าเกิดป่วยขึ้นมา ก็จะมาเดทกันแบบนี้ไม่ได้นะรู้ไหม?”
“อือ—…… แบบนั้น อาจจะไม่ได้ชอบก็ได้……”
นี่ก็เป็นคำขอเพื่อตัวฉันเองด้วยเหมือนกัน
เพราะในแต่ละวันที่แสนวุ่นวาย ถ้าฉันไม่ได้ ‘เติมชิโนะ’ อย่างสม่ำเสมอคงแย่แน่ๆ แถมยังต้องให้ชิโนะช่วยดูแลสุขภาพตัวเองด้วยสิ
“ว่าแต่เรื่องเดทครั้งต่อไปน่ะ บ่ายวันอาทิตย์หน้าว่างไหม?”
“อ๊ะ…… ขะ ขอโทษนะ ทะ ที่จริงแล้ว คือนักเรียน…… เป็นกัปตันชมรมบาสเกตบอลน่ะสิ เด็กคนนั้นชวน ก็เลยรับปากว่าจะไปดูการแข่งขันแล้วน่ะ……”
มือของฉันที่กำลังนวดอยู่ หยุดชะงักค้างไป
──หากได้รับอนุญาตให้เอ่ยความรู้สึกที่แท้จริงออกมาโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ แล้วล่ะก็
อันที่จริงแล้ว อยากจะพูดออกไปว่า “ไม่เอา! วันอาทิตย์เดทกับฉันสิ!” เหลือเกิน
แต่ถ้าฉันพูดเอาแต่ใจออกไป ชิโนะก็คงจะเลือกฉันก่อนอย่างแน่นอน
ถึงนั่นจะเป็นเรื่องน่ายินดีก็เถอะนะ…… แต่พอคิดถึงสถานะของชิโนะในฐานะคนทำงาน ในฐานะคุณครูแล้ว…… เรื่องที่ว่าการไปให้กำลังใจนักเรียนนั้นดีกว่า แม้แต่ฉันก็ยังเข้าใจได้
ฉันเม้มริมฝีปากแน่นครั้งหนึ่งเพื่อสะกดกลั้นความรู้สึกเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยปากออกไป
“งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว งั้นไว้ค่อยหาเวลาว่างในสัปดาห์ถัดไปมานัดกันใหม่เถอะนะ”
“ตะ แต่ว่า แค่ตอนกลางคืนก็ยังดี ถ้าได้เจอเร็นก็ดีใจแล้วนะ”
“……ไม่น่า ถ้าแบบนั้นชิโนะก็เหนื่อยแย่สิ แถมชิโนะมีงานวันถัดไปด้วยนี่นา อย่าฝืนตัวเองเลยน่า ต่อจากนี้ไป พวกเราก็เดทกันได้อีกตั้งไม่รู้กี่ครั้งนี่นา วันนั้นก็ตั้งใจไปให้กำลังใจชมรมบาสเกตบอลเถอะน่า”
สำหรับเด็กคนนั้นแล้ว การแข่งขันที่ลงแข่งในฐานะกัปตัน หรือโอกาสที่ชิโนะจะไปดู อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก็ได้นี่นา
“ระ เร็น ขอโทษนะ ขอบคุณนะ……!”
“พอทำหน้าแบบนั้นใส่แล้วก็พูดอะไรไม่ออกเลยน่า…… ว่าแต่ว่า…… ‘อาจารย์ชิโนะจัง’ เนี่ย เป็นคนดังเหมือนกันนะ?”
“โธ่~…… อย่าล้อกันสิค้า~”
ถึงจะพูดออกไปพลางหัวเราะก็จริง แต่ในใจของฉันกลับมีม่านหมอกบางๆ ปกคลุมอยู่
เป็นเรื่องที่คิดมาตลอดตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วล่ะนะ แต่ว่า…… หรือว่าชิโนะจะเป็นคุณครูที่โด่งดังในหมู่นักเรียน มากกว่าที่ฉันจินตนาการไว้เยอะเลยหรือเปล่าเนี่ย?
ว่าไปแล้ว…… ถึงเจ้าตัวจะไม่รู้เรื่องก็เถอะ แต่ทั้งน่ารัก ทั้งใจดี แถมยังเป็นครูที่อายุใกล้เคียงกันอีก
ใช่ไหมล่ะ?
ถ้ามองจากมุมนักเรียนแล้วล่ะก็ เป็นคุณครูที่ทำให้ใจเต้นได้สุดๆ เลยสินะ?
ต้องเคยโดนนักเรียนรู้สึกชอบพอหรือสารภาพรักแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ!?
เพราะถ้าตอนที่ฉันอยู่มัธยมปลายแล้วชิโนะเป็นครูล่ะก็…… ต้องเข้าไปจีบแน่ๆ
ต้องชอบแน่ๆ
ต้องหลงใหลหัวปักหัวปำแน่ๆ
การที่ชิโนะเป็นครูเนี่ย…… อิจฉาพวกนักเรียนจะตายอยู่แล้ว
ถ้าโดนสารภาพรักอย่างร้อนแรงเข้าล่ะก็ ชิโนะจะใจอ่อนหวั่นไหวบ้างหรือเปล่านะ?
เพราะเป็นพวกใจอ่อนง่ายเสียด้วยสิ
ถึงแม้จะไม่ถึงกับหวั่นไหวไปชอบก็ตามที แต่ก็คงไม่มีพวกเหมือนฉันคอยตามตื๊ออยู่หรอกนะ?
คงจะไม่ได้โดนพวกเด็กหนุ่มที่ทำตามอารมณ์ชั่ววูบ รุกเข้าหาอย่างแข็งขันหรอกนะ?
พอเริ่มคิดแบบนั้นแล้ว มันก็ทนไม่ไหวแล้ว
ทั้งความกังวล ทั้งความหึงหวง จนแทบจะกลายเป็นบ้าอยู่แล้ว
“……นี่ ชิโนะ”
“หืม?”
ชิโนะที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่ได้รับรู้ถึงสภาพจิตใจของฉันเลย เอียงคอเล็กน้อยอย่างน่ารัก
ฉันลุกขึ้นยืนในอ่างอาบน้ำ แล้วเดินเข้าไปหาชิโนะ
“ทะ ทำไมเหรอ? เร็น?”
อาจจะเพราะฉันเดินเข้าไปหาทั้งๆ ที่เปลือยเปล่าอยู่กระมัง แก้มของชิโนะก็พลันย้อมเป็นสีชมพูระเรื่อ
ดวงตาทั้งสองข้างเบือนหนีจากร่างกายของฉันที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“……ทั้งๆ ที่ทั้งมอง ทั้งสัมผัส ทั้งหยอกล้อไปตั้งมากมายแล้วแท้ๆ ทำไมถึงเพิ่งจะมาเขินเอาตอนนี้กันเล่า”
ไม่ถูกใจเลย
ไม่อยากให้ละสายตาไปจากฉันเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ดวงตาคู่โตคู่นั้นน่ะ หันมามองแค่ฉันคนเดียวก็พอแล้วแท้ๆ
“ตะ แต่ว่า……”
“ไม่ใช่ ‘ตะ แต่ว่า’ แล้วน่า”
ฉันนั่งคร่อมลงไปบนตัวชิโนะให้เราหันหน้าเข้าหากัน
ผิวเนื้อแนบสัมผัสกันโดยตรง
หน้าอกอวบอิ่มและนุ่มนิ่มของชิโนะบดเบียดแนบชิดกับหน้าอกของฉัน
เส้นแบ่งระหว่างพวกเรา กลายเป็นศูนย์ไปจนเกือบจะหมดสิ้นแล้ว
“ขออีกรอบนะ”
“เอ๊ะ?…… ดะ เดี๋ยวนี้? ที่นี่เหรอ?”
“เดี๋ยวนี้ ที่นี่แหละ”
ฉันจูบเธอโดยไม่รอคำตอบ
สอดประสานลิ้นเข้าไปในทันที แล้วเคลื่อนไหวราวกับจะจมดิ่งลงไปในความรู้สึกอันแสนสบายนั้น
ก่อนที่จะรู้สึกถึงความกังวล
ก่อนที่จะคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ก่อนที่ความหึงหวงจะทำให้ฉันกลายเป็นบ้าไป
เพราะคิดว่าแค่เติมสมองให้เต็มไปด้วยเรื่องของชิโนะก็พอแล้ว
“ระ เร็น……”
และในขณะเดียวกัน ก็อยากให้ในหัวของชิโนะเต็มไปด้วยเรื่องของฉันเพียงคนเดียวเช่นกัน
หากสามารถอยู่ในโลกที่มีเพียงแค่เราสองคนได้ล่ะก็
มันจะยอดเยี่ยมสักเพียงไหน
จะมีความสุขสักเพียงใดกันนะ
ฉันที่เป็นนางแบบ กับ ชิโนะที่เป็นคุณครู
ความปรารถนาที่ไม่สามารถเป็นจริงได้ของพวกเราที่ทำงานซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่นนั้น ไม่สามารถแม้แต่จะออกไปนอกห้องอาบน้ำอันหรูหราเกินไปนี้ได้ ก็ค่อยๆ ละลายหายไปกับไอน้ำเสียแล้ว
Chapters
Comments
- ตอนที่ 5.2 ปัจฉิมลิขิต มิถุนายน 25, 2025
- ตอนที่ 5.1 บทส่งท้าย มิถุนายน 25, 2025
- ตอนที่ 5 “เพราะว่าวันนี้ อยากจะมองเธอไปตลอดเลย” มิถุนายน 25, 2025
- ตอนที่ 4 “ทำให้เจ็บกว่านี้อีกสิ” มิถุนายน 25, 2025
- ตอนที่ 3.1 คั่นฉาก: ประกาศิตห้ามรอยจูบ มิถุนายน 25, 2025
- ตอนที่ 3 “ถ้าจูบกันเยอะๆ จะหายหนาวหรือเปล่านะ” มิถุนายน 25, 2025
- ตอนที่ 2 ชุดเดรสยับหมดแล้วนะ?” มิถุนายน 25, 2025
- ตอนที่ 1 “ถ้างั้น ฉัน… ไม่ต้องอดทนแล้วสินะ?” มิถุนายน 25, 2025
MANGA DISCUSSION