“เห…คุณยูซึริฮะเก่งคอมพิวเตอร์เหรอคะ จะว่าไปแล้วคุณแม่เคยบอกว่าภาษีมูลค่าเพิ่มสมัยก่อนคือ 3% ค่ะ! บอกว่าคำนวณยากมากเลย!”
ภรรยาไม่ได้ฟังเรื่องที่ฮาโทกิริพูดเลยสักนิด คุยเรื่องยากๆ กับผู้หญิงคนนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ เพราะเธอจะทำเป็นไม่สนใจทั้งหมดเลย ทั้งที่เป็นผู้ประกาศข่าวหญิงแท้ๆ แต่พอเปิดข่าวหรือรายการสาระบันเทิงดูก็จะบ่นว่าน่าเบื่อแล้วก็เปลี่ยนช่องไปเลย ข่าวที่ตัวเองเป็นคนอ่านวันรุ่งขึ้นก็ลืมไปแล้ว เป็นผู้ประกาศข่าวหญิงได้ยังไงกันนะ หรือว่าโลกนี้มันตัดสินกันที่หน้าตาจริงๆ?
“ยูซึริฮะเก่งจังเลยนะ ทำเรื่องแบบนั้นได้ด้วย”
“ไอ้ผู้ชายคนนั้น…อยากจะฟันให้ร่วงจัง…”
ยูซึริฮะพึมพำอะไรที่น่ากลัวออกมาพลางมองไปที่ฮาโทกิริ เธอก้มหน้าลงด้วยแววตาที่มืดมน เหวอ…เข้าสู่โหมดเนกาทีฟอีกแล้ว
“เป็นอะไรไปเหรอ? ยูซึริฮะ ดูไม่ค่อยร่าเริงเลยนะ”
“ฉันเกลียดอัลกอริธึมนั้นค่ะ อีกอย่างวัตถุประสงค์ของมันก็ไร้สาระด้วย สกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ P2P มันก็แค่การจำลองระบบเงินตราที่มีอยู่แล้วในโลกแห่งความเป็นจริงขึ้นมาใหม่ในโลกอิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่เหรอคะ? เงินตราน่ะมีอยู่ทุกที่อยู่แล้ว จะมาสร้างขึ้นมาใหม่ทำไมให้เสียเวลาเปล่าๆ คะ?”
“ก็ถ้าพูดแบบนั้นมันก็อาจจะจริงนะ”
สกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคตก็เป็นแค่สินทรัพย์เพื่อการลงทุนอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง ในฐานะระบบชำระเงินก็ยังไม่ถือว่าแพร่หลายเท่าไหร่ ถ้าในอนาคตมันแพร่หลายมากขึ้นก็อาจจะต่างออกไป แต่ในตอนนี้มันก็เป็นแค่ของเล่นสำหรับการพนันเท่านั้นแหละ สุดท้ายแล้วทุกคนก็แลกกลับเป็นดอลลาร์อยู่ดี
“แล้วอีกอย่างนะ…ฉันไม่ได้อยากจะสร้างมันขึ้นมาเลยสักนิดค่ะ พอดีว่าในชั่วโมงเรียนบูรณาการของโรงเรียนมัธยมปลายมีหัวข้อให้คิดไอเดียที่จะช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนแล้วก็ลงมือทำน่ะค่ะ เป็นงานกลุ่มค่ะ…แต่ว่า…เพื่อนในกลุ่มก็โยนงานให้ฉันคิดไอเดียแล้วก็ทำคนเดียว…พอดีได้ยินมาว่าการขุดสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์มันสิ้นเปลืองไฟฟ้า ก็เลยลองสร้างขึ้นมาดูเท่านั้นเองค่ะ แล้วมันก็ดันไปดังในเน็ตเข้าหน่อยนึงก็เลยโดนคุณครูที่โรงเรียนชม…แล้วก็โดนเด็กคนอื่นๆ เกลียด…ทั้งที่พยายามแล้วแท้ๆ…”
อะไรกันเนี่ย…ความรู้สึกที่ว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็กลับตาลปัตรไปหมด…น่าสงสารเกินไปแล้วจนอยากจะปกป้องเลย
“คุณโคโย! อย่าไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้นเด็ดขาด!!”
ฮาโทกิริเดินเข้ามาใกล้ๆ ยูซึริฮะ ยูซึริฮะสะดุ้งตัวสั่น
“คนที่มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมอย่างเธอ มักจะถูกคนไม่ดีเอาเปรียบได้ง่าย อย่างผู้ชายคนนั้นไงล่ะ! เขาคงจะใช้คำหวานล่อลวงเธอแน่ๆ! พึ่งฉันเถอะ! ฉันจะช่วยเธอออกมาจากเงื้อมมือของผู้ชายคนนั้นเอง!”
ไหงกลายเป็นว่าผมดูเป็นคนไม่ดีไปซะงั้นล่ะ? ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ชอบยกตัวเองขึ้นหิ้งแล้วก็ด่าผมเสียๆ หายๆ แบบนี้นะ?
“มาเข้ากลุ่มของฉันสิ! ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยส่งเสริมพรสวรรค์ของเธอล่ะก็ฉันเตรียมให้ได้นะ! ไม่ว่าจะวัสดุหรือเงินทุนฉันก็หามาให้ได้ไม่อั้น! ฉันมีเส้นสายกับบริษัทร่วมลงทุนของมหาวิทยาลัยด้วยนะ! มาเปลี่ยนโลกใบนี้ด้วยพรสวรรค์ของเธอกับฉันกันเถอะ!”
พูดจาฉะฉานเชียวนะ ดวงตาของฮาโทกิริเปล่งประกายอย่างน่าสงสัย เป็นดวงตาที่เหมือนกับประธานบริษัทที่บรรยากาศเป็นกันเองไม่มีผิด
“อะฮะฮ่า…ขอโทษนะ พอดีฮิโรโตะเวลาที่อินกับอะไรมากๆ ก็มักจะทำตัวเหมือนเด็กๆ ไปหน่อยน่ะ ยกโทษให้เขาด้วยนะ”
ภรรยาแลบลิ้นออกมาแล้วก็ยกมือไหว้ขอโทษผมแบบทีเล่นทีจริง ภรรยาเข้าสู่โหมดไม่สนใจคำพูดของฮาโทกิริไปแล้วสินะ ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปได้ยินบทสนทนาเมื่อกี้คงจะพูดว่า “คนคนนี้มีความฝันที่ยิ่งใหญ่จังเลย วิเศษไปเลย!” อะไรทำนองนั้นแน่ๆ แต่เธอกลับไม่สนใจเลยสักนิด นี่มันคือการชักชวนให้มาตั้งบริษัทร่วมลงทุนโดยเห็นถึงพรสวรรค์ของยูซึริฮะเลยนะ ที่จริงแล้วในอนาคตผู้ชายคนนี้ก็เป็นประธานบริษัทร่วมลงทุนทั้งที่จบจากคณะแพทย์นั่นแหละ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเริ่มทำกิจกรรมอย่างจริงจังตั้งแต่ช่วงนี้เลยนะ ความทะเยอทะยานของเขามันเกินกว่าความเกลียดชังไปจนเกือบจะนับถือแล้วล่ะมั้ง แต่พอคิดว่าเพราะตำแหน่งที่สูงและเงินที่หามาได้นั่นแหละที่ทำให้ภรรยานอกใจ ก็รู้สึกโกรธขึ้นมาอยู่ดี
“เอ่อ…ขอโทษนะคะ…ฉันไม่สนใจเรื่องแบบนั้นค่ะ”
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องของฮาโทกิริแล้ว ยูซึริฮะก็พูดออกมาอย่างเย็นชา แต่ฮาโทกิริก็ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมต่อไป
“คุณโคโย ความสนใจน่ะมันมาทีหลังได้นะ เทคโนโลยีของเธอน่ะสามารถเปลี่ยนโลกได้นะ ถ้าทำได้ล่ะก็ผู้คนมากมายก็จะมีความสุขนะ”
“เหรอคะ…ความสุขเหรอคะ?”
“ใช่แล้ว ผมอยากจะเป็นคนที่สามารถจัดหาสิ่งที่ขาดแคลนให้กับโลกใบนี้ได้ อยากจะสร้างสิ่งที่สามารถเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของโลกใบนี้แล้วก็มอบให้กับโลก อยากจะสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับโลกใบนี้ และสร้างความสุขให้มากมาย”
พูดจาแต่เรื่องสวยหรูจนน่าคลื่นไส้ แล้วไอ้คนที่แย่งภรรยาไปจากฉัน ทำลายความรักและความสุขของฉันมันเป็นใครกันวะ? พูดอย่างทำอย่างสิ้นดี
“เห้อ…พอแล้วค่ะ ฉันไม่สนใจค่ะ ไปทำกับคนอื่นเถอะค่ะ”
ยูซึริฮะปฏิเสธข้อเสนอของฮาโทกิริ ถึงจะเป็นความรู้สึกที่ใจร้ายไปหน่อย แต่ผมก็ดีใจนะ ยูซึริฮะไม่ได้อยู่ข้างฮาโทกิริ นั่นทำให้ผมดีใจมาก
“หรือว่าโดนผู้ชายคนนั้นพูดอะไรใส่รึเปล่า? หรือว่าโดนทำสัญญาอะไรไว้ก่อนแล้ว? จะให้เตรียมทนายให้ก็ได้นะ”
“…ไม่ต้องมีสัญญาอะไรทั้งนั้นค่ะ ระหว่างฉันกับคุณคานาตะไม่ได้มีสัญญาอะไร แต่มีความใจดีอยู่ค่ะ…พอแล้วค่ะ พอได้แล้วค่ะ คุณค่าในความฝันของคุณมันไม่เกี่ยวกับฉันค่ะ แต่ถ้าไปยุ่งเกี่ยวกับคุณแล้วจะต้องห่างจากคุณคานาตะล่ะก็ แค่นั้นฉันก็เข้าใจแล้วค่ะ เพราะงั้นฉันจะพูดแบบนี้ค่ะ”
ยูซึริฮะสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
“ไม่เอาด้วยหรอกโว้ย!! มันไม่เกี่ยวกับฉัน!! ฉันไม่ชอบแก!!…อะแฮ่ม! ถ้ายังจะมาชวนตอแยไม่เลิกล่ะก็ฉันจะฟันแกให้ร่วงเลยนะ ฟันให้ร่วงไม่เลี้ยงเลย”
นั่นเป็นการปฏิเสธที่ชัดเจน ยูซึริฮะจ้องมองไปที่ดวงตาของฮาโทกิริอย่างแน่วแน่แล้วก็ปฏิเสธออกไป แต่ถ้ามองดูดีๆ แล้วขาก็ยังสั่นอยู่ แถมมือที่กำหลังของผมไว้แน่นก็ยังสั่นอยู่เหมือนกัน
“แต่พรสวรรค์ของเธอ…”
ฮาโทกิริยังคงพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมต่อไป แต่ยูซึริฮะก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
“คุณมองแต่พรสวรรค์ของฉัน นั่นมันน่าขยะแขยงยิ่งกว่าคนที่มองแต่หน้าอกของฉันเสียอีก อย่ามาคุยกับฉันอีกเลยนะคะ!”
แล้วยูซึริฮะก็หลบไปอยู่ข้างหลังผมทันที พยายามได้ดีมาก จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของผมแล้ว
“เข้าใจแล้วใช่ไหมล่ะ? ไม่ใช่ว่าทุกคนจะตามแกไปหมดหรอกนะ เรื่องของยูซึริฮะน่ะเลิกหวังไปได้เลย”
ฮาโทกิริมองมาที่ผมด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก การที่ถูกผู้หญิงปฏิเสธแบบนี้คงจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาล่ะมั้ง นั่นจะต้องกลายเป็นความทรงจำที่น่าอัปยศอย่างไม่ต้องสงสัยเลย สิ่งที่จะทำร้ายจิตใจของผู้ชายได้อย่างลึกซึ้งที่สุดก็คือการกระทำของผู้หญิงเท่านั้นแหละ
“…เข้าใจแล้ว วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ริริเสะ ไปกันเถอะ ถ้าอยู่ใกล้คนคนนี้ล่ะก็จะติดเชื้อไม่ดีมานะ”
แล้วฮาโทกิริก็หันหลังกลับแล้วก็เดินจากไปยังตึกเรียนที่น่าจะเป็นของเขา
“ยูซึริฮะ พยายามได้ดีมากนะ เก่งมากเก่งมาก!”
ผมลูบหัวของยูซึริฮะ ยูซึริฮะยิ้มออกมา
“เอะเฮะ พยายามแล้วค่ะ!”
แล้วสักพักหนึ่ง
“งั้นตึกเรียนของฉันอยู่ทางนั้นนะคะ! ไว้เจอกันใหม่นะคะ!”
“แล้วเจอกันนะ!”
ยูซึริฮะกับผมโบกมือให้กันแล้วก็แยกย้ายกันไป แล้วผมก็เดินไปยังตึกเรียนด้วยหัวใจที่พองโตอย่างมีความสุข…แต่แล้วก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากข้างๆ
“งั้นไปพร้อมกันนะ! อาจจะเป็นครั้งแรกเลยก็ได้นะ! ที่ได้ไปห้องเรียนกับคนในสาขาเดียวกันแบบนี้น่ะ! ปกติแล้วจะไปกับฮิโรโตะตลอดเลย น่าสนุกจัง! อุฟุฟุ”
“ว๊ะ!? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ!! ไม่ได้ไปกับฮาโทกิริหรอกเหรอ?! ถ้าดูจากสถานการณ์เมื่อกี้แล้วก็น่าจะตามฮาโทกิริไปไม่ใช่รึไง!?”
“เอ๊ะ? ก็ฉันกับโทคิวะคุงเรียนสาขาเดียวกันแล้วก็เรียนวิชาเดียวกันไม่ใช่เหรอ ฮิโรโตะอยู่คณะแพทย์นะ ยังไงก็เรียนคนละวิชากันอยู่แล้วนี่นา”
ใช่…แล้ว…นี่นา!
ผมมันโง่รึไงกันนะ?! ผมกับภรรยาเรียนสาขาเดียวกันนี่หว่า อะไรกันเนี่ยสถานการณ์งี่เง่านี่ พอหันไปมองทางที่ฮาโทกิริเดินไป ก็เห็นว่าฮาโทกิริหยุดเดินแล้วก็อ้าปากค้างมองมาทางนี้ด้วยสีหน้างี่เง่า แกเองก็ด้วยเหรอฮาโทกิริ โดนความเอาแต่ใจของภรรยาปั่นหัวจนตามไม่ทันสินะ…
“แล้วเจอกันนะ ฮิโรโตะ! อย่าลืมเลี้ยงข้าวกลางวันฉันด้วยล่ะ! งั้นไปกันเถอะโทคิวะคุง! รีบไปจองที่นั่งดีๆ กันเถอะ!”
ภรรยาดึงมือของผมแล้วก็เดินนำไป เป็นคนที่เอาแต่ใจจริงๆ แต่การที่ได้เห็นใบหน้าที่เจ็บใจของฮาโทกิริแล้ว ก็ทำให้ผมคิดว่ายอมโดนเธอปั่นหัวไปสักวันก็คงจะไม่เป็นไรหรอก
MANGA DISCUSSION