ท่าทีภายในกิลด์นักผจญภัยรวมถึงพนักงานกิลด์ด้วย ถ้าเข้าใจเหตุผลแล้วล่ะก็ มันก็แค่เรื่องที่เรียบง่าย
แม้จะอยู่ต่างประเทศ แต่สาเหตุก็เป็นเพราะคำขอสุดโต่งจากอาจารย์ของผมที่เป็นนักผจญภัยแรงก์ 9 กับศิษย์น้องที่ขึ้นถึงแรงก์ 7 ซึ่งเธอเป็นนักผจญภัยเต็มเวลา ต่างจากผม
ไม่ว่านักผจญภัยจะมีแรงก์สูงแค่ไหน ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีนักผจญภัยหน้าไหนจะไปข่มขู่ทางกิลด์ ถ้าไม่โง่สุดๆ
แน่นอนว่าพวกนักผจญภัยทั้งหลาย รู้อยู่แล้วว่าคนโง่พรรค์นั้นกำลังจะมา เมื่อสองคนที่มีท่าทางตรงกับข่าวลือเดินเข้ามาในกิลด์ พวกเขาก็ต้องหันมามองอย่างแน่นอน
เมื่อถูกนักผจญภัยแรงค์สูงข่มขู่…… พนักงานกิลด์ที่ถูกขอให้ทำอะไรบางอย่างก็รู้สึกหวาดกลัวเป็นธรรมดานั่นแหละ
สองคนนั้นทำอะไรลงไปกันแน่เนี่ย
เล่นเอาผมปวดหัวขึ้นมาอย่างจริงจังเลยล่ะ
เมื่อความเข้าใจผิดถูกคลี่คลาย ทุกอย่างก็ราบรื่นดี
สมกับเป็นกิลด์นักผจญภัยในเฮคาไท ซึ่งรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าเมืองแห่งนักผจญภัย
การลงทะเบียนนั้นคล่องแคล่วรวดเร็วจนแทบไม่ต้องรอ ผมกับเอริก้าก็ลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยจนเสร็จ
เอริก้ากำลังมองดูเครื่องมือเวทมนตร์ที่มีลักษณะเป็นแผ่นบางคล้ายบัตรด้วยความสนใจ ซึ่งโดยทั่วไปเรียกกันว่าบัตรกิลด์
ว่าแต่ของผมน่ะมีบัตรที่ออกจากอาณาจักรฟาร์ทาลอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเพิ่มข้อมูลของกิลด์นักผจญภัยแห่งอาณาจักรออลคราเข้าไปในบัตรเดิมเท่านั้นเอง
ว่าแต่ ในแง่ของการใช้งานจริงๆ แล้ว มันก็แค่ของที่ทำหน้าที่คล้ายบัตรแสดงตัวตนเท่านั้นเอง
ถึงจะจัดอยู่ในหมวดหมู่เครื่องมือเวทมนตร์ก็เถอะ แต่การใช้งานหลักเกือบทั้งหมดถูกใช้เพื่อป้องกันการปลอมแปลง ส่วนการใช้งานอย่างการดูชื่อ ดูแรงก์ปัจจุบัน หรือประวัติการล่าศัตรูนั้นก็มีให้ดูได้แค่พอเป็นของแถมเท่านั้นเอง
“ว่าแต่… คุณนี่ก็เป็นคนดังใช่เล่นเลยนะคะ”
เอริก้าพูดเช่นนั้นในระหว่างที่พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังทางออกของเมือง
“การปราบแมงมุมเข็มด้วยตัวเดียวเนี่ย ตามมาตรฐานของพวกเราแล้ว เป็นเรื่องที่น่าโอ้อวดเลยนะคะ”
คำว่ามาตรฐานของพวกเรา ที่เธอพูดคงหมายถึงมาตรฐานของสถาบันสินะ
“ถึงจะบอกว่าทำคนเดียวก็เถอะ แต่ที่จริงแล้วอาจารย์ก็อยู่ใกล้ๆ ด้วยน่ะนะ”
ขอพูดไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เข้าใจผิด ถึงผมจะปราบแมงมุมเข็มด้วยตัวเดียว แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการฝึกที่อาจารย์มอบให้เท่านั้นเอง
มันเป็นเหตุการณ์ที่มีนักผจญภัยแรงก์ 9 คอยเฝ้าดูอยู่ข้างหลังด้วยสิ เพราะงั้นผมไม่คิดว่านั่นเป็นความสามารถของตัวเองล้วนๆ หรอก
“ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะค่ะ”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เอริก้าดูมีความสุขที่ได้ปฏิเสธ
“ก็คิดว่าจะไม่ประเมินคุณต่ำไปอีกแล้ว แต่ดูเหมือนว่าฉันยังคงทำอยู่สินะคะ”
“ผมไม่ใช่คนที่น่าทึ่งอะไรหรอกนะครับ”
“โอ๊ะ? ถ่อมตัวเหรอคะ?”
เอริก้าพูดแบบนั้นพร้อมทำท่าทางราวกับกำลังยื่นหน้ามามองที่ผม
เพราะท่าทางที่น่ารักมากจนเกินไป ก็เลยเผลอหันหน้าหนีโดยไม่รู้ตัว
“อย่างนี้นี่เอง กำลังเขินอยู่สินะคะ?”
เอริก้าพูดแบบนั้นแล้วยิ้มออกมา
*
ถึงแม้ว่าจะมีความล่าช้าเล็กน้อย แต่พวกเราก็ลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยตามแผนเดิม แล้วก็ตัดสินใจไปปราบมอนสเตอร์ครั้งแรกทันที
นั่นคือเหตุผลที่ตั้งใจไปที่กิลด์นักผจญภัยตั้งแต่เช้าตรู่
อย่างไรก็ตาม เอริก้าเป็นคนแนะนำ
เป็นโอกาสที่ดี ไม่ใช่แค่ในนาม แต่ได้ใช้ชีวิตจริงๆ ในฐานะนักผจญภัยก็น่าจะสนุกดีนะ นั่นคือสิ่งที่เธอกล่าวออกมา แต่ว่า
ผมไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่เธอพูดออกมา เป็นแค่เพียงกลวิธีเพื่อให้ผ่านการแสดงปลอมๆ ในครั้งนี้ หรือมาจากใจจริงกันแน่
สิ่งเดียวที่พูดได้ก็คือ
“ดูสนุกดีนะ”
ผมพึมพำในขณะที่ดูเอริก้ากำลังสังหารเหล่ามอนสเตอร์อย่างไม่ยั้ง พร้อมกับเปลี่ยนพื้นที่รอบตัวให้กลายเป็นทะเลเพลิง
มันเป็นทุ่งหญ้าที่อยู่ทางทิศใต้ของเมืองเฮคาไท ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงในการเดินเท้าด้วยเวทเสริมพลัง
การเลือกภารกิจนั้นมาแบบสุ่มๆ หลังจากเห็นคำร้องขอจากหนึ่งในหมู่บ้านเกษตรกรรมที่เป็นแหล่งอาหารหลักของเมืองเฮคาไท ขอให้ช่วยปราบมอนสเตอร์ที่มักปรากฏตัวบ่อยๆ ในระหว่างทางเข้าสู่เมือง
อาจจะง่ายเกินไปหน่อยสำหรับงานแรกของคนอย่างเอริก้าก็ได้
มอนสเตอร์ที่ถูกพบเห็นก็เป็นประเภทคล้ายลิง มีกรงเล็บยาว และถูกเรียกว่า บอนโบ
แม้มันจะรวมกลุ่มกันเป็นฝูง แต่แง่ของความแข็งแกร่งก็อยู่ในระดับที่นักผจญภัยแรงก์ 2 มักจะรับมือ พูดตามตรงก็คือ อ่อนแอ
แม้แต่ผมก็ยังรู้สึกแบบนั้น สำหรับเอริก้าแล้วก็คงพอๆ กับการปัดแมลงเท่านั้นเอง
ถ้าจะมีปัญหาจริงๆ
เพราะไอ้หมอนั่นละเลยการสอนวิธียั้งมือให้กับคนที่มีชื่อว่าเอริก้า
ถึงแม้เจ้าบอนโบจะเป็นมอนสเตอร์คล้ายลิง ที่มักจะปรากฏตัวในทุ่งหญ้า ถ้าจะพูดถึงจุดเด่นของมันก็มีแค่กรงเล็บยาวประมาณนิ้วก้อยของมนุษย์กับพฤติกรรมที่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงเท่านั้นเอง
เจ้าพวกบอนโบพอเห็นพวกเราในทุ่งหญ้าก็พุ่งเข้ามาโจมตีทันทีเลยล่ะ
พูดกันตามตรง พวกมันได้เห็นนรกกับตาตัวเองแล้วล่ะนะ
ทันทีที่เข้ามาขอบเขตการมองเห็นของเอริก้าก็จะถูกเสาเพลิงที่พวยพุ่งขึ้นจากพื้นใต้เท้าแผดเผาจนสิ้นซาก
แถมยังเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุด พุ่งเป้าอย่างแม่นยำโดยเฉพาะใต้เท้าของเจ้าบอนโบอย่างพอดิบพอดี
เสาเพลิงราวสามสิบต้นพวยพุ่งขึ้นมาพร้อมกัน
ในฐานะคนที่มองเห็นพลังเวทได้ มันเหมือนภาพนรกที่ฝูงบอนโบที่วิ่งเข้ามาหา แล้วมีพลังเวทสีทองระยิบระยับวูบหนึ่ง ก่อนจะถูกเสาเพลิงพุ่งขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องแห่งความตาย
มันเป็นจังหวะที่ดี ที่ฝูงบอนโบมารวมตัวกัน คาดว่าจำนวนเกินร้อยกว่าตัว
เอริก้าจัดการกับฝูงนั้น ไม่ว่าพวกมันจะพุ่งเข้าใส่เป็นกลุ่ม กระจายตัวและล้อมโจมตี หรือใช้ตัวล่อเพื่อแอบเข้าใกล้ แต่เธอไม่ปล่อยให้เข้ามาใกล้ได้เลย เพราะพวกมันจมลงสู่ทะเลเพลิงยังไงล่ะ
บอนโบเป็นมอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวอยู่ทั่วไป และยังพบได้ในอาณาจักรฟาร์ทาลด้วยเช่นกัน
แม้พวกมันจะอ่อนแอ แต่โจมตีเป็นฝูงนั้น ทำให้เหล่านักผจญภัยมือใหม่ที่ประมาทจึงมักจะเจ็บตัวอยู่บ่อยๆ
บางครั้งพวกมันก็ถูกเรียกกันว่านักล่ามือใหม่ ถึงแม้จะไม่แข็งแกร่งนัก แต่มันก็เป็นมอนสเตอร์ที่พวกนักผจญภัยไม่ชอบเอาเสียเลย
เรื่องนั้นก็พอจะเข้าใจได้จากชื่อ บอนโบ ซึ่งไม่เหมือนชื่อมอนสเตอร์ทั่วๆ ไปที่มักจะถูกตั้งแบบเรียบง่าย
แต่ครั้งนี้ พวกมันดันเจอกับคนที่ไม่ควรจะสู้ด้วยเข้าให้แล้ว
เมื่อเห็นเอริก้ากวาดล้างฝูงบอนโบจนหมดภายในไม่กี่นาที ผมก็รู้สึกเห็นใจเจ้าพวกบอนโบขึ้นมานิดหน่อย
“ก่อนอื่น ขอบคุณสำหรับความเหน็ดเหนื่อยนะครับ”
ผมพูดแบบนั้นขณะเดินเข้าไปหาเอริก้า ถึงแม้จะไม่ได้ปล่อยให้ไฟลุกลามออกไป แต่บริเวณโดยรอบกลายเป็นทะเลเพลิง
มันเป็นเทคนิคที่มีทั้งความแม่นยำและพลังเวทอันสุดยอด อย่างไรก็ตามศัตรูมีมากเกินไป ทำให้ทุ่งหญ้าจึงเต็มไปด้วยรอยแหว่งหลายจุด
ในระยะสิบเมตรรอบๆ ตัวเอริก้า เป็นพื้นที่ที่ไม่มีรอยแหว่ง
“เกินคาดเลยนะคะ จำนวนศัตรูกลับมีมากกว่าที่คิด”
เธอพูดเช่นนั้น ด้วยสีหน้าที่ไม่มีความเหนื่อยล้าแต่อย่างใด
กลับดูพอใจเสียด้วยซ้ำ
นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เธอใช้เวทย์มนตร์อย่างเต็มที่
ทักษะที่เธอแสดงให้เห็นที่โรงเรียน หากเทียบกับฉากนรกที่เพิ่งเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ไม่ต่างอะไรจากการละเล่นของเด็กๆ
การใช้เวทมนตร์โดยไม่ต้องระวังคนรอบข้างนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากในโรงเรียน
ก็แค่เพราะคนมันเยอะ และที่ก็แคบด้วย
ดังนั้น การกระทำครั้งแรกที่เผลอทำเกินไปนิดหน่อย แต่นั่นก็คงไม่ถึงขั้นถูกตำหนิหรอก
คงไม่เป็นอย่างนั้นหรอกมั้ง แต่จะไม่พูดอะไรเลยก็คงไม่ได้สินะ
ผมถอนหายใจเงียบๆ ในใจ
“เอริก้า คือว่า…”
คำพูดที่ไม่ชัดเจนของผม ทำให้ใบหน้าที่ดูพึงพอใจเปลี่ยนเป็นสีหน้าสงสัย น่ารักชะมัด
“มันพูดยากนะ”
“มีอะไรหรือเปล่าค่ะ?”
อ่าา พูดยากชะมัด
“คำขอนั้นล้มเหลวน่ะสิ”
MANGA DISCUSSION