ถ้าเป็นแค่เป้าหมายเพื่อเลื่อนแรงค์นักผจญภัย  การที่คริสตจักรส่งซิสเตอร์มาร่วมทีมก็ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก

 

เพราะคำร้องเฉพาะทางคริสตจักรจะได้มาง่ายขึ้น ถ้าไม่มีสิ่งนั้น แต่การมีผู้เชี่ยวชาญด้านเวทฟื้นฟูอย่างพวกเขาร่วมเดินทางด้วยก็ช่วยขยายขอบเขตการกระทำได้อย่างมาก

 

นักผจญภัยที่รวมกลุ่มกันเป็นปาร์ตี้นั้นถือว่าเป็นเรื่องหายากในอาณาจักรฟาร์ทาล แต่ในอาณาจักรออลครา นักผจญภัยที่ไม่รวมกลุ่มกันนั้นหายากยิ่งกว่า ดังนั้นการมีหรือไม่มีฮีลเลอร์ในปาร์ตี้จึงส่งผลกระทบอย่างมากกับความสามารถในการต่อสู้อย่างต่อเนื่องของปาร์ตี้

 

เพราะยังไงก็ตาม เวทฟื้นฟูไม่สามารถใช้สกิลแทนได้ แล้วเวทมนตร์ก็จะไม่สามารถใช้เหมือนสกิล หากไม่เรียนรู้มันก่อน

 

แม้จะมีนักผจญภัยจำนวนมากที่เรียนรู้เวทมนตร์ด้วยตัวเองจนสามารถใช้งานได้ แต่ยังไงก็ตามเวทโจมตีก็ยังถูกให้ความสำคัญก่อนเสมอ

 

ดังนั้น ซิสเตอร์หรือบาทหลวงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทฟื้นฟูจึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก

 

ขอย้ำอีกครั้ง ซิสเตอร์หรือบาทหลวงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทฟื้นฟูนั้น เป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง

 

“ขอโทษค่ะ”

 

ชาร่า แลนส์ลา กล่าวคำขอโทษ

 

จากเมืองเฮคาไทไปทางเหนือโดยรถม้าใช้เวลา 4 ชั่วโมง ถ้าเป็นฝีเท้าของนักผจญภัยล่ะก็ จะเร็วกว่านั้น

 

ปลายทางของดินแดนมนุษย์ ซึ่งอยู่ตรงขอบของแดนปีศาจ

 

เหล่านักผจญภัยเรียกที่นั่นสั้นๆ ว่าแคมป์

 

ที่แคมป์แห่งนั้น ชาร่า แลนส์ลา กล่าวคำขอโทษ

 

“ฉันเป็นซิสเตอร์ก็จริง แต่เรื่องเวทฟื้นฟู เอ่อ… ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ค่ะ”

 

“รู้อยู่แล้ว”

 

“รู้อยู่แล้วค่ะ”

 

ทั้งที่คิดว่า จะมาพูดอะไรเอาป่านนี้ แต่ก็ยังตอบกลับไป

 

“ก็เห็นอยู่กับตา ว่าบาดแผลที่กระดูกโผล่ออกมาจากท้อง ยังรักษาไม่ได้ทันทีเลยนี่ค่ะ”

 

พอได้ยินคำวิจารณ์แบบตรงๆ ของเอริก้า ชาร่าก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา

 

“เอ่อ… ก็ใช่ค่ะ ก็อย่างที่ว่ามานั่นแหละ ฝีมือของฉันมันแย่ ขนาดที่รุ่นพี่ยังแนะนำให้เปลี่ยนฝ่ายเลย”

 

“ให้เปลี่ยนฝ่ายเหรอคะ?”

 

“แต่เดิมฉันอยู่ในฝ่ายเวทรักษาน่ะค่ะ…… ทั้งที่เป็นซิสเตอร์ แต่กลับเก่งเวทโจมตีมากกว่าเวทฟื้นฟูเสียอีก ก็เลยถูกบอกว่า งั้นเปลี่ยนฝ่ายดีกว่าไหมน่ะค่ะ”

 

ชาร่าพูดออกมาในสภาพที่ดูหดหู่อย่างเห็นได้ชัด

 

การถูกรุ่นพี่ในฝ่ายบอกให้เปลี่ยนฝ่ายเนี่ย มันเกินกว่าที่จินตนาการไว้เสียอีก

 

จะว่าไป ชาร่าเองก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนฝ่ายด้วยซ้ำ เพราะงั้นในทางปฏิบัติก็เท่ากับถูกไล่ออกจากฝ่ายนั่นแหละ

 

“มนุษย์เราน่ะ ย่อมมีทั้งสิ่งที่เหมาะกับตัวเองและไม่เหมาะ รวมถึงนิสัยเฉพาะตัวด้วย เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดมากเลยจะดีกว่านะคะ สำหรับชาร่าที่บาดเจ็บก็ยังจะลุกขึ้นสู้เพื่อชาวบ้าน แบบนั้นแหละ ตัวตนในตอนนี้ของคุณ เหมาะกับคุณที่สุดแล้วค่ะ”

 

ถึงแม้เอริก้าจะปลอบใจแบบนั้น แต่ถ้ามองจากมุมของพวกสายเวทรักษา ที่มุ่งหวังช่วยเหลือคนอ่อนแอด้วยการรักษาแล้ว มันจะถือเป็นคำปลอบใจจริงๆ เหรอ

 

โดยปกติแล้ว ฝ่ายที่มีจุดมุ่งหมายช่วยเหลือคนอ่อนแอด้วยการสนับสนุนการปราบปีศาจแบบเดียวกับชาร่าปัจจุบันนี้ เรียกว่า ฝ่ายพิทักษ์ประชาชนปราบปีศาจ

 

“จริงเหรอคะ?”

 

“แน่นอนค่ะ สำหรับฉันแล้ว ภาพคุณลุกขึ้นสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกลับเป็นภาพที่ฉันไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าคุณจะใช้เวทฟื้นฟูในห้องรักษา”

 

“ฉันจะทำได้ไหมนะ?”

 

“ฉันรับประกันว่าชาร่าทำได้”

 

“เอริก้าขอบคุณนะ ฉันจะลองดูสักตั้ง”

 

“รักษาความมุ่งมั่นแบบนั้นไว้นะคะ”

 

เข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนาไม่ได้เลย รู้สึกเหงาจัง

 

ผมรู้สึกเศร้าใจตอนดูทั้งสองคนสนุกสนานกัน