“กรุณารอสักครู่ค่ะ”
เทเปะกล่าวเช่นนั้นแล้ว หายเข้าไปด้านในของร้าน และกลับออกมาในทันทีพร้อมกับดาบเล่มหนึ่ง
ภายนอกดูเหมือนจะไม่ต่างจากดาบเล่มที่เคยใช้มาก่อน
แทบไม่มีของประดับตกแต่งเลย ไม่ใช่เพียงแค่เรียบง่ายแต่ดูแข็งแกร่ง รู้สึกได้ถึงเจตจำนงอันแรงกล้าของคนที่สร้างมันด้วยความคิดที่ว่า ของตกแต่งน่ะ มันน่ารำคาญ
มันไม่เหมือนสินค้าผลิตจำนวนมากที่เน้นแค่การใช้งานเพียงอย่างเดียว ทำให้รู้สึกถึงบางสิ่งคล้ายเจตจำนงอันแน่วแน่แบบนี้ เป็นเพราะเทเปะเป็นคนเอามาให้หรือเปล่านะ?
เมื่อผมเปรียบเทียบดาบกับเทเปะที่ดูไม่ใส่ใจรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองแม้แต่น้อย ก็อดคิดไม่ได้ว่าทั้งสองดูคล้ายกันเหลือเกิน
ถ้าเอาสิ่งนี้ไปยื่นให้ขุนนางทั่วไปพร้อมบอกว่า นี่คืออาวุธของท่าน พวกเขาคงจะโมโหแน่ๆ
ในเมื่อมันเป็นอาวุธ แม้แต่ขุนนางเองก็ย่อมรังเกียจการตกแต่งที่ทำให้การใช้งานหรือแก่นแท้ของมันด้อยลง แต่ถ้ามันเรียบง่ายจนถึงขั้นไม่มีอะไรเลย แล้วมีคนพูดว่า นี่คืออาวุธที่ข้าต้องการขายให้ท่าน ขุนนางส่วนใหญ่คงโกรธแน่ๆ
แต่สำหรับดาบเล่มนี้ มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ผมจับด้ามดาบที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ แล้วก็เบิกตากว้างเมื่อได้เห็นตัวดาบ
ตัวดาบที่ทำจากโลหะผสมระหว่างเหล็กกับหินเวทมนตร์ ที่เรียกกันว่าเหล็กเวทมนตร์ มีความเป็นประกายเงางามราวกับเปียกน้ำ และเหนือสิ่งอื่นใด คือความสมดุลในมือเวลาจับที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง
และแล้ว
“รู้สึกเหมือนพลังเวทกำลังถูกดูดออกไป ไม่สิ นี่มันกำลังไหลผ่านดาบต่างหาก”
เมื่อผมเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เทเปะก็พยักหน้าอย่างมีความสุข
“ใช่แล้วค่ะ ดาบเล่มนั้นถูกสร้างมาเพื่อให้พลังเวทไหลผ่านได้อย่างราบรื่น เพราะฉะนั้น–“
แม้จะไม่ได้ฟังต่อ แต่ก็เข้าใจได้
ผมร่ายเวทเสริมร่างกายลงบนดาบก่อนที่เทเปะจะพูดจบเสียอีก
ลวดลายคล้ายลายไม้ปรากฏขึ้นบนผิวดาบ
“–ข้าอยากจะอธิบายว่า ดาบนี้ก็ได้รับผลของการเสริมพลังร่างกายด้วยนะ แต่……”
ขอโทษอย่างเบาๆ ต่อเทเปะที่ยิ้มแบบฝืนๆ
“ขอโทษนะ ที่ทำให้ตกใจ ก่อนหน้านี้เคยใช้เวทเสริมพลังร่างกายกับดาบมาแล้ว”
“แหม ช่างคล่องแคล่วดีจริงๆ”
เทเปะพูดออกมาราวกับเหนื่อยใจ
ว่าแล้วเชียว การใช้เวทเสริมพลังร่างกายกับอาวุธ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องแปลกแม้แต่ในสายตาของช่างตีอาวุธ
“แต่ดาบเล่มนี้สุดยอดจริงๆ ไม่ใช่แค่ร่ายเวทเสริมพลังได้ง่ายกว่าดาบเล่มก่อน แถมยังไม่มีความรู้สึกเหมือนต้องฝืนดันพลังเวทเข้าไปเลย ที่สำคัญคือ คุณภาพของการเสริมพลังมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
เทเปะกล่าวขอบคุณพลางก้มหัวให้
“ตราบใดที่ส่งพลังเวทเข้าไป มั่นใจเลยว่าดาบเล่มนี้ไม่มีทางหักแน่นอน”
ผมพูดในขณะที่วางดาบกลับบนเคาน์เตอร์
“ชมเกินไปแล้วนะ อุเฮเฮเฮ”
เทเปะเริ่มบิดตัวไปบิดตัวมา
ถ้าจะซื้อ ก็ต้องเป็นดาบเล่มนี้แหละ ผมมั่นใจแบบนั้นแล้วหันไปมองเอริก้า
เพราะว่าเธอเป็นคนถือกระเป๋าตังค์
พูดตามตรง เนื่องจากได้รับการช่วยเหลือจากท่านเสนาบดี ก็เลยไม่ลำบากเรื่องค่าครองชีพสักเท่าไหร่ แต่เอริก้าบอกว่าการจัดการเรื่องเงินในบ้านเป็นหน้าที่ของภรรยา
เมื่อพูดถึงการตัดสินใจของเอริก้าแล้วล่ะก็
เอริก้าพยักหน้าเบาๆ
“ขอซื้อดาบเล่มนี้นะ”
ผมพูดกับเทเปะไปแบบนั้น
*
ดาบเล่มใหม่แม้แต่ฝักที่ได้รับมาเป็นของแถมก็ยังเรียบง่าย พอแขวนไว้ที่เอวก็ดูเหมือนเป็นดาบธรรมดาที่หาได้ทั่วไปเท่านั้นเอง
ก็จริงอยู่ ถึงแม้ว่าจะดึงออกมาแล้วแต่ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็ดูเหมือนของที่ผลิตจำนวนมากธรรมดาๆ เท่านั้น
ผมกำลังฟังเทเปะอธิบายเรื่องการดูแลรักษาและวิธีซ่อมแซมเวลาที่ดาบมีปัญหาพร้อมกับความรู้สึกพอใจที่ดาบมาแขวนไว้ที่เอวอย่างสมบูรณ์แบบ
“โดยพื้นฐานแล้วมันก็เหมือนกับดาบธรรมดาทั่วไป ถ้าดูแลตามปกติก็ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ”
“ขอบคุณมากๆ จะใช้มันอย่างเต็มที่เลย”
เมื่อผมกล่าวคำขอบคุณ เทเปะก็หัวเราะแล้วพูดว่า ข้าเองก็ได้กำไรด้วยเหมือนกันนะ
เอาเข้าจริงแล้วมันเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
ถ้าไม่ได้ไฟเขียวจากเอริก้า อาจจะไม่มีความกล้าที่จะซื้อ
ถ้าสามารถทำหน้าที่นักผจญภัยอย่างจริงจัง ก็จะหาเงินได้เยอะอยู่หรอกนะ แต่เพราะผมเป็นคนขี้เหนียวก็เลยเก็บเงินไว้ไม่ค่อยใช้
พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว เงินที่เก็บไว้ในฟาร์ทาลจะเป็นยังไงบ้างนะ?
คิดว่าน่าจะบอกพ่อไว้แล้วนะ แต่พ่ออาจจะรู้สึกลำบากใจก็เลยยังไม่ได้ไปรับเงินที่ฝากไว้กับกิลด์นักผจญภัย
“ว่าแต่ คุณจะขายดาบให้กับฉันด้วยไหมคะ?”
ตอนที่ผมกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเกี่ยวกับเงินที่ฝากไว้ เอริก้าก็พูดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา
ที่เอวของเอริก้ามีดาบที่เธอเอามาจากตระกูลเสนาบดีไว้ที่เอว ดังนั้นเมื่อเห็นดาบเล่มใหม่ของผม เธอคงสนใจดาบของเทเปะอย่างบริสุทธิ์ใจ
“ขอดูดาบเล่มนั้นได้ไหมคะ?”
เอริก้าตอบคำถามของเทเปะ ด้วยการยื่นดาบออกไปอย่างเงียบๆ
เทเปะหยิบดาบออกมาจากฝักมองมันอยู่สักพัก จากนั้นก็เก็บดาบใส่ฝักอีกครั้ง พร้อมกับส่ายหัวไปมาแล้วคืนดาบให้เอริก้า
“ขออภัยด้วยนะค่ะ แต่ถ้าท่านต้องการดาบที่เหมือนกับเล่มนี้ คงจะหาได้เร็วกว่าถ้าไปค้นในคลังสมบัติของราชอาณาจักร”
“อย่างนั้นหรือค่ะ ฉันเองก็สนใจดาบของเจ้าของร้านเหมือนกัน แต่ก็เสียดายจังค่ะ”
เอริก้าพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเสียดายจริงๆ ในขณะเก็บดาบกลับไว้ที่เอว
“พูดว่าเป็นของทดแทนก็คงไม่ถูกนัก แต่กรุณารับสิ่งนี้ไว้ด้วยค่ะ”
พูดอย่างนั้น เทเปะยื่นดาบสั้นที่อยู่ในฝักให้กับเอริก้า
“ไม่ต้องจ่ายเงินหรอกค่ะ นี่คือคำขอบคุณที่ได้ชมดาบวิเศษล้ำค่าของตระกูลโซลน์ซารีอย่างใกล้ชิด”
เทเปะเพียงแค่ดูดาบอย่างใจเย็น ก็สามารถทายได้ว่าเอริก้าเป็นคนของตระกูลโซลน์ซารี
คนๆ นี้คือใครกันแน่เนี่ย
เอริก้ารับดาบสั้นพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทายถูกเกี่ยวกับตัวตนของตัวเอง หรือเพราะอะไร
“คุณเก่งเรื่องการค้าขายนะคะ ถ้าต้องการดูแลดาบ ก็ฝากให้เจ้าของร้านดูแลด้วยนะคะ”
เทเปะที่โค้งคำนับต่อคำพูดนั้น ภาพของเอริก้าที่รู้สึกประทับใจกับความเป็นชนชั้นสูง ทำให้ผมใจเต้น ก่อนได้ยินเสียงเปิดประตูร้าน
“เทเปะ ฉันเอาของที่ถูกขอมาให้แล้วนะ”
หญิงสาวคนหนึ่งถือถุงกระดาษใบใหญ่เข้ามาพร้อมกับพูดแบบนั้น
รู้สึกติดขัดกับเสียงนั้นในชั่วครู่ แล้วพอเห็นชุดนั้น แก้มของฉันก็เกร็งขึ้นเล็กน้อย
หญิงสาว ซิสเตอร์ หันกลับมาเห็นหน้าของผมกับเอริก้า แล้วตะโกนออกมา
“นักผจญภัยเมื่อตอนนั้นนี่นา!”
MANGA DISCUSSION