โกลเด้นโอเกอร์
เป็นมอนเตอร์ที่มีชื่อเรียบง่าย ซึ่งเหมาะกับเจ้าตัวจริงๆ
ตามชื่อเลย มันคือโอเกอร์ตัวใหญ่ที่มีผิวสีทอง
ถึงจะเป็นมอนเตอร์ที่มีชื่อเรียบง่าย แต่ก็เป็นมอนเตอร์ที่รับมือได้ยาก
เวทมนตร์แทบไม่ได้ค่อยผลเลย เพราะมีผิวหนังที่แข็ง และการโจมตีจากร่างอันใหญ่โตของมันก็ทรงพลัง หากรับโดยไม่ป้องกัน มีสิทธิ์ตายได้เพียงการโจมตีเดียว
ถ้าพูดถึงนักผจญภัยทั่วไป การจะจะปราบมันอย่างปลอดภัยด้วยตัวคนเดียว ว่ากันว่าต้องมีแรงค์ 7 ขึ้นไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภทของนักผจญภัยด้วย
เว้นแต่จะเป็นคนที่มีฝีมือสูงมากจริงๆ หรือไม่ก็บ้าบิ่นสุดๆ ไม่อย่างนั้นแล้วไม่มีใครคิดจะล้มมันคนเดียวหรอก
มันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้หรือไม่ได้ แต่เป็นปัญหาเรื่องความปลอดภัยต่างหาก
ดูเหมือนว่าโกลเด้นโอเกอร์จะเห็นพวกเราแล้ว มันคำรามออกมา
ทั้งที่มันควรจะอยู่ไกล แต่เสียงคำรามที่แฝงด้วยพลังเวทกลับสั่นสะเทือนไปทั่วร่าง
“สมกับที่มาพร้อมกันสามตัว เสียงคำรามทรงพลังสุดๆ”
เมื่อเสียงคำรามของโกลเด้นโอเกอร์ทั้งสามกระทบเข้ามา เอริก้าก็ขมวดคิ้วทันที
เธอคงจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเจ้านี้ไปถึงหมู่บ้าน
“ควรเริ่มจากตัวไหนก่อนดี?”
ด้วยท่าทีที่ไม่มีความหวาดกลัวต่อโกลเด้นโอเกอร์สามตัวแม้แต่น้อย แถมยังถามอีกว่าจะเริ่มจัดการตัวไหนก่อนดี เอริก้าช่างเท่สุดๆ
“จากทางขวาจะปล่อยให้เข้าหมู่บ้านไม่ได้ ก่อนอื่นต้องลดความสามารถในการเคลื่อนของพวกมัน”
โกลเด้นโอเกอร์เป็นมอนสเตอร์ที่ถือว่าหาได้ยากในแถวนี้ แต่ในอาณาจักรฟาร์ทาลนั้นกลับถือว่าเป็นมอนสเตอร์ที่ค่อนข้างพบได้ทั่วไป
ผมเองก็เคยถูกอาจารย์ใช้ให้ออกไปปราบอยู่บ่อยๆ
แต่ตอนนั้นไม่ได้เจอทีเดียวสามตัวแบบนี้หรอก
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของผม พลังเวทรอบตัวเอริก้าก็เอ่อล้นขึ้นมา
“ก่อนอื่นก็ต้องคุมเชิงก่อนสินะ”
ระยะห่างระหว่างพวกเรากับศัตรูประมาณร้อยฟุต เอริก้าที่พูดแบบนั้น ทำให้ผมเบิกตากว้างกับสเกลที่ต้องคุมเชิง
รอบๆ ตัวเอริก้ามีลูกศรที่สร้างจากไฟลอยอยู่หลายสิบดอก
มันเป็นเวทที่มีชื่อเสียงซึ่งเรียกกันว่าลูกศรเพลิง แต่ปกติแล้วจะยิงทีละดอกเท่านั้น
ผมรู้จักคนที่ยิงลูกศรเพลิงได้รัวๆ อยู่หลายคน แต่คนที่ยิงมันออกมาพร้อมกันเป็นจำนวนมากแบบนี้ เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
ทันทีที่พลังเวทสีทองส่องประกาย ลูกศรเพลิงก็ถูกยิงออกไปพร้อมกัน
พลังขนาดนี้ จะเรียกว่าการคุมเชิงคงไม่ได้หรอกนะ
ผมเห็นเจ้าโกลเด้นโอเกอร์รีบยกแขนทั้งสองขึ้นมาป้องกันศีรษะจากลูกศรเพลิงที่พุ่งเข้ามา จึงคิดในใจ
ลูกศรเพลิงที่พุ่งลงมาใส่เจ้าโกลเด้นโอเกอร์ได้ก่อการระเบิดเล็กๆ เป็นจำนวนมากรอบตัวมัน
ไม่มีทางที่จะเห็นภาพนั้นจากการคุมเชิงแน่ๆ ในขณะที่คิดแบบนั้นก็เสริมพลังร่างกายเพิ่มขึ้นทันที
ดินที่อ่อนนุ่มของทางเดินในไร่แตกกระจายออกไป
“เร็วเข้า!”
เสียงกระซิบเบาๆ ของเอริก้าอยู่ไกลออกไปแล้ว
ตอนที่เอริก้ากระซิบออกมา ผมยังคงก้มตัวอยู่ในท่าป้องกันที่ด้านหลังของโกลเด้นโอเกอร์
วิ่งผ่านด้านหลังไปพร้อมกับฟันไปที่ข้อเท้าที่ไร้การป้องกัน
โกลเด้นโอเกอร์ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
โกลเด้นโอเกอร์แกว่งแขนไปมาอย่างมั่วๆ แต่ตอนนั้นผมก็ได้ถอยห่างออกมาเรียบร้อยแล้ว
เอริก้าที่ช้าหนึ่งจังหวะ ก็มาถึงข้างๆ ผม
“ฉันตามไม่ทัน”
ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เสียงนั้นฟังดูไม่พอใจ
“การสนับสนุนผู้ชายบ้างเล็กน้อยไม่ใช่ธรรมเนียมของสุภาพสตรีหรอกหรือ?”
“เพราะตอนนี้ฉันก็เป็นนักผจญภัยนะคะ”
ผมรู้สึกว่าที่พูดเรื่องการสนับสนุนผู้ชายนั่นก็น่าจะเป็นช่วงที่เป็นนักผจญภัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ผมไม่ได้โง่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ
ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าโกลเด้นโอเกอร์ยังลุกขึ้นแล้วจ้องมาที่ผมด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
ต่างฝ่ายต่างก็จ้องหน้ากันอย่างตึงเครียด โดยอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว แล้วใกล้พอที่จะอยู่ในระยะโจมตี
ตามที่อาจารย์บอก ระยะนี้ถ้าใครหลบตาก่อนคนนั้นจะแพ้
เหล่าโกลเด้นโอเกอร์พุ่งเข้ามาโจมตีทางเราจากสามทาง ด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกับนักผจญภัยแรงค์ 2 หรือ 3
แม้ว่าข้อเท้าที่ถูกเฉือนจนขาดไปแล้ว แต่ก็ยังเคลื่อนไหวได้ไม่เลว แต่ก็ช้า
ก่อนที่ผมจะได้ขยับไปไหน จุดที่พลังเวทย์ของเอริก้ามุ่งไป ก็ทำให้รู้ว่าเธอไว้ใจผมแล้ว
ตามที่ผมบอกไว้ตั้งแต่แรก ที่วิ่งไปยังโกลเด้นโอเกอร์ฝั่งขวาสุด ส่วนพลังเวทย์ของเอริก้าก็หันไปยังอีกสองตัวที่เหลือ
ในขณะเดียวกัน ที่ผมหลบหมัดยักษ์ของโกลเด้นโอเกอร์ฝั่งขวาสุดฟาดลงมา จึงใช้แขนของมันเป็นแท่นเหยียบแล้วไต่ขึ้นไป
แล้วก็เสริมพลังร่างกายจนถึงขีดสุด แถมขยายการเสริมพลังไปยังดาบด้วยเช่นกัน
นี่คือหนึ่งในไม่กี่เวทมนตร์ที่ผมใช้ได้จริงในการต่อสู้ เพราะผมไม่ถนัดด้านเวทมนตร์
ผลก็คือดาบจะทนทานขึ้น แค่นั้นเอง
อีกอย่าง มันไม่มีชื่อเรียกหรอก เพราะมีแค่ผมคนเดียวที่ใช้มันได้ อย่างน้อยผมก็ไม่รู้ว่ามีใครอื่นที่ใช้มันอีก
อาจารย์กล่าวไว้ว่า ถ้าจะใช้เวทมนตร์โง่ๆ แบบนั้น สู้ใช้ดาบที่แข็งแกร่งยังจะดีซะกว่า และถ้าสามารถทำอะไรที่ซับซ้อนแบบนั้นได้ ก็น่าจะเอาเวลาไปฝึกเวทมนตร์อื่นให้เก่งขึ้นยังจะดีกว่าอีก แต่ก็เถอะ
สำหรับลูกชายคนรองของตระกูลไวส์เคานต์ที่ยากจน เวทมนตร์นี้มีประโยชน์อย่างมากเลยล่ะ
เพราะว่า
ถ้าพยายามฟันโกลเด้นโอเกอร์แบบตรงๆ ตามปกติ คมดาบจะบิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คอหนาๆ ที่ถูกฟันจนขาด คมดาบกลับไม่บิ่นเลยแม้แต่นิดเดียว
ในขณะเดียวกับที่หัวของโกลเด้นโอเกอร์หลุดออกจากลำตัว ร่างกายที่ไร้หัวนั้นก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ผิวหนังที่เคยเป็นสีทองกลับซีดจางลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นสีเทาอ่อน ในชั่วพริบตานั้น ความนุ่มนวลแบบสิ่งมีชีวิตก็หายไป
จากนั้น เมื่อผมลงมาที่พื้นและหันกลับไป ร่างนั้นก็พังลงมาเป็นชิ้นๆ พร้อมเสียงดังโครมคราม
เมื่อมอนสเตอร์ตาย มันจะทิ้งแกนกลางที่เรียกว่าหินเวทมนตร์เอาไว้ และร่างกายของมันจะกลายเป็นผลึกสีเทาอ่อนที่เรียกว่าเศษหินเวทมนตร์
นานๆ ทีก็มีชิ้นส่วนของร่างกายหลงเหลืออยู่ แต่คราวนี้ไม่มีเลยดวงเลยจริงๆ
เหลืออีกสองตัว!
เมื่อคิดเช่นนั้น จึงรวบรวมแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้งทั่วทั้งแขนขา ผมก็ถึงกับชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นภาพที่ปรากฏตรงหน้า
เวทมนตร์สำหรับกดดันศัตรูที่ถูกใช้งานบ่อยรองจากลูกศรเพลิง มันไม่ซับซ้อน ใช้งานสะดวก ปรับความแรงได้ง่าย เนื่องจากสร้างได้ง่ายมาก จนมีคนพูดถึงมันว่า ถ้าเป็นเวทไฟ แค่เวทนี้เวทเดียวก็พอแล้ว
ไฟบอล
จังหวะนั้นเองที่ไฟบอลสองลูกนั้นพุ่งเข้าชนใบหน้าของโกลเด้นโอเกอร์ที่เหลืออีกสองตัวเข้าอย่างจัง
ผิวหนังสีทองของโกลเด้นโอเกอร์เป็นที่รู้กันดีว่าเวทมนตร์ใช้ได้ผลยาก
ถ้าพลังไม่มากพอ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เวทจะถูกสะท้อนหรือสลายไป
ความจริงแล้ว ลูกศรเพลิงที่เอริก้าใช้ก่อนหน้านี้ แม้จะสามารถหยุดการเคลื่อนไหวได้ก็จริง แต่ก็ไม่อาจสร้างบาดแผลที่เป็นชิ้นเป็นอันให้กับโกลเด้นโอเกอร์ที่ตั้งรับอย่างเต็มที่ได้เลย
พลังของเวทมนตร์นั้นแปรผันตามปริมาณพลังเวทที่ใส่เข้าไป และความซับซ้อนของวงเวทที่สร้างขึ้นภายในร่างกาย
เวทมนตร์ที่ร่ายได้รวดเร็วมักใช้วงเวทที่มีโครงสร้างเรียบง่าย และด้วยเหตุนี้จึงใส่พลังเวทลงไปได้ยาก
โดยทั่วไปแล้ว เวลาที่จะใช้เวทมนตร์ที่มีพลังสูง มักต้องใช้เวลาร่ายมาก เพราะจำเป็นต้องสร้างวงเวทที่ซับซ้อนซึ่งสามารถใส่พลังเวทได้มากกว่า
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าวงเวทที่เรียบง่ายจะใส่พลังเวทไม่ได้เลย
มันแค่ไม่มีประสิทธิภาพเท่านั้นเอง
ถ้าฝืนดันทุรังมันก็จะไม่มีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์คงจะเป็นแบบนี้สินะ
มันไม่สมเหตุสมผล
ผมมองเห็นโกลเด้นโอเกอร์ที่โดนไฟบอลเข้าไปที่หน้าแล้วถอยหลังด้วยท่าทางสะดุ้ง จึงคิดขึ้นได้
หนึ่งตัวยังรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด แต่หัวของอีกหนึ่งตัวนั้นถูกทำลายไปเกือบครึ่ง
การจะปล่อยไฟบอลที่มีพลังขนาดนี้ ต้องใช้พลังเวทมากแค่ไหนกันนะ ผมเองก็ไม่อาจจะจินตนาการได้เลย
ชั่วขณะที่ลืมตัว ก็ถูกเสียงคำรามของโกลเด้นโอเกอร์กลบหายไป
โกลเด้นโอเกอร์ที่หัวถูกทำลายไปเกือบครึ่ง ส่งเสียงคำรามออกมาเหมือนเสียงร้องคร่ำครวญก่อนตาย
เอริก้าไม่ได้ประมาทเลยแม้แต่น้อย
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ความสนใจของเธอหันไปที่โกลเด้นโอเกอร์อีกตัวหนึ่ง
เสียงคำรามที่ดังขึ้นมาถูกกระแทกใส่นั้นเป็นเสียงคร่ำครวญก่อนตาย และเป็นเสียงสุดท้ายที่โกลเด้นโอเกอร์ใช้พลังชีวิตทั้งหมดส่งออกมา
เสียงคำรามที่ถูกส่งออกมาพร้อมกับร่างกายที่กลายเป็นผลึกนั้น ทำให้เอริก้าเสียการควบคุมไปชั่วครู่
โกลเด้นโอเกอร์ที่เหลืออยู่หนึ่งตัว ก็ส่งเสียงคำรามที่โหยหวนอย่างรุนแรงเหมือนมนุษย์ พร้อมกับยกมือทั้งสองขึ้นเหนือหัว
ผิวหนังฉีกขาดด้วยไฟบอล ใบหน้าที่ไหม้เกรียมและเน่าเปื่อย บิดเบี้ยวไปตามเสียงคำราม เนื้อหนังฉีกขาดจนเห็นถึงกระดูก
ใบหน้าของเอริก้าตั้งมั่นเตรียมรับการโจมตีหนึ่งครั้งเต็มๆ
ไม่มีทางยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นได้
พอรู้ตัวอีกที ก็ก้าวเข้ามาขวางระหว่างเอริก้ากับโกลเด้นโอเกอร์ไปเสียแล้ว
ไม่ใช่ว่าการก้าวเข้ามาขวางนั้นมันไม่สมเหตุสมผลหรอกนะ แค่ความคิดยังตามการกระทำไม่ทัน
ไม่ว่าจะเป็นเสียงคำรามที่เปล่งออกมาจากลำคอของตัวเอง หรือพลังเวทที่หลั่งไหลไปทั่วร่าง ทุกอย่างกำลังทิ้งความคิดไว้ข้างหลัง
โอ้ หรือว่าผมมันโง่กันแน่นะ?
แค่จะใช้ดาบปัดแขนของโกลเด้นโอเกอร์ที่กำลังฟาดลงมา
แม้จะเสริมพลังร่างกายจนถึงขีดจำกัด แต่มือที่ถือดาบก็ยังชาเหมือนกับเหมือนฟันใส่ก้อนหินขนาดมหึมาเข้าไป
แขนของโกลเด้นโอเกอร์ที่ถูกห่อหุ้มด้วยผิวหนังอันแข็งแกร่งและกล้ามเนื้อหนาแน่น บิดงอผิดรูปไปในทิศทางที่ไม่ควรเป็น
เหลืออีกข้างเดียว
ตอนนี้มีแค่แขนขวาที่ปัดการโจมตีออกได้เท่านั้น
ไม่สิ ถึงจะฝืนไปหน่อย อย่างน้อยก็น่าจะซื้อดาบที่ดีกว่านี้เอาไว้นะ
ถ้าสามารถตัดแขนทั้งสองข้างของโกลเด้นโอเกอร์ได้ตั้งแต่แรก ก็คงไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรอก
ใช้แรงส่งที่เกิดจากการปัดแขนขวา ทำให้ดาบพุ่งชนเข้าที่แขนซ้าย จึงเกิดการสั่นสะเทือนด้วยแรงกระแทก
ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงสัมผัสที่ไม่คาดคิดทั้งสองมือ
ดาบแทงลึกเข้าไปถึงกลางแขนซ้ายของโกลเด้นโอเกอร์
ดาบของผมไม่ใช่ของดีเลิศอะไรเลย เป็นแค่ของที่ผลิตจำนวนมากธรรมดาๆ เท่านั้น
เนื่องจากสามารถเสริมพลังได้ ก็เลยไม่เคยใส่ใจเรื่องความคมของดาบเลย
ดังนั้นผมจึงรู้ดี ว่าด้วยทักษะและความคมของดาบตัวเองแล้ว แขนของโกลเด้นโอเกอร์ที่แข็งเป็นพิเศษนั้น จึงไม่สามารถตัดมันได้
เป็นอย่างนี้สินะ บ้าเอ๊ย
ถ้าทั้งสองมือของผมไม่มีอาการชา คงปล่อยดาบได้ แต่ก็ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด
โกลเด้นโอเกอร์ดึงแขนซ้ายที่ดาบแทงติดอยู่ไปด้วย ทำให้ผมเสียหลัก
ตั้งแต่ตอนที่พุ่งเข้าไปก็อยู่ในท่าทางที่ไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่แรก ก็เลยไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย
เห็นใบหน้าของโกลเด้นโอเกอร์บิดเบี้ยวอย่างดุร้าย
รู้สึกได้ว่าร่างกายกำลังถ่ายน้ำหนักไปยังขาที่รับน้ำหนักของโกลเด้นโอเกอร์
เอาล่ะ ถ้าถูกเตะลอยไป ผมจะลอยไปได้ไกลแค่ไหนกันนะ
เมื่อเห็นขาขนาดเท่าท่อนไม้ที่กำลังแกว่งมาหาเป้าหมายที่ท้องของผม ผมจึงคิดเรื่องแบบนั้น
MANGA DISCUSSION