ภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสช่วงต้นฤดูร้อน ขณะที่ฉันกำลังนั่งรถม้าก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งข้างๆ

 

…ขาวบริสุทธิ์ เธอมีบรรยากาศขาวบริสุทธิ์ราวกับขี้เถ้าที่ถูกเผาไหม้

 

เธอจ้องมองอากาศ ริมฝีปากที่งดงามขยับงุบงิบๆ เสียงที่ไม่สามารถเข้าใจได้หลุดออกมาจากลำคอ

 

ไม่… ไม่ใช่อย่างนั้น

 

ผมลองตั้งใจฟัง

 

“ไอ้เส็งเคร็ง เจ้าชายเส็งเคร็ง เจ้าชายเส็งเคร็ง เจ้าชาย”

 

โอ้ ไม่ควรตั้งใจฟังเลย

 

ผมเสียใจนิดหน่อย จึงมองดูใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น แต่เธอก็ยังคงพูดถ้อยคำที่ฟังดูเหมือนคำสาปด้วยริมฝีปากที่งุบงิบอย่างชำนาญ

 

ดวงตาของเธอควรจะเต็มไปด้วยความเข้มแข็งจนสามารถใช้ข่มขู่ใครๆ ก็ได้ แต่กลับว่างเปล่า  ริมฝีปากที่สวยได้รูปแต่บางทีอาจถึงขั้นหยิ่งยโสสำหรับบางคน กลับงุบงิบๆ และลำคอที่เข้ากับเบ้าหน้าของเธอ กำลังเปล่งเสียงที่ไม่มีความหมายออกมา… ไม่ใช่ คำพูดที่ฟังดูเหมือนคำสาปแช่ง

 

แต่เธอก็ยังสวย

 

เอริก้า โซลน์ซารี

 

เธอคือลูกสาวของตระกูลมาร์ควิสผู้ทรงเกียรติที่สุดของอาณาจักรแห่งหนึ่ง และเป็นอัจฉริยะด้านวิชาดาบและเวทมนตร์

 

อัจฉริยะผู้ได้รับพรจากสวรรค์ถึงสองสามประการ

 

เธอเพิ่งถูกเนรเทศออกไปเพียงไม่กี่วันก่อน

 

ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้จะถูกเนรเทศออกไป

 

และอีกอย่างเธอคือรักแรกของฉันด้วย

 

เอ๋? ไม่ได้ถามเหรอ?

 

เขินจังเผลอพูดอะไรแปลกๆ ซะได้ โปรดยกโทษให้ผมด้วย

 

*

 

จุดเริ่มต้นของเรื่องก็เรียบง่าย

 

ทุกอย่างเริ่มต้นจากหญิงสาวคนหนึ่งที่เข้าเรียนในสถาบันการศึกษาของอาณาจักรซึ่งเปิดรับเฉพาะบุตรหลานของขุนนางเท่านั้น

 

ปัญหาคือหญิงสาวคนนั้นเป็นสามัญชนและเธอคือมิโกะแห่งแสง

 

สำหรับบุตรชายของไวส์เคานต์ผู้ยากจนอย่างผม มันควรเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจ แต่ในโลกของขุนนางชั้นสูง สิ่งต่างๆ ไม่ใช่อย่างนั้น

 

บังเอิญปีนี้ทางสถาบันเต็มไปด้วยผู้ที่เหมาะสำหรับการแต่งงานกับบุตรสาวเป็นจำนวนมาก รวมถึงเจ้าชายที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ลูกชายของนายพล และลูกชายของขุนนางผู้ทรงอำนาจ

 

จุดประสงค์หลักของสถาบันก็คือการฝึกฝนบุคลากรให้มีความสามารถที่จะเป็นผู้นำอาณาจักรในรุ่นต่อไป แถมยังเป็นสถานที่หาคู่สำหรับบุตรสาวของขุนนางอีกด้วย

 

โดยปกติแล้ว ชนชั้นทางสังคมจะจัดการเรื่องต่างๆ เป็นอัตโนมัติ ถึงแม้พวกขุนนางจะพบข้อบกพร่องซึ่งกันและกันบ้าง แต่สิ่งต่างๆ ก็จะค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้น

 

เพราะว่ามีมิโกะแห่งแสงอยู่ที่สถาบัน

 

การเป็นมิโกะแห่งแสงสว่างหมายความว่าเธอมีพลังที่จะเพิกเฉยต่อสิ่งต่างๆ รวมถึงต้นกำเนิดที่มาจากสามัญชนก็ตาม

 

ท้ายที่สุดแล้วการเป็นมิโกะแห่งแสงแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงชื่นชอบเธอ

 

หากมีมิโกะแห่งแสงในประเทศใด ประเทศนั้นก็จะได้รับพรแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ดี การโจมตีของมอนสเตอร์ก็จะลดลง เพียงแค่นั้นก็ได้รับการเคารพจากประเทศอื่นแล้ว

 

เธอถูกพระเจ้าเลือกให้มาเป็นมิโกะแห่งแสงอย่างแท้จริง

 

อำนาจที่ยิ่งใหญ่จนไม่สามารถถูกควบคุมโดยมนุษย์

 

หากเป็นไปตามนี้ พวกเขาจะบังคับเธอเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาอย่างแน่นอน เพราะตามจริงแล้ว อาณาจักรต้องการให้มิโกะแห่งแสงมาเป็นเจ้าสาวของขุนนางคนหนึ่ง

 

ดังนั้น สำหรับสาวๆ ในสถาบันแห่งนี้ ควรจะเป็นปีที่น่าอัศจรรย์ซึ่งพวกเธอสามารถค้นพบผู้เข้าแข่งชั้นยอดจำนวนหนึ่ง กลับกลายเป็นปีที่แสนเลวร้าย  เมื่อผู้เข้าแข่งขันชั้นยอดเหล่านั้นไม่สนใจพวกเธอเลย พวกเค้าแห่ไปหามิโกะแห่งแสงแทน

 

โดยธรรมชาติแล้วตระกูลขุนนางชั้นสูงไม่พอใจกับเรื่องนี้และอยากจะทำบางสิ่งบางอย่าง แต่คู่ต่อสู้ของพวกเขาคือมิโกะแห่งแสง

 

ผู้ปฏิเสธได้แม้กระทั่ง สถานะ เสรีภาพ แม้แต่คำสั่งของกษัตริย์ที่ได้รับการรับรองภายใต้ตามกฎหมาย  และหากพวกเขาบังคับให้ทำอะไรที่ไปทำร้ายเธอ ประเทศจะตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรง

 

ในอดีต ประเทศต่างๆ ที่บังคับให้มิโกะแห่งแสงแต่งงานหรือย้ายถิ่นฐานโดยไม่สมัครใจ ล้วนประสบความเสื่อมถอยทั้งสิ้น และส่วนใหญ่ก็ได้ล่มสลายไป

 

ตำแหน่งมิโกะแห่งแสงที่พระเจ้าทรงเลือกและเป็นที่ชื่นชอบนั้นไม่ใช่เรื่องตลก

 

แม้แต่ขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถทำอะไรกับมิโกะแห่งแสงได้

 

ทำให้ธิดาผู้สูงศักดิ์ที่มักหัวเราะอย่างสง่างามด้วยเสียง “โอโฮโฮ” “อุฟุฟุ” และ “ฮ่าฮ่าฮ่า” ก็เริ่มกัดฟัน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ตาแดงก่ำ และหายใจแรง ทำให้ชีวิตในโรงเรียนของพวกเธอไม่งดงามเอาเสียเลย

 

ผมคิดว่าชีวิตในโรงเรียนค่อนข้างวุ่นวาย

 

มันเพียงพอที่จะทำให้ผมซึ่งเป็นบุตรชายคนที่สองของตระกูลวิสเคานต์แสนยากจนต้องอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ  ขุนนางชั้นสูงต้องการใกล้ชิดกับมิโกะแห่งแสง หากเป็นไปได้ก็วางแผนจะแต่งงานกับเธอ โดยมีขุนนางชั้นต่ำกว่าก็เข้าไปพัวพันกับแผนการของพวกเขาด้วย

 

เมื่อมองผิวเผินจากสถานการณ์ตอนนี้ก็ยังสงบสุขอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะรักษาชื่อเสียงของเหล่าขุนนาง แต่ระหว่างตระกูลขุนนางที่ส่งลูกสาวและตระกูลที่ส่งลูกชายเข้ามา จึงเกิดความขัดแย้งขึ้นมา หากสิ่งต่างๆ ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลา ก่อนที่จะกลายเป็นแหล่งปัญหาในอนาคต

 

แต่แล้วเอริก้า โซลน์ซาลีก็ปรากฏตัวขึ้น

 

เธอได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของมิโกะแห่งแสงอย่างเป็นธรรมชาติด้วยความรวดเร็วจนไม่มีใครสามารถแทรกแซงได้

 

ไม่รู้ว่าบิดาของเธอที่เป็นเสนาบดีของอาณาจักรจะอยู่เบื้องหลังของการเคลื่อนไหวครั้งนี้หรือไม่ แต่หลังจากที่ได้เป็นเพื่อนสนิทกับมิโกะแห่งแสง เธอได้ใช้บุคลิกตามธรรมชาติของเธอและใช้พลังของครอบครัวเพื่อขับไล่ขุนนางชั้นต่ำที่แห่มาหามิโกะแห่งแสง

 

เจตจำนงเสรีของมิโกะแห่งแสงที่ไม่สามารถถูกขัดขวางได้ ทำให้ขุนนางชั้นกลางและชั้นล่างที่วางแผนเข้าใกล้เธอด้วยความเชื่อแบบนั้น กับพ่ายแพ้ต่อกำแพงของเอริก้า โซลน์ซารีอย่างสิ้นเชิง

 

เมื่อถึงจุดนี้ ขุนนางชั้นสูงต่างคิดว่าสมกับนายกรัฐมนตรีจริงๆ

 

เนื่องจากตระกูลโซลน์ซารี ไม่มีลูกชาย จึงมีสิทธิพิเศษแก่ขุนนางชั้นสูงคนอื่นๆ

 

เหล่าขุนนางชั้นสูงต่างคิดว่าไม่มีคู่แข่งตัวฉกาจแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือการเข้าทำการรู้จักกับลูกสาวของโซลต์ซารี เพื่อแนะนำเรื่องการแต่งงานระหว่างเขากับมิโกะแห่งแสง…

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ไม่มีคำเชิญจากตระกูลโซลน์ซารี ไปยังตระกูลขุนนางอื่นๆ เลย

 

แม้ว่าจะมีงานปาร์ตี้ที่จัดโดยครอบครัวโซลน์ซารี แต่มิโกะแห่งแสงก็ไม่เคยปรากฏตัวที่นั่น และยังไม่มีการกล่าวถึงเรื่องที่เอริก้า โซลน์ซาลีแนะนำมิโกะแห่งแสงให้ลูกชายของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งในโรงเรียนรู้จักเลย

 

ขณะที่ตระกูลขุนนางชั้นสูงที่คิดว่าเขาต้องเป็นคู่หมั้นของมิโกะแห่งแสงเริ่มเอียงหัวด้วยความสับสนที่จู่ๆ มีข่าวน่าตกตะลึงได้แพร่กระจายออกไป

 

ดูเหมือนว่าเสนาบดีจะไม่รู้ว่าลูกสาวของเขาเป็นเพื่อนสนิทกับมิโกะแห่งแสง

 

ดูเหมือนหลายๆ คนจะบอกว่านี่เป็นเรื่องโง่เขลา แต่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันแล้วก็ถือเป็นแนวคิดที่เข้าใจได้

 

ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร เมื่อได้ยินเรื่องราวนี้ ขุนนางชั้นสูงก็รีบดำเนินการทันที

 

จนถึงตอนนี้ พวกเขาระมัดระวังที่จะรับผลเสียหากทำผิดพลาด ดังนั้นพวกเขาจะคอยตรวจสอบครอบครัวอื่นๆ โดยไม่ได้ดำเนินการเชิงรุกใดๆ แต่ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องสงวนท่าทีอีกต่อไป

 

อย่างไรก็ตามยังคงมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งอีกมากมาย

 

ทำให้เกิดการคำนวณผิดพลาดครั้งใหญ่

 

มิโกะแห่งแสงผู้นั้นไม่หวั่นไหวเลย

 

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นมิโกะแห่งแสง แต่สุดท้ายแล้วเธอก็เป็นเพียงสามัญชน และเหล่าบุตรชายของตระกูลขุนนางที่เคยคิดว่าพวกเขาสามารถสัญญาชีวิตที่หรูหราเพียงเล็กน้อยให้กับเธอต้องแยกตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

 

ดังนั้นเมื่อพวกเขาพยายามเข้าหาเธออย่างจริงจังและชวนเธอออกไปเที่ยวเล่นหรือปาร์ตี้ เธอก็มักจะหาข้อแก้ตัวสารพัดเพื่อปฏิเสธ

 

พูดให้ชัดๆ ก็คือ พวกเขาถูกปฏิเสธเพราะเอริก้า โซลน์ซารี

 

เหล่าบรรดาขุนนางและเจ้าชาย ซึ่งน่าจะเป็นผู้ที่หลงรักมิโกะแห่งแสงมากที่สุด ต่างพากันเอียงศีรษะของเขา

 

พวกเขาเริ่มสงสัยว่าเสนาบดีรู้เรื่องนี้ทั้งหมดและน่าจะมีความคิดบางอย่างด้วย

 

ไม่เช่นนั้นแล้ว ไม่มีทางที่เอริก้า โซลน์ซารีจะปฏิเสธคำเชิญของพวกเขาไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจผิดดังกล่าวก็ได้รับการชี้แจงในไม่ช้านี้

 

ความจริงก็คือมิโกะแห่งแสงผูกพันกับเอริก้า โซลน์ซารีอย่างแท้จริง

 

สำหรับเธอ ซึ่งเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เอริก้า โซลซารี ได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอ และเป็นคนเดียวที่เธอไว้วางใจได้ในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยขุนนาง

 

นี่อาจเป็นภาพที่สวยงามในสถานการณ์ปกติ แต่โชคร้ายสำหรับเธอ ที่เป็นมิโกะแห่งแสง และนั่นไม่เพียงพอที่จะทำให้เป็นภาพน่าอบอุ่นใจได้

 

ทุกอย่างคงจะแตกต่างออกไปหากเอริก้า โซลน์ซารีทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างตระกูลขุนนางชายอื่นๆ และมิโกะแห่งแสง แต่ดูเหมือนว่าเอริก้า โซลซารีไม่มีความตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น

 

ยิ่งกว่านั้นเธอดูไม่เหมือนสนใจที่จะหาคู่ครองเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ

 

เมื่อถึงทางตัน

 

การเข้าหามิโกะแห่งแสงโดยตรงก็คงไร้ประโยชน์ เนื่องจากเอริก้า โซลน์ซาริไม่มีความตั้งใจที่จะไกล่เกลี่ยระหว่างพวกเขาทั้งสอง และคงเป็นเรื่องยากที่จะใช้การหาคู่ครองของเอริก้า โซลน์ซาริเป็นฐานที่มั่นในการเข้าใกล้มิโกะแห่งแสง

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเสนาบดีจะไม่มีความตั้งใจที่จะใช้ลูกสาวของเขาทำอะไรเลย

 

แม้ว่าโรงเรียนจะดูสงบสุขภายนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นสถานที่วางแผนแยกเอริก้า โซลซาริกับมิโกะแห่งแสงออกจากกัน

 

ตลอดสามปีมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

หากเอริก้า โซลนท์ซารีเป็นเพียงลูกสาวของขุนนางชั้นรอง เธอคงถูกกำจัดไปนานแล้ว

 

หากเอริก้า โซลน์ซารีไม่ได้เป็นลูกสาวของเสนาบดี เธอคงถูกปลดออกจากตำแหน่งไปนานแล้ว

 

หากเอริก้า โซลนท์ซารีเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถปานกลาง เธอคงถูกผลักออกไป

 

น่าเสียดายที่เธอเป็นลูกสาวของมาร์ควิสของเสนาบดี และยังมีพรสวรรค์ด้านดาบและเวทมนตร์ที่ไม่มีใครเทียบได้

 

หากสิ่งนี้รวมเข้ากับเจตจำนงเสรีของมิโกะแห่งแสงแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะแยกจากกันได้ด้วยแผนการกระจอกๆ

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาจึงคิดแผนบางอย่างขึ้นมาเมื่อเหลือเวลาอีกเพียงปีเดียวก่อนจะสำเร็จการศึกษาจากสถาบัน

 

เอริก้า โซลน์ซาลี ถูกใส่ร้าย

 

ทั้งขุนนางชั้นสูงและแม้กระทั่งราชวงศ์ต่างร่วมมือกันกำจัดเธอ

 

ในตอนแรกแผนคือให้เขาออกจากโรงเรียนประมาณหนึ่งปี

 

นั่นคือความตั้งใจเดิม

 

แต่ในระหว่างนั้น แผนการก็เกิดผิดพลาด

 

ไม่หรอก มีคนจงใจใช้ประโยชน์จากแผนนี้

 

กว่าพวกเขาจะตระหนักถึงแผนของตนที่ถูกบิดเบือน มันก็สายไปเสียแล้ว

สถานการณ์ลุกลามอย่างใหญ่โตจนต้องใช้ความพยายามในระดับเดียวกันเพื่อคลี่คลายปัญหา

 

มิฉะนั้น เอริก้า โซลน์ซาลี คงต้องเผชิญโทษประหารชีวิต

 

เธอถูกคริสตจักรกล่าวหาว่าวางแผนลอบสังหารนักบวชแห่งแสง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงถูกเนรเทศออกจากประเทศ

 

นี่คือสาเหตุที่เอริก้า โซลน์ซาลีถูกเนรเทศ

 

หืม? ผมซึ่งเป็นบุตรชายคนที่สองของวิสเคานต์ผู้ยากจน รู้เรื่องพวกนั้นมากขนาดนี้ได้อย่างไร?

 

การเดินทางเพิ่งเริ่มต้น งั้นจะขออธิบายให้ฟังเอง

 

 

-จากผู้แปล-

“ผมเป็นผู้แปลหน้าใหม่ ขอฝากเนื้อฝากตัวนะครับ ถ้าแปลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย เพราะผมต้องดำน้ำอุ๋มๆ”