“เอ่อ… มะ…มาฟุยุ…จัง…?”
แววตาของมาฟุยุจังที่จ้องเขม็งมาเหมือนมีอะไรเหนียวหนึบและเย็นเฉียบปกคลุมอยู่ ไม่ใช่แสงแรงร้อนแบบพระอาทิตย์หน้าร้อน…แต่เป็นบางอย่างที่หนักอึ้ง เยือกเย็น และน่ากลัวจับใจ
“…เอ่อ…เดี๋ยวจะ…ไปสายแล้ว…นะ…?”
“…………”
ทั้งที่แทบสั่นเพราะความหนาวเย็นที่ไม่รู้มาจากไหน แต่ฉันพยายามฝืนควบคุมร่างกายไว้
ในขณะเดียวกันก็ไม่ละสายตาจากมาฟุยุจังแม้แต่นิด
มือข้างหนึ่งค่อยๆ เอื้อมไปล็อกประตูบ้านของชิซุกะ
บรรยากาศตึงเครียดราวกับหนังจูราสสิคที่พยายามไม่ให้ไดโนเสาร์รู้ตัว
ภาพนั้นแวบเข้ามาในหัวทันที
เสียง กริ๊ก ของโลหะดังขึ้นเบาๆ ที่ปลายนิ้ว
ฉันค่อยๆ ดึงกุญแจออกแล้วเก็บใส่กระเป๋า
ตลอดเวลานั้น ฉันไม่กล้าละสายตาจากมาฟุยุจังเลย
ไม่ใช่ว่าไม่อยากละ แต่…ละไม่ได้
เหมือนกบที่ถูกงูจ้องจนตัวแข็ง
“…แต่เช้าแบบนี้…”
“อึก!?”
ในที่สุดมาฟุยุจังก็พูดขึ้น และฉันถึงกับสะดุ้งสุดตัว
…ทำไมฉันถึงกลัวมาฟุยุจังขนาดนี้นะ
สัญชาตญาณบางอย่างบอกให้กลัวเธออย่างไร้เหตุผล
“…แต่เช้าแบบนี้ พี่ไปทำอะไรมาเหรอ…ที่บ้านของชิซุกะ?”
มาฟุยุจังเหลือบตาไปทางประตูบ้านของชิซุกะ
สายตานั้น…ราวกับนักฆ่า
“อย่าบอกนะว่า…อยู่มาตั้งแต่เมื่อคืน?”
“……อ…”
จะอธิบาย…แต่จู่ๆ ก็รู้สึกว่าคอแห้งผากจนพูดไม่ออก
อะไรกันเนี่ย…ทำไมถึงน่ากลัวขนาดนี้
“ทำไมเงียบล่ะ? อย่าบอกนะว่า…จริง?”
ไม่ใช่! ไม่ใช่อย่างนั้นนะ!
แค่ตื่นเต้นจนพูดไม่ออกต่างหาก!
ฉันรีบส่ายหน้าสุดชีวิต
มาฟุยุจังมองฉันเหมือนยมบาลกำลังรอฟังคำอ้อนวอนของคนบาปในนรก
ดูเหมือนว่าเธอจะเบื่อคำแก้ตัวของฉันแล้ว
หรือไม่ก็เธอได้ตัดสินโทษไว้ตั้งแต่แรก
เพราะเธอก็หันตาออกไปอย่างไม่ใยดี
แต่ก็ยังใช้ “สายตา” ไล่สำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า
——ทั้งที่ใบหน้าเธอไม่ขยับเลย
“…เรื่องนั้นเอาไว้ไปคุยกันที่ ‘สถานี’ ก็แล้วกัน
แต่ก่อนอื่น ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะก่อนมั้ย?”
…‘สถานี’ ที่ว่าคือสถานีอะไรเนี่ย…
ฉันขนลุกพรึ่บก่อนรีบเดินผ่านข้างเธอไปเพื่อหลบเข้าบ้านตัวเอง
◆
แม้ว่าฉันจะพยายามอธิบายแล้วว่าแค่ชิซุกะไม่สบาย
แต่มาฟุยุจังก็ยังคงทำหน้าดุอยู่ตลอดทางไปมหา’ลัย
ฉันที่เป็นพี่วัยมากกว่าสองปียังกลัวเด็กข้างบ้านจนตัวสั่นได้ขนาดนี้
ก่อนจะแยกกัน เธอพูดทิ้งท้ายไว้ว่า
“คืนนี้…เราจะคุยกันให้ชัดๆ”
คำว่า “คุยกัน” ฟังดูเหมือนคำพิพากษายังไงชอบกล
สุดท้ายฉันก็เอาชีวิตรอดมาได้จนถึงมหา’ลัย
และขณะกำลังฟังเลคเชอร์อย่างเหม่อๆ
โดยในหัวมีแต่เรื่องของชิซุกะที่ไม่สบายกับมาฟุยุจัง
ก็ถึงเวลาเที่ยงแล้วโดยไม่รู้ตัว
ฉันรีบออกจากมหา’ลัยเพื่อกลับไปที่บ้านของชิซุกะ
ระหว่างทางไม่มีไรม์จากชิซุกะเลย
น่าจะยังหลับอยู่ล่ะมั้ง
“…………”
ฉันลังเลอยู่หน้าห้องชิซุกะเล็กน้อย
ก่อนตัดสินใจไขกุญแจเข้าไปเอง
ถ้ากดกริ่งแล้วเธอตื่นขึ้นมาคงจะไม่ดี
ฉันค่อยๆ บิดลูกบิดเบาๆ เพื่อหลีกเลี่ยงเสียง
ภายในห้องมืดสลัวเพราะปิดม่าน
ขยะกองพะเนินบนพื้นทำให้เหมือนกับกำลังเดินอยู่ในทุ่งกับระเบิด
ถึงเวลาต้องจัดการทำความสะอาดแล้วจริงๆ ล่ะ…
หลบหลีกกับดักระเบิดมาได้จนถึงหน้าห้องนอน
ฉันเปิดประตูอย่างแผ่วเบาและระมัดระวัง
——แต่ฉันคิดผิด
กับระเบิดจริงๆ มันอยู่ “ข้างใน” ต่างหาก
พอเปิดประตูเข้าไป
ชิซุกะก็กำลังลุกขึ้นนั่งพอดี
เธอหันมามองฉันอย่างงุนงง…
——โดยที่ไม่ใส่เสื้อ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!???”
“เฮือก!? หวาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!???”
ภาพผิวเปลือยที่ไม่คาดฝันทำเอาสมองฉันช็อตทันที
เปลือย?
ชิซุกะ?
ทำไม!?
——มนุษย์จะ “ค้าง” ทันทีเมื่อเจอกับสิ่งที่เกินกว่าความสามารถในการรับรู้
และฉัน…ได้พิสูจน์สิ่งนั้นเป็นครั้งที่สองในวันนี้
รู้ดีว่าควรหลบออกไปเดี๋ยวนี้
รู้ดีว่าควรเบนสายตาหนี
แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟัง ราวกับมันหนักเป็นตะกั่ว
หากว่ากันตามข้อเท็จจริง——
ฉันยืนจ้อง “ร่างเปลือย” ของชิซุกะแบบเต็มสองตาเลยทีเดียว
“——ออกไป๊!!!!”
“แอ๊ก!!!!”
มีอะไรบางอย่างถูกปามาใส่หน้าฉัน——
ดูเหมือนจะเป็นชุดนอนเปียกเหงื่อกับบราของเธอ (ไม่ได้ดูนะ…แค่รู้สึกได้!)
ฉันถูกผลักกระเด็นออกมานอกห้องด้วยแรงมหาศาล
——และสงครามโลกครั้งที่สาม…อาจเริ่มขึ้นหลังจากนี้
MANGA DISCUSSION