“โย่ว โซมะ วันนี้ไม่มากับแฟนเหรอ?”
ที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย
หลังจากรับชุดอาหาร B แล้วเดินไปที่โต๊ะประจำ ก็เห็นเคย์สุเกะกำลังกินราเม็งพร้อมยกมือทักทายอย่างสบายใจ
“บอกแล้วไงหลายรอบแล้วว่า มาฟุยุจังไม่ใช่แฟนฉันน่ะ”
ฉันนั่งลงตรงข้ามพลางแก้ความเข้าใจผิด ไม่รู้กี่คนแล้วที่ต้องพูดประโยคนี้ กับเคย์สุเกะเองก็พูดไปแล้วสามรอบ
“แต่ว่ามีคนบอกนะว่าเคยได้ยินนายพูดเองเลยว่าเธอเป็นแฟนน่ะ”
“โธ่เอ๊ย…นั่นคงหูฝาดล่ะมั้ง”
ก็…พูดไปก็จริง
……แต่เรื่องมันไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย
มันเป็นแค่คำพูดลอยๆ เท่านั้นเอง!
“เหรอ~ แต่ฉันว่าพวกนายดูเข้ากันดีนะ ตอนแรกก็หมั่นไส้เหมือนกันแหละ”
“ความรู้สึกเปลี่ยนไวจังนะ…”
มาฟุยุจังกับฉันดูเหมาะสมงั้นเหรอ? มีอย่างงั้นด้วยหรือ?
ก็ใช่ว่าจะไม่สนิทกัน แต่ถ้าให้คนทั่วไปมองพวกเราสองคน ยังไงก็ต้องคิดว่า “สาวสวยกับคนธรรมดา” ชัดๆ
“ไม่รู้สิ แต่เวลาที่มินาเสะซังอยู่กับนายน่ะ เธอเหมือนจะเป็นคนละคนเลยนะ ดูแล้วรู้เลยว่าไว้ใจนายแหละ”
“คนละคน? ……เหรอ?”
มาฟุยุจังน่ะ เปลี่ยนโหมดชัดเจนเวลาอยู่ในที่สาธารณะกับตอนอยู่ในห้อง แต่ในมหา’ลัยเธอจะวางมาดนิ่งๆ ตลอด ไม่น่าจะเคยเผลอปล่อยตัวตนเวอร์ชั่นที่ห้องให้เคย์สุเกะเห็นนะ
“โอ๊ะ พูดถึงก็มาแล้วนี่ไง แฟนสุดที่รักของนาย”
“ก็บอกว่าไม่ใช่แฟนไง…”
เมื่อมองตามสายตาเคย์สุเกะ ก็เห็นมาฟุยุจังเดินถือชุดอาหาร A มาทางนี้ พอสบตากับผมก็ไม่มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงใดๆ แปลว่าเธอเปิดโหมด ‘มหา’ลัย’ เต็มที่แล้ว
“โซมะคุง แล้วก็เคย์สุเกะซัง สวัสดีค่ะ”
“โย่ว มินาเสะซัง! มานั่งๆ เลย!”
เพราะกินข้าวด้วยกันบ่อย เคย์สุเกะกับมาฟุยุจังก็เริ่มสนิทกันขึ้นเล็กน้อย ตอนแรกเขาออกจะเกร็งด้วยซ้ำ แต่ไอ้นี่มันพวกชอบผู้หญิงอยู่แล้ว จะเข้าหาใครก็ไม่ใช่เรื่องยาก
“โซมะคุง ฉันขอนั่งข้างๆ นะ?”
“หือ? อะ อื้ม”
ฉันขยับถาดเบาๆ เพื่อให้ที่ว่าง แล้วมาฟุยุจังก็วางถาดลงและนั่งลงข้างๆ
“…………หึหึ”
“เคย์สุเกะ นายมีอะไรจะพูดมั้ย?”
เห็นเคย์สุเกะยิ้มเจ้าเล่ห์ก็รู้แล้วว่าเขาคิดอะไรไร้สาระอีกแล้วแน่ๆ
“นี่มินาเสะซัง หมอนี่นะ บอกว่าเธอไม่ใช่แฟนเขาน่ะ จริงเหรอ?”
“เฮ้ พอเลยน่า…”
ฉันรีบยกมือห้าม แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว
มาฟุยุจังหันมามองฉันจ้องเขม็ง ก่อนจะเงยหน้าทำท่าคิดอะไรบางอย่าง แล้วจึงหันไปทางเคย์สุเกะ
“สองเดือนแล้วค่ะ”
“คบกันมาได้สองเดือน!? ฮั่นแน่~ ไอ้นี่ก็ยังแอบปิดไว้เนอะ! ไม่พูดให้รู้เรื่องเลย!”
เคย์สุเกะทำท่าจะตีฉันแบบล้อเลียน
…มาอีกแล้ว มุกหน้าตายของมาฟุยุจัง พอเธอพูดอะไรด้วยหน้านิ่งๆ น่ะ มันน่าเชื่อทุกทีเลย! ได้โปรดหยุดทีเถอะ…
“มาฟุยุจัง? เดี๋ยวพูด──”
“ตั้งท้องค่ะ”
“ท้องสองเดือน!? โซมะนี่แก────!!?”
คำพูดของมาฟุยุจังทำเอาเคย์สุเกะแทบพ่นราเม็งออกมา แล้วเสียงจากโต๊ะรอบข้างก็เริ่มดังขึ้น ดูท่าว่าหลายคนก็แอบฟังอยู่เหมือนกัน
“เฮ้อออออ! ไม่ใช่แล้ว! ล้อเล่นน่า! มาฟุยุจังหยุดทีเหอะ…!”
แต่เจ้าตัวกลับหันหน้าไปทางอาหารอย่างไม่แยแส ราวกับพูดเสร็จก็หมดหน้าที่
สมกับฉายาราชินีน้ำแข็งแห่งคณะวิศวะจริงๆ
สุดท้ายกว่าจะอธิบายให้เคย์สุเกะเข้าใจหมด ก็ใช้เวลาร่วมสิบนาที
“──เออ จริงสิ โซมะ นายรู้เรื่องวีทูปเบอร์ดีใช่มั้ย?”
พอเข้าใจกันได้แล้วว่าเราสองคนไม่ได้มีอะไร เคย์สุเกะก็พูดขึ้นมา
“วีทูปเบอร์? ก็ไม่ถึงกับรู้ลึกหรอก”
ฉันดูแค่ช่องของท่านเอ็ต กับอีกอย่าง ตัวเองก็เป็นวีทูปเบอร์ ด้วย…ซึ่งมันไม่เหมือนกับรู้เรื่องหรอกนะ
“เหรอ? ช่างเถอะ…นี่ๆ นายรู้จักวีทูปเบอร์ที่ชื่อว่า ‘โอโตนะ โคโดโมะ’ มั้ย?”
“พรื่ด!!”
“……แค่ก”
ฉันสำลักแทบไม่ทัน…อะไรนะ? ทำไมหมอนี่ถึงรู้จัก โอโตนะ โคโดโมะ ได้!?
หรือว่า…เขารู้แล้ว!?
“เฮ้ เป็นไรเปล่า!? ไม่สบายรึไง?”
“อะ อะไรนะ? เปล่า ไม่เป็นไร…แล้ว โอโตนะ…อะไรนะ? มันทำไมเหรอ?”
ต้องรีบประเมินสถานการณ์ ว่าถ้าถูกจับได้จริงจะรับมือยังไง…บางทีอาจต้องรายงานมายะซัง
“อ๋อ คือว่า…น้องสาวฉันน่ะ ปกติแทบไม่ได้คุยกันหรอกนะ แต่วันนั้นจู่ๆ ก็เข้ามาบอกว่า ‘คนนี้ดีมาก ต้องดูให้ได้นะ’ เลยคิดว่าถ้าเป็นโซมะอาจจะรู้จักก็ได้”
“อ๋อ อ๋อ…งั้นเองสินะ เข้าใจล่ะ…”
พอได้ยินคำอธิบาย ก็โล่งอกทันที
ดูท่าว่ายังไม่โดนจับได้ งั้นก็ยังไม่ต้องรีบตกใจ
“โอโตนะ โคโดโมะเหรอ…ส่วนตัวฉันว่าก็ไม่เห็นจะดูสนุกตรงไหน ไม่ดูก็ไม่เสียหายนะ”
“เหรอ งั้นก็ไม่ดูละกัน จริงๆ ฉันก็ไม่ได้สนใจวีทูปเบอร์เท่าไหร่หรอก”
ถึงงั้นก็ไม่ควรประมาทเรื่องความเสี่ยง ฉันรีบบอกอย่างตัดบท
เคย์สุเกะดูเหมือนจะไม่ได้สนใจนัก ก็เลยไม่ได้พูดถึงชื่อ โอโตนะ โคโดโมะ อีกเลย
หลังจากนั้นก็พูดคุยกันเรื่องทั่วไป แล้วเราก็กินข้าวเที่ยงเสร็จ
“ไปกันเถอะ มาฟุยุจัง วันนี้เอายังไง?”
“กลับด้วยกัน จะไปรอที่เดิมหลังเลิกเรียนนะ”
“โอเค”
เคย์สุเกะที่เห็นพวกเราคุยกันก็พึมพำเบาๆ
“แบบนี้ยังจะบอกว่าไม่ได้คบกันอีกเหรอ…”
พวกเราทั้งสามคนลุกขึ้นพอดีกับที่เพื่อนสองคนของเคย์สุเกะเดินเข้ามาในโรงอาหาร หน้าตาดูคุ้นอยู่ น่าจะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับเคย์สุเกะ
“เฮ้ เอาจริงดิ? แกมากินข้าวกับราชินีปัดตกได้ไงฟะ”
“อ๋อ เห็นว่าไม่ชอบให้เรียกแบบนั้นน่ะ เป็นเพื่อนของเพื่อนน่ะ ว่าแต่พวกนายมากินที่โรงอาหารเนี่ย แปลกแฮะ”
“เงินช็อตน่ะดิ เลยต้องกัดฟันมากิน”
“อีกแล้วเรอะ ไปเล่นปาจิงโกะอีกล่ะสิ บอกแล้วไงว่าเล่นไม่ชนะหรอก”
“เปล่าเฟ้ย ตอนนี้แทงม้ากำลังมาเว้ย!”
“ก็เหมือนกันนั่นแหละโว้ย────”
เห็นพวกเรายืนเตรียมออกไป เคย์สุเกะก็โบกมือลาเงียบๆ
ปล่อยให้พวกเขาคุยกันอย่างสนุกสนานดีกว่า ฉันกับมาฟุยุจังก็เดินออกจากโรงอาหารไปด้วยกัน
MANGA DISCUSSION