“───ว่าแล้วก็เลยเป็นแบบนี้สินะ”
บ่ายวันเสาร์อันแสนสงบ
ที่โต๊ะประจำของบ้าน วันนี้ไม่ได้มีแค่ชิซุกะคนเดียว หากแต่ยังมีอีกคนร่วมวงด้วย
เด็กสาวผมสีส้มสดที่ตัดตรงระดับไหล่ ดูเหมือนนักร้องนำวงวิชวลคีย์ ผมประดับด้วยกิ๊บรูปดาวที่สะท้อนแสงวิบวับ เป็นเด็กที่ดูสดใสร่าเริงตั้งแต่แรกเห็น ปากเผยอเล็กน้อย เผยให้เห็นเขี้ยวเล็กๆ เหมือนตัวละครที่พร้อมไปร่วมงานฮาโลวีนได้ทันที
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ! ฉันชื่อเซเรีย เป็นวีทูปเบอร์สังกัด Virtual Real ชื่อจริงคือ ฮอนนะ มิยาบิ เขียนว่า ‘ฮอนเมียว’ แต่อ่านว่า ‘ฮอนนะ’ นะคะ!”
“มิยาบิจังสินะ ถึงจะไม่เคยดูไลฟ์ แต่ก็พอรู้จักชื่ออยู่หรอก ฉันเทนโด โซมะ ฝากตัวด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ งั้นจากนี้ช่วยดูไลฟ์ของฉันด้วยล่ะ!”
“อืม จะลองพิจารณาดูนะ”
แค่บทสนทนาเบื้องต้นก็บอกได้แล้วว่าเธอเป็นเด็กสาวสดใสสมกับรูปลักษณ์
ดูอายุน้อยกว่า แต่ก็ไม่มีท่าทีเกร็งหรือหวาดกลัวฉันเลยสักนิด ทั้งที่เป็นชายแปลกหน้าที่เพิ่งเจอครั้งแรก คงเป็นประเภทที่ไม่มีอะไรในโลกนี้ทำให้กลัวได้
“แล้วตกลง มิยาบิจังมาหาฉันเรื่องอะไรล่ะ?”
ก่อนหน้านี้ชิซุบอกแค่บอกสั้นๆ ว่า “อยากให้เจอเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง” ก็เลยคิดว่าอาจเกี่ยวกับออฟคอลแลบ พอลองเดาเองเล่นๆ ก็เหมือนจะเดาถูกแฮะ
“อืม เทนโดซังคือคนที่ทำ อาหารเอ็ต ใช่มั้ยคะ?”
ฉันหันไปมองชิซุกะ เธอพยักหน้าเล็กน้อย แสดงว่าเล่าให้ฟังแล้วสินะ
“ก็ใช่นะ… แล้วไงล่ะ?”
หรือว่าในสังกัด Virtual Real มีข้อห้ามเกี่ยวกับการติดต่อกับเพศตรงข้าม? แล้วมิยาบิจังถูกส่งมาตรวจสอบข้อเท็จจริง… ไม่น่าจะถึงขั้นนั้นหรอกมั้ง
“ฉันอยากลองกิน อาหารเอ็ต บ้างค่ะ! ตอนวันออฟคอลแลบนั้น อยากให้เทนโดซังช่วยทำอาหารให้ด้วย!”
เธอเอนตัวเข้ามาหาพร้อมกับดวงตาเป็นประกาย
“ถ้าแค่นั้นก็ไม่ยากหรอก…”
แค่ขอให้ทำอาหารก็ไม่มีปัญหา
แต่ก่อนอื่น ฉันมีเรื่องต้องยืนยันให้แน่ใจก่อน
“มิยาบิจังนี่คือจะช่วยสนับสนุนให้ อาหารเอ็ต ดำเนินต่อไป ใช่ไหม? เพราะฉันเองก็อยากให้ชิซุกะได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำเหมือนกัน”
“โซมะคุง…”
ชิซุกะมองฉันอย่างรู้สึกผิด ส่วนมิยาบิจังก็หันไปมองเราสองคนสลับกัน ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างมีเลศนัย
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ! ถึงวันนี้จะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับเอ็ทเตะ แต่ฉันคิดว่าเธอเป็นเพื่อนรักเลยนะคะ!”
“งั้นก็ดี… ถ้าอย่างนั้นฉันจะเตรียม อาหารเอ็ต มื้อพิเศษสุดหรูไว้ให้เลย ชิซุกะก็โอเคนะ?”
“อื้ม… ขอบคุณนะ ทั้งสองคนเลย”
“เย่~ ได้กินอาหารเอ็ตแล้ว~ ได้กินอาหารเอ็ตแล้ว~!”
ฉันมองมิยาบิจังที่ยกแขนขึ้นดีใจสุดตัว ฉันก็ได้แต่คิดเงียบๆ ว่า เด็กคนนี้น่ะ ต้องเป็นคนดีแน่ๆ เลย…
◆
“…………กลิ่นผู้หญิงแปลกหน้า”
“อย่าพูดอะไรน่ากลัวสิ มาฟุยุจัง… โลกนี้มี ‘ผู้หญิงแปลกหน้า’ มากกว่าคนที่รู้จักตั้งเยอะนะ”
พักหลังๆ มาฟุยุจังเหมือนเริ่มเข้าใจว่าบ้านฉันเป็นบ้านตัวเองแล้ว เธอเข้ามาแบบไม่เกรงใจเลย
หลังจากชิซุกะกับมิยาบิกลับไป ตอนฉันกำลังเตรียมอาหารเย็น มาฟุยุจังก็โผล่มาเฉย ทั้งที่ก่อนหน้านั้นดูเหมือนจะไปเที่ยวที่ไหนมา
“แถม…กลิ่นผู้หญิงถึงสองคน!?”
“อันนั้นน่าจะมีครึ่งนึงที่เป็นกลิ่น ‘คนรู้จัก’ นะ”
ในขณะที่ฉันเริ่มคิดว่าควรริบกุญแจบ้านคืนดีมั้ย เสียงฝีเท้าก็เดินเข้ามาใกล้
“ฟุกิ๊วーー…………”
“…ทำอะไรน่ะ มาฟุยุจัง”
“ลบกลิ่นพวกนั้นไง”
สัมผัสอบอุ่นจากมาฟุยุจังที่กอดแน่นจากด้านหลัง
แขนที่โอบรอบเอวลูบไล้ไปทั่วผ่านผ้ากันเปื้อน
จะว่าไป… ก็สัมผัสได้ถึงความ ยั่วยวน ยังไงก็ไม่รู้
“มาฟุยุจัง มันจั๊กจี้นะ…”
แต่เธอก็ไม่หยุด
มือที่เลื่อนไปมาระหว่างอกกับหน้าท้อง เริ่มไล่ลงต่ำ — ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตั้งใจหรือบังเอิญ ฉันเลยรีบจับมือนั้นเอาไว้
“เด็กไม่ดีแบบนี้ต้องถูกลงโทษแล้วนะ?”
“ก็ได้… ลงโทษมาฟุยุหน่อยสิ?”
เสียงกระซิบแผ่วเบาพร้อมลมหายใจที่กระทบหู
“…งั้นไม่ต้องกินข้าวเย็น”
“เอ๋!? ไม่เอา~ ขอโทษค่า~!”
เธอปล่อยตัวฉันทันทีอย่างกับหนีอะไรบางอย่าง
“ถ้าอยากกินข้าวเย็นล่ะก็ ไปนั่งรอเงียบๆ ในห้องนั่งเล่นซะ”
“ค่า~”
เสียงฝีเท้าค่อยๆ ห่างออกไป
“…เฮ้อ”
หวังว่าเธอจะไม่รู้ว่าฉันก็แอบเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนกันนะ…
สัมผัสทางกายของมาฟุยุจังบางครั้งก็เกินขอบเขตจนฉันไม่รู้จะตอบยังไงดี
“…ว่าแต่มาฟุยุจัง!? จะเข้าไปในห้องนอนฉันทำไม!”
พอหันไปดูตามเสียงฝีเท้า เธอก็กำลังจะเปิดประตูห้องนอนของฉัน
“ก็สิทธิพิเศษของแฟนไง ได้ดมกลิ่นเตียงของแฟน~”
“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นแฟนกันน่ะ…”
ดูเหมือนมาฟุยุจังจะยังไม่ลืมเรื่องคราวก่อน ไม่ว่าจะอธิบายยังไงเธอก็ไม่ยอมเข้าใจ ฉันเองก็เริ่มปวดหัว
ฉันได้แต่ยืนมองเธอเดินเข้าไปในห้องนอน พลางทำอาหารไปด้วย มือไม่ว่างเสียด้วยสิ
“กลิ่นของโอนี่จัง~ โอนี่จัง~ ถ้าข้าวเย็นเสร็จแล้วปลุกหนูด้วยน้า~”
“ถ้าอยากนอนก็กลับไปนอนที่บ้านตัวเองสิ…”
เธอไม่ฟังคำเตือนเลย และก็เงียบหายไปจากตรงนั้น
“…เฮ้อ เอาเถอะ ช่วยไม่ได้จริงๆ นะ”
น้องสาวตัวโตที่วุ่นวายยิ่งกว่าเมื่อก่อน… ฉันก็ยังไม่อาจใจแข็งผลักเธอออกไปได้เลย
นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าความพึ่งพาแบบพึ่งพิงกันและกัน
แต่อย่างน้อย… การที่ฉันเริ่มชินกับการตื่นมาแล้วเห็นมาฟุยุจังกึ่งเปลือยนอนข้างๆ มันก็คงไม่ได้แปลว่าฉันเองก็แยกห่างจากน้องไม่ได้หรอกนะ────มั้ง
MANGA DISCUSSION