หลังจากนั้น ชีวิตที่สงบสุขก็ยังดำเนินต่อไปอีกประมาณสองสัปดาห์
ชิซุกะก็ยังคงเอาอาหารที่ฉันทำไปโพสต์ลง สึบุยัคกี้ โดยแกล้งทำเป็นว่าเธอทำเอง แล้วก็เก็บคำชมจากแฟนๆ ไปเต็มๆ ว่า “ท่านเอ็ตดูเป็นแม้บ้านดีจังเลยนะ” พอเห็นแฟนๆ มาคอมเมนต์ว่า “น่ากินจัง!” มากมาย ฉันก็แอบดีใจอยู่ในใจเหมือนกัน
ส่วนเรื่องเก็บกวาดบ้าน เธอก็ยังไม่ทำเป็นนิสัยสักที ทำให้ฉันต้องลุกมาทำความสะอาดครั้งใหญ่ทุกสัปดาห์ เฮ้อ อยากให้เธอหลุดพ้นจากภาวะบ้านรกสักที
กับฮิโยริน เราก็เริ่มดื่มกันที่บ้านบ่อยขึ้น
บางทีก็ดื่มหนักจนเธอเริ่มอาละวาด แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาสบายๆ ที่ได้ใช้ร่วมกัน
ฉันยังได้ฟังเรื่องราวเบื้องหลังต่างๆ จากการทำงานพากย์เสียงของกลุ่ม ZANIMAS และเบื้องหลังงานไลฟ์โชว์อีกมากมาย ซึ่งหาโอกาสได้ฟังยาก ตอนนี้เราวางแผนจะดูไลฟ์โชว์ของ ZANIMAS ด้วยกัน ก็ตื่นเต้นไม่น้อยเลย
ส่วนมาฟุยุจังนั้น…… ช่วงนี้ไม่ได้เจอหน้าเลย
นอกจากตอนที่เธอมางานเลี้ยงของโซมะไคครั้งแรก ก็แทบไม่ได้เจอกันอีกเลย แม้ว่าเราจะมีเรียนวิชา “สื่อสารข้อมูล” ด้วยกันอยู่ แต่เธอมักจะมากับเพื่อนชื่อ อาริสะ เลยทำให้ฉันไม่กล้าพูดคุยด้วย เราเลยห่างๆ กันไปโดยปริยาย
── แล้ววันหยุดหนึ่งก็มาถึง
ติ้งต่อง
เสียงกดกริ่งจากอินเตอร์คอมดังขึ้นในห้องนั่งเล่น
“ใครกันเนี่ย มากดเอากลางวันแสกๆ แบบนี้”
ฉันเดินไปดูหน้าจอด้วยความสงสัย และสิ่งที่ปรากฏบนจอก็ไม่ใช่ชิซุกะหรือฮิโยริน แต่กลับเป็น── มาฟุยุจัง
เบื้องหลังเธอ ยังมีชายร่างใหญ่มากมายกำลังช่วยกันขนกล่องกับเฟอร์นิเจอร์ผ่านประตูห้องที่ว่างอยู่
“อย่าบอกนะว่า──”
เธอย้ายมาอยู่ข้างห้อง!?
ฉันรีบกลั้นความตื่นเต้นไว้แล้วเปิดประตู
มาฟุยุจังยิ้มหวานราวกับดอกไม้บาน
“โอนี่จัง…… หนูมาแล้วนะ♪”
◆
“แสดงว่าคุณแม่อนุญาตให้ย้ายมาเหรอ?”
“ก็แอบบอกเรื่องเกินจริงไปนิดนึงล่ะนะ แต่พอหนูบอกว่าโอนี่จังอยู่ด้วย แม่ก็บอกว่า ‘งั้นก็ปลอดภัยดี’ แหละ แม่เองก็อยากเจอโอนี่จังด้วยนะ”
“คิดถึงจัง ถ้าจะมาทางนี้ก็โทรมาบอกบ้างสิ”
ฉันพูดพลางช่วยมาฟุยุจังแกะของออกจากกล่องอย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่อฟ้าฉาบสีแดงระเรื่อ เราก็เก็บของเสร็จไปเกือบหมด ตอนนี้เหลือแค่ชวนคุยไปทำไปชิลๆ แล้ว
ระหว่างนั้น ชิซุกะก็โผล่หน้าออกมาจากทางประตูบ้านมาฟุยุจังแล้วมองๆ เข้ามา
ถ้าไม่ใช่คนรู้จักก็คงดูเป็นพวกน่าสงสัยเลยแหละ…… หรือว่า ตอนฮิโยรินย้ายมาก็ทำแบบนี้เหมือนกัน?
เอาจริงๆ ก็ดูเพี้ยนใช่ย่อยเลยนะ ยัยนั่น
“ว่าแต่── โล่งใจจังเลย ที่ได้คุยกับมาฟุยุจังอีก หลังๆ แทบไม่ได้คุยกันเลย แอบคิดว่าโดนเกลียดรึเปล่าด้วยซ้ำ”
“หนูน่ะนะจะเกลียดโอนี่จัง? ขนาดโลกจะแตกหนูก็ยังรักอยู่เลยนะ?”
เธอเอียงคออย่างไร้เดียงสา
อ้าว… หรือว่าฉันคิดไปเองจริง ๆ ว่าเธอหลบหน้าฉัน?
อย่างน้อยก็ดีแล้วล่ะ ที่เป็นแค่ความเข้าใจผิด
ตอนนี้บ้านข้างๆ ก็กลายเป็นคนรู้จักหมดแล้ว ทั้งชิซุกะ ฮิโยริน แล้วก็มาฟุยุจัง ดูท่าว่าชีวิตจากนี้จะมีสีสันขึ้นอีกเยอะเลย
“จริงสิ โอนี่จัง หนูอยากให้รับสิ่งนี้ไว้น่ะ”
พูดจบ มาฟุยุจังก็คว้ามือฉันไปจับไว้ทั้งสองข้าง
สัมผัสอบอุ่นนั้นแฝงไว้ด้วยอะไรบางอย่างแข็งๆ
“──กุญแจ?”
เธอค่อยๆ คลายมือออก
สิ่งที่เหลืออยู่บนฝ่ามือคือกุญแจที่ดูคุ้นตาเหลือเกิน
“กุญแจสำรองน่ะ หนูอยากให้โอนี่จังเก็บไว้”
……กุญแจสำรอง?
ฉันจ้องกุญแจในมืออย่างพิจารณา
มันเป็นกุญแจรุ่นเดียวกับที่บ้านฉันใช้แน่นอน คงเป็นของห้องเธอแหละ
แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่เข้าใจ
“……ทำไมถึงให้กุญแจฉันล่ะ?”
กุญแจสำรองมันก็เหมือนสัญลักษณ์ของการใช้ชีวิตร่วมกัน หรืออย่างน้อยก็ความสัมพันธ์แบบแฟนกันนี่นา
เท่าที่จำได้ ฉันไม่ได้มีอะไรกับมาฟุยุจังเลย
หลังๆ ก็ดื่มอยู่กับฮิโยรินคนเดียวด้วยซ้ำ แถมกับมาฟุยุจังก็ห่างๆ กันมาตลอด
เธอเอียงคออีกครั้ง เหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงถาม
“โอนี่จังก็คือพี่ชายของหนูใช่ไหมล่ะ?”
ไม่ใช่ซะหน่อย……
ฉันอยากจะตอบแบบนั้น แต่พอเห็นแววตาแน่วแน่คมกริบปานคมมีดของเธอ ฉันก็ทำได้แค่พยักหน้ารับ แววตาเธอไม่มีรอยยิ้มเลย พอคนหน้าตาดีทำหน้านิ่งๆ นี่มันน่ากลัวชะมัด
“อะ-อื้ม……”
ฉันพยักหน้ารัวๆ อย่างหมดทางสู้
“พี่น้องกันไม่ควรมีความลับต่อกันใช่ไหมล่ะ? หนูเอง ถ้าเป็นโอนี่จัง จะเห็นอะไรก็ไม่เป็นไรหรอกนะ”
เธอไม่เหมือนมาฟุยุจังที่ฉันรู้จักเลย
ฉันขนลุกวาบไปทั้งหลัง
มาฟุยุจังขยับเข้ามาใกล้ วางมือแนบลงบนอกฉัน แล้วเงยหน้ามองอย่างออดอ้อน
“──โอนี่จังก็คิดแบบเดียวกันใช่ไหม?”
“ช-ใช่ ตามนั้นเลย!”
ฉันตอบรับไปทั้งที่ไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าสิ่งที่เธอพูดหมายความว่าอะไร มันเป็นสัญชาตญาณเอาตัวรอดล้วนๆ ตอนนั้นฉันแค่รู้สึกว่า── มาฟุยุจังน่ากลัวมาก อยากให้เธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมเร็วๆ
แล้วเธอก็ยิ้มออกมา หลังจากที่เคร่งขรึมอยู่นาน
“ดีจังเลย ที่โอนี่จังคิดเหมือนกัน งั้น… กุญแจบ้านโอนี่จังก็──ขอหนูบ้างนะ?”
ฉันเริ่มสงสัยว่าตัวเองพลาดตรงไหนกันแน่
เธอยื่นมือมาอย่างมั่นคง ดวงตานั้นว่างเปล่าจนน่าขนลุก
จนฉันรู้สึกว่าการให้กุญแจเธอไปอาจเป็นการชดใช้ความผิดอะไรบางอย่างที่ฉันไม่รู้ตัวก็ได้
พระเจ้า ได้โปรด ช่วยเอามาฟุยุจังคนเดิมกลับมาที
แต่คำอธิษฐานนั้นไม่อาจไปถึงใครได้
และสุดท้าย ฉันก็ถูกมาฟุยุจังเร่งให้รีบวิ่งกลับไปบ้านเพื่อนำกุญแจสำรองมาให้เธอด้วยตัวเอง…
(TN: ขอพูดอีกครั้ง แกไม่รอดแน่ โซมะ!!)
MANGA DISCUSSION