“────โอนี่จัง”
“หืม?”
ขณะที่ฉันรอเคย์สุเกะที่โรงอาหารตามปกติ มาฟุยุจังก็เดินถือถาดอาหารเข้ามาทักฉัน
“มาฟุยุจัง วันนี้ก็มากินที่โรงอาหารอีกเหรอ?”
“อืม ฉันอยากกินกับโอนี่จังนี่นา”
เพราะรอบๆ ไม่มีนักเรียนคนอื่นอยู่ มาฟุยุจังเลยเข้าสู่โหมดอยู่กันสองต่อสอง จะเรียกว่าเป็นโหมดอ้อนก็ไม่ผิดนัก
“ยินดีเลย มากินด้วยกันเถอะ”
ฉันไม่รู้สึกถึงความจำเป็นที่จะต้องรอเคย์สุเกะอีกต่อไป เลยตัดสินใจกินข้าวกับมาฟุยุจังกันสองคน
ที่จริงฉันนั่งรออยู่ที่โต๊ะสำหรับสี่คน แต่แทนที่เธอจะนั่งฝั่งตรงข้าม มาฟุยุจังกลับนั่งลงข้างๆ ฉันซะงั้น
…เวลาแบบนี้ปกติก็นั่งตรงข้ามกันไม่ใช่เหรอ นั่งข้างกันมันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนรักกันเลยนะ
“โอนี่จัง วันนี้ตอนเย็นจะกินข้าวกันหลายคนเหมือนเดิมรึเปล่า?”
“อา วันนี้คงมีแค่ชิซุกะล่ะมั้ง ฮิโยรินมีไลฟ์สดน่ะ”
“ไลฟ์สด?”
“นี่ไง ลองดูสิ”
ถึงจะดูเสียมารยาทไปหน่อย แต่ฉันก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดคลิปไลฟ์สดเก่าของ ZANIMAS ให้เธอดูระหว่างกินข้าว
“ว้าว… คุณฮิโยริ… เป็นนักพากย์เสียงจริงๆ ด้วยแฮะ”
ถึงเธอจะไม่ได้สงสัยอยู่แล้ว แต่พอได้เห็นฮิโยรินออกไลฟ์จริงๆ มาฟุยุจังก็เข้าใจและยอมรับได้อย่างชัดเจนว่า ฮิโยรินเป็นนักพากย์เสียงจริงๆ
“ฮิโยรินน่ะ ดังโคตรเลยนะ รู้มั้ยว่าโฟโต้บุ๊คล่าสุดที่เธอออกขายก็หมดเกลี้ยงในพริบตาเลยล่ะ”
แน่นอน ฉันก็ซื้อเหมือนกัน
ถึงฮิโยรินจะตัวไม่สูงเท่าไหร่ แต่ขาเธอก็ไม่ได้ผอมจนเกินไป มีกล้ามเนื้อสวยกำลังดี หน้าอกก็ใหญ่แต่เอวกลับเล็กเหมือนล้อเล่น… แบบนี้เรียกว่าอะไรดีนะ… โลลิโนตม? ไม่สิ… ทรานซิสเตอร์แกลมเมอร์*รึเปล่านะ?
(*ศัพท์ญี่ปุ่นที่ใช้เรียกคนหุ่นเล็กแต่หน้าอกใหญ่มาก)
แถมใบหน้ายังงดงามเหมือนอัญมณีอีกต่างหาก ไม่แปลกเลยที่เธอจะได้รับความนิยมขนาดนี้
ZANIMAS เป็นโปรเจกต์ที่ใช้แต่นักพากย์หน้าใหม่ แต่ในบรรดาพวกนั้น ฮิโยรินน่ะถือว่าเป็นดาวรุ่งตัวท็อปเลยก็ว่าได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ได้รับเลือกให้พากย์ตัวละครหลักใน เดรเคียว อนิเมะช่วงเช้าสุดฮิตหรอกจริงมั้ย?
ว่าแต่โฟโต้บุ๊คนั้น… มันก็มีภาพเธอใส่ชุดบิกินี่หรือชุดชั้นในด้วยไม่ใช่รึไงนะ…
พอคิดว่าคนรู้จักที่อยู่บ้านข้างๆ มาในชุดแบบนั้น มันก็เริ่มให้ความรู้สึกผิดแปลกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถ้ากลับไปดูตอนนี้อาจจะตื่นเต้นเกินเหตุแน่ๆ… ไม่เหมือนกับชุดที่ชิซุกะถอดทิ้งไว้ที่พื้นห้องเลย
“…………..”
แต่ถ้าได้เห็นภาพในโฟโต้บุ๊ค ฉันอาจจะไม่กล้าคุยกับฮิโยรินตามปกติอีกก็ได้…
ก็ฉันเป็นผู้ชายวัยมหาลัยปกตินี่นะ แน่นอนว่ามีความต้องการทางเพศอยู่บ้าง ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกได้ว่าใจเต้นแปลกๆ แล้วด้วยซ้ำ
เพื่อความสัมพันธ์แบบเพื่อนบ้านอันดี ควรเก็บโฟโต้บุ๊คฮิโยรินไว้ให้พ้นมือจะดีกว่า
“(เอาล่ะ ช่วงต่อไปก็คือ… จ๊างงง! ย้อนรอยเนื้อเรื่อง SSR กันเถอะ! ช่วงนี้เราจะเชิญนักพากย์ของไอดอล SSR ตัวล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวมาร่วมพูดคุยถึงความรู้สึกหลังจากได้พากย์บทกันค่ะ~!)”
“สุดยอดเลยแฮะ…”
เสียงของฮิโยรินที่ปกตินุ่มนวลฟังสบาย คราวนี้กลับฟังดูฉะฉานมั่นใจ แตกต่างจากที่เคยฟังมาโดยสิ้นเชิง เธอกำลังทำหน้าที่ MC อย่างมืออาชีพ
มาฟุยุจังมองมือถือของฉันอย่างไม่วางตา มือก็ยังคีบอาหารชุด B เข้าปากไปด้วย
“ดูแล้วไม่เหมือนคนเดิมเลยเนอะ”
“นั่นสิ ตอนฮิโยรินเพิ่งย้ายมาอยู่ข้างบ้าน ฉันก็ตกใจเลยล่ะ ตัวจริงเป็นแบบนี้เหรอเนี่ย~ อารมณ์คนละคนกับตอนในจอเลย”
สุดยอดเลยนะพวกคนวงการบันเทิง ชิซุกะเองก็เหมือนกัน การสร้างคาแรกเตอร์นี่เก่งชะมัด
“นักพากย์เสียง กับ วีทูปเบอร์… โอนี่จังได้รู้จักกับคนเก่งๆ เยอะเลยนะ”
“นั่นสิ ฉันเองก็ยังรู้สึกเหมือนฝันอยู่เลย ไม่อยากเชื่อว่าจะได้รู้จักกับทั้งฮิโยรินกับท่านเอ็ตน่ะ”
“ชอบมากเหรอ?”
“อืม ทั้งฮิโยริน ทั้งท่านเอ็ตเลย ──── อ้อ ท่านเอ็ตคือชื่อวีทูปเบอร์ของชิซุกะน่ะ ฉันเป็นโอชิของทั้งคู่เลย”
“…เหรอ งั้นเหรอ”
มาฟุยุจังละสายตาจากมือถือ กลับไปกินอาหารในถาดต่อ
“งืม…”
เธอพองแก้มขึ้นเล็กน้อย ท่าทางเหมือนจะไม่พอใจอะไรบางอย่าง
เป็นอะไรไปนะ หรือว่าอาหารชุด B มันไม่อร่อยกันนะ?
“………….”
เพราะบรรยากาศมันชวนให้พูดยาก เราเลยกินข้าวกันเงียบๆ จนจบมื้อ
“มาฟุยุจัง วันนี้จะมากินข้าวเย็นที่บ้านอีกมั้ย?”
พอเคยชวนไปแล้ว มันก็รู้สึกกระอักกระอ่วนถ้าจะปล่อยให้มันจบลงแค่นั้น เลยลองชวนอีกครั้ง
เมื่อวานเธอก็สนุกสนานดีแท้ๆ นึกว่าจะมาด้วยกันอีกเหมือนเดิมซะอีก… แต่คำตอบของมาฟุยุจังกลับเหนือความคาดหมาย
“…ไม่ดีกว่า”
“เหรอ ถ้าเปลี่ยนใจก็มาได้นะ บ้านเรายินดีต้อนรับเสมอ”
มาฟุยุจังไม่ตอบอะไร เธอแค่ลุกขึ้นถือถาดแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
“…ดวงตาของโอนี่จัง… ฉันจะเป็นคนทำให้มันตื่นขึ้นมาเอง…”
(TN: แกไม่รอดแน่ โซมะ)
เธอพึมพำอะไรบางอย่าง แต่ฉันฟังไม่ทัน
“อืม…”
มาฟุยุจัง… ดูแปลกๆ ไปนะ
เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ…
“โย่ว~”
“หืม?”
พอเงยหน้าขึ้น เคย์สุเกะก็มานั่งลงตรงข้ามฉันพร้อมเสียงทักทายงี่เง่าๆ ตามสไตล์
“เคย์สุเกะ มาช้าไปนะ”
“โดนอาจารย์เรียกไปคุยนิดหน่อยหลังเลคเชอร์น่ะ แล้วนี่มินาเสะซังเป็นอะไรเหรอ?”
“อะไรเหรอ?”
เคย์สุเกะพูดขึ้นขณะกินข้าวแกงกะหรี่… หมอนี่กินแกงกะหรี่ทุกวันไม่เบื่อรึไง
“ฉันเดินสวนกับมินาเสะซังเมื่อกี้ เธอทำหน้าน่ากลัวมากเลย ทักไปก็ไม่ตอบซะงั้น”
“…จริงเหรอ?”
“จริงดิ แถมหน้าตาเครียดสุดๆ โซมะ นายไปทำอะไรเธอรึเปล่าเนี่ย?”
“เปล่านะ… ไม่มีเรื่องอะไรที่นึกออกเลยนะ”
ถ้ามีก็แค่เรื่องที่เราคุยกันเรื่องชิซุกะกับฮิโยรินเท่านั้นเอง… เมื่อวานก็ดูเหมือนเข้ากันได้ดีนี่นา
“อาจจะกำลังเครียดเรื่องอื่นอยู่ก็ได้ เธอบ่นว่ามีผู้ชายมาจีบเยอะจนเหนื่อยนี่”
“อ๋อ… เข้าใจล่ะ เป็นคนหน้าตาดีมันก็ลำบากเหมือนกันแฮะ”
───หากตอนนั้นฉันมองความเปลี่ยนแปลงของมาฟุยุจังให้จริงจังกว่านี้…
ฉันก็คงไม่ต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายหลังแบบนี้
MANGA DISCUSSION