ตอนที่ 7 ผู้มาเยี่ยม
เมื่อที่ย้ายมาอยู่อะพาร์ตเมนต์ได้สักพัก คุณจะเริ่มจำหน้าตาของเพื่อนบ้านได้บ้าง ดังนั้นเวลาที่คนแปลกหน้าเดินผ่านไปผ่านมา ก็เป็นเรื่องปกติที่จะผิดสังเกต โดยเฉพาะคนที่ทำตัวมีพิรุธเป็นพิเศษ
ระหว่างทางกลับบ้าน ผมเห็นชายแปลกหน้าเดินวนไปวนมาอยู่แถวถนนข้าง ๆ อะพาร์ตเมนต์
เป็นผู้ชายหน้าตาดีแบบที่คนทั่วไปจะเรียกว่า “อิเคเมน” เลยละ (คำสแลงแปลว่าผู้ชายหล่อ, หน้าตาดี)
หน้าเรียวยาว เครื่องหน้าชัดดูดี สายตาดูสงบ ผมสีบลอนด์ยาวมัดเป็นหางม้าเรียบร้อย สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ไม่ได้แต่งตัวฉูดฉาด แต่ก็เข้ากับเขามาก
แต่คนหน้าตาดีจะแต่งตัวยังไงมันก็ดูดีไปหมดนั่นแหละ ไม่ว่าจะแฟชั่นจ๋าหรือแต่งชุดเรียบ ๆ ช่างเป็นสัจธรรมที่โหดร้ายจริง ๆ
ผมตกใจที่เห็นเขาเดินอยู่แถวนี้ แต่ยิ่งตกใจขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าเขากำลังเดินไปยังอะพาร์ตเมนต์ที่ผมอยู่
มีคนแบบนี้อยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ด้วยเหรอ ไม่คุ้นเลยแฮะ ในระหว่างที่ผมกำลังสงสัยอยู่ เขาก็เดินขึ้นบันไดที่สนิมเกรอะไปยังชั้นสอง แล้วหยุดอยู่ที่หน้าของของคุณเบอร์ยี่สิบห้า
เขากดกริ่งเรียก แล้วประตูก็แง้มออกเล็กน้อย ชายหน้าตาดีคนนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง
งั้นเขาก็เป็นคนรู้จักของเบอร์ยี่สิบห้าสินะ
มีความสัมพันธ์แบบไหนกันนะ?
เพื่อนที่มหาวิทยาลัย? เพื่อนร่วมงาน? หรือจะเป็นน้องชายของเธอกันนะ? จะเป็นอย่างไหนก็ชัดเจนว่าสนิทพอที่จะมาเยี่ยมบ้านกันได้
คำว่า ‘แฟนหนุ่ม’ ผุดขึ้นมาในหัว แต่ผมก็พยายามลบมันทิ้งไปทันที คงเพราะผมไม่อยากให้มันเป็นจริง
แต่ถ้าคิดตามความเป็นจริง มันก็ดูเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว
เบอร์ยี่สิบห้าก็เป็นคนสวย ใครได้เห็นก็คิดเหมือนกันหมด คนที่ปฏิเสธคงเป็นคนย้อนแย้งระดับหนึ่งแหละ
ตามปกติเธอก็น่าจะเป็นที่ชื่นชอบอยู่แล้วด้วยสิ
แม้ว่าจะมีคนชื่นชอบเธอเยอะมากมายเต็มไปหมด แต่เธอให้ความรู้สึกเอื้อมถึงยากจะตาย เหมือนดวงดาวที่ถูกแสงจันทร์กลืนหายไปมากกว่า
แต่แค่มองปราดเดียวก็รู้เลยว่าผู้ชายใส่เสื้อยืดคนนั้นเหมาะสมกับเธอมาก เหมือนเขาเข้ากับเธอได้ดีกว่าผมเป็นไหน ๆ
ผมเดินเข้าห้องไปตามปกติ รู้สึกอยากอาบน้ำก่อนออกไปทำงานพาร์ตไทม์จัง
ผมรีบเข้าไปอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้ง หยิบขวดน้ำจากตู้เย็นมาดื่ม ทันใดนั้นก็ได้ยินจากดังมาจากห้องข้าง ๆ
เสียงเหมือนคนพูดคุยกัน
ผมฟังไม่ออกว่าพูดอะไร แต่น้ำเสียงดูนุ่มนวลน่าเริงดี
ฟังแล้วก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาเลย
ถ้ามีทีวีก็คงเปิดเพื่อกลบเสียงไปแล้ว แต่ผมไม่มีนี่สิ แล้วปกติก็ไม่ใช่คนฟังเพลงอยู่แล้วด้วย
ผมไม่มีวิธีละความสนใจเลย ผมทำได้แค่ทนฟังเสียงพูดคุยกันเบา ๆ จนฟังไม่ออกว่าอะไร
อะพาร์ตเมนต์หลังนี้ที่ปกติจะเป็นที่ที่เงียบสงบที่สุดที่ผมเคยเจอ แต่วันนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น มันทำให้ผมรู้สึกอยากไปทำงานให้เร็วขึ้นมาทันทีเลย ซึ่งผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลยสักครั้งเดียว
ผมได้แต่ก่นด่าผนังห้องที่บางเฉียบของอะพาร์ตเมนต์ถูก ๆ นี่
เสียงที่ตามมามันฟังดูแปลกไป เป็นเสียงอื้ออึงเหมือนกำลังเร่าร้อนเลย
ผมไม่ได้ซื่อถึงขนาดที่จะจินตนาการไม่ออกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วผมก็ไม่ได้ใส่ใจเธอขนาดนั้นหรอกนะ
หนุ่มสาวอยู่ในห้องกันสองต่อสอง แค่นิด ๆ หน่อย ๆ ก็เลยเถิดแล้ว ยิ่งคบกันอยู่ด้วยก็ไม่ต้องพูดถึงเลย แต่มันก็เป็นเรื่องปกตินะ
เมื่อมองกันตามเหตุผลแล้ว มันก็เข้าใจได้ แต่ทำไมผมรู้สึกแย่ล่ะ? ทำไมผมรู้สึกว่าหัวใจมันบีบรัดกันนะ?
หลังจากที่คิดไปได้สักพัก ผมก็ได้คำตอบอยู่อย่างเดียว
เบอร์ยี่สิบห้าอยากให้ผมตัวคนเดียว งั้นผมก็ต้องรู้สึกอยากให้เธอตัวคนเดียวด้วยสิมันถึงจะเท่าเทียมกัน
แต่เธอดันมีแฟนแล้วนี่สิ แฟนที่ชวนมาห้องได้ตั้งแต่ตอนกลางวันแสก ๆ เธอก็รู้นี่ว่าผนังกำแพงมันบาง แต่ทำไมยังไม่ระวังตัวเลยนะ
ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกไม่พอใจคือความเห็นแก่ตัวแถมไม่ระวังของเธอนี่แหละ
เธอขอให้ผมไม่ไปสุงสิงกับใคร แต่เธอดันสุงสิงกับคนอื่นเนี่ยนะ ความขัดแย้งนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนหักหลังเลย
ผมบิดขวดน้ำที่ว่างเปล่าในมือแล้วรีบเดินออกจากบ้านไปทำงานให้เร็วที่สุด
ผมแค่อยากไปให้พ้นจากที่นี่
โชคดีที่ผมต้องเข้ากะวันนี้พอดี ผมเลยได้จดจ่อกับการทำงานโดยไม่ต้องวอกแวกกับอะไรทั้งสิ้น
หลังเลิกงาน ผมพยายามเดินกลับให้ช้ากว่าปกติ
วันนี้ผมไม่ได้อยากออกไปนอกระเบียงเท่าไร แต่ผมต้องออกไปเก็บชุดนักเรียนที่ตากเอาไว้ ไม่อย่างนั้นฝนอาจตกใส่ตอนกลางคืน
ตอนที่ผมกำลังรีบเก็บผ้าอยู่นั้น เบอร์ยี่สิบห้าก็โผล่มาที่ระเบียงตรงจุดที่เธอสูบบุหรี่เป็นประจำ
“สายัณห์สวัสดิ์ วันนี้อยากคุยกันไหม?”
เธอพูดสบาย ๆ ตามปกติที่เธอเป็น
“เขา… กลับไปแล้วเหรอครับ?”
กว่าผมจะรู้ตัวผมก็หลุดปากพูดออกไปแล้ว ผมเดาว่าผมคงเก็บกดมาตั้งแต่ที่ทำงานจนมาปลดปล่อยเอาตอนนี้
“เขา?”
“คนที่แวะมาหาคุณวันนี้ไงครับ ผมเห็นเขาเข้าห้องคุณ”
“อ๋า”
“เขาดูดีมากเลยนะครับ”
“ฮิ ๆ ใช่ไหมล่า”
เธอดูดีใจมากเหมือนตัวเองถูกชมยังไงยังงั้น การได้เห็นอะไรแบบนี้มันชวนให้รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาเลย จนผมเผลอพูดออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว
“แต่… ผมหวังว่าคุณจะใส่ใจเพื่อนบ้านมากกว่านี้หน่อยนะ แบบว่า ถ้าจะจู๋จี๋กับแฟนตอนกลางวันแสก ๆ เนี่ย… อย่าลืมสิครับว่าผนังมันบางน่ะ”
ตอนที่ผมพูดออกไป ความรู้สึกเกลียดตัวเองก็พุ่งถาโถมเข้ามาใส่ผม นี่ผมทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นเลยนะ
“เธอคิดว่าเราจู๋จี๋กันเหรอ?”
“แบบว่า… ผมก็ได้ยินเสียงจากห้องคุณอยู่นะ เสียงเหมือน… เรื่องอย่างว่านั่นแหละ”
เมื่อคิดได้ว่าน้ำเสียงของผมเหมือนกำลังตำหนิเธออยู่ ผมก็ยิ่งรู้สึกเกลียดตัวเองมากขึ้นไปอีก น่าสมเพชสุดเป็นบ้า ผมทนเห็นตัวเองที่เป็นคนใจแคบอย่างนี้แทบไม่ไหวเลย
“ฉันว่าเธอกำลังเข้าใจผิดอยู่นะ”
“ครับ?”
“เราแค่ดูหนังด้วยกันเอง เธอคงได้ยินเสียงเร่าร้อนจากฉากในหนังนี่แหละ”
ฉากเร่าร้อนจากในหนังเหรอ?
พอได้ยินเธอพูดอย่างนั้น ผมก็คิดว่าเสียงที่ได้ยินมันต่างจากเสียงของเธอจริง ๆ ผมแค่คิดไปเองว่าเป็นเสียงเธอจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้น
ตัวหนังเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไรหรอก แต่ฉากมีเซ็กส์เนี่ยดุเดือดสุด ๆ ไปเลยละ แถมนานจนทำเอาฉันรู้สึกร้อนรุ่มเลยละ ฉันคงเปิดเสียงดังไปหน่อย เธอเลยได้ยินน่ะ
พอพูดจบ เธอก็รีบเสริมว่า “อีกอย่าง ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่ครางเสียงดังขนาดนั้นหรอกนะ”
นั่นทำเอาผมไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรเลย
“แล้วเพื่อนที่มาหาวันนี้น่ะ เป็นผู้หญิงนะ”
“อะไรนะ?”
ผมตกใจจนเสียงหลง
“ผู้หญิงเหรอ?”
“อื้อ”
“แต่ดูเหมือนผู้ชายเลยนะ แถมใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์อีก”
“ก็เธอชอบแต่งตัวแบบนั้นนี่นา แถมผมสั้น หน้าอกแบน คนเลยชอบเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายบ่อย”
เธอกล่าวเสริมอีกว่า “ถ้าสงสัย เดี๋ยวครั้งหน้าฉันแนะนำให้รู้จัก”
ถ้าพูดถึงขนาดนี้แล้วก็คงเป็นเรื่องจริงนั้นแหละ
“เธอคิดว่าเป็นแฟนฉันเหรอ?”
“ก็… ครับ”
“งี้นี่เอง เข้าใจแล้วว่าทำไมวันนี้ดูหงุดหงิดแปลก ๆ ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย” ผมพยายามพูดกลบเกลื่อน “ผมแค่คิดว่ามันไม่แฟร์แค่นั้นเองครับ”
“ไม่แฟร์เหรอ?”
“ก็คุณบอกเองนี่ว่าอยากให้ผมอยู่ตัวคนเดียว แต่คุณกลับมีความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ”
“อยากให้ฉันอยู่คนเดียวเหมือนกันเหรอ?”
“… ครับ ถ้าคุณยังอยากให้ผมเป็นอย่างนั้นอยู่”
“ถ้างั้นฉันว่าเธอคงอารมณ์เสียล่ะสิ ที่รู้ว่าฉันมีเพื่อน”
“พูดตรง ๆ ก็… ใช่ครับ”
“ซื่อตรงดีจังเนอะ”
เธอขำ จากนั้นก็เอาคางมาเกยราวระเบียง พร้อมพูดต่อโดยที่ไม่มีท่าทีสำนึกผิดเลยสักนิด
“ฉันมันก็แค่ผู้หญิงเห็นแก่ตัว ใจแตก แถมทำอะไรโดยไม่คิดอีกต่างหาก ฉันคาดหวังให้เธอทำอะไรให้โดยที่ไม่ได้สำนึกความผิดของตัวเองเลย”
เธอพึมพำเบา ๆ จนแทบไม่ได้ยิน
เธอมองมาที่ผมแล้วถาม
“ผิดหวังไหม?”
“… ก็ไม่เชิงครับ” ผมตอบ
ผมคิดว่าการที่เธอพูดออกมาตามตรงมันทำให้รู้สึกดีกว่าจริง ๆ ดีกว่าเสแสร้งเป็นไหน ๆ เพราะอย่างน้อยเธอก็จริงใจ
“ดีใจจัง”
เธอกระซิบเบา ๆ พลางจุดบุหรี่มวนใหม่ แสงสีแดงที่ประกายในยามค่ำคืน
เธอสูดควันเข้าแล้วพ่นออกมาเบา ๆ
หลังจากนั้นพวกเราก็คุยกันไปเรื่อย ๆ แบบไร้จุดหมายเหมือนอย่างที่ทำเป็นประจำ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 14 หนังสือที่อ่านจบแล้ว กรกฎาคม 8, 2025
- ตอนที่ 13 ไปดูหนังด้วยกัน (2) กรกฎาคม 8, 2025
- ตอนที่ 12 ไปดูหนังด้วยกัน (1) กรกฎาคม 8, 2025
- ตอนที่ 11 ไปเที่ยวกันไหม? กรกฎาคม 8, 2025
- ตอนที่ 10 รสชาติของการเจาะลิ้น กรกฎาคม 7, 2025
- ตอนที่ 8 บังเอิญเจอกันที่ซูเปอร์มาร์เกต กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 7 ผู้มาเยี่ยม กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 6 คนบิดเบี้ยว กรกฎาคม 5, 2025
- ตอนที่ 5 ช่วงเวลาตอนมื้อเที่ยง กรกฎาคม 5, 2025
- ตอนที่ 4 เจาะลิ้น กรกฎาคม 5, 2025
- ตอนที่ 3 ทำไมสาว ๆ ถึงสูบบุหรี่กันนะ? กรกฎาคม 5, 2025
- ตอนที่ 2 คิดว่าฝันไป กรกฎาคม 4, 2025
- ตอนที่ 1 บุหรี่และพี่สาวคนสวย กรกฎาคม 4, 2025
MANGA DISCUSSION