ตอนที่ 4 เจาะลิ้น
วันนี้ผมไม่ต้องเข้ากะงาน
หลังเลิกเรียน ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นกำลังรีบเก็บของไปเข้าชมรม ทำพาร์ตไทม์ หรือไปเที่ยวกัน ผมก็เดินออกจากห้องเรียนไปคนเดียว
ผมไม่มีเงินไปจะไหน ไม่มีใครให้ไปด้วย แถมไม่ได้สนใจไปไหนเป็นพิเศษอีกต่างหาก หลักจากเดินดูหนังสือที่ห้องสมุดแล้ว ผมก็มุ่งหน้ากลับบ้านทันที
ตอนที่เดินออกมาจากตึกเรียน ผมได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นสนามจากทีมเบสบอล และได้ยินเสียงที่ฟังดูมีพลังจากวงดนตรีของโรงเรียน
ความวุ่นวายแต่มีชีวิตชีวา นี่สินะเสียงของวัยรุ่น
มันยิ่งทำให้ผมไม่ควรอยู่ที่นั่น แปลกมาก เหมือนผมไม่เหมาะที่จะอยู่ตรงนั้น ผมเดินตามทางที่มีต้นไม้ล้อมรอบไปยังตึกเรียนหน้าประตูรั้ว ให้ตัวเองอยู่ห่างจากเสียงเข้าไว้
แล้วก็เหมือนอย่างเคย ผมไม่ได้คุยกับใครเลย
หลังจากเดินไปสักพักไปยังโซนที่อยู่อาศัย ผมก็มาถึงอะพาร์ตเมนต์จนได้ เมื่อเดินไปถึงผมก็เจอคนที่คุ้นเคยกำลังเดินมาจากทางตรงข้าม
“หวัดดี เพิ่งกลับจากโรงเรียนหรอ?”
เป็นเธอนั่นเอง เบอร์ยี่สิบห้า
“ครับ คุณก็เพิ่งกลับเหรอ?”
“ฉันเพิ่งกลับจากมหาวิยาลัยน่ะ โอ๊ะ… ขอบคุณที่ทิ้งขยะให้นะ”
“ไม่เป็นไรครับ แค่ตั้งไว้ที่ระเบียงคืนก่อนที่เขาจะมาเก็บขยะก็พอ เดี๋ยวผมเอาไปทิ้งให้ครับ”
“ช่วยได้มากเลยน้า”
เธอยิ้มแล้วทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“จะว่าไป คิดไว้หรือยังล่ะ?”
“อะไรเหรอครับ?”
“อะไรก็ได้แทนคำขอบคุณที่ทิ้งขยะให้ไง”
“เอ่อ… ขอโทษ ยังเลยครับ”
ไม่ใช่ว่าผมลืมหรอกนะ ผมลองคิดดูแล้ว แต่ก็คิดอะไรไม่ออกเลย ผมเอาแต่เกรงใจจนไม่รู้ว่าจะขออะไรดี
“จริง ๆ ก็พอดีเลยนะ ฉันเลี้ยงกาแฟเอาไหม?”
“หือ?”
“เดี๋ยวฉันเลี้ยงกาแฟแก้วหนึ่งนะ”
สุดท้ายเราก็เดินไปคาเฟ่ที่อยู่ห่างออกไปประมาณสิบนาที
ภายนอกร้านปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อย และข้างในร้านก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นสงบสบาย เจ้าของร้านเป็นคนสูงอายุ และไม่มีลูกค้าคนอื่นเลย
เป็นร้านที่เงียบสงบเหมือนตั้งใจหลบจากผู้คนเลยแฮะ
พวกเรานั่งที่โต๊ะด้านหลังสุด เธอนั่งเก้าอี้ที่อยู่ไกลที่สุด ส่วนผมนั่งอยู่ใกล้ทางเข้า ไม่นานเจ้าของร้านที่ดูสูงอายุก็เข้ามารับออร์เดอร์เรา
“ฉันเอากาแฟปั่นแก้วหนึ่งค่ะ เธอล่ะ?”
“ผมเอาเหมือนกันก็ได้ครับ”
“งั้นกาแฟปั่นสองแก้วค่ะ”
หลังจากเจ้าของร้านเดินไปแล้ว ผมก็มองไปรอบ ๆ ร้านแล้วพูด
“ผมไม่รู้เลยว่ามีคาเฟ่อยู่ที่นี่ด้วย”
“ฉันชอบบรรยากาศที่นี่น่ะ แถมยังสูบบุหรี่ได้อีกต่างหาก ดีขึ้นไปอีก”
พูดจบที่เธอวางซองบุหรี่กับไฟแช็กลงบนโต๊ะ
“ฉันสูบได้ไหม?”
“เชิญครับ ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก”
“ขอบคุณนะ งั้นไม่เกรงใจละ”
เธอหยิบบุหรี่ออกมามวนหนึ่งมาแนบระหว่างริมฝีปากแล้วจุดไฟ แล้วก็พ่นควันบุหรี่ออกมาเบา ๆ
เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นเธอสูบบุหรี่อยู่ตรงหน้าผม
เธอคงสังเกตเห็นสายตาผม เธอยิ้ม
“อะไรเหรอ? มีอะไรติดหน้าฉันเหรอ?”
“เปล่า ผมแค่คิดอะไรไปเรื่อยน่ะ ครั้งแรกเลยที่ผมเห็นคุณสูบบุหรี่อยู่ตรงหน้าผม”
“อ้อ จริงด้วยนะ ปกติฉันสูบที่ระเบียงห้องตัวเองนี่นา”
ตอนกลางคืนผมจะเห็นภาพเธอสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง ผมคิดอยู่เสมอเลยว่าเธอสวยมาก แต่เห็นเธออยู่ตรงหน้านี้แล้วก็ไม่ทำให้ความประทับใจนั่นลดลงแม้แต่น้อย
ให้ผมมองตลอดไปยังได้เลย
“พอมาคิด ๆ ดูแล้ว ตอนเจ้าของร้านมารับออร์เดอร์ เขาดูสับสนนิดหน่อยนะครับ เพราะปกติเขาจะเรียกผมพนักงานร้านสะดวกซื้อ”
“ฮ่า ๆ นั่นสินะ งั้นฉันควรเรียกเธอว่า ‘รุ่นน้อง’ แทนที่จะเรียกว่า ‘คุณพนักงาน’ สินะ”
“อาจจะ”
“อยากให้เรียกแบบไหนล่ะ? คุณพนักงาน? รุ่นน้อง? หรืออยากให้ฉันเรียกด้วยคำอื่นล่ะ?”
“จะเรียกผมว่าอะไรก็ได้หมดแหละครับ ว่าแต่คุณชื่อเล่นอะไรล่ะ? รู้ไหมว่า ‘เบอร์ยี่สิบห้า’ มันฟังดูแปลก ๆ นะ”
“จริง ๆ ฉันชอบนะ โดนเรียกด้วยเลขก็เท่ดีออก เหมือนมนุษย์จักรกลเลยว่าป้ะ”
“มนุษย์จักรกลเหรอ?”
“นี่ไม่เคยอ่านดราก้อนบอลเหรอ? ฉันชอบหมายเลขสิบแปดมากเลยนะ แม้แต่ตอนแต่งงานแล้วสามีก็ยังเรียกเธอว่าหมายเลขสิบแปดน่ะ ฟังดูตลกดีเนอะ? ทั้ง ๆ ที่เธอมีชื่อจริงแท้ ๆ ”
“อืม ฟังดูตลกจริง ๆ นั่นแหละ”
“ฉันอิจฉาพวกเขามากเลยนะ พวกเขาไม่แก่ รูปร่างหน้าตาก็ไม่เเปลี่ยนแม้แต่นิดเดียว อยู่ได้ชั่วนิรันดร์เลย”
“แต่สามีเธอเป็นมนุษย์นี่ครับ นั่นไม่แปลว่าเธอถูกทิ้งไว้คนเดียวเหรอ? คนรอบตัวเธอก็ค่อย ๆ จากกันไปทีละคน”
“เป็นเรื่องดีออก เราจะเป็นเพียงคนเดียวที่ส่งได้พวกเขาไปสู่สุคติ ผู้ตายได้เป็นที่จดจำ ความทรงจำที่เลวร้ายไม่น่าจดจำทั้งหมดก็จางหาย เหลือเพียงความทรงจำที่ถูกชะล้างจนบริสุทธิ์งดงาม ฟังดูโรแมนติกจะตายว่าไหม?”
อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะอย่างน้อยเราก็ได้รักใครสักคนหนึ่งไปตราบชั่วนิรันดร์ ถึงแม้ว่าลึก ๆ แล้วคนคนนั้นไม่ได้งดงามอย่างที่คิดเอาไว้เลย
“กาแฟมาช้าเหมือนกันนะครับเนี่ย”
“เจ้าของดูแลร้านคนเดียวน่ะ ที่นี่เวลาเดินช้ากว่าโลกภายนอกนะ”
“อ๊ะ ผมไม่ได้รำคาญหรืออะไรนะครับ ผมรอได้อยู่แล้ว แค่อยากต่อบทสนทนาไปเรื่อย ๆ น่ะ”
“ฮ่า ๆ งั้นก็คุยกับฉันต่อระหว่างรอกาแฟสิ”
เธอจุ่มบุหรี่ลงไปในที่เขี่ยบุหรี่จากนั้นก็ถาม
“จะว่าไป ที่โรงเรียนเป็นไงบ้างล่ะ”
“หมายถึงยังไงครับ”
“สนุกไหม?”
“ถ้าต้องเลือกว่าสนุกหรือไม่สนุก ผมก็คงตอบว่าไม่สนุกครับ”
ผมตอบไปตามความจริง และเธอก็ยิ่มอย่างพึงพอใจ
“งี้นี่เอง ไม่สนุกสินะ มีเพื่อนเยอะไหมล่ะ?”
“ผมดูเหมือนเป็นงั้นเหรอครับ?”
“เห็นได้ชัดเลยว่า ผู้กระทำผิดทางเพศน่ะ จะเป็นพวกที่แต่งงานมีลูกแล้วมากกว่าพวกที่โสดนะ”
“คุณกำลังจะบอกว่าสิ่งที่เห็นภายนอกนั้นหลอกลวงทั้งเพใช่ไหมครับ? แต่ตัวอย่างที่ยกมาดูตึงเกินไปหน่อย แล้วดูเหมือนจะเบี่ยงประเด็นมากกว่าเลยนะครับ”
เอาเถอะ ผมดูเป็นคนไม่เข้าสังคม ภายนอกผมก็เหมือนกับภายในนั้นแหละ ไม่มีลับลมคมใน เป็นแค่คนทื่อ ๆ เท่านั้นแหละ
“ผมไม่มีเพื่อนเลยครับ”
“แม้แต่คนเดียว?”
“แม้แต่คนเดียวครับ บางวันผมก็ไม่ได้พูดกับคนอื่นสักคำเดียวครับ”
“อันนี้เป็นชาเลนจ์ป้ะ?”
“ไม่ครับ ผมคิดว่าการมีเพื่อนมันดีกว่าไม่มีเลย แม้ว่ามีมากไปอาจจะน่ารำคาญไปบ้าง แต่ผมตามความรู้สึกทุกคนไม่ทันหรอกครับ แล้วผมก็ไม่สามารถชอบในสิ่งที่ทุกคนชอบได้ อย่างมุกตลกของคนที่ป๊อบในโรงเรียนสำหรับผมก็ไม่ได้ตลกอะไรเลย แถมผมก็เข้ากับคนที่เงียบ ๆ พูดน้อยไม่ได้อีกต่างหาก แล้วก็มีคนที่บอกว่ามิตรภาพคือการให้ซึ่งกันและกัน แต่ผมก็ไม่มีอะไรให้เลย ไม่มีเสนห์ ไม่มีทักษะการสื่อสารที่ดี แถมไม่ได้สนใจสิ่งที่ทุกคนชอบอีกต่างหาก ผมอาจจะลองดูอนิเมะหรือลองใช้โซเชียลเพื่อให้เข้ากลุ่มได้อยู่แหละ แต่ผมมองว่ามันดูไม่จริงใจเท่าไร”
“งี้นี่เอง งั้นสั้น ๆ เลยนะ เธอเป็นคนน่ารำคาญคนหนึ่งแหละ”
“ครับ ถูกของคุณ การไม่มีเพื่อนเลยเป็นเรื่องที่น่าสมเพชไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะครับ”
“คิดงั้นเหรอ? ฉันว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
“คิดงั้นเหรอครับ?”
“อื้อ ทำให้ฉันชวนเธอไปไหนมาไหนง่ายขึ้นด้วยซ้ำ”
“งั้นคุณก็สะดวกอยู่คนเดียวเลยสิ”
“ไม่ดีเหรอ?”
“ก็ไม่เชิง”
ตอนนั้นเอง คุณลุงก็เอากาแฟมาเสิร์ฟ เขาตั้งกาแฟตรงหน้าพวกเรา มีควันจาง ๆ ลอยมา
ปกติแล้วผมจะเติมน้ำตาล แต่วันนี้คงไม่ เพราะเธอดื่มกาแฟโดยที่ไม่ปรุงอะไรเลย
เธอหยิบแก้วขึ้นมาจิบ ผมอดใจไม่ได้ที่จะถามเธอ
“ไม่ร้อนเหรอครับ?”
“ไม่รู้สึกร้อนแม้แต่นิดเดียวเลยนะ”
“เปล่า ผมหมายถึง… ที่ลิ้นคุณน่ะ”
“อ๋อ ที่ฉันเจาะลิ้นเหรอ?’
ตรงกลางลิ้นของเธอมีเครื่องประดับสีเงินอยู่ ดูแล้วเหมือนจะทำจากโลหะด้วย เวลาเดิมเครื่องดื่มร้อนจะไม่ทำให้มันร้อนเอาเหรอ?
“ไม่ร้อนเลย อยากจับไหมล่ะ?”
“ห๊ะ?”
“นี่”
เธอแลบลิ้นสีชมพูอ่อนออกมาโชว์ ที่โคนลิ้นเหมือนจะมีลูกปัดสีเงินแวววาวอยู่
รู้สึกเหมือนเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเลยแฮะ เหมือนสิ่งต้องห้าม แต่ผมก็ไม่อาจละสายตาได้เลย
สายตาของผมโฟกัสไปที่ลิ้นของเธอเพียงสิ่งเดียว
“…ได้จริง ๆ เหรอครับ?”
เธอพยักหน้าทั้งที่ยังแลบลิ้น
หนักจากเช็กดูแล้วว่าเจ้าของร้านไม่ได้มองอยู่ ผมก็ยื่นปลายนิ้วไปแตะที่ลิ้นเธอเบา ๆ
ไม่ร้อนจริงด้วยแฮะ ไม่รู้สึกแปลกอะไรเลย
ลิ้นเธออุ่นและลื่น แต่ในทางกลับกันแล้ว เจ้าเครื่องประดับสีเงินนี่กลับเย็นและดูไม่เทียมยังไงชอบกล เหมือนวัตถุแปลกปลอม
“เห็นไหมล่ะ ไม่ร้อนใช่ไหม?”
มันไม่ร้อนจริง ๆ นั่นแหละ
แต่ที่ร้อนรุ่มเหมือนไฟคลอกอยู่น่ะ คือร่างกายของผมเองแหละ
แตะจิวลิ้นเธอแบบนั้นมันให้ความรู้สึกเหมือนแตะสิ่งต้องห้ามเลย เหมือนผมแตะส่วนที่ไม่ควรแตะของเธอเลย
โลหะเย็นเยียบกับลิ้นอุ่น ๆ ความรู้สึกนั้นยังคงติดตราตรึงใจผมไม่ยอมจางหายไปเลย
Chapters
Comments
- ตอนที่ 8 บังเอิญเจอกันที่ซูเปอร์มาร์เกต 18 ชั่วโมง ago
- ตอนที่ 7 ผู้มาเยี่ยม 18 ชั่วโมง ago
- ตอนที่ 6 คนบิดเบี้ยว 2 วัน ago
- ตอนที่ 5 ช่วงเวลาตอนมื้อเที่ยง 2 วัน ago
- ตอนที่ 4 เจาะลิ้น 2 วัน ago
- ตอนที่ 3 ทำไมสาว ๆ ถึงสูบบุหรี่กันนะ? 2 วัน ago
- ตอนที่ 2 คิดว่าฝันไป 3 วัน ago
- ตอนที่ 1 บุหรี่และพี่สาวคนสวย 3 วัน ago
MANGA DISCUSSION