ตอนที่ 9 โอสึกิคุงก็คิดว่าฉันน่ารักเหมือนกันเหรอ?
ฮารุโตะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงทำความสะอาดบ้านของโทโจ ตั้งแต่การเช็ดหน้าต่าง ไปจนถึงการกวาดพื้นและทำความสะอาดห้องน้ำ
“คุณอิคุเอะครับ ผมคิดว่าการทำความสะอาดเสร็จแล้ว มีอะไรอย่างอื่นที่ต้องการไหมครับ?”
“ไม่เลย! ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว! เหนื่อยหน่อยนะจ๊ะ”
ฮารุโตะรายงานอิคุเอะว่าการทำความสะอาดเสร็จแล้ว อิคุเอะที่กำลังทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในห้องนั่งเล่นดูพอใจกับรายงานของฮารุโตะ
“ไม่เคยทำงานที่บ้านได้ราบรื่นขนาดนี้มาก่อนเลย! ปกติจะเสียเวลาไปกับการทำความสะอาดและซักผ้า ทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ ช่วยได้เยอะเลยจ้ะ”
“ดีใจที่ได้ช่วยครับ แล้วสำหรับเมนูอาหารเย็น เราจะทำอะไรดีครับ?”
เมื่อฮารุโตะถาม อิคุเอะก็ยกมือขึ้นแตะคาง แสดงท่าทีครุ่นคิด
“อืมม…นั่นสินะ…อากาศร้อนๆ แบบนี้อยากกินอะไรที่สดชื่นๆ หน่อย แต่ถ้าเป็นอะไรที่อิ่มท้องหน่อยก็จะดีนะจ๊ะ”
อิคุเอะพูดพลางมองเรียวตะที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ตอนแรกเรียวตะก็อยู่กับฮารุโตะและช่วยทำความสะอาดอยู่พักหนึ่ง แต่ดูเหมือนจะเล่นเพลินจนเหนื่อย พอช่วงหลังๆ ก็เริ่มง่วง ฮารุโตะเลยอุ้มไปนอนบนโซฟาให้
“เรียวตะกำลังโตนี่ครับ”
“นั่นสิ! ฉันเองก็อยากกินบะหมี่เย็นนะ แต่เรียวตะน่ะสิ”
แน่นอนว่าบะหมี่เย็นกินง่ายในหน้าร้อน แต่สำหรับเด็กที่กำลังโตแล้ว อาจจะไม่อิ่มท้องเท่าไหร่ แถมยังรักษาสมดุลทางโภชนาการได้ยากด้วย ฮารุโตะคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเสนอเมนู
“งั้นเป็นพาสต้าครีมซอสเลมอนดีไหมครับ? คิดว่ารสเปรี้ยวของเลมอนน่าจะช่วยให้กินได้สดชื่นขึ้นนะครับ?”
“จริงเหรอ! ดีเลยนะ!”
“แล้วซุปก็เป็นซุปเย็น ส่วนสลัดก็เป็นคาเปรเซ่ดีไหมครับ”
“ดูท่าจะเป็นมื้อเย็นที่หรูหราน่าอร่อยเลยนะ! อ๊ะ แล้วก็เรื่องวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นน่ะ ตู้เย็นว่างเปล่าเลย ช่วยซื้อของให้ด้วยได้ไหม?”
“ครับ ไม่มีปัญหาครับ”
การซื้อวัตถุดิบก็อยู่ในขอบเขตของบริการช่วยงานบ้านเช่นกัน เมื่อฮารุโตะพยักหน้า อิคุเอะก็ยื่นเงินให้เขาในทันที
“แค่นี้พอไหม?”
เธอบอกพลางยื่นซองจดหมายให้ฮารุโตะ ข้างในมีธนบัตร 10,000 เยนอยู่ 3 ใบ
(เข้าใจแล้ว…นี่สินะที่เรียกว่าเซเลบริตี้)
ฮารุโตะรู้สึกเข้าใจแปลกๆ กับจำนวนเงินที่ได้รับมาอย่างง่ายดาย
“คิดว่าเงินพอแน่นอนครับ เรื่องการซื้อของ มีซูเปอร์มาร์เก็ตหรือวัตถุดิบอะไรที่ต้องการเป็นพิเศษไหมครับ?”
มีหลายคนที่อาจจะมีข้อกำหนดเฉพาะสำหรับร้านค้าหรือแหล่งผลิตผักและผลไม้ แต่คุณอิคุเอะโบกมือเบาๆ แล้วพูดว่า
“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกจ้ะ รู้จักซูเปอร์มาร์เก็ตแถวนี้ไหม?”
“ครับ รู้จักครับ งั้นผมจะไปซื้อของนะครับ”
พอฮารุโตะจะเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป ทันใดนั้นเรียวตะที่นอนหลับอยู่บนโซฟาก็ลุกขึ้นนั่ง
“…อ้าว? พี่ชายจะไปไหนเหรอ?”
เรียวตะถามพลางขยี้ตา
“จะไปซื้อของสำหรับอาหารเย็นน่ะ”
“…ซื้อของเหรอ?”
“อืม ใช่แล้ว”
ทันทีที่ฮารุโตะตอบ ดวงตาที่ยังงัวเงียของเรียวตะก็ตื่นเต็มที่
“ผมจะไปด้วย!!”
เรียวตะกระโดดลงจากโซฟาแล้ววิ่งไปหาฮารุโตะพลางพูด
“ไม่ได้นะเรียวตะ โอสึกิคุงไม่ได้ไปเล่นนะจ๊ะ”
“เอ๊~! ผมก็อยากไปซื้อของด้วย!”
คุณแม่ทำหน้าลำบากใจเล็กน้อยกับเรียวตะที่งอแง อิคุเอะรู้สึกเกรงใจที่จะให้ฮารุโตะไปซื้อของแล้วยังต้องดูแลเรียวตะอีก เธอก็เลยส่ายหน้าปฏิเสธคำขอของเรียวตะ
“ไม่ได้จ้ะ โอสึกิคุงทำงานนะจ๊ะ เรียวตะอยู่บ้านรอโอสึกิคุงดีกว่านะ?”
เรียวตะกำมือแน่นแล้วก้มหน้าลงกับคำพูดของคุณแม่ที่พยายามเกลี้ยกล่อม
“เมื่อกี้ผมก็ช่วยพี่ชายทำความสะอาดด้วยนะ…”
เรียวตะอยากไปซื้อของกับฮารุโตะมาก จนมีน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย
“แย่จังเลยนะจ๊ะ ปกติก็เป็นเด็กดีที่ฟังง่ายแท้ๆ…คงจะชอบโอสึกิคุงมากสินะ”
“เอ่อ…ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ”
ฮารุโตะบอกว่าเขาไม่รังเกียจที่จะพเรียวตะไปซื้อของด้วย แต่อิคุเอะก็ยังคงรู้สึกเกรงใจอยู่ เธอทำท่าทางลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็ทำหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก
“ถ้าอย่างนั้นให้อายากะไปซื้อของด้วยดีไหมนะ”
อิคุเอะพูดพลางเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปยังบันไดทางเดิน
“อายากะ~ มานี่หน่อยจ้ะ~”
อิคุเอะเรียกเสียงดังขึ้นเล็กน้อย โทโจซังที่ออกจากห้องนั่งเล่นไปหลังจากถูกคุณแม่แซวเมื่อครู่ ก็ขังตัวเองอยู่ในห้องมาตลอด
“อายากะ~!”
เมื่อเสียงเรียกของแม่ดังขึ้นอีกครั้ง ก็มีเสียงประตูเปิดออก แล้วโทโจซังก็ปรากฏตัวขึ้น
“…อะไร?”
เธอพูดด้วยท่าทีไม่พอใจเล็กน้อย คุณอิคุเอะยิ้มกว้างให้ลูกสาวแล้วพูดว่า
“เรียวตะเอาแต่จะไปซื้อของกับโอสึกิคุง ไม่ยอมฟังเลยจ้ะ ก็เลยอยากให้อายากะไปซื้อของด้วยแล้วช่วยดูแลเรียวตะหน่อยได้ไหม?”
“เอ๊ะ…”
โทโจซังมองแม่ด้วยสายตาไม่เชื่อใจ
“แม่ไม่ได้คิดอะไรไม่ดีเลยนะจ๊ะ ก็แหม การให้โอสึกิคุงไปซื้อของแล้วยังต้องดูแลเรียวตะอีก มันก็น่าสงสารใช่ไหมล่ะ?”
“นั่นก็…จริงอยู่”
“นะ? งั้นขอร้องล่ะ ไปด้วยกันแล้วช่วยดูแลเรียวตะหน่อยนะ?”
“…ก็ได้”
เมื่อโทโจซังพยักหน้า อิคุเอะก็ยิ้มกว้างเต็มที่
“เรียวตะ พี่สาวจะไปด้วยนะ ไปซื้อของได้เลย”
“เย้~!!”
เรียวตะยกมือขึ้นทั้งสองข้างด้วยความดีใจ แล้ววิ่งไปหาพี่สาวที่ลงมาจากบันได
“พี่สาวขอบคุณนะ!! รักพี่สาวที่สุดเลย!!”
“จ้ะๆ รู้แล้วจ้ะ จะไปซื้อของไม่ใช่เหรอ? รีบไปเตรียมตัวออกไปข้างนอกเร็วๆ”
โทโจซังตอบน้องชายอย่างไม่ใส่ใจ แต่ก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร แถมมุมปากยังแอบยิ้มเล็กน้อยด้วยซ้ำ
“โอสึกิคุง ขอโทษนะ ฉันเองก็ขอไปเตรียมตัวสักครู่ ช่วยรออีกนิดได้ไหม?”
“ครับ ไม่มีปัญหาเลย”
โทโจซังพูดแบบนั้นแล้วกลับเข้าห้องตัวเองไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับออกไปข้างนอก แล้วก็ออกมา เรียวตะก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กำลังรออยู่ที่หน้าประตูบ้านอย่างกระวนกระวาย
“พี่สาวช้าจังเลย!! เร็วๆ สิ! เร็วๆ!”
“ใจเย็นๆ หน่อยสิเรียวตะ”
น้องชายเร่งพี่สาว พี่สาวก็เตือนน้องชาย ฮารุโตะมองการโต้ตอบของพี่น้องโทโจอย่างอ่อนโยน พลางเปลี่ยนรองเท้าสำหรับออกไปข้างนอก แล้วเอื้อมมือไปที่ประตูหน้าบ้าน
“งั้นไปนะครับ”
“ไปแล้วนะ”
“ไปแล้วค้าบบบ!!”
อิคุเอะที่มายืนส่งที่ประตูบ้าน ยิ้มแล้วโบกมือให้กับ “ไปแล้วนะ” ที่แตกต่างกันทั้งสามแบบ
“จ้า ไปดีมาดีนะจ๊ะ ระวังรถด้วยนะ”
ฮารุโตะและทุกคนเดินลอดประตูคฤหาสน์โทโจไปซูเปอร์มาร์เก็ต เรียวตะดูเหมือนจะดีใจมากที่ได้มาซื้อของด้วย ตั้งแต่เดินออกมาข้างนอกก็ดูไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ ฮารุโตะคิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้อาจจะเป็นอันตรายได้ถ้ามีรถแล่นออกมาอย่างกะทันหัน จึงเรียกเรียวตะ
“เรียวตะ เราเดินจับมือกันไปซูเปอร์มาร์เก็ตดีไหม?”
“อื้ม!”
เรียวตะพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แล้วเดินมาข้างๆ ฮารุโตะแล้วจับมือเขา
“ขอโทษนะโอสึกิคุง ที่ต้องมาตามใจเรียวตะ”
“ไม่เป็นไรเลย ฉันสบายมาก”
ฮารุโตะตอบด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร บางครั้งเขาก็ยกแขนขึ้นแล้วปล่อยให้เรียวตะห้อยตัวลงมา พวกเขาเล่นกันไปตลอดทางที่เดินไปซูเปอร์มาร์เก็ต
“โอสึกิคุงนี่ ใจดีจังเลยนะ”
“เอ๊ะ? งั้นเหรอ?”
ฮารุโตะที่กำลังอุ้มเรียวตะขี่หลังอยู่ ตอบกลับคำพูดของโทโจซังอย่างคลุมเครือ
“อืม ใช่แล้ว ดูแลเรียวตะดีมากๆ เลย”
“อ่า…นั่นอาจจะเป็นเพราะฉันเป็นลูกคนเดียวก็ได้”
ฮารุโตะยิ้มพลางตอบกลับโทโจซังที่กำลังมองเรียวตะที่กำลังหัวเราะคิกคักด้วยความดีใจที่ได้ขี่หลังอย่างอ่อนโยน
“พอได้อยู่กับเรียวตะแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนมีน้องชายจริงๆ เลยดีใจเล็กน้อยเลย อ๊ะ ขอโทษนะ ที่คิดถึงน้องชายของโทโจซังแบบนั้นเอง”
“ไม่เป็นไรเลย ไม่ต้องกังวลหรอก เรียวตะก็ดีใจมากๆ ด้วย”
“พี่สาวกับพี่ชายคุยอะไรกันเหรอ?”
เรียวตะที่ขี่หลังอยู่ มองลงมาที่ทั้งสองคนด้วยสีหน้างงๆ
“คุยกันว่าเรียวตะกับโอสึกิคุงเหมือนพี่น้องกันน่ะจ้ะ นี่ๆ ใกล้จะถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ลงจากตัวโอสึกิคุงได้แล้วนะ”
“คร้าบ~”
เรียวตะเชื่อฟังพี่สาวแล้วลงจากตัวฮารุโตะ
“นี่ๆ พี่ชาย! จะอุ้มขี่หลังอีกไหม?”
“อืม ถ้ามีโอกาสมาซื้อของอีกครั้ง คราวหน้าจะอุ้มให้นะ”
“เย้!”
เรียวตะยิ้มกว้างเต็มที่กับคำพูดของฮารุโตะ ฮารุโตะและโทโจซังก็ยิ้มตามไปด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มก็มาถึงซูเปอร์มาร์เก็ตและเริ่มซื้อวัตถุดิบที่จำเป็น ตอนนี้เองที่ฮารุโตะได้สัมผัสอีกครั้งว่า โทโจ อายากะซัง เป็นไอดอลของโรงเรียนจริงๆ เขารู้สึกได้ถึงสายตาของผู้คนรอบข้างที่เดินผ่านไปมาขณะเลือกซื้อของ
สายตาที่จ้องมองอยู่ส่วนใหญ่พุ่งตรงไปที่โทโจซัง ฮารุโตะไม่ได้ถูกจ้องมองโดยตรง แต่เขาก็ยังรู้สึกได้มากพอสมควร ดังนั้นโทโจซังที่ถูกจ้องมองโดยตรงคงจะรู้สึกหดหู่ใจไม่น้อย เมื่อฮารุโตะแอบมองท่าทางของเธอ เขาก็พบว่าเจ้าตัวดูเหมือนจะชินกับสายตาแบบนั้นแล้ว และไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
เมื่อซื้อของเสร็จเรียบร้อยและออกจากซูเปอร์มาร์เก็ต ฮารุโตะก็รู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากสายตาที่พุ่งตรงมา ถึงแม้สายตาส่วนใหญ่จะพุ่งไปที่โทโจซัง แต่ก็มีบางสายตาที่มองฮารุโตะด้วยความอิจฉาริษยา
“โทโจซังนี่…เอ่อ…คงจะลำบากนะเวลาที่คนเยอะๆ”
ฮารุโตะอดไม่ได้ที่จะเห็นใจโทโจซัง
“เอ๊ะ? อ้อ…อืมม ก็ใช่นะ ช่วงนี้เริ่มชินแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่นะ”
ตอนแรกเธอดูงงเล็กน้อย แต่เมื่อโทโจซังเข้าใจว่าฮารุโตะพูดอะไร เธอก็ยิ้มแหยๆ พลางตอบ
“บางครั้งก็…จะพูดว่ายังไงดีล่ะ…รู้สึกถึงสายตาที่แบบว่า ‘เหนียวหนึบ’ ตอนนั้นจะรู้สึกน่ากลัวมากๆ เลย”
“น่ารักเกินไปก็ลำบากเหมือนกันนะครับ”
“—!”
อายากะหยุดเดินกะทันหันกับคำพูดที่ฮารุโตะพึมพำออกมา แก้มของเธอแดงระเรื่อเล็กน้อย
“ฉัน…จะ…น่ารัก…เหรอ?”
“เอ๊ะ? ก็…เอ่อ…โดยทั่วไปแล้วก็น่ารักไม่ใช่เหรอ…”
“งะ…งั้นเหรอ…”
ฮารุโตะรู้สึกเขินอายเล็กน้อยตามโทโจซังที่ก้มหน้าลงแล้วทำท่าทางกระสับกระส่าย
“ถ้าไม่น่ารัก ผู้ชายทั้งโรงเรียนคงไม่พากันมาสารภาพรักกับโทโจซังหรอก”
“…………โอสึกิคุงก็…คิดว่าฉัน…เอ่อ…น่ารัก…เหรอ…”
“พี่สาว! พี่ชาย! ทำไมถึงหยุดล่ะ?”
เรียวตะที่เดินนำหน้าไปหลายเมตรแล้ว ไม่ทันสังเกตว่าทั้งสองคนหยุดเดิน พอกลับมาก็เห็นทั้งสองคนหยุดอยู่ แล้วเขาก็วิ่งกลับมาหา
“พี่สาว? หน้าแดงเชียว?”
“อึ่ก!? ร้อนต่างหากล่ะ! รีบกลับบ้านกันเถอะ!”
โทโจซังรีบหันหน้าหนีจากน้องชายที่พยายามชะโงกหน้าเข้ามามอง แล้วก็รีบเดินจ้ำอ้าวกลับบ้าน
“อ้าว? โทโจซัง เมื่อกี้เหมือนจะพูดอะไรค้างไว้นะครับ?”
ฮารุโตะรีบเดินตามโทโจซังไปติดๆ แล้วลองถามถึงคำพูดที่เธอพูดค้างไว้เมื่อครู่
“มะ…ไม่มีอะไร! ฉันไม่ได้พูดอะไร!”
“เอ๊ะ? แต่เมื่อกี้…”
“ไม่ได้พูดอะไร!!”
หลังจากนั้น โทโจซังก็เอาแต่ยืนกรานว่า “ไม่ได้พูดอะไร” ฮารุโตะจึงไม่เคยรู้เลยว่าเธอตั้งใจจะพูดอะไร
MANGA DISCUSSION