ตอนที่ 26 การเสียสละรสชาติพิเศษ
วันรุ่งขึ้นหลังจากดูหนังกับอายากะ
ฮารุโตะกดกริ่งบ้านโทโจท่ามกลางเสียงระงมของจักจั่น
เขาคิดว่าในย่านที่อยู่อาศัยแบบนี้ จักจั่นที่ส่งเสียงดังขนาดนี้ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันนะ
ขณะที่เขายืนอยู่กลางแดดร้อนจัด คิดเรื่องที่ไม่สำคัญอย่างนั้น อินเตอร์คอมก็ตอบกลับมาทันที
“ไง~ โอสึกิคุงใช่ไหม? เดี๋ยวจะเปิดประตูให้นะ”
คนที่ตอบกลับมาคืออิคุเอะ แม่ของอายากะ หลังจากได้ยินเสียงกุญแจเปิดจากหลังประตู ประตูก็เปิดออกเบาๆ และอิคุเอะก็โผล่หน้าออกมา
“สวัสดีนะ โอสึกิคุง”
“สวัสดีครับ วันนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
ฮารุโตะโค้งคำนับอย่างสุภาพ อิคุเอะก็ยิ้มแย้ม
“ข้างนอกร้อนใช่ไหม? เข้ามาข้างในเร็วๆสิ”
“อ๊ะ ครับ ขออนุญาตนะครับ”
อิคุเอะเชิญ ฮารุโตะก็ก้าวเข้าไปในโถงทางเข้า ทันทีที่เข้าไปในบ้าน เขาก็รู้สึกถึงความเย็นสบายที่ทำให้ฮารุโตะถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ช่วงนี้อากาศร้อนจริงๆ เลยนะ”
“ใช่ครับ ต้องระวังโรคลมแดดนะครับ”
“นั่นสินะ”
ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ประตูห้องนั่งเล่นก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว และเรียวตะ น้องชายของอายากะก็วิ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
“พี่ชาย! จริงเหรอครับที่พี่จะพาผมไปสวนสัตว์!?”
เรียวตะแหงนหน้ามองฮารุโตะด้วยน้ำเสียงที่สดใสและใบหน้าที่เปล่งประกายด้วยความคาดหวังอย่างเต็มที่
“จริงสิ”
ฮารุโตะลูบหัวเรียวตะพลางยิ้มตอบ
“เอ่อ พรุ่งนี้ผมคิดว่าจะพาคุณอายากะกับเรียวตะคุงไป ‘สวนสัตว์ป่า’ นะครับ”
“เมื่อเช้าอายากะเล่าให้ฟังแล้วจ้ะ”
หลังจากตอบเรียวตะแล้ว ฮารุโตะก็เล่าแผนการของวันพรุ่งนี้ให้อิคุเอะฟัง เธอยิ้มอย่างมีความสุขและขอบคุณฮารุโตะ
“ทั้งฉันและชูอิจิก็งานยุ่งตลอดเลย พวกเรียวตะก็ได้วันหยุดฤดูร้อนทั้งที แต่เราก็ไม่ได้พาไปเที่ยวไหนเลยจริงๆ เลยช่วยได้มากเลยจ้ะ ขอบคุณนะโอสึกิคุง”
“เปล่าครับ ผมก็ตั้งใจจะสนุกด้วย ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ”
“พูดแบบนั้นก็ช่วยได้มากเลยจ้ะ ดีจังเลยนะเรียวตะ”
“ครับ!!”
เรียวตะพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น ทั้งอิคุเอะและฮารุโตะต่างก็ยิ้มออกมาพร้อมกัน ในจังหวะนั้น อายากะก็โผล่หน้าออกมาจากประตูห้องนั่งเล่นที่เรียวตะเปิดทิ้งไว้
“อ๊ะ โอสึกิคุง… ยินดีต้อนรับนะ”
“อ๊ะ คุณอายากะ… สวัสดีครับ”
คำทักทายที่ดูอึดอัดเล็กน้อยปนความเขินอายเล็กน้อย ทั้งสองคนที่ใช้เวลาหนึ่งวันเหมือนคู่รักในเดทหนังเมื่อวานนี้ ต่างก็รู้สึกตัวและแก้มแดงระเรื่อ
อิคุเอะ ผู้เป็นแม่ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของทั้งสองอย่างเป็นธรรมชาติ และยิ้มอย่างมีความสุข ส่วนเรียวตะที่ยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจความรู้สึกละเอียดอ่อนก็ระเบิดความยินดีออกมา แล้ววิ่งไปหาน้องสาวของเขา
“พี่สาว! พี่ชายจะพาไปสวนสัตว์ด้วยล่ะ!”
“เมื่อเช้าก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
อายากะตอบด้วยรอยยิ้มแหยๆ เมื่อเห็นน้องชายที่ดูไม่สงบมาตั้งแต่เมื่อครู่
“ก็พี่สาวแปลกไปตั้งแต่เช้าแล้วนี่นา! บ่นพึมพำว่า ‘กลยุทธ์’ หลายรอบเลย แล้วก็ยิ้มหน้าตาแปลกๆ หลังจากพูดชื่อพี่ชาย…” [TLN: ขอแก้คำจาก “ชิงไหวชิงพริบ” ที่ใช้ในตอนก่อนๆ เป็น “กลยุทธ์”นะครับ คำจะได้ดูสลวยขึ้น]
“เรียวตะ! พี่ไม่ได้แปลกเลยสักนิดนะ!! แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นออกมาเลยสักคำนะ!!”
“โกหก! พี่สาวพูดจริง! ผมได้ยิน!”
“ไม่ได้พูด! ไม่ได้ยิน!”
อายากะแสดงปฏิกิริยามากเกินไปกับคำพูดของเรียวตะ และปฏิเสธคำพูดของน้องชายอย่างสุดชีวิตด้วยใบหน้าแดงก่ำ เรียวตะก็เถียงพี่สาวกลับไปเช่นกัน
จู่ๆ อิคุเอะก็เอามือแตะแก้มแล้วมองดูพี่น้องสองคนทะเลาะกันราวกับกำลังสนุกสนาน
“อายากะน่ะ ทำเป็นโมโหไปได้นะ วัยรุ่นจริงๆ เลยนะ”
อิคุเอะที่มองดูเด็กทั้งสองคนทะเลาะกันอย่างใจเย็น หันมายิ้มให้ฮารุโตะ
“ว่าแต่ วันนี้โอสึกิคุงจะไปซื้อของสำหรับทำข้าวกล่องพรุ่งนี้กับอายากะใช่ไหมจ้ะ?”
“เอ๊ะ? อ๊ะ ครับ”
ฮารุโตะควรจะหยุดอายากะกับเรียวตะที่กำลังทะเลาะกันไหม? แต่เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุของการทะเลาะกัน ฮารุโตะจึงลังเลที่จะทำอะไร อิคุเอะก็พูดกับเขา ทำให้เขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
“วันนี้ไม่ต้องทำความสะอาดบ้านมากเท่าไหร่ก็ได้จ้ะ ใช้เวลาเยอะๆ กับการไปซื้อของกับอายากะสองคนเลยนะ นี่จ้ะ เงินสำหรับซื้อของ”
“ไม่ครับ! ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ”
ฮารุโตะโบกมือปฏิเสธเมื่ออิคุเอะยื่นธนบัตรให้
“พรุ่งนี้ผมไม่ได้มาในฐานะคนดูแลบ้าน แต่มาในฐานะเพื่อน เลยคิดว่าจะแบ่งค่าวัตถุดิบข้าวกล่องกัน…”
“ไม่ต้องกังวลหรอกจ้ะ โอสึกิคุงจะพาเรียวตะไปเที่ยวทั้งที ในฐานะพ่อแม่แล้ว แค่นี้ให้เราทำเถอะนะ”
อิคุเอะพูดพลางจับมือของฮารุโตะ แล้ววางเงินลงในฝ่ามือของเขา
“นะ? โอสึกิคุง ได้โปรดนะ”
อิคุเอะเอียงคอเล็กน้อยแล้วพูดด้วยสายตาเหลือบมอง แม้จะเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็มีท่าทางที่น่ารักเหมือนเด็กเล็กๆ ความแตกต่างนี้ผนวกกับความงามของอิคุเอะเอง ทำให้ฮารุโตะหน้าแดงและหลบสายตาไปโดยไม่รู้ตัว
“เอ่อ… ครับ เข้าใจแล้วครับ”
“อุฟุ ขอบคุณนะจ้ะโอสึกิคุง”
ฮารุโตะพยักหน้าพลางหลบสายตาไปทางอื่นเพราะไม่สามารถมองตรงไปที่อิคุเอะได้ อิคุเอะยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นท่าทางของเขา ทันใดนั้น อายากะก็โผล่เข้ามาอย่างร้อนรน
“แม่คะ! ทำไมถึงจับมือกับโอสึกิคุงคะ!?”
อิคุเอะยิ้มกริ่มเมื่อเห็นท่าทีของลูกสาวที่ดูร้อนรนราวกับรู้สึกถึงอันตราย
“อุ๊ยตาย! รีบร้อนอะไรขนาดนั้นจ๊ะ? แม่แค่กำลังให้เงินโอสึกิคุงไปซื้อของเท่านั้นเองนะ?”
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้ธรรมดาๆ ก็ได้นี่คะ! ดูสิคะ! โอสึกิคุงเขาก็ลำบากใจแล้วนะ ปล่อยมือเขาเร็วๆเลยนะ!”
“อุ๊ย? โอสึกิคุงรังเกียจเหรอจ๊ะที่ป้าคนนี้จับมือ? ขอโทษด้วยนะจ๊ะ”
พูดพลาง อิคุเอะก็ปล่อยมือของฮารุโตะ ส่วนเขาก็โค้งศีรษะเล็กน้อยแล้วตอบสั้นๆ ว่า “เปล่าครับ… ไม่เป็นไรครับ”
เมื่อเห็นท่าทางของฮารุโตะ อายากะก็หันไปจ้องแม่ด้วยสายตาเฉียบคม
“แม่ต้องประชุมทางไกลไม่ใช่เหรอคะ? รีบเตรียมตัวสิคะ เดี๋ยวจะเข้าประชุมสายนะ!”
พูดพลาง อายากะก็ดันหลังอิคุเอะเพื่อให้ออกห่างจากฮารุโตะ
“อีกตั้ง 30 นาทีจะถึงเวลาประชุม ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้นะจ๊ะ”
“แม่เป็นประธานบริษัทนะคะ ห้ามเข้าประชุมสายเด็ดขาดเลยนะ! รีบไปเลยนะ!”
“อุ๊ยตาย! ก็ได้จ้ะ ถ้าอย่างนั้น โอสึกิคุง ฝากด้วยนะ”
อิคุเอะที่กำลังถูกอายากะดันหลังอย่างแรง ก็หันกลับมาโบกมือให้ฮารุโตะเล็กน้อย แล้วก็ถูกอายากะดันหลังแรงขึ้นไปอีก
อิคุเอะก็กระซิบเบาๆ กับลูกสาวที่กำลังร้อนรนอย่างสุดกำลัง ด้วยเสียงที่เธอเท่านั้นที่จะได้ยิน
“โอสึกิคุงเป็นเด็กดีนะจ๊ะ พยายามเข้าล่ะ อย่าให้คนอื่นแซงหน้าไปได้นะ”
ไม่รู้ว่าอายากะได้ยินเสียงกระซิบของแม่หรือไม่ แต่เธอก็ยังคงดันหลังแม่ต่อไปอย่างสุดกำลัง ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไปถึงใบหู
ฮารุโตะทำความสะอาดบ้านโทโจเล็กน้อย แล้วก็เตรียมตัวไปซื้อของ
ในขณะที่อายากะก็เริ่มเตรียมตัวออกไปข้างนอกเช่นกัน เรียวตะก็เข้ามาหาฮารุโตะเพื่อขอตามไปซื้อของด้วยเหมือนครั้งที่แล้ว
“พี่ชาย! พี่ชาย! ผมไปด้วยได้ไหม?”
ฮารุโตะไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ จึงหันไปยิ้มให้เรียวตะและกำลังจะพยักหน้า
แต่ก่อนหน้านั้น อายากะก็เปิดปากพูดขึ้นมาก่อน
“ครั้งนี้ไม่ได้นะ เรียวตะอยู่เฝ้าบ้านนะ”
“เอ๊ะ! ทำไมล่ะ!”
เรียวตะทำปากยื่นแสดงความไม่พอใจกับคำพูดของพี่สาว
“ครั้งนี้อาจจะต้องซื้อของเยอะแยะเลยนะ แล้วเราก็จะต้องปรึกษาหารือกับโอสึกิคุงเรื่องกับข้าวในข้าวกล่องด้วย เพราะงั้นเรียวตะอยู่เฝ้าบ้านนะ เข้าใจไหม?”
“ผมก็อยากไปด้วย!”
“ไม่ได้นะ ขอร้องล่ะ ครั้งนี้เชื่อฟังพี่นะ? นะ?”
อายากะนั่งยองๆ ลงตรงหน้าเรียวตะ แล้วมองหน้าเขาเพื่อร้องขอด้วยสายตา
แต่เรียวตะก็ไม่ยอมเลิกทำหน้าไม่พอใจกับการร้องขอของพี่สาว
“พี่สาวอยากอยู่กับพี่ชายสองคน!”
“มะ ไม่ใช่หรอกนะ? ไม่ใช่แบบนั้นนะ ครั้งนี้…”
“พี่สาวชอบพี่ชายใช่ไหมล่ะ เลยอยากอยู่ด้วยกันสองคน! ผมเป็นตัวเกะกะใช่ไหมล่ะ!”
“เดี๋ยว! เรียวตะไม่ใช่อย่างนั้น พี่ไม่ได้…”
“ผมก็ชอบพี่ชายเหมือนกันนะ…”
พูดพลาง เรียวตะก็ก้มหน้าลงอย่างงอนๆ
“เอ่อ คุณอายากะ”
ฮารุโตะทนไม่ไหว จึงเรียกอายากะ เธอก็รีบร้อนพูดขึ้นมา
“อ๊ะ โอสึกิคุง คือว่า! ฉันไม่ได้อยากอยู่กับคุณโอสึกิคุงสองคนนะ แล้วก็เรื่องที่เรียวตะพูดว่าชอบอะไรนั่นน่ะ เขาก็แค่พูดไปเองเท่านั้นเอง…”
“เปล่าครับ ผมก็ดีใจนะครับที่เรียวตะคุงชอบผม”
ฮารุโตะพูดพลางยิ้มแหยๆ ทำให้อายากะทำหน้าลำบากใจ
ไม่ว่าความรู้สึกภายในใจของอายากะจะเป็นอย่างไร การซื้อของในครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะต้องซื้อของเยอะแยะ และก็วางแผนที่จะปรึกษาหารือเรื่องกับข้าวในข้าวกล่องไปพร้อมๆ กับการซื้อของด้วย
ดังนั้น การที่ไม่มีเรียวตะอยู่ด้วยก็จะทำให้การซื้อของมีสมาธิมากขึ้นอย่างแน่นอน
แต่เมื่อเห็นเรียวตะที่กำลังงอนๆ อยู่ ทั้งฮารุโตะและอายากะต่างก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
จะพาไปด้วยดีไหมนะ?
เมื่อบรรยากาศกำลังจะเป็นอย่างนั้น อิคุเอะที่เพิ่งประชุมทางไกลเสร็จ ก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องนั่งเล่น
“เรียวตะ ระหว่างที่พี่สาวกับพี่ชายไปซื้อของ เรามานั่งกินไอศกรีมกับแม่กันนะ?”
ในมือทั้งสองข้างของอิคุเอะมีภาชนะใส่ไอศกรีมถ้วยหรูหราอยู่
ทันทีที่เห็นมัน สีหน้าของเรียวตะก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที
“ไอศกรีม!”
ส่วนอายากะ เมื่อเห็นไอศกรีมที่อิคุเอะถืออยู่ ก็ส่งเสียง “อ่า” ออกมาอย่างเศร้าสร้อย
“ไอศกรีมรสพิเศษที่แอบเก็บไว้…”
ความดีใจและความสิ้นหวัง
แม่ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นพี่น้องสองคนแสดงสีหน้าตรงกันข้าม
“ว่าไงจ๊ะ? จะไปซื้อของ หรือ จะกินไอศกรีม?”
“…เรียวตะ กินไอศกรีมของพี่ได้เลยนะ แต่อยู่เฝ้าบ้านให้พี่ได้ไหม?”
“อืม… ก็ได้ ผมจะอยู่เฝ้าบ้านให้”
เรียวตะตัดสินใจเลือกไอศกรีมหลังจากลังเลอยู่นาน โดยที่อายากะตัดสินใจอย่างยากลำบาก
“งั้นก็ ไปดีมาดีนะจ๊ะ~”
“ครับ ไปแล้วนะครับ”
“อื้ม… เป็นรสชาติพิเศษแท้ๆ เลย… ไปแล้วนะคะ”
ฮารุโตะและอายากะที่ถูกอิคุเอะส่งออกไป ก็ออกไปซื้อของสำหรับข้าวกล่องพรุ่งนี้ด้วยกัน
MANGA DISCUSSION