──มุมมองของหวงไห่เหลียง──
สำหรับไห่เหลียงแล้ว เทียนฟางคือน้องชายที่ “อันตราย” อย่างยิ่ง
เมื่อตอนยังเด็ก เทียนฟางเป็นเด็กที่อยากรู้อยากเห็นถึงขั้นทำให้ไห่เหลียงต้องตกตะลึง
ราวกับเป็นคนที่มาจากอีกโลกหนึ่ง น้องชายของเขาสนใจทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งคำถามกับทั้งบิดาและตัวไห่เหลียงเองไม่หยุดหย่อน เทียนฟางชอบเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วจนบิดาเป็นกังวล จึงได้มอบหมายให้ไป๋เย่เป็นผู้ติดตาม
เมื่อมีไป๋เย่คอยอยู่ข้าง ๆ เทียนฟางก็ดูจะสงบลงบ้าง
แต่แล้ว เทียนฟางกลับไม่สามารถฝึก พลังภายใน ได้ตั้งแต่กำเนิด
และเจ้าตัวเองก็ดูเหมือนจะกังวลเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
การที่เขาหันไปฝึกฝนคัดตัวอักษรอย่างมุ่งมั่น อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้
ถึงจะเป็นบุตรของ “แม่ทัพพยัคฆ์เวหา” แต่กลับไม่สามารถเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ได้ เทียนฟางจึงเลือกเส้นทางขุนนางฝ่ายบุ๋นแทน
ไห่เหลียงไม่เคยดูแคลนน้องชายเพราะเรื่องนี้
หรืออย่างน้อยก็ เขาก็คิดว่า ไม่เคย
บางที อาจเป็นเพราะเทียนฟางได้รูปร่างอ้อนแอ้นและร่างกายที่อ่อนแอมาจากมารดา อวี้ซื่อ
หากเขาติเตียนเทียนฟาง ก็ไม่ต่างอะไรกับการติเตียนมารดาของตนเอง
“ถึงอย่างนั้น… ข้าก็คงยังมองว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าเขาสินะ”
ไห่เหลียงพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงขมขื่น เมื่อนึกย้อนกลับไป ตอนที่ได้ยินข่าวลือว่า “บุตรชายคนโตของตระกูลหวงเป็นม้าห้อ แต่บุตรชายคนรองเป็นม้าพ่าย”
ตอนนั้นตัวเขาเอง รู้สึกยินดี อยู่ลึก ๆ หรือไม่?
ถึงจะออกปากปฏิเสธว่า “อย่าดูถูกน้องชายของข้า”
แต่ในใจกลับพอใจที่ผู้คนต่างยกย่องเขาอยู่หรือไม่?
“น่าละอายเสียจริง…”
ไห่เหลียงรู้สึกพะอืดพะอมกับความคิดของตัวเอง
‘บุตรชายคนรองเป็นม้าพ่าย’ งั้นหรือ?
เทียนฟางเพียงแค่สะสมพลังและจับตามองอนาคตอยู่เท่านั้น
ผิดกับตนเอง ที่มองแต่สิ่งรอบตัว และทำเพียงแค่โอ้อวดพลังของตนเพื่อให้บิดาและผู้คนรอบข้างยอมรับ
“แต่เขากลับบอกว่าข้าเป็นผู้ที่กำหนดชะตากรรมของแคว้นหลานเหอได้…”
เมื่อครู่ เทียนฟางพร่ำวิงวอนกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่ได้ดูเหมือนกำลังยกยอแต่อย่างใด
“สำหรับเขาแล้ว การฝึกพลังภายในเป็นเรื่องเป็นตายเลยสินะ…”
ไห่เหลียงไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนั้นมาก่อน
บางทีนี่อาจเป็นความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างเขากับเทียนฟาง
ในอนาคต เทียนฟางจะต้องกลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่
แล้วในฐานะพี่ชาย เขาจะทำอะไรเพื่อน้องชายได้บ้าง…?
“ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องจะขอร้อง”
เมื่อรู้สึกตัวอีกที ไห่เหลียงก็เดินมาถึงห้องของบิดาแล้ว
เขาก้มศีรษะลงต่ำและกล่าวออกมา
“ข้าอยากหาตัวอาจารย์ฝึกวิชายุทธ์ให้เทียนฟาง”
“จู่ ๆ เจ้าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม ไห่เหลียง?”
“ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว พลังภายในของเทียนฟางนั้นมีค่า สมควรได้รับการฝึกฝนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
“ข้าเข้าใจเจ้า แต่เทียนฟางมีวิธีฝึกฝนพลังภายในที่เป็นเอกลักษณ์ เจ้าคิดว่าจะมีวิชายุทธ์ใดที่สามารถรองรับวิธีของเขาได้หรือ?”
“……นั่นสินะขอรับ”
ไห่เหลียงนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า
“ท่านพ่อ ขอให้ท่านกราบทูล หวังเต๋อเตี้ยนเซี่ย ได้หรือไม่?”
“หวังเต๋อเตี้ยนเซี่ย…? เจ้าหมายถึง เหลียวหยวนจวิน อย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ขอรับ หวังเต๋อเตี้ยนเซี่ยให้การอุปถัมภ์นักสู้มากมาย อาจมีบางคนที่รู้จักแนวทางของเทียนฟาง หากเราให้ท่านแนะนำผู้เชี่ยวชาญให้สักคน เทียนฟางก็คงจะได้รับการฝึกที่เหมาะสมได้แน่”
เหลียวหยวนจวิน เป็นพระอนุชาแท้ ๆ ของ กษัตริย์หลานเหอ
ทรงดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี และเป็นขุนนางชั้นสูงสุดของแคว้นนี้
พระองค์ทรงให้การสนับสนุนบุคคลที่มีพรสวรรค์มากมาย และยังทรงมีข้ารับใช้ที่เดินทางไปทั่วแคว้นเพื่อรวบรวมข่าวสารให้พระองค์และองค์กษัตริย์
แน่นอนว่าข้ารับใช้เหล่านั้นมี นักสู้จำนวนมาก อยู่ในกลุ่มด้วย
“หากท่านพ่อเป็นผู้ร้องขอ บางทีเหลียวหยวนจวินอาจจะทรงแนะนำอาจารย์ฝึกวิชายุทธ์ให้เทียนฟางก็เป็นได้”
“ก็ไม่ได้เป็นไปไม่ได้… แต่ต้องทำถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”
บิดาของไห่เหลียง หวงอิ๋งเซิน เอียงศีรษะอย่างครุ่นคิด
“ถึงแม้ว่าเทียนฟางจะสามารถฝึกพลังภายในได้แล้ว แต่ข้าไม่คิดว่าเขาจะจำเป็นต้องฝึกวิชายุทธ์หรอก”
“ข้าคิดว่า เทียนฟางคือผู้ที่จะกำหนดอนาคตของตระกูลหวง”
“อนาคตของตระกูลหวงงั้นรึ!?”
“ใช่แล้ว หากเป็นเช่นนั้น เราก็ควรมอบการศึกษาที่ดีที่สุดให้กับเขา”
“เจ้ามิคิดว่ามันเกินไปหรือ ไห่เหลียง?”
“ท่านพ่อเคยคิดหรือไม่ว่า เทียนฟางจะสามารถฝึกพลังภายในได้?”
“……ไม่เคย”
“แถมเขายังฝึกด้วยตัวเอง โดยอาศัยเพียงคัมภีร์ที่ซื้อจากตลาด ไม่มีผู้ใดในตระกูลหวงเคยทำเช่นนี้มาก่อน”
“…………ก็จริง”
“ยิ่งไปกว่านั้น เทียนฟางยังสามารถไขความลับของ ซิงเล่ยได้ ทั้งข้าและท่านพ่อก็ไม่สามารถทำได้”
“………………ข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้าพูด แต่กระนั้นก็ยังมิจำเป็นต้องไปขอร้องเหลียวหยวนจวิน”
“ท่านแม่อนุญาตแล้ว”
“เช่นนั้นรึ! งั้นก็ดีเลย!!”
หวงอิ๋งเซิน พยักหน้าอย่างง่ายดาย
“หาก อวี้ซื่อ ตกลง ข้าก็ไม่ขัดอยู่แล้ว! เจ้าควรบอกข้าตั้งแต่แรก!”
“ขอบพระคุณมาก ท่านพ่อ”
แม่ทัพพยัคฆ์เวหา หวงอิ๋งเซิน บุรุษผู้แข็งแกร่งเหนือใคร เชี่ยวชาญในการใช้หอกยาว ทว่ามีเพียงคนใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้ว่าเขา ภักดีต่อภรรยาอย่างหาที่สุดมิได้
“ข้าจะไปขอเข้าเฝ้าเหลียวหยวนจวินโดยเร็ว หากเป็นเพื่อ อวี้ซื่อและเทียนฟาง ข้าย่อมไม่ลังเล”
“ขอบพระคุณ ท่านพ่อ”
“แล้วซิงเล่ยล่ะ? นางก็สามารถใช้พลังภายในได้ จะหาอาจารย์ให้ด้วยหรือไม่?”
“ซิงเล่ยยังต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับครอบครัวของเราอยู่ขอรับ”
หรือให้พูดตามตรง นางต้องการเวลาในการออดอ้อนเทียนฟาง
การคิดถึงอนาคตของนางตอนนี้ ยังเร็วเกินไป
“หากถึงเวลานั้นจริง ๆ นางคงเป็นฝ่ายมาขอท่านพ่อเอง”
“อืม เข้าใจแล้ว”
อิ๋งเซิน ยิ้มกว้าง ก่อนจะกล่าวว่า
“ไห่เลี่ยง เจ้าก็เติบโตขึ้นมากนะ”
“…ข้าหรือ?”
“ข้าไม่เคยรู้เลยว่าเจ้าคิดถึงเทียนฟางมากเพียงนี้ เทียนฟางใช้สติปัญญาในการฝึกพลังภายใน ส่วนเจ้าแข็งแกร่งและมีเมตตา… ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก หากเจ้าสองคนร่วมมือกัน ตระกูลหวงย่อมมั่นคงแน่นอน!”
“ขะ… ขอรับ ท่านพ่อ!”
เสียงหัวเราะก้องกังวานของอิ๋งเซินดังไปทั่วห้อง ในขณะที่ไห่เหลียงยังคงรู้สึกประหม่า
เช่นนี้เอง เวลาที่สงบสุขของตระกูลหวงจึงยังคงดำเนินต่อไป
MANGA DISCUSSION