── มุมมองของ เทียนฟาง ──
“เราช่วยตัวประกันออกมาได้แล้ว ทุกคนปลอดภัยดีขอรับ”
ข้าเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากหอคอย
เพราะต้องคอยระวังการไล่ตามจากศัตรู
แม้ข้ากับเสี่ยวหวงจะจัดการศัตรูในหอคอยได้หมด แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจมีใครหลบซ่อนอยู่
ดังนั้น ข้าจึงคอยปิดท้ายขบวนเพื่อไม่ให้ถูกโจมตีจากด้านหลัง
“ครอบครัวของท่านกั๋วเคอหลงก็อยู่ด้วย โปรดตรวจสอบ──”
“เดี๋ยวก่อน ท่านเทียนฟาง”
เสียงที่ตอบกลับมาคือเสียงจริงจังของท่านทันชิ
“ท่านกั๋วเคอหลงกำลังต่อสู้อยู่ เพื่อชี้ขาดแพ้ชนะในศึกนี้”
ทหารของทั้งสองฝ่ายต่างหยุดเคลื่อนไหว
ทุกสายตาจับจ้องไปยังชายสองคนที่กำลังต่อสู้กัน—กั๋วเคอหลงผู้ถือหอก และแม่ทัพเผ่าจิ่นจิ้งที่ถือดาบใหญ่
นี่คือศึกดวลหนึ่งต่อหนึ่งที่ทหารทั้งสองฝ่ายต่างเฝ้าดูอย่างเคร่งขรึม
“เป็นการประลองตัวต่อตัว ระหว่างเผ่าปอหงกับแม่ทัพเผ่าจิ่นจิ้ง ห้ามผู้ใดแทรกแซงโดยเด็ดขาด”
“แต่ท่านทันชิ… แบบนี้ท่านกั๋วเคอหลงเสียเปรียบเกินไป!”
ในฐานะตัวประกัน ท่านกั๋วเคอหลงไม่ได้สวมเกราะแม้แต่น้อย
เพราะหากตัวประกันใส่เกราะ มันก็ดูน่าสงสัยเกินไป
อีกทั้งเพื่อให้ศัตรูวางใจ เขาจำเป็นต้องเปิดเผยใบหน้าให้เห็นชัดเจน
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่มีเครื่องป้องกันใดๆ ติดกายเลย
ในทางตรงกันข้าม แม่ทัพเผ่าจิ่นจิ้งสวมชุดเกราะครบครัน
ถึงหอกของท่านกั๋วจะโดนบ้าง ก็ไม่เป็นอะไร
แต่หากท่านกั๋วโดนแม้แต่ครั้งเดียว ก็อาจบาดเจ็บสาหัสได้ทันที
นี่เป็นการต่อสู้ที่ฝ่ายเราเสียเปรียบอย่างร้ายแรง
“หากปล่อยไว้แบบนี้ ท่านกั๋วเคอหลงจะตกอยู่ในอันตราย! ขอท่านอนุญาตให้ข้าเข้าไปช่วย!”
“ไม่ได้ ท่านเทียนฟาง”
“แต่ข้า──!”
“ท่านกั๋วเคอหลงต่อสู้ครั้งนี้เพื่อปกป้องท่านนะ!”
ท่านทันชิคว้าบ่าข้าแน่น พร้อมเอ่ยเสียงเบาไม่ให้ผู้อื่นได้ยิน
“ศัตรูชื่อว่า เหรินพาตู เป็นคนสนิทของเซิงไท่เจี่ย รัชทายาทเผ่าจิ่นจิ้ง เขาตามหาท่านอยู่
เพราะคิดว่าถ้าทหารของแคว้นหลานเหออยู่ที่นี่… ย่อมมีหวงเทียนฟางอยู่ด้วยแน่”
“ขะ… ข้าเหรอ?”
“ท่านเคยฟันแขนเซิงไท่เจี่ยไป ต่อให้เป็นแค่ลูกน้องคนสนิท ก็ต้องการล้างแค้นเป็นธรรมดา
ท่านกั๋วเคอหลงจึงสู้ครั้งนี้ เพื่อไม่ให้ศัตรูทำอันตรายท่าน… อย่าทำให้ความตั้งใจของเขาสูญเปล่าเลย”
เหรินพาตู… คนสนิทของเซิงไท่เจี่ย
แบบนี้ก็เข้าใจได้ ว่าทำไมเขาถึงหมายหัวข้า
และเข้าใจได้ว่าทำไมท่านกั๋วเคอหลงถึงยอมสู้แทน
แต่กั๋าเคอหลงเป็นบุคคลสำคัญที่แคว้นหลานเหอจะขาดไม่ได้ในอนาคต
ทั้งชำนาญศึก และเป็นผู้นำที่ยกระดับขวัญกำลังใจให้กองทัพได้
ที่สำคัญ… เขาเป็นคนดี
ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน เขาก็ยังเชื่อใจข้ากับเสี่ยวหวง
ยอมแกล้งเป็นตัวประกัน และยอมถูกจับโดยไม่ขัดขืน
เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวพวกเรา
ข้า… ไม่มีทางปล่อยให้คนเช่นเขาต้องตายที่นี่เด็ดขาด
“ท่านบอกว่าไม่ให้แทรกแซงใช่ไหมขอรับ ท่านทันชิ”
“ใช่แล้ว เพราะนั่นคือวิถีของนักรบ”
ข้าเข้าใจความคิดของท่านทันชิดี
และจะไม่ขัดคำสั่ง
ข้าจะไม่ชักดาบเข้าไปแทรกกลาง หรือแทงศัตรูจากด้านหลัง
แต่ข้าก็จะใช้ “วิธี” ของข้า…
เพราะเป้าหมายของข้าคือหลีกเลี่ยงจุดจบหายนะแห่ง หวงเทียนฟาง
แม้ตัวข้าจะรอด แต่หากเพื่อนร่วมทางต้องตาย… มันก็ไม่มีความหมาย
ข้าอยากให้พวกเขารอดด้วยเช่นกัน
“ขอเรียนถามท่านหนัวหน่าเคอหลง และท่านไคเน่ ซิวลู่เถ่อหน่อยขอรับ”
ข้าหันไปยังบุตรสาวของกั๋วเคอหลง และธิดาหัวหน้าเผ่า
“ท่านกั๋วเคอหลง… เคยใช้ ‘ทักษะจดจ่อ’ ได้ใช่ไหมขอรับ? หรือพูดให้ชัด คือมีความสามารถในการจดจ่อกับการต่อสู้จนไม่รับรู้สิ่งรอบตัว?”
‘ทักษะจดจ่อ’ เป็นสกิลที่เพิ่มพลังรบชั่วคราว
โดยแลกกับการมองเห็นแคบลง และไม่รับรู้อะไรที่ไม่เกี่ยวกับการต่อสู้
ในเกม กั๋วเคอหลงมีทักษะนี้
“คะ…ค่ะ! ท่านพ่อเวลาจดจ่อกับการต่อสู้ จะไม่รับรู้สิ่งอื่นเลย… ท่านรู้ได้ยังไงคะ!?”
“……กั๋วเคอหลง เวลาเขาจดจ่อแล้ว… แข็งแกร่งมาก”
“ขอบคุณขอรับ เข้าใจแล้ว”
ดูเหมือนในโลกนี้ เขาก็มี ‘ทักษะจดจ่อ’ เช่นกัน
หมายความว่า ต่อให้เราตะโกนระหว่างที่เขากำลังต่อสู้ ก็ไม่มีทางได้ยิน
จะประสานงานอะไรก็ลำบาก
งั้นก็──
“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะไปช่วยอาจารย์ชิว”
ข้าหันไปบอกท่านทันชิ
อาจารย์ชิวกำลังรั้งผู้ใช้ ‘ศาสตร์สี่อสูร’ เอาไว้
แม้จะมีทหารคอยคุ้มกัน แต่อีกฝ่ายยังไม่รู้ฝีมือแค่ไหน ข้าเองก็ควรไปช่วย
“ท่านเทียนฟาง… ท่านจะไปจริงหรือ”
“ข้าเป็นศิษย์ของอาจารย์ชิวครับ การช่วยเหลืออาจารย์เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
“……เข้าใจแล้ว ขอให้ท่านระมัดระวังด้วย”
“แน่นอน ข้าจะกลับมาพร้อมอาจารย์โดยสวัสดิภาพ”
“ข้าจะไปด้วย เทียนฟาง!”
“ฝากด้วยนะ พี่เสี่ยวหวง”
เสี่ยวหวงชูมือขึ้น ข้ายิ้มรับทันที
ตอนนี้สายตาของศัตรูจับจ้องแต่ศึกดวล
ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ เราน่าจะกระโดดข้ามแนวศัตรูไปถึงตัวอาคารที่อาจารย์ชิวอยู่ได้
“ห้าสัตว์เทพก้าวพริบตา──มังกรซ่อนเร้นทะยานสู่นภา!!”
ข้ากับเสี่ยวหวงใช้วิชา ‘ห้าสัตว์เทพก้าวพริบตา’
กระโดดลอยข้ามหัวทหารไป
จากความสูงระดับหลายเมตร ข้ามองลงมาในเขตศัตรู…
ก็พบว่า มีคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่หลังทหาร ใช้อาวุธระยะไกลเล็งมา
เขาซ่อนอยู่หลังเพื่อนร่วมเผ่า ให้ทหารฝ่ายเราและเผ่าปอหงมองไม่เห็น
ศัตรู… ไม่ได้คิดจะดวลตัวต่อตัวอย่างยุติธรรมเลยแม้แต่น้อย
งั้นเราก็ไม่ต้องเกรงใจเช่นกัน
เหรินพาตูเล็งเป้ามาที่ข้า
ทว่าท่านกั๋วเคอหลง เมื่อใช้ ‘ทักษะจดจ่อ’ แล้ว จะไม่รับรู้อะไรนอกจากศึกตรงหน้า
และ… ผู้ใดก็ไม่ควรแทรกแซงศึกดวลหนึ่งต่อหนึ่ง
ดังนั้น ข้าจึงรวบรวมพลังเสียง ส่งไปยังศัตรู──
“หวงเทียนฟางแห่งแคว้นหลานเหอ! ขอเสียมารยาท ผ่านทาง!”
ข้าตะโกนลงไปขณะมองเหรินพาตูอยู่ตรงด้านล่าง…
“หวงเทียนฟางงั้นหรือ!?”
เหรินพาตูเงยหน้าขึ้นไปตามเสียงโดยไม่รู้ตัวเพียงเสี้ยววินาทีเดียว
ในขณะเดียวกัน กั๋วเคอหลง ตัดใจจากชีวิต ทุ่มเททุกสิ่งใส่หอกในมือตรงสู่ชัยชนะ
เสียงของเทียนฟางนั้นไปถึงเหรินพาตู──
แต่กับกั๋วเคอหลง ผู้ซึ่งจิตใจมั่นคงแน่วแน่จดจ่ออยู่กับการต่อสู้ กลับไม่ได้ยินเสียงนั้นเลย──
ผลก็คือ──มีเพียงเหรินพาตูที่ชะงักไปชั่วขณะ
และในเสี้ยววินาทีนั้น หอกของกั๋วเคอหลงก็พุ่งทะลุชุดเกราะของเหรินพาตูอย่างแม่นยำ
“……เป็นไป…ได้อย่างไร ข้า…ถูกเจ้าหนูสกปรกปอหงเช่นเจ้า…”
“……ข้ายังมีชีวิตอยู่งั้นหรือ…?”
ดาบใหญ่ของเหรินพาตู หยุดลงแค่บนบ่าของกั๋วเคอหลง
เขารู้ทันทีว่ามีบางอย่างหยุดการโจมตีนั้นไว้
หากมันช้ากว่านั้นแม้เพียงชั่วพริบตา…ร่างของเขาคงถูกผ่าครึ่งไปแล้ว
“พลธนูอยู่ไหน!?”
กั๋วเคอหลงหันไปมองแนวศัตรูทันที
พลธนูที่เล็งมาทางเขานั้น นอนแน่นิ่งอยู่เบื้องหลังเหรินพาตู
ดูเหมือนจะมีใครบางคนที่เห็นเหตุการณ์แล้วเตะศัตรูผู้นั้นออกไป เพื่อไม่ให้รบกวนการประลองตัวต่อตัว
ภัยคุกคาม──หายไปแล้ว
เมื่อรู้ดังนั้น กั๋วเคอหลงก็ชูหอกขึ้นร้องประกาศ
“แม่ทัพศัตรู เหรินพาตู ถูกกั๋วเคอหลงแห่งเผ่าปอหงโค่นลงแล้ว!!”
“““โอ้──โอ้──โอ้──!!!”””
เสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะดังสนั่นจากฝ่ายพันธมิตร
ขณะที่ฝั่งศัตรู──เผ่าจิ่นจิ้ง กลับส่งเสียงโอดครวญ
พวกจิ่นจิ้งสูญเสียทั้งป้อมปราการ ทั้งตัวประกัน และบัดนี้ก็เสียแม่ทัพไปอีก
เหลือเพียงกองกำลังที่ถูกตัดขาดในแดนศัตรู
บางคนทิ้งอาวุธยอมจำนน บางคนเริ่มวิ่งหนี บางคนบ้าระห่ำพุ่งเข้ามา
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน กองทัพของเผ่าปอหงและแคว้นหลานเหอก็รุมล้อมและกวาดล้างพวกมันได้อย่างไม่ยากเย็น
ชัยชนะ──เป็นของพวกเขาแล้ว
“──ไม่ดีแล้ว ต้องรีบไปช่วยท่านซวนชิวยี่เสียแล้ว”
กั๋วเคอหลงพยายามวิ่ง แต่ร่างกลับโซเซ
เมื่อยกมือแตะขา ความเจ็บปวดก็แล่นวาบ
เขาบาดเจ็บทั่วร่าง
การโจมตีของเหรินพาตูรุนแรงอย่างเหลือเชื่อ ร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย
ที่ไม่รู้ตัว ก็เพราะเขากำลัง จดจ่อ อยู่กับการต่อสู้นั่นเอง
“……นึกไม่ถึงว่าจะชนะมาได้จริงๆ”
“──ชนะ…อย่างนั้นหรือ”
เสียงหนึ่งดังขึ้น
ต้นเสียงมาจากชายคนหนึ่ง──พลธนูที่ล้มอยู่กับพื้น
เขากำลังหัวเราะ
ที่น่าประหลาดใจคือ ชุดเกราะที่สวมอยู่ ไม่ใช่ของเผ่าจิ่นจิ้ง
“เจ้าเป็นใครกันแน่”
“พวกเราคือผู้ที่จะฟื้นฟูความถูกต้องแก่แผ่นดินนี้”
“ไร้สาระ! หรือเจ้าจะเป็นพวกของผู้ใช้’ศาสตร์สี่อสูร’!?”
“……ข้าไม่จำเป็นต้องตอบเจ้าหรอก”
ชายคนนั้นชักมีดสั้นออกมาจากอกเสื้อ
ปลายคมเปื้อนด้วยของเหลวบางอย่าง
‘──ยาพิษ’กั๋วเคอหลงเข้าใจทันที พยายามจะพุ่งตัวไปขัดขวาง
แต่ร่างกายที่บาดเจ็บกลับไม่ขยับทันใจ
ลูกน้องคนหนึ่งพุ่งเข้าไปแทน──แต่ไม่ทัน
“แคว้นหลานเหอจะล่มสลาย พวกเจ้าก็แค่เครื่องมือ ส่วนความจริงทั้งหมด มีเพียงเราที่รู้──”
ชายคนนั้นใช้มีดกรีดลำคอตัวเอง
ร่างของเขาชักกระตุก…แล้วก็หยุดนิ่ง
“ผู้ที่จะฟื้นฟูความถูกต้องแก่แผ่นดิน…งั้นหรือ”
พวกเขาคิดว่า ศัตรูมีเพียงเผ่าจิ่นจิ้งเท่านั้น
แต่แท้จริงแล้ว ยังมีเงามืดอื่นที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลัง
เหล่าผู้ใช้’ศาสตร์สี่อสูร’และพรรคพวกของพวกมัน กำลังจ้องจะล้มแคว้นหลานเหอ
แถมยังพยายามใช้เผ่าปอหงเป็นเบี้ยเดินหมาก
“……ข้ายอมไม่ได้!”
ปล่อยให้พวกมันลอบเร้นอยู่ในเงามืดเช่นนี้ต่อไปไม่ได้
ต้องหยุดให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
“แต่ถ้ายังอยู่ในหมู่บ้านเผ่าปอหง…ก็ไม่มีทางแตะต้องพวกมันได้”
หากจะโค่นศัตรูเหล่านั้นลงให้ได้ เขาจำต้องออกจากถิ่นฐานของตน
กลายเป็นทหาร…หรือแม่ทัพแห่งแคว้นหลานเหอ และก้าวสู่โลกกว้าง
หากเป็นท่านเหลียวหยวน นายของทันชิ จะต้องยินดีให้ความช่วยเหลือแน่นอน
“แถมข้ายังติดหนี้บุญคุณเจ้าหนุ่มเทียนฟางกับเจ้าหนุ่มหวงฮวาอีก”
ผู้ที่ยิงพลธนูคนนั้นล้มลงได้ คงไม่พ้นพวกเขาแน่
ต่อให้ไม่มีหลักฐาน ข้าก็รู้
เผ่าปอหงเป็นหนี้พวกเขา
ในนามของหัวหน้าหน่วยป้องกัน ข้าต้องชดใช้หนี้นี้ให้ได้
“แต่ก่อนอื่น──ต้องจับตัวผู้ใช้’ศาสตร์สี่อสูร’ให้ได้เสียก่อน”
กั๋วเคอหลงลุกขึ้นด้วยความช่วยเหลือของลูกน้อง
ร่างกายยังพอขยับได้
ถ้าเช่นนั้น──ก็ต้องสู้ต่อไป
ด้วยความมุ่งมั่น กั๋วเคอหลงเริ่มก้าวเดิน มุ่งหน้าไปยังอาคารซึ่งผู้ใช้’ศาสตร์สี่อสูร’ซ่อนตัวอยู่
MANGA DISCUSSION