ในจดหมายจากท่านอาจารย์ มีข้อความเขียนไว้ดังนี้:
‘ถึงศิษย์ของข้า หวงเทียนฟาง
ถ้าเจ้าได้อ่านจดหมายฉบับนี้ นั่นก็แปลว่า พวกเจ้าคงได้ทำภารกิจสำเร็จแล้วล่ะสินะ
ทำได้ดีมาก ข้าภูมิใจในตัวพวกเจ้ายิ่งนัก
น่าเสียดายเหลือเกินที่ข้าต้องจากพวกเจ้าไปเสียแล้ว’
…หา?
ต้องจากกัน…ทำไมกันล่ะ?
‘ความจริงแล้ว ตอนนี้ในหมู่จอมยุทธ์เริ่มมีข่าวลือแปลกๆ แพร่สะพัด
ว่ากันว่า “แคว้นหลานเหอจะล่มสลาย และยุคเข็ญจะมาเยือน”
มีคำทำนายมากมายที่แสดงสัญญาณเช่นนั้น
ดูเหมือนข่าวลือเหล่านี้มาจากองค์กรใต้ดินแห่งหนึ่ง’
…แคว้นหลายเหอจะล่มสลาย? แล้วเข้าสู่ยุคเข็ญ? คำทำนายชี้แบบนั้นงั้นเหรอ?
หรือว่า…เพราะในเกมมันเป็นแบบนั้น?
ใน พงศาวดารตำนานจอมกระบี่ อีกสิบปีจะเกิดกลียุค นั่นคือสิ่งที่ถูกตั้งค่าไว้
และคำทำนายก็คือการอ่านคลื่นของโลก เพราะฉะนั้นถึงมีผลลัพธ์แบบ “แคว้นหลานเหอจะล่ม” ปรากฏออกมา
แต่ถ้ามีคนเชื่อข่าวลือนี้…มันก็อาจกลายเป็นจริงขึ้นมาได้?
‘แต่ข้าไม่เชื่อคำทำนายหรอก
ข้าไม่เชื่อว่าโชคชะตามีอยู่จริง
เจ้ากับฮวาหยางเป็นผู้พิสูจน์เรื่องนี้
ในอดีต ผู้ฝึก วิชาสัตตเทวชักนำพลัง กับ วิชากระบี่ห้าสัตว์เทพ ต่างก็แข่งขันและทะเลาะกันเสมอ
แม้แต่รุ่นอาจารย์ของข้าก็เช่นกัน
แต่เจ้าและฮวาหยางกลับสนิทสนมกันดี น้องสาวของเจ้าที่ฝึก สัตตเทวชักนำพลัง กับเจ้า ก็เช่นเดียวกัน
เจ้าทั้งสองได้เปลี่ยน ‘ชะตากรรม’ ที่ว่าศิษย์ทั้งสองของสายวิชานี้ต้องเป็นศัตรูกันได้
ข้าจึงเชื่อว่าแม้แต่ชะตาของแคว้นหลานเหอก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
เพื่อสิ่งนั้น ข้าจะออกเดินทาง
ไปตามรอยเบาะแสขององค์กรลึกลับที่ปล่อยข่าวลือนั้น’
…ท่านอาจารย์
‘เทียนฟาง เจ้ายังคงต้องฝึกฝนต่อไปเช่นเดิม
และจงเดินทางไปแคว้นโซมะกับฮวาหยาง
แม้จะเป็นแคว้นใหม่ แต่ก็มีจอมยุทธ์ฝีมือดีมากมาย
ที่นั่น เจ้าอาจได้พบผู้ที่สามารถชี้แนะการควบคุมพลังภายในของเจ้าได้ดียิ่งขึ้น
ที่จริงแล้ว ข้าให้เจ้าและฮวาหยาง รวมถึงน้องสาวของเจ้าฝึก สัตตเทวชักนำพลัง ก็เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “พลังเทียนหยวน” ซึ่งเป็นสุดยอดเคล็ดลับของวิชานี้
เมื่อชายหญิงฝึก สัตตเทวชักนำพลัง ร่วมกัน พลังหยินหยางจะหลอมรวมและก่อเกิดเป็นพลังภายในที่แข็งแกร่งที่สุด
เจ้าและน้องสาวฝึกเคล็ดนี้ร่วมกันโดยไม่รู้ตัว ทำให้พลัง “เทียนหยวน” ถือกำเนิดขึ้นในตัวพวกเจ้า
และเนื่องจากเดิมเจ้ามีพลังภายในน้อยมาก การฝึกร่วมกับน้องสาวจึงทำให้เกิด “เทียนหยวน” บริสุทธิ์ในตัวเจ้า
คนปกติฝึกด้วยกันจะเปลี่ยนเพียงบางส่วนของพลังภายในเท่านั้น แต่เจ้ากลับแตกต่าง—ร่างกายเจ้าถูกหล่อเลี้ยงด้วยพลังเทียนหยวนล้วนๆ
เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เจ้าคือคนแรกในภพหล้านี้—น่าทึ่งยิ่งนัก
และเพื่อเพิ่มพลังนั้น ข้าจึงให้เจ้าฝึกกับฮวาหยางด้วย’
…หา?
เอ่อ…ท่านอาจารย์ขอรับ อย่าบอกนะว่าเอาข้ากับพี่เสี่ยวหวงไปทดลอง!?
‘ขอโทษด้วย…ในฐานะจอมยุทธ์ ข้าทนไม่ได้จริงๆ
ถ้าจะกล่าวว่าข้าทดลองกับร่างกายมนุษย์ ข้าก็ไม่อาจปฏิเสธได้หรอก’
…ตรงไปตรงมาสุดๆ
‘แต่จากนี้ไป เจ้าจำเป็นต้องมีผู้ชี้แนะที่แตกต่างจากข้า
ไม่ใช่แค่เทคนิคยุทธ์ แต่เป็นเรื่องของพลังภายในด้วย
จงไปที่แคว้นโซมะ แล้วหาผู้ชี้แนะคนใหม่เสีย
กระบี่ที่ข้ามอบให้เจ้า มีชื่อว่า “กระบี่ไป่หลิน”
เป็นกระบี่ที่อาจารย์ของข้าสร้างขึ้นเพื่อทนทานต่อพลังเทียนหยวน
บางทีอาจมีแต่เจ้าคนเดียวที่สามารถชักมันออกได้
ข้าฝากด้วยนะ
และสุดท้าย ข้าในฐานะอาจารย์ มีคำหนึ่งจะมอบให้เจ้า
“ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า”
ข้าเชื่อเช่นนั้น
แล้วเราจะได้พบกันอีก
เหลยกวง
หรืออีกนามหนึ่ง… เซินอวี่’
“…เฮ้อ…”
…จดหมายนี่—เอาไว้ให้พี่เสี่ยวหวงอ่านไม่ได้เด็ดขาด
นางยังเคารพอาจารย์อยู่มาก
ถ้ารู้ว่าโดนลากมาร่วมทดลองสร้าง “พลังเทียนหยวน” เข้าล่ะก็…คงตกใจแน่ๆ
แต่เรื่ององค์กรใต้ดินนั่นควรบอกให้นางได้รู้
พวกมันอาจเกี่ยวข้องกับการรุกรานของชนเผ่าจิ่นจิ้งก็ได้
พวกมันอาจจะยื่นมือเข้ามาในแคว้นโซมะแล้วด้วย
เสี่ยวหวงเป็นเจ้าหญิง ควรรู้เรื่องนี้ไว้
“กระบี่นี่…อาจารย์บอกว่ามีแค่เราที่ชักออกได้”
ข้าเอื้อมมือไปแตะกระบี่ในกล่อง
ดูเหมือนกระบี่ธรรมดา เบากว่ากระบี่ที่ใช้ประจำเล็กน้อย
มีชื่อสลักตามที่อาจารย์เคยบอกไว้—“กระบี่ไป่หลิน”
…หือ? “กระบี่ไป่หลิน”?
นี่มันไม่ใช่ไอเท็มสำหรับไว้ขายเหรอเนี่ย?
ในเกม มันเป็นไอเท็มที่ใครก็ใช้ไม่ได้ เลยมีไว้ขายอย่างเดียว
ปกติจะขายได้เงินดี แล้วไว้ค่อยไปซื้อของสวมใส่อื่นแทน
ข้าลองจับด้าม…แล้วก็ดึงออกมาได้ง่ายๆ
จริงเหรอเนี่ย ที่บอกว่ามีแค่เราชักได้? ไว้ให้พี่เสี่ยวหวงลองดูภายหลังดีกว่า
“…อย่างน้อยก็ตัดธงตายของพี่ชายทิ้งได้แล้ว…มั้งนะ”
ในเกม พงศาวดารตำนานจอมกระบี่ ไม่มีชื่อหวงไห่เหลียงอยู่เลย
น่าจะโดนเซิงไท่เจี่ยเล่นงานเข้าให้
ถ้าตอนนั้นข้าไม่เข้าไปขวาง พี่ชายคงโดนหอกเสียบไปแล้ว
ถ้าเขาตาย ทหารรอบตัวก็คงแตกตื่น
ผลที่ตามมา—องค์รัชทายาทหลางเหยียนอาจโดนชนเผ่าจิ่นจิ้งจับตัว
แล้วใช้เป็นตัวประกันแลกเงินหรือดินแดน นั่นคงเป็น “ประวัติศาสตร์ดั้งเดิม”
ถ้าองค์รัชทายาทถูกจับ ท่านพ่อก็คงโดนตำหนิอย่างหนัก
อาจไม่ถึงตาย แต่คงไม่รอดปลดตำแหน่งแน่
ยิ่งไปกว่านั้น การตกเป็นเชลยอาจทำให้หลางเหยียนมีปม
นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เขาหลงใหลซิงเล่ยจนถอนตัวไม่ขึ้น
“…หวังว่า องค์ชายหลางเหยียนจะเปลี่ยนแปลงได้บ้าง”
ยังพอมีความหวังอยู่
เพราะพี่ชายรอด และอยู่เคียงข้างเขา
ถ้าเป็นพี่ชาย อาจทำให้เขาเปลี่ยนไปได้
ข้าเองก็จะคอยช่วยอยู่ห่างๆ
ขณะกำลังคิดเช่นนั้น…
“…พี่ชาย ขอรบกวนสักครู่ค่ะ”
เสียงของซิงเล่ยดังมาจากทางเดิน
“เข้ามาสิ”
“ขออภัยที่รบกวนค่ะ พี่ชาย”
ซิงเล่ยในวันนี้ใส่ชุดที่ต่างไปจากปกติ
เป็นชุดออกงานที่ดูคล้ายกี่เพ้า
“…ซ้อมใส่ชุดไปออกงานค่ะ”
นางพูดพลางทำหน้าขวยเขิน
“เพราะอยากช่วยเหลือตระกูลหวงให้ได้บ้าง เลยต้องฝึกเข้าสังคมค่ะ ช่วยดูให้หน่อยนะคะ”
“น่ารักดี”
“…เอะเฮะ”
นางนั่งลงข้างๆ ข้าอย่างอารมณ์ดี
แล้วเอนตัวพิงมาอย่างไว้วางใจ
“พี่ชายคะ…”
“อะไรเหรอ?”
“หลังจากกลับไปเมืองเป่ยหลิน…พี่จะต้องไปแคว้นโซมะใช่ไหมคะ?”
“ยังไม่ทันทีหรอก ต้องรอท่านเหลียวหยวนกลับมาก่อน”
“…คงอีกนานกว่าจะได้เจอกันอีกสินะคะ…”
“ก็ใช่”
ไป-กลับแคว้นโซมะใช้เวลาเกินครึ่งเดือน
ไปส่งแม่ของพี่เสี่ยวหวง แล้วยังต้องทำความเคารพญาติผู้ใหญ่…อย่างเร็วก็เกินเดือนแน่
“…รู้สึกเหงาเลยค่ะ”
“ซิงเล่ยก็จะกลับเป่ยหลินใช่ไหม?”
“ค่ะ”
“งั้นก่อนออกเดินทาง มาพูดคุยกันให้มากๆ เถอะนะ”
“ค่ะ พี่ชาย”
ดีจัง ที่นางยิ้มได้
ครั้งนี้ซิงเล่ยช่วยได้เยอะ
เพราะนางใช้นกพิราบแจ้งข่าวให้ท่านพ่อได้ทันเวลา
“ว่าแต่…ข้ามีเรื่องอยากเสนอค่ะ พี่ชาย”
“เสนอ?”
“เรื่อง สัตตเทวชักนำพลัง น่ะค่ะ การฝึกให้เข้าถึงจิตของสัตว์ จะยิ่งได้ผลดียิ่งขึ้นใช่ไหมคะ?”
“ก็…ใช่”
“งั้นถ้าเราแต่งตัวให้คล้ายสัตว์มากขึ้นล่ะคะ? อาจช่วยให้ฝึกได้ผลยิ่งขึ้นก็ได้”
“แต่งตัวคล้ายสัตว์…”
“ค่ะ พี่ชาย ก่อนออกเดินทาง…คือ…ถ้า…”
“เทียนฟาง ขอรบกวนหน่อยได้ไหม?”
เสียงอีกเสียงดังขึ้นจากหลังประตู
“อ๊ะ ได้ขอรับ ศิษย์พี่…”
“หืม? มีคนอยู่ด้วยเหรอ? งั้นขออนุญาตนะ”
…สมกับเป็นพี่เสี่ยวหวง
แค่ได้ยินข้าเรียก “ศิษย์พี่” ก็รู้ว่ามีคนอื่นอยู่ในห้อง
ประตูเปิดหลังเว้นจังหวะเล็กน้อย เผยให้เห็นร่างของพี่เสี่ยวหวง
“อ้าว เทียนฟาง เด็กคนนี้…ใช่น้องสาวของเจ้านี่นา”
“เราเคยเจอกันแล้ว ข้าชื่อซิงเล่ยค่ะ”
“งั้นหรือ? งั้นก็ขอแนะนำตัวอีกครั้งละกัน”
พี่เสี่ยวหวงพยักหน้าอย่างพอใจ
“ข้าชื่อ ชุ่ยฮวาหยาง เป็นศิษย์ของอาจารย์เหลยกวงเช่นเดียวกับเทียนฟาง เป็นศิษย์พี่ของเขาน่ะ”
“ไม่ใช่ ศิษย์พี่หญิง หรือคะ?”
คำพูดของซิงเล่ย ตรงและไม่ลังเลเลยสักนิด
“…พูดอะไรน่ะ ซิงเล่ย”
“…ดูก็น่าจะรู้นะ? ว่าข้าเป็นผู้ชาย”
“ไม่ใช่ค่ะ”
แต่ซิงเล่ยส่ายหน้าเบาๆ
“ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่รู้สึกได้ว่าท่านคล้ายๆ กับข้า แล้วก็…เด็กพวกนี้ก็บอกว่า ‘ท่านชุ่ยฮวาหยางเป็นผู้หญิง’ เหมือนกันค่ะ”
“เหมียว~” “คุรุ่~”
แมวดำกับพิราบขาวมารอบตัวซิงเล่ยตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย…
…พวกเธอคงมีสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างผ่าน สัตตเทวชักนำพลัง กับข้าเหมือนกัน
“…อืม ใช่แล้วล่ะ”
จู่ๆ เสี่ยวหวงก็ตอบรับ
“ข้าเป็นผู้หญิง แต่ถ้าเก็บเป็นความลับให้ ก็จะดีใจมากเลย”
“ศิษย์พี่?”
“ไม่เป็นไรหรอก เทียนฟาง เด็กคนนี้…ข้าอยากให้นางรู้ตัวจริงของข้า”
นางทำหน้าราวกับตัดสินใจได้แล้ว
“ข้าชื่อ เสี่ยวหวงฮวา เป็นศิษย์พี่หญิงของพี่ชายเจ้า
เป็นผู้ร่วมฝึกยุทธ์เคียงข้างกัน
ช่วงนี้จะขอยืมตัวเขาไปก่อนก็จริง แต่ไม่ต้องห่วง
จะส่งเขากลับมาแน่นอน ข้าไม่โกหก
เพราะครอบครัวของเจ้า…ก็เหมือนครอบครัวของข้าเช่นกัน”
“ขอบคุณค่ะ ท่านเสี่ยวหวงฮวา”
ซิงเล่ยแสดงท่าทีอ่อนน้อม ทำความเคารพอย่างสง่างาม
“ขอบคุณที่เชื่อใจข้าค่ะ ข้าจะรักษาความลับไว้ให้อย่างแน่นหนา”
“อืม ข้าเชื่อเจ้า
เพราะเจ้าเป็นน้องสาวของเทียนฟาง เป็นครอบครัวของเขา”
“ไม่ค่ะ ข้าเป็นบุตรบุญธรรมของตระกูลหวง
ข้ายังใช้นามสกุลเดิมของข้าอยู่…ตระกูลหลิว”
“งั้นเหรอ?”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าตัดสินใจไว้แล้ว”
“เข้าใจแล้ว งั้นก็แสดงว่าไม่ได้เป็นพี่น้องที่ใช้นามสกุลเดียวกันสินะ”
“ใช่ค่ะ ข้าขอแนะนำตัวอีกครั้งอย่างเป็นทางการ”
ซิงเล่ยจ้องมองพี่เสี่ยวหวงด้วยแววตาแน่วแน่ แล้วกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า
“ข้าชื่อหลิวซิงเล่ย เป็นบุตรีแห่งตระกูลหลิว และแม้จะใช้นามสกุลต่างจากท่านพี่เทียนฟาง แต่ข้าก็เป็นคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดเขาที่สุด ข้าเป็นน้องสาวของเขา และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบผู้ฝึกวิชายุทธ์ร่วมกันกับพี่ชาย ข้าขอร้องในฐานะคนในครอบครัวของเขา ช่วยเป็นมิตรที่ดีต่อเขาด้วยนะคะ”
อืม… ดูท่าจะเข้ากันได้ดี แสดงว่าคงไม่เป็นไรแล้ว
…แค่สองคนนี้จ้องตากันนานไปหน่อยนี่สิ มันน่ากังวลเล็กน้อยจริงๆ
หลังจากที่ทั้งคู่แนะนำตัวกันเสร็จ เราก็ได้น้ำชามานั่งจิบ พักผ่อนกันสบายๆ──
จากวันรุ่งขึ้น ข้ากับซิงเล่ยก็ฝึก สัตตเทวชักนำพลัง กันทั้งเช้าและเย็น ส่วนช่วงกลางวันข้าก็ฝึก กระบี่ห้าสัตว์เทพ กับพี่เสี่ยวหวง──
แล้วพอทุกอย่างพร้อมดี เราก็เดินทางกลับสู่เมืองเป่ยหลินอีกครั้ง
MANGA DISCUSSION