──กองทัพของ แม่ทัพพยัคฆ์เวหา หวงอิ๋งเซิน──
“เป็นไปตามข้อมูลของเทียนฟางจริงๆ”
หวงอิ๋งเซิน บิดาของเทียนฟาง จ้องมองกองทัพของเผ่าจิ่นจิ้งที่กำลังล่าถอย
แม้จะรีบเร่งมาอย่างเต็มที่ แต่ฝ่ายศัตรูก็เคลื่อนไหวเร็วเช่นกัน
ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็สามารถทลายแผนการของศัตรูและขับไล่กองทัพได้ นับว่าเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
“แต่ ซิงเล่ย เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องตามมาด้วยหรอกนะ”
อิ๋งเซินหันไปถามหญิงสาวข้างตัว──ซิงเล่ย
“นกพิราบของเจ้าส่งสารจากเทียนฟางมาให้พ่อ นั่นทำให้เราทราบตำแหน่งของศัตรู เจ้าทำหน้าที่ได้ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองหรอก”
“…ก็พี่เทียนฟาง เหมือนจะกำลังสู้ด้วยเหมือนกันนี่คะ”
ซิงเล่ยตอบเบาๆ
บนไหล่ของนางมีนกพิราบขาวเกาะอยู่ เป็นตัวเดียวกับที่ฝากไว้กับไห่เหลียง
มันได้นำสารจากเทียนฟางมาถึงครึ่งวันก่อนหน้านี้
ในจดหมายนั้นกล่าวถึงการที่ไห่เหลียงเข้าปะทะกับศัตรู และข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าจิ่นจิ้ง
รวมถึงการคาดการณ์ของเทียนฟางว่ากองทัพหลักของศัตรูอาจเคลื่อนตัวมาถึงชายแดนแล้ว
อิ๋งเซินใช้ข้อมูลนั้นระบุตำแหน่งของข้าศึกได้ไม่ยาก
เพราะนกพิราบยังได้นำสำเนารายงานจากลูกน้องของอ๋องเหลียวหยวนมาด้วย
ในนั้นสรุปย่อถึงจุดที่เผ่าจิ่นจิ้งปลอมตัวเป็นโจรและปรากฏตัว
ด้วยข้อมูลนี้ อิ๋งเซินจึงสามารถระบุตำแหน่งศัตรูได้อย่างแม่นยำ
“ถึงขนาดทิ้งอาวุธ เสบียง ปศุสัตว์ และม้าไว้ หนีกระซัดกระเซิงกันหมด คงไม่สามารถบุกมาได้อีกพักใหญ่เลยล่ะ”
โดยเฉพาะการได้ม้ามานั้นถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่
สำหรับเผ่าจิ่นจิ้ง ม้าเปรียบเสมือนเพื่อนและพาหนะหลัก
แถมยังมีเสบียงและปศุสัตว์ปริมาณมหาศาลที่ถูกทิ้งไว้ พวกมันคงลำบากมากกว่าจะรวบรวมมาได้
พวกมันสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไปทั้งหมด
จนกว่าจะถึงฤดูเก็บเกี่ยวครั้งถัดไป คงไม่อาจเคลื่อนไหวทางทหารครั้งใหญ่อีก
การที่ศัตรูเตรียมการณ์มาอย่างรอบคอบ แสดงว่าพวกมันตั้งใจจะบุกอาณาจักรหลานเหอเต็มกำลัง
การขัดขวางไว้ได้ล่วงหน้า นับว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่ง
“ทั้งหมดนี้ก็เพราะเทียนฟางล้มศัตรูได้กระมัง…แต่…”
ตั้งแต่เมื่อใดกัน ที่เทียนฟางฝึกฝนจนแกร่งถึงเพียงนี้?
เมื่อครึ่งปีก่อน เขายังอ่อนแอถึงขั้นจับสัมผัสพลังภายในไม่ได้
แต่ตอนนี้กลับสามารถล้มแม่ทัพของเผ่าจิ่นจิ้งได้
แม้จะรู้ว่าเขาเคยฝึกกับแขกของอ๋องเหลียวหยวน แต่การเติบโตเช่นนี้ ช่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
“พี่ชายของข้า…ต้องมีพรสวรรค์อันล้ำเลิศแน่ๆ ค่ะ”
จู่ๆ ซิงเล่ยก็พูดขึ้นมา
“ข้าอยากรับใช้ท่านพี่ตลอดไป ข้าเชื่อว่าท่านพี่จะเป็นบุคคลที่เปลี่ยนแปลงแผ่นดินได้ ข้าอยากช่วยเหลือเขาให้ได้มากที่สุด”
“อืม…แต่พระอนุชากษัตริย์ก็เหมือนจะจับตามองเทียนฟางอยู่เหมือนกันนะ”
“พระอนุชา…ก็ด้วยหรือคะ?”
“ใช่ พระองค์ตรัสว่าต้องการส่งเทียนฟางไปเป็นทูตต่างแดน อยากให้ร่วมเดินทางไปกับขุนนางสำคัญ จะปฏิเสธก็ยาก”
“……ข้าก็อยากไปด้วย”
“นั่นคงลำบาก เพราะมันเป็นภารกิจสำคัญของชาติน่ะ”
“อย่างนั้นหรือคะ…”
“ซิงเล่ย เจ้าต้องการรับใช้เทียนฟางขนาดนั้นเลยหรือ?”
“ค่ะ ท่านพ่อ”
“งั้นหรือ…ว่าแต่…นี่เป็นคำถามจากอวี่ซื่อน่ะ ‘เจ้าพอใจแค่ได้รับใช้เทียนฟางงั้นหรือ?’ นางอยากให้เจ้าคิดคำตอบไว้ก่อนกลับถึงเมืองเป่ยหลิน…หืม? ทำไมทำหน้านั้นล่ะ? อะไรนะ? ‘ท่านแม่อวี่ซื่อขี้แกล้ง’ เหรอ?…งั้นเหรอ? อืม…พ่อเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะ…”
──ผลการต่อสู้ระหว่าง แม่ทัพพยัคฆ์เวหากับเผ่าจิ่นจิ้ง ณ แดนเหนือ จบลงด้วยชัยชนะของแม่ทัพพยัคฆ์เวหา
เผ่าจิ่นจิ้งสูญเสียอาวุธ ม้า เสบียงจำนวนมาก เหลือกำลังเพียงน้อยนิด
ที่สำคัญ แม่ทัพผู้เก่งกล้า เซิงไท่เจี่ย ต้องสูญเสียแขนข้างหนึ่ง เป็นเหตุให้เผ่าจิ่นจิ้งหวั่นไหว
จากนั้น เสียงเรียกร้องสันติภาพกับอาณาจักรหลานเหอจึงเริ่มแพร่กระจายภายในเผ่าจิ่นจิ้ง
แต่ “ผู้ดูดาว” ของเผ่าจิ่นจิ้งยังกล่าวว่า
“ดาวแห่งชาติมหาอำนาจกำลังร่วงโรย ชะตากรรมแห่งการล่มสลายของหลานเหอ ไม่อาจเปลี่ยนแปลง”
──ราวกับว่าทุกอย่างถูกกำหนดไว้แต่ต้น
──ภายในสิบปี จะเกิดความวุ่นวายใหญ่ในหลานเหอ เป็นโอกาสให้เผ่าจิ่นจิ้งบุกลงใต้
แม้แต่คำทำนายทุกแขนงในหลานเหอ ต่างก็ให้ผลเช่นเดียวกัน
──“หลานเหอกำลังถึงคราววิกฤติ”
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้สาเหตุ แต่ข่าวลือยังคงแพร่สะพัดในหมู่ผู้คนต่อไป…
MANGA DISCUSSION