“ขอโทษนะ ที่เผลอแสดงท่าทางแปลกๆ ไป”
หลังจากแม่ของศิษย์พี่ฮวาหยางหลับไป พวกเราก็ออกจากคฤหาสน์
เพื่อจะไปแจ้งอาจารย์ว่าขอหยุดพักฝึกในวันนี้
เพราะในสภาพแบบนี้ คงไม่มีใครมีจิตใจจะฝึกได้หรอก
“แล้วก็… ขอโทษด้วยนะ จากที่ท่านแม่พูดเมื่อครู่ เจ้าคงพอเข้าใจแล้วล่ะ ว่าจริงๆ แล้ว ข้าไม่ใช่นักเรียนแลกเปลี่ยน”
“หา?”
“ข้าเป็นตัวประกันที่แคว้นโซวมะส่งมาให้หลานเหอ ทางท่านเหลียวหยวนช่วยจัดการให้ภายนอกดูเหมือนว่าข้าเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ถึงได้เดินเที่ยวในเมืองอย่างอิสระแบบนี้ได้”
ดูเหมือนศิษย์พี่ฮวาหยางจะมาจากตระกูลขุนนางในแคว้นโซวมะ
แต่เพราะแม่มีฐานะต่ำ ตอนที่ทางโซวมะตัดสินใจส่งตัวประกันให้แคว้นหลานเหอ ศิษย์พี่ก็เลยถูกเลือก
“ถึงจะเรียกว่าตัวประกัน แต่ก็ไม่ใช่ถูกกักขังอะไรนะ แค่ข้ากับแม่ต้องมาอยู่ที่นี่ เพื่อเป็นสัญญาว่าโซวมะยอมอยู่ใต้ร่มธงของหลานเหอ”
ศิษย์พี่ฮวาหยางอธิบาย
“โซวมะคงต้องการแสดงความภักดีต่อมหาอำนาจเพื่อความมั่นคง ถ้าโชคดีอาจได้รับการสนับสนุนจากหลานเหอด้วย ส่วนฝั่งหลานเหอ ถ้าปฏิบัติต่อตัวประกันอย่างให้เกียรติ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของชาติล่ะนะ”
“ทั้งสองแคว้นก็ดูจะสัมพันธ์ดีอยู่แล้วนี่ขอรับ”
“ใช่ นั่นแหละถึงได้มีการจัดข้าให้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ทางท่านเหลียวหยวนก็ยังหาอาจารย์ด้านวรยุทธ์ให้ด้วย แน่นอน มีเงื่อนไขว่า ข้าต้องเป็นประโยชน์ต่อหลานเหอ”
“…อย่างนี้นี่เอง”
“แล้วทำไมเจ้าถึงทำหน้าหมองแบบนั้นล่ะ เทียนฟาง?”
ศิษย์พี่มองหน้าข้าแล้วยิ้มบางๆ
“เจ้ากำลังคิดว่า ‘ข้าไปแทรกแซงเส้นทางของศิษย์พี่’ อยู่ล่ะสิ?”
“รู้ด้วยเหรอขอรับ”
“ก็เจ้าน่ะ คือเทียนฟางนี่นา”
“แต่ก็จริงไม่ใช่เหรอขอรับ ศิษย์พี่อุตส่าห์เดินทางมาไกล จนได้เป็นศิษย์ของอาจารย์เหลยกวง แล้วข้าก็โผล่มาแทรกกลาง”
“แต่ข้ากลับดีใจที่ได้เป็นศิษย์พี่ของเจ้านะ”
“ข้าเองก็ยินดีมากที่ได้เป็นศิษย์น้องของศิษย์พี่ฮวาหยาง”
“งั้นก็จบกันแล้วไง”
“แต่ว่า… แม่ของศิษย์พี่ดูเป็นห่วงอยู่ไม่ใช่เหรอขอรับ?”
ข้าพูดออกไแ
“แม่ของศิษย์พี่ถึงขนาดไปขอความช่วยเหลือจากท่านเหลียวหยวนเลย นั่นก็หมายถึงตอนหลังจากที่ ‘หน้าที่’ เสร็จสิ้นใช่ไหมครับ แม่ศิษย์พี่คงคิดว่าข้าอาจจะแย่งสิทธิ์นั้นไป?”
“ไม่ใช่หรอก… ท่านแม่เป็นแบบนั้น เพราะได้รับจดหมายจากท่านพ่อน่ะ”
ศิษย์พี่หันมองฟ้าทางทิศใต้
ท้องฟ้าในยามกลางวันที่ปลอดโปร่งไร้เมฆ
เขายกมือบังแสงแดด สายตาเหม่อมองไปไกล
“ดูเหมือนหนึ่งในอนุภรรยาของท่านพ่อจะคลอดลูก ท่านพ่อคงเขียนจดหมายมาเพราะอยากแบ่งปันข่าวดี แต่มันกลับทำให้ท่านแม่ไม่สบายใจ คงคิดว่าตัวเองกำลังจะถูกทอดทิ้ง… ก็เลยดื่มหนัก แล้วถึงเป็นแบบนั้น”
ศิษย์พี่ยิ้มเศร้า
“ท่านพ่อเขียนจดหมายมาแสดงว่ายังไม่ลืมเรา แต่ท่านแม่กลับไม่คิดแบบนั้น ท่านแม่คงกลัวที่จะต้องห่างจากท่านพ่อมากเกินไป… มันช่างน่าขัน ทั้งที่ข้าไม่มีทางได้เป็นทายาทอยู่แล้วแท้ๆ”
“…ข้าเข้าใจสถานการณ์ของศิษย์พี่แล้วขอรับ”
ศิษย์พี่ต้องผ่านอะไรมามากจริงๆ
ข้าเคารพเขา และก็อยากจะช่วยเขา
แต่… ข้ามีเวลาจะไปห่วงคนอื่นเหรอ?
ข้าน่ะ มีชะตาถูกประหารในฐานะ “มหาวายร้ายแห่งใต้หล้า”
แค่ช่วยซิงเล่ยครั้งก่อน นางก็หลุดจากเส้นทางที่จะเข้าวังแล้ว
แต่มันก็ยังมีโอกาสที่ ‘ฉากจุดจบหายนะ’ จะเกิดขึ้นอยู่ดี
ถ้าจะช่วยคนอื่น ต้องแน่ใจก่อนใช่ไหมว่า ‘ฉากจุดจบหายนะ’ นั้นถูกป้องกันไว้แล้ว…
──แต่ให้ไปรอถึงวันนั้น… มันเมื่อไหร่กันล่ะ?
ข้าหัวเราะให้กับความคิดตัวเอง
พงศาวดารตำนานจอมกระบี่ มันจะเริ่มต้นในอีกสิบปี
แสดงว่า จะรู้ว่า ‘ฉากจุดจบหายนะ’ ถูกเลี่ยงได้จริงไหม ก็คงต้องรอไปอีกนาน
ข้าจะใช้เวลาทั้งหมดแค่เพื่อหลีกเลี่ยงจุดจบหายนะ?
ทิ้งคนที่ข้าเรียกว่า ‘ศิษย์พี่ที่เคารพ’ ได้ลงคอ?
…ไม่มีทาง
แบบนั้นมันก็ไม่ต่างจาก “หวงเทียนฟาง” ในเกม ที่มีชีวิตเพื่อตัวเองคนเดียวเลยไม่ใช่เหรอ?
“ข้าอยากช่วยศิษย์พี่ขอรับ”
ข้าหันหน้าไปมองศิษย์พี่ฮวาหยางตรงๆ
“ข้าคิดว่า… ศิษย์พี่คือ ‘เผิงโหย่ว’ ของข้าขอรับ”
“เผิงโหย่ว” คือคำในโลกนี้ที่หมายถึง ‘เพื่อนสนิทที่ใกล้ชิดยิ่งกว่าครอบครัว’
ใกล้ยิ่งกว่าคำว่า ‘เพื่อนรัก’ เสียอีก — เป็นมิตรภาพที่พร้อมปกป้องกันและกันแม้ต้องแลกด้วยชีวิต
“เผิงโหย่ว… อย่างนั้นเหรอ แต่ข้าเป็นคนต่างแคว้นนะ?”
ศิษย์พี่มองข้าด้วยสีหน้าตกใจ
“ข้าไม่ใช่คนของหลานเหอนะ ข้ามาจากแคว้นโซวมะที่ไกลแสนไกล—”
“ไม่เกี่ยวหรอกขอรับ”
ถ้าจะพูดแบบนั้น ข้าน่ะเป็นคนจากโลกอื่นเลยนะ
“ข้าเคารพศิษย์พี่มากขอรับ ดีใจที่ศิษย์พี่ยอมเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง ถึงช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ข้าก็อยากเป็นแรงเล็กๆ ที่ช่วยศิษย์พี่ได้บ้าง”
“…ขอบใจนะ เทียนฟาง”
ศิษย์พี่ยิ้มอายๆ ดวงตากลมโตของเขาเหมือนจะวาวเล็กน้อย
“จริงสิ เทียนฟางก็เป็นเผิงโหย่วของข้าเหมือนกัน ถึงเราสองจะเกิดต่างถิ่น แต่เราก็เรียนรู้จากอาจารย์คนเดียวกัน เป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้”
“ขอรับ ศิษย์พี่”
“อีกไม่นาน ท่านแม่และข้าคงจะต้องกลับไปยังแคว้นโซวมะ”
ศิษย์พี่กลับไปใช้สายตาเหม่อลอยอีกครั้ง
“…ตอนนั้น ข้ามีบางอย่างสำคัญที่อยากจะบอกเจ้า เพราะงั้น… ช่วยไม่ถามเรื่องของข้าอีกจนกว่าจะถึงตอนนั้น ได้ไหม?”
“แน่นอนขอรับ ถ้าเป็นสัญญาระหว่างเผิงโหย่ว ข้าจะรักษามันไว้แน่นอน”
“ขอโทษนะ บางอย่างในฐานะตัวประกัน ข้าพูดออกมาตรงๆ ไม่ได้จริงๆ”
“ไม่เป็นไรขอรับ ข้าเข้าใจดี คนเราต่างก็มีเรื่องที่บอกใครไม่ได้ทั้งนั้น”
“…เจ้านี่เข้าใจเร็วจริงๆ นะ”
แล้วพวกเราก็เริ่มเดินไปพร้อมกันอีกครั้ง
—
หลังจากนั้น พวกเราก็ไปหาท่านอาจารย์เหลยกวงเพื่อขอพักจากการฝึก
แต่พออาจารย์เห็นว่าลมปราณของศิษย์พี่ฮวาหยางปั่นป่วน
ก็เลยให้ทำ สัตตเทวชักนำพลัง เพื่อปรับสมดุล
อารมณ์ที่ปั่นป่วนจะส่งผลต่อกระแสลมปราณในร่าง
เพราะเรื่องของแม่ ศิษย์พี่เลยมีลมปราณที่ปั่นป่วน ซึ่งก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้
ผลคือ พวกเราต้องแปลงร่างเป็นสัตว์กันอีก
ไม่ว่าจะเป็นแมวขี้เล่น งูเจ้าเล่ห์ เต่าที่สงบ หรือไก่ที่ขันปลุกยามรุ่งอรุณ
พอแสดงอากัปกิริยาเป็นสัตว์ไปเรื่อยๆ ศิษย์พี่ก็ดูจะสงบลงบ้าง
“วันนี้เป็นวันพิเศษ ข้าจะทำซุปให้พวกเจ้าเอง”
หลังจากจบการฝึกชักนำลมปราณ อาจารย์ก็พูดขึ้น
“เป็นสูตรที่ข้าคิดขึ้นเองน่ะ น่าจะทำให้พวกเจ้ามีกำลังใจขึ้นนะ คาดหวังไว้ได้เลย!”
“ขอเวลาสักครู่ขอรับอาจารย์!”
“มีอะไรหรือ ฮวาหยาง?”
“ให้ข้าเป็นคนทำอาหารเถอะขอรับ”
“ข้าไม่อยากใช้งานศิษย์นอกเหนือจากการฝึกเท่าไหร่หรอกนะ ข้าก็พอจะทำกับข้าวได้นะ”
“แต่ข้าไม่อยากให้เทียนฟางป่วยเพราะอาหารของอาจารย์”
“ไม่ๆ ข้าตั้งใจจะให้กำลังใจก่อนพวกเจ้าจะออกไปทำภารกิจน่ะ—”
“อาจารย์ลืมแล้วเหรอขอรับ ว่าหลังจากซุปที่อาจารย์ทำให้ข้าครั้งก่อน ข้าต้องหยุดฝึกไปถึงห้าวัน…”
“อันนั้นข้ายอมรับว่าเป็นสูตรล้มเหลว แต่คราวนี้ ข้ามีสัญชาตญาณของจอมยุทธ์—”
“อาหารไม่ควรใช้สัญชาตญาณครับ ในฐานะเผิงโหย่ว ข้ามีหน้าที่ต้องปกป้องลำไส้ของเทียนฟาง”
“…เผิงโหย่วเหรอ?”
“ขอรับ ต่อให้อาจารย์ไม่พอใจ ข้าก็จะปกป้องเพื่อนให้ได้”
“…………ก็ได้ ถ้าเจ้าพูดถึงขนาดนั้น”
“เอ่อ… อาจารย์ ศิษย์พี่”
เห็นอาจารย์ห่อไหล่ทำหน้าหม่น ข้าก็ทนดูไม่ได้เลยยกมือขึ้น
“ฝีมือทำอาหารของอาจารย์นี่…”
“ในโลกนี้ ยังมีเรื่องที่ไม่รู้จะดีกว่านะ”
“…ขอรับ ศิษย์พี่”
“…………อืม งั้นฝากเจ้าด้วยนะ ฮวาหยาง”
แล้วอาจารย์ก็ไปนอนฟุบอยู่บนเก้าอี้ยาวทันที
แต่พอได้กลิ่นกับข้าวของศิษย์พี่ ก็รีบเด้งตัวลุกขึ้นทันที
แล้วพวกเราก็นั่งกินอาหารฝีมือศิษย์พี่ด้วยกัน
พูดคุยกันไปพลาง พร้อมกับใช้เวลาช่วงสั้นๆ อย่างผ่อนคลายที่สุดในรอบหลายวัน
MANGA DISCUSSION