หลังจากที่เราได้รับบัตรผ่านมาแล้ว พวกเราก็เดินตามกาเน็ตเข้าไปยังส่วนลึกของ《ไม้เท้าเวทมิธริล》
พื้นห้องปูด้วยพรมหนานุ่ม ผนังประดับด้วยภาพวาดที่ให้กลิ่นอายหรูหรา
ข้าวของในตู้จัดแสดงก็ดูราวกับเป็นงานศิลป์ชั้นดีมากกว่าจะเป็นแค่วัตถุเวทมนตร์ธรรมดา
ที่นี่แตกต่างจากร้านขายของเวทที่พวกเราเคยเดินดูโดยสิ้นเชิง
บรรยากาศเงียบขรึม เต็มไปด้วยคนที่ดูเป็นนักวิจัยมากกว่าพ่อค้า
แม้พวกเขาจะพยักหน้าให้กาเน็ตอย่างนอบน้อม แต่กลับไม่แสดงท่าทีรังเกียจเราหรือมองพวกเราอย่างสงสัยเลย
ดูเหมือนฟิเลียจะยังช็อกอยู่จากคำพูดของพนักงานต้อนรับก่อนหน้านี้ที่ว่า “จะพาเด็กเข้ามาด้วยเนี่ยนะ?”
เธอจึงเงียบผิดปกติกว่าทุกที
“……ฟิเลียเป็นเด็กดีล่ะ”
“ขอบคุณนะ ช่วยได้มากเลย จริงๆ เราก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะดูทางการขนาดนี้ ขอโทษนะ”
ฉันลูบศีรษะของฟิเลียเบาๆ
เธอหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย
“เอะเฮะ… ฟิเลียโดนคานาตะชมด้วย~”
ความจริงฉันก็คิดว่าให้ฟิเลียรออยู่ข้างนอกน่าจะดีกว่า
เพราะจากท่าทีของพนักงาน ดูเหมือนเด็กจะไม่เป็นที่ต้อนรับเท่าไร
แต่ครั้งนี้… มันไม่ง่ายแบบนั้น
เพราะถ้าไม่มีฉันอยู่ด้วย โพเมร่าคงแยกแยะ《แร่อดามันไทต์》ไม่ได้แน่ หรือแม้แต่ถ้าจะให้ยืม《บันทึกความทรงจำแห่งอะคาเซีย》 แต่ตอนหาของไม่เจอก็ยังต้องหาของแทนอีก
จะปล่อยให้เธอรับผิดชอบทั้งหมดคนเดียวก็คงไม่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น กาเน็ตเองก็สนใจในตัวโพเมร่า
เขาต้องการพูดคุยกับเธอมากกว่ากับฉัน
ถ้าฉันแยกไปเอง อาจจะดูเสียมารยาท และทำให้เขารู้สึกไม่ดีได้
……และอีกเหตุผลหนึ่ง ฟิเลียเองก็อันตรายเกินกว่าจะปล่อยไว้กับคนแปลกหน้า
แม้เธอจะไร้เดียงสา แต่ถ้าปล่อยไว้ไม่ดูแล อาจมีกรณีโยนมังกรบรรพกาลทิ้งอีกก็ได้…
ระหว่างที่ฉันคุยกับฟิเลีย โพเมร่าก็ถูกกาเน็ตชวนคุยไม่หยุด
เธอตอบอย่างพยายามเต็มที่ และแอบส่งสายตามาหาฉันเป็นระยะราวกับขอความช่วยเหลือ
…เอ่อ เราควรจะเข้าไปช่วยเธอไหมเนี่ย
กาเน็ตสนใจคุยกับโพเมร่า ไม่ใช่ฉัน
ถ้าฉันแทรกมากไป อาจถูกมองว่าเป็นตัวขัดจังหวะก็ได้
จะไปทำให้เขาหงุดหงิดตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ระหว่างเดิน ฉันก็สังเกตสิ่งของที่จัดแสดงอยู่รอบตัว
แต่ละชิ้นมีป้ายรายละเอียดอธิบายไว้อย่างชัดเจน
《ไม้เท้าเวทมิธริล》แห่งนี้ แตกต่างจากร้านที่เราเคยไปมาโดยสิ้นเชิง นี่คือ “ของจริง”
ถ้าจะหาวัสดุเวทหายากล่ะก็… ต้องเป็นที่นี่แน่นอน
แต่อย่างไรก็ตาม—ก็มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง
“เอ่อ… กาเน็ตซังคะ คือพวกเราน่ะ มาที่นี่เพื่อดูว่ายังมีของที่เราต้องการมั้ย แต่จริงๆ แล้วตอนนี้ เราไม่ค่อยมีเงินน่ะค่ะ… ต้องขอโทษด้วย ที่ให้คุณลำบากมาแนะนำให้ในเวลาแบบนี้…”
แม้แต่ของระดับ D ยังมีราคาสูงถึงสามแสนโกลด์
《แร่อดามันไทต์》ที่เป็นของระดับ S อาจจะแพงกว่านั้นสองเท่า หรือแย่หน่อยอาจสูงเกือบล้าน
น่าเสียดาย… เงินที่เรามีอยู่ตอนนี้ ไม่พอแน่
“โอ้… อย่างนั้นหรือ แต่ถ้าท่านโพเมร่ายินดีล่ะก็ ฉันไม่ถือหรอกนะ ถ้าจะชำระเงินในครั้งถัดไปก็ได้ จริงๆ แล้วฉันเองก็อยากมีความสัมพันธ์ระยะยาวกับพวกคุณอยู่แล้ว”
กาเน็ตยังคงยิ้มอย่างใจดีเมื่อพูดออกมา
เป็นข้อเสนอที่น่าขอบคุณจริงๆ… แต่ในใจฉันรู้สึกว่าไม่ควรติดหนี้คนอย่างเขามากเกินไปนัก
“ว่าแต่ ท่านโพเมร่ากำลังมองหาอะไรอยู่หรือ?”
กาเน็ตถามโพเมร่า
“เอะ เอ่อ… ขอเป็นแร่ค่ะ… แบบนั้นใช่มั้ยคะ คานาตะซัง?”
โพเมร่าแอบหันมาทางฉัน
ฉันพยักหน้าเบาๆ ตอบรับ
กาเน็ตมองพวกเราด้วยสายตาครุ่นคิด ราวกับพยายามเดาความสัมพันธ์
แต่พอโพเมร่าหันกลับไปหาเขา กาเน็ตก็กลับมายิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แร่เหรอ ได้เลย! ที่นี่《ไม้เท้าเวทมิธริล》มั่นใจเรื่องการจัดหาแร่ที่สุดในเมือง ว่ากันว่า จำนวนและคุณภาพของจอมเวทที่เรามีเทียบชั้นกับกองนักเล่นแน่แปรธาตุในราชสำนักได้เลยล่ะ!”
เขาพูดอย่างภูมิใจเต็มเปี่ยม
หลังจากนั้น พวกเราก็เดินตามเขาขึ้นบันไดไปยังห้องหนึ่งบนชั้นสาม
“จริงๆ แล้วที่นี่จะให้เฉพาะคนในหรือคนที่ถือบัตรผ่านและมีความสัมพันธ์กับเรามากว่า 10 ปีเท่านั้นนะ…
แต่ด้วยสิทธิของฉัน จะเชิญท่านโพเมร่ากับคณะเข้ามาเป็นกรณีพิเศษ”
ภายในห้องกว้างขวาง มีตู้กระจกหลายตู้เรียงราย
แร่สีสันต่างๆ ที่จัดวางไว้อย่างงดงามดูราวกับนิทรรศการศิลปะ
“ว้าว… สวยจังเลย…!”
ฟิเลียหลุดเสียงออกมา แล้วก็รีบยกมือทั้งสองปิดปากราวกับนึกได้
“ใช่ไหมล่ะ? เราให้ความสำคัญกับการจัดวางมากเลยนะ ถ้ามีชิ้นไหนถูกใจ เดี๋ยวฉันจะให้ช่างทำเป็นสร้อยให้เป็นของขวัญเลย”
กาเน็ตโน้มตัวลงเล็กน้อย ยิ้มให้ฟิเลียอย่างอ่อนโยน
“จริงเหรอ!?”
ดวงตาของฟิเลียเปล่งประกายทันที
…แต่ผมรู้สึกเหมือนเลือดในร่างไหลย้อนกลับ
ของที่นี่บางชิ้นอาจมีราคาสูงถึงระดับล้านโกลด์
ต่อให้เขาจะใจดีแค่ไหน การสร้างหนี้บุญคุณขนาดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องดี
“ฟะ ฟิเลียจัง… อย่าดีกว่าเนอะ… เกรงใจท่านกาเน็ตเขาน่ะ…”
“……อืมม ถ้าคานาตะว่าอย่างนั้น ก็ได้”
“อะ เอาไว้ถ้าเรามีเงินมากพอเมื่อไหร่ จะซื้อให้เองเลยนะ”
“คานาตะจะให้ของขวัญเหรอ!? ฟิเลียจะรอนะ!”
ฟิเลียโบกแขนไปมาด้วยความดีใจ
แล้วก็รีบยกมือปิดปากอีกครั้งเหมือนเพิ่งนึกได้
“โฮ่โฮ่… พูดเสียงดังหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะตอนนี้ ไม่มีใครอยู่ในห้องนี้นอกจากพวกเราแล้ว”
MANGA DISCUSSION