“ไม่คาดคิดเลยว่า ท่านโพเมร่าจะมาถึงที่《ไม้เท้าเวทมิธริล》 ฉันไม่ได้มีธุระสำคัญอะไรหรอก เพียงแค่อยากพูดคุยเพื่อทำความรู้จักว่าท่านเป็นคนเช่นไร”
จอมเวทวัยกลางคน “กาเน็ต” กล่าวพลางยิ้มอ่อนโยนให้โพเมร่า
“มะ ไม่หรอกค่ะ…โพเมร่า…ไม่ใช่คนสำคัญอะไรเลย…แค่…เอ่อ…”
โพเมร่าตอบอย่างติดๆ ขัดๆ
ดูเหมือนเธอจะไม่รู้เลยว่าจะเริ่มพูดยังไงดี
กาเน็ตฟังคำของเธอแล้วตบมือดัง ปัง อย่างเบิกบาน
“โอ้! ฉันเคยได้ยินมาว่าท่านเป็นคนถ่อมตัว แต่ดูท่าจะจริงอย่างที่ล่ำลือ ท่านเป็นคนมีคุณธรรมจริงๆ แต่ก็อย่าถ่อมตัวเกินไปเลย การขับไล่《มนุษย์มังกรอสูร》ออกจากเมืองได้ มีคนในประเทศเราที่ทำได้สักกี่คนกัน ที่เมืองเวทมนตร์แห่งนี้ ซึ่งรวมตัวของจอมเวทชั้นแนวหน้า—เท่าที่ฉันรู้ ยังไม่มีใครทำได้เลยนอกจากท่าน”
ยิ่งกาเน็ตพูด สีหน้าเควินกับพนักงานก็ยิ่งซีดเหงื่อไหลท่วมตัว
“แต่…โพเมร่าว่าที่《มนุษย์มังกรอสูร》ถอยไป น่าจะมีสาเหตุอื่นมากกว่านั้นนะคะ…โพเมร่าแค่อยากลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด…ยังมีคนเก่งๆ อีกเยอะเลยค่ะ…อย่างเช่นแถวๆ นี้…”
โพเมร่าแอบชำเลืองมาทางฉันกับฟิเลีย
“หืม…ไม่สิ หากมีพลังขนาดนั้นแล้วยังไม่เป็นที่รู้จัก นั่นคงมีเหตุผลพิเศษอยู่ ฉันไม่คิดจะสอดรู้สอดเห็นหรอก โปรดวางใจ หากคำพูดของฉันทำให้รู้สึกไม่ดี ฉันขออภัยด้วย”
กาเน็ตก้มหัวให้ และถอนหายใจอย่างโล่งอก
“จริงๆ แล้ว ฉันแค่อยากแน่ใจว่า ท่านโพเมร่าไม่ใช่บุคคลอันตราย ในฐานะหนึ่งในตัวแทนของเมืองนี้ ฉันไม่มีเจตนาอื่นใดนอกจากนั้น เห็นท่านเป็นคนที่พอจะวางใจได้ ฉันก็โล่งใจแล้ว”
ตอนแรกฉันก็รู้สึกว่ากาเน็ตเคลื่อนไหวเร็วเกินไป แต่ดูเหมือนเขามองว่าโพเมร่าเป็นผู้มีพลังในระดับ S และอยากประเมินด้วยตนเอง
เขาคงกลัวว่าจะเกิดปัญหาระหว่างเมืองกับโพเมร่าก็เป็นได้
ในโลกนี้ ความเหลื่อมล้ำของพลังส่วนบุคคลนั้นสูงมาก
แม้แต่คนระดับ《นักบวชเทพมาร โนตส์》ก็ยังทำให้เมืองอาร์โลเบิร์กเกือบพินาศด้วยตัวคนเดียว
ความระมัดระวังจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
“อ่ะ ค่ะ…เข้าใจแล้วค่ะ…”
โพเมร่าตอบอย่างลังเล
เธอน่าจะกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะพูดถึงฉันหรือไม่ดี
เพราะหากเปิดเผยระดับพลัง ก็จะเสี่ยงถูกบุคคลที่แข็งแกร่งกว่าเล็งเป้า
ฉันเองก็รู้สึกลำบากใจ หากต้องให้โพเมร่ารับความเสี่ยงเพียงลำพัง จึงไม่แน่ใจว่าควรเปิดเผยดีหรือไม่
แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน คู่ต่อสู้ที่เล็งโพเมร่า ยังอยู่ในระดับที่ฉันรับมือได้
เรื่องของโพเมร่า แม้นอกอาร์โลเบิร์กจะมีคนรู้ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นแพร่หลาย
หากไม่จำเป็น ก็ไม่ควรสร้างความเสี่ยงเกินเหตุ
ผู้ที่อาจหมายหัวโพเมร่าคือระดับ “โลวิส”
แต่ถ้าเป็นฉัน จะถูกเล็งจากระดับ “โซโรฟิเลีย” หรือ “ลูนาเอล” แทน
“ท่านโพเมร่ามาที่《ไม้เท้าเวทมิธริล》เพื่อขอทำบัตรผ่านสินะ? สถานที่แห่งนี้คือหัวใจของเมือง มาตรการคัดกรองจึงเข้มงวด—โดยทั่วไปจะใช้เวลาตรวจสอบพอสมควร…แต่หากเป็นท่านโพเมร่า ฉันยินดีถือว่าเป็นคนรู้จักและย่นขั้นตอนให้มากที่สุด ท่านคิดเห็นอย่างไร?”
ฉันกลืนน้ำลาย
มันเป็นข้อเสนอที่ดีเกินกว่าจะปฏิเสธ
“แต่…คือว่า…พวกโพเมร่าไม่ค่อยรู้กฎที่นี่น่ะค่ะ…บัตรผ่านสำหรับคนนอก ถ้าไม่ใช่นักผจญภัยระดับ B ขึ้นไป ก็ยื่นไม่ได้ใช่มั้ยคะ?”
โพเมร่าเอ่ยถามอย่างสุภาพ
กาเน็ตขมวดคิ้วทันที หันขวับไปมองพนักงานต้อนรับ
“…ที่แท้ก็เพราะแบบนั้นเองรึ? ถึงปฏิเสธคำขอไป ข้าว่า…ท่านโพเมร่าออกจะถ่อมตัวเกินไป แต่เธอใช้คำพูดเสียมารยาทหรือเปล่า?”
“มะ ไม่ค่ะ! ฉันแค่…อธิบายกฎระเบียบเท่านั้น! ไม่รู้เลยว่า…จะเป็นท่านโพเมร่า!”
พนักงานรีบแก้ตัวหน้าซีดเผือด กาเน็ตหรี่ตามองอย่างเบื่อหน่าย แล้วหันกลับมาหาโพเมร่าด้วยรอยยิ้ม
“ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ท่านโพเมร่า…ที่มานาลาร์คแห่งนี้ มีหลายคนที่ยึดติดกับสายเลือดและชาติกำเนิด จึงมักปฏิบัติต่อคนนอกอย่างเย็นชา หวังว่าท่านจะไม่ได้รู้สึกไม่ดีนะ”
…อย่างนี้นี่เอง
ก่อนหน้านี้ฉันก็รู้สึกว่าร้านค้าต่างๆ ที่เกี่ยวกับไอเท็มเวทมนตร์ ไม่ค่อยต้อนรับเท่าไร
ที่แท้ก็เพราะทัศนคติของชาวเมืองเอง
พวกเขาคงภูมิใจในความเจริญด้านเวทมนตร์ จนมีท่าทีเย่อหยิ่งไปโดยไม่รู้ตัว
“ระดับนักผจญภัยของท่านยังไม่สูงมากใช่มั้ย? ไม่เป็นไรเลย ถือเป็นกรณีพิเศษ ฉันอยากให้ท่านใช้เวลาในเมืองนี้อย่างสะดวกสบายที่สุด”
กาเน็ตกล่าวกับโพเมร่าอย่างสุภาพ ต่างจากตอนพูดกับพนักงานโดยสิ้นเชิง
…จากท่าทีของกาเน็ต ฉันก็ได้แต่คิดว่า ผู้มีอำนาจในโลกนี้ช่างลำบากจริงๆ
“คานาตะซังเอง…ถ้าได้เข้าไปด้วยก็คงดีใจใช่มั้ยคะ?”
โพเมร่าหันมาถามฉัน
ฉันพยักหน้าเบาๆ อย่างเก็บอาการ
แต่ในใจคือดีใจจนแทบกระโดด
หากพลาดโอกาสครั้งนี้ ฉันอาจต้องออกตามหา《หยาดน้ำแห่งวิญญาณพฤกษา》ระดับ A และ《แร่ อดามันไทต์》ระดับ S ด้วยตัวเองเลยทีเดียว
“งั้น…กาเน็ตซังคะ ถ้าไม่รบกวน ขอให้ช่วยทำเรื่องให้ได้มั้นคะ? ไม่ใช่แค่โพเมร่า แต่รวมถึงคานาตะซังด้วย…”
“แน่นอน! หากเป็นคำขอจากท่านโพเมร่า ฉันยินดีจัดการให้ทั้งสามคนที่มาด้วยทันทีเลย!”
กาเน็ตยิ้มพยักหน้า
“ท่านกาเน็ต…รวมเด็กคนนั้นด้วยหรือคะ?”
พนักงานถามอย่างเกรงใจ
กาเน็ตตวัดตามองเธอโดยไม่พูดอะไร
“มะ ไม่มีอะไรค่ะ!”
พนักงานรีบถอนคำถาม ก้มหัวขอโทษทันที
…ไม่ว่าจะอย่างไร ต้องขอบคุณกาเน็ตที่ทำให้พวกเราสามารถเข้า《ไม้เท้าเวทมิธริล》ได้
ฉันถอนหายใจโล่งอก
“…เอ๊ะ? สามคน?”
แล้วฉันก็เพิ่งนึกขึ้นได้
ดูเหมือนเควินจะถูกนับรวมเป็นหนึ่งใน “ผู้ติดตาม” ของโพเมร่าด้วย
“ท่านกาเน็ต บุรุษผู้นั้นเป็นเพียงชาวเมืองที่รับหน้าที่นำทางเท่านั้นค่ะ”
พนักงานรีบแจ้ง
กาเน็ตหันไปมองเควินทันที
“งั้นรึ ขอบใจที่พาท่านโพเมร่ามาถึงนี่ ลำบากเธอแล้ว”
กาเน็ตพูดแค่นั้นก่อนจะขมวดคิ้ว
“…แต่หากเธอเป็นจอมเวทของเมืองนี้ ก็น่าจะรู้ว่า การขอบัตรผ่านให้คนนอกนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ แล้วทำไมถึงยอมพาพวกเขามาล่ะ?”
“อะ เอ่อ…ขะ ข้า…”
เควินตัวสั่นเหงื่อท่วม
กาเน็ตหันมามองฉัน โพเมร่า และพนักงานทีละคน
ดูเหมือนเขาจะเข้าใจสถานการณ์โดยรวมแล้ว จึงขมวดคิ้วแน่น แล้วหันไปจ้องเควินด้วยแววตาเย็นเยียบ
“ก็เพราะคนอย่างเธอล่ะสิ ที่ทำให้มานาลาร์คถูกมองว่าเต็มไปด้วยคนหยิ่งยะโส จะชดใช้ยังไงกับการทำให้ท่านโพเมร่ารู้สึกแย่?”
“มะ ไม่…คือ…”
เหงื่อของเขาไหลมากพอจะเริ่มเป็นแอ่งน้ำที่เท้า
“พอแล้ว ไปซะ ฉันจำหน้าเธอได้แล้ว ถึงจะไม่สั่งให้ไสหัวออกจากเมือง แต่ห้ามมาเหยียบแถว《ไม้เท้าเวทมิธริล》อีกเป็นอันขาด”
“คะ ครับ!”
เควินวิ่งหนีออกไปแทบทันที
กาเน็ตมองตามหลังเขาด้วยสายตาเย็นชา
จากนั้นก็หันกลับมายิ้มให้โพเมร่าอีกครั้ง
“เมื่อเสร็จขั้นตอนแล้ว ฉันจะพาไปชมสถานที่เองนะ”
…ชายคนนี้ ทั้งใจดี ทั้งเด็ดขาด แต่ก็น่ากลัวไม่น้อย
ออร่าที่แผ่ออกมานั้น ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ…
MANGA DISCUSSION