“…วันนี้ตั้งใจจะมาซื้อของใช่มั้ยคะ?”
พนักงานต้อนรับหันมาถามฉันด้วยสีหน้าสงบ
“คะ ครับ…ก็แค่…คือ ผมมีเงินไม่มาก อยากแค่มาเดินดูไว้ก่อนน่ะครับ”
ฉันตอบไปอย่างตะกุกตะกัก
ฟิเลียที่อยู่ข้างๆ จับมือฉันแน่นราวกับจะให้กำลังใจ
“รบกวนขอชื่อจอมเวทที่คุณนัดไว้มาหน่อยได้มั้ยคะ?”
“ไม่มีครับ…”
“…คุณทราบใช่มั้ยคะ ว่าคนภายนอกจะเข้ามาข้างในได้ต้องมีจอมเวทในสังกัดของเราคอยพาเข้ามาเท่านั้น”
เสียงของพนักงานเจือไปด้วยน้ำเสียงคล้ายกล่อมเด็กปนดูแคลน
ฉันเผลอจ้องเควินด้วยแววตาขุ่นเคือง
“แล้วเด็กคนนั้น…คุณตั้งใจจะพาเข้ามาด้วยเหรอคะ? ถึงแม้จะไม่มีระเบียบห้ามไว้ชัดเจน แต่โดยสามัญสำนึก…คงเข้าใจใช่มั้ยคะว่ามันไม่เหมาะ”
เธอพูดพลางมองไปที่ฟิเลีย
ฟิเลียสะดุ้งไหล่สั่น รีบคว้าชายเสื้อคลุมฉันแล้วหลบไปอยู่ด้านหลังอย่างหงอยๆ
“…ฟิเลีย รออยู่ข้างนอกนะ”
…พูดตามตรง แค่นี้ก็พอจะเดาได้แล้วว่าพวกเราคงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป
จากที่พนักงานพูดมา ดูเหมือนว่าถ้าไม่มีเส้นสายจากคนใน ก็ไม่มีทางเข้าไปได้เลย
ในเมื่อเป็นแบบนี้ คงต้องตัดใจเสียหน้าเล็กน้อยแล้วรีบหาทางแยกตัวจากเควิน
“ว่าแต่…คุณมีบัตรผ่านหรือยังคะ? ต้องยื่นขอไว้ก่อน และรอเวลาตรวจสอบประมาณหนึ่งสัปดาห์นะคะ…”
“ถ้าผ่านการตรวจสอบ เราจะสามารถใช้สถานที่นี้ได้ใช่มั้ยครับ?”
บางที ถ้ารู้เงื่อนไขชัดเจนก็อาจจะมีหวังขอบัตรผ่านของ《ไม้เท้าเวทมิธริล》ได้บ้าง
หนึ่งสัปดาห์ฟังดูยาว…แต่พวกเราก็ไม่ได้มีธุระด่วนอะไรเป็นพิเศษ
“อืม…อย่างน้อยต้องมีจดหมายแนะนำพิเศษ หรือไม่ก็ต้องเป็นนักผจญภัยระดับ B ขึ้นไปค่ะ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าผ่านเกณฑ์แล้วจะได้รับอนุญาตแน่นอนนะคะ”
ระดับ B เหรอ…
ฉันกับโพเมร่ายังอยู่แค่ระดับ C เท่านั้น
ก็ใช่ว่าจะไกลเกินไป…แต่ระดับของนักผจญภัยไม่ได้ดูจากความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว แต่เน้นจำนวนภารกิจที่ผ่านมากกว่า
โดยเฉพาะระดับ B ขึ้นไปนั้นการประเมินจะเข้มงวดมาก
…ถึงจะทำจริงจัง ก็อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปี
และที่สำคัญ ระดับ B ยังเป็นแค่เงื่อนไขขั้นต่ำเท่านั้น
“ทำไมล่ะ? ไม่คิดจะยื่นเรื่องไว้เหรอ? ก็นึกว่าจะเป็นจอมเวทชื่อดังถึงได้อยากมาที่สุดยอดสถาบันเวทของเมืองนี้…แต่ดูท่าจะเข้าใจผิดสินะ?”
เควินได้จังหวะก็รีบแทรกมาเสียดสีผมทันที
…ที่แท้ก็วางแผนจะล้อเลียนฉันแบบนี้อยู่แล้ว
ลงทุนมาถึงขนาดนี้เพื่อเรื่องไร้สาระแบบนี้นี่นะ…
ฟิเลียเงื้อแขนขึ้นแบบไร้อารมณ์ ตั้งท่าจะฟาดเควิน
ฉันจึงรีบคว้ามือเธอไว้ก่อน
ไม่ใช่แค่กลัวเธอจะพังทั้งตึก แต่ไม่อยากลดตัวไปมีเรื่องกับคนแบบนี้ด้วย
“…ขอโทษครับ ผมมันไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะครับ”
ฉันก้มหัวให้พนักงานอย่างสุภาพ
“โธ่เอ้ย…เล่นพาเดินมาถึงนี่แล้วจะมาบอกเลิกกลางทางงี้เหรอ…เฮ้อ”
เควินพูดด้วยสีหน้าพอใจ
ฟิเลียเงื้อแขนอีกครั้ง ฉันรีบกดลงไว้อย่างรวดเร็ว
“ก็แค่จอมเวทบ้านนอกกากๆ…ยังจะกล้าทำอวดดีอีก อยากให้ก้มหัวขอโทษฉันมากกว่าพนักงานเสียอีกนะ”
ทันใดนั้น ประตูทางเข้าก็เปิดออก
ชายร่างใหญ่ในชุดคลุมเดินเข้ามา
น่าจะอายุประมาณห้าสิบปี
ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัย แต่แววตาคมเข้ม เปี่ยมด้วยพลัง
มีหนวดเคราสีขาวหยาบๆ และจมูกโด่งสูง
รอบคอและแขนประดับด้วยเครื่องรางเกี่ยวกับเวทมนตร์หลายชิ้น
พนักงานถึงกับสะดุ้งและยืดหลังตรงทันที
“ท่านกาเน็ต…ขอบคุณที่กรุณามาเยือนค่ะ นึกว่าท่านมีธุระอื่นในวันนี้เสียอีก”
“ขอบใจ ฉันให้ลูกน้องจัดการเรื่องอื่นแทน เพราะมีบางอย่างที่อยากแน่ใจด้วยตัวเอง”
ดูจากท่าทางแล้ว กาเน็ตน่าจะเป็นหนึ่งในหัวหน้าของ《ไม้เท้าเวทมิธริล》
ท่าทีของเขาเปี่ยมไปด้วยอำนาจและความน่าเกรงขาม
ทั้งฉัน โพเมร่า และเควิน ต่างหลบให้เขาเดินผ่านโดยไม่รู้ตัว
มีเพียงฟิเลียที่ยืนเหม่ออยู่ตรงกลางทางเดิน
“หนวดดูแข็งจัง”
ฉันรีบคว้าหัวไหล่ฟิเลียแล้วดึงหล่อนหลบเข้าข้างทางเบาๆ
“ไม่ต้องใส่ใจฉันมากก็ได้ ฉันมาเพราะมีเหตุผล และตอนนี้มันสำเร็จแล้ว พอได้ยินว่ามีคนจะมาที่《ไม้เท้าเวทมิธริล》ก็รู้สึกแปลกใจ…แต่กลายเป็นจังหวะที่ดี”
กาเน็ตเดินตรงเข้ามาหา พอถึงตัวผม เขาหันขวับไปยืนตรงหน้าของโพเมร่าแทน
โพเมร่ารีบก้มหัวแล้วหลบให้ แต่กาเน็ตกลับขยับมายืนต่อหน้าหล่อนเหมือนเดิม
“อ…เอ่อ…ท่านต้องการพบ…โพเมร่าใช่มั้ยคะ?”
กาเน็ตมองโพเมร่านิ่งๆ แล้วพยักหน้าช้าๆ อย่างจริงจัง
“ฉันได้ยินเรื่องของท่านจากลูกน้องที่กลับมาจากอาร์โลเบิร์กแล้วล่ะ ท่านนักบุญโพเมร่า ผู้ใช้เวทคนเดียวต้านเวทพิษจาก《มนุษย์มังกรอสูร》ปกป้องผู้คนของเมืองไว้ได้ เป็นจอมเวทระดับ S ที่คู่ควรอย่างแท้จริง เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบตัวจริง”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและเคารพ
เควินกับพนักงานถึงกับอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกโพลงราวกับจะทะลักออกมา
ทั้งคู่หันมาจ้องโพเมร่าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
แต่โพเมร่าหันมาทางฉัน สีหน้าไม่สบายใจ ราวกับจะร้องขอความช่วยเหลือ…
MANGA DISCUSSION