“โอ โอ้ โอ๋ โอ๊วววววววว……!”
ร่างของโซโรฟิเลียค่อยๆ สลายกลายเป็นทรายสีรุ้งล่องลอยกระจายออกไป
หน้ากากที่มันสวมลอยขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะยิ่งเล็กลงเรื่อยๆ
“ไม่จริงน่า……นั่นน่ะ 《จอมราชันย์มังกร ดริกเวชา》 เลยนะ!? ทำไม…ทำไมถึงพ่ายแพ้ได้…แบบนี้ก็…หมดหนทางแล้ว…พะ…พันธะของเผ่าพันธุ์…ความใฝ่ฝัน…โลกใบใหม่…อ๊า อ๊า อ๊าาาาาาาาา! ข้า…ข้าทำไปเพื่ออะไรกัน…ไม่น่าเป็นแบบนี้เลย……!“”
โนตส์ทรุดลงไปกับพื้น กุมหัวร่ำไห้ น้ำตาไหลอาบใบหน้า
…บางอย่างไม่ชอบมาพากล
โซโรฟิเลีย…แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่?
ฉันใช้มือคว้าทรายสีรุ้งขึ้นมาหน่อย ก่อนจะหยิบ บันทึกความทรงจำแห่งอะคาเซีย ออกจากถุงเวทแล้วเปิดอ่าน
—
【ทรายแห่งความฝัน】 《ระดับ: เทวะ》
ถูกสร้างขึ้นเมื่อห้าพันปีก่อนโดยตระกูลนักเล่นแร่แปรธาตุที่รับใช้ราชวงศ์
กล่าวกันว่ามีการใช้โล่ที่เทพมอบให้แก่ผู้ถูกอัญเชิญจากต่างโลกหลอมรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวัสดุ
เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาอันสูงสุดของศาสตร์เล่นแร่แปรธาตุ ที่สามารถให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง
ทรายแห่งความฝัน ยังตอบสนองต่อจิตใจมนุษย์ และสามารถเติมเต็มได้ทุกความปรารถนา
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับที่มนุษย์ไม่อาจควบคุมจิตใจของตนได้อย่างแท้จริง พลังของ ทรายแห่งความฝัน ก็ไม่อาจมีใครควบคุมได้โดยสมบูรณ์
ว่ากันว่า…พ่อค้าที่ปรารถนาความมั่งคั่ง กลายเป็นแท่งทองคำ…ผู้กล้าที่แสวงหาอำนาจ กลับกลายเป็นอสูรอัปลักษณ์…
—
…นี่คือร่างจริงของโซโรฟิเลียงั้นเหรอ?
แต่ ทรายแห่งความฝัน นั้น ตามบันทึกของอะคาเซียก็บอกว่าไม่อาจควบคุมได้ไม่ใช่หรือ?
แต่ว่า…หากโซโรฟิเลียสามารถเปลี่ยนร่างให้คล้ายมังกรซึ่งมีต้นแบบชัดเจน เพื่อต่อกรกับฉันได้ล่ะก็ มันขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด
หรือว่าถ้าพลังของ 《ทรายแห่งความฝัน》 ขึ้นอยู่กับ “คำอธิษฐาน” แล้ว…โซโรฟิเลียนี้ จะถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความปรารถนาใดกันแน่?
ทันใดนั้น ฉันก็นึกขึ้นได้ถึงเผ่าพันธุ์ของโซโรฟิเลียขึ้นมา
—“หัวใจแห่งความฝัน”
สมมุติฐานอันน่าหวาดผวาพุ่งวาบขึ้นในหัว จนฉันรู้สึกเลือดในร่างเย็นเฉียบ
“…อย่าบอกนะว่า เพื่อควบคุม 《ทรายแห่งความฝัน》 พวกเขาเลยใช้มนุษย์เป็นแกนกลาง!?”
“……พูดให้ถูกก็คือ…สิ่งมีชีวิตสังเคราะห์ที่เรียกว่าโฮมุนครุส ซึ่งใช้มนุษย์เป็นวัตถุดิบ…ในตำนานกล่าวไว้ว่า พวกเขาจะถูกสาปให้ไร้ความคิดและบุคลิก เพื่อให้ดำรงอยู่ในฐานะเทพเจ้าแห่งความหวาดกลัว…”
เสียงแผ่วเบาดังขึ้นจากมุมห้อง เป็นโนตส์ที่ยังคงนั่งทรุดอยู่กับพื้น
“เรื่องแบบนั้น…ช่างโหดร้ายเกินไปแล้ว…”
“ทั้งที่เราทำถึงขนาดนี้แล้วแท้ๆ…แต่กลับถูกกษัตริย์ที่เรารับใช้หักหลัง…ถูกประชาชนที่เราปกป้องทรยศ…พอข้ามกาลเวลาหลายพันปี จนได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในวันนี้…กลับต้องเจอกับชะตากรรมเยี่ยงนี้……!”
โนตส์พูดพลางกัดฟันจนเส้นเลือดปูดขึ้นบนหน้าผาก ร่างสั่นเทา ขณะที่น้ำตาสีเลือดไหลอาบแก้ม
ทันใดนั้น กลิ่นไอชั่วร้ายที่เคยจางหายไปก่อนหน้า กลับแผ่ซ่านขึ้นอีกครั้ง
“อย่าบอกนะ…ว่ายังไม่ตาย!?”
ฉันเคยตัดสินว่า การที่ร่างของโซโรฟิเลียพังทลาย และโนตส์ทรุดลงร้องไห้ นั่นคือสัญญาณแห่งชัยชนะ
แต่ดูเหมือนว่า…นั่นยังไม่ใช่ไม้ตายสุดท้ายของมัน
“หา…?”
กลางห้อง ปรากฏร่างของฉัน…ที่สวมหน้ากากของโซโรฟิเลีย
เมื่อแกว่งแขน 《ดาบวีรชน กิลกาเมช》 ก็ปรากฏขึ้นในมือ
“โซโรฟิเลีย…ท่านกำลังรับรู้ว่าชายผู้นั้นคือศัตรู และพยายามกำจัดเขาด้วยสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่มีไว้กำจัดผู้บุกรุกอย่างนั้นหรือ!?”
โซโรฟิเลียพุ่งเข้าโจมตีฉันด้วยดาบ
ฉันยกดาบขึ้นรับไว้ แล้วตีกลับ แต่เพียงกระบวนที่ห้า ฉันก็ตัดดาบของมันขาดสะบั้น แล้วชิงจังหวะที่มันถอยหลบ ฟันขึ้นเฉือนข้อมือทั้งสองข้างของมัน
ทั้งทักษะ ทั้งสเตตัส ฉันเหนือกว่ามันทุกทาง
แม้แต่ความแข็งแรงของดาบ มันก็เทียบกับ 《ดาบวีรชน กิลกาเมช》 ของจริงไม่ได้เลย
แถมตอนนี้สเตตัสของฉันก็สูงกว่าเมื่อครู่เสียอีก
ท้ายที่สุด…ก็แค่ของเลียนแบบ
“อ…อ๊า……”
โซโรฟิเลียจ้องมองแขนไร้ข้อมือของตนด้วยสายตาสั่นไหว
“ได้โปรด…หลับให้สบายเถอะ ฉันไม่อยากให้นายต้องทรมานไปมากกว่านี้อีกแล้ว”
“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา!”
แขนของโซโรฟิเลียงอกกลับขึ้นมาอีกครั้ง นิ้วของมันชี้มาที่ฉัน
“《ระเบิดมหาแรงโน้มถ่วง กราวิเบิร์น》……”
มันร่ายเวท วงเวทเริ่มปรากฏขึ้น
ไม่น่าเชื่อว่ามันจะใช้เวทของฉันได้ด้วย
แต่จุดอ่อนของเวทนี้…ฉันรู้ดีที่สุด
ฉันยังไม่สามารถควบคุม 《กราวิเบิร์น》 ได้อย่างสมบูรณ์
เนื่องจากวงเวทซับซ้อนเกินไป จึงต้องใช้เวลาร่าย ส่งผลให้มีช่องว่างก่อนจะปล่อยเวทจริงเสมอ
ถึงจะเป็นเวทที่มีประโยชน์ แต่ถ้าเจอศัตรูที่รู้ทันแบบนี้ ก็แทบไม่มีโอกาสได้ใช้เลย
สถานการณ์แบบนี้ต้องใช้เวทระดับต่ำเข้าแลกเท่านั้น
ฉันพุ่งเข้าไปต่อหน้าศัตรู แล้วฟัน 《ดาบวีรชน กิลกาเมช》 ลงไป
ฟันร่างครึ่งบนของโซโรฟิเลียขาดกระจุย
…ให้ความรู้สึกแปลกๆ ราวกับว่าฉันกำลังฆ่าตัวเองอยู่เลย
ร่างของมันกลายเป็นทรายสีรุ้งแล้วจางหายไป
ตอนแรกฉันคิดว่าสิ้นสุดลงแล้ว
แต่ทันใดนั้น…รอบตัวฉัน ปรากฏ ตัวฉัน อีกสี่คน สวมหน้ากากเช่นเดียวกัน
“ถึงกับสร้างร่างแยกได้เลยเหรอเนี่ย……”
สามในสี่คนกรูเข้ามาพร้อมดาบ
ฉันหลบ รับ และใช้กำแพงกับพื้นเป็นฐานดีดตัวหลบออกมา พร้อมหาโอกาสสวนกลับอย่างปลอดภัย
ขณะที่อีกคนหนึ่ง ชี้นิ้วมาทางฉันจากระยะไกล
ดูเหมือนเป้าหมายของมันคือการใช้สามคนขัดขวางฉันไว้ แล้วปล่อย 《กราวีเบิร์น》 กะเอาตาย
ฉันสูดลมหายใจ ตั้งสมาธิ เริ่มร่ายวงเวท พร้อมกับโต้กลับสามคนด้วยดาบอย่างดุเดือด
ข้อได้เปรียบของ 《วิชาจิตคู่ขนาน》 ไม่ใช่แค่สามารถร่ายเวทคู่ไปด้วยได้เท่านั้น
แต่ยังรวมถึงสามารถ “จดจ่อกับการใช้ดาบ” ไปพร้อมกันได้ด้วย
แม้จะโดนดาบเฉือนเข้าไปหลายครั้ง แต่ในที่สุดฉันก็พาพวกมันไปรวมตัวกันยังจุดเดียวได้
ตัวโซโรฟิเลียคนที่สี่กำลังร่าย 《กราวิเบิร์น》 อยู่
เพราะเวทนี้มีดีเลย์ก่อนใช้งานจริง ทำให้การกะจังหวะไม่ยากเท่าไร
“เวทมิติขั้นที่สิบสอง 《โลกอันเชื่องช้า สโลว์เวิลด์》”
ฉันปล่อยแสงสีม่วงห่อหุ้มทั้งสามคนไว้ใน 《สโลว์เวิลด์》 แล้วพุ่งตัวหลบออกมา
ทันใดนั้น 《กราวิเบิร์น》 ของโซโรฟิเลียอีกคนก็ระเบิดขึ้น แสงสีดำคลุ้งไปทั่ว
“เวทมิติขั้นที่สี่ 《วาร์ประยะสั้น ช็อตเกต》”
ฉันร่ายเวทแล้วพุ่งออกไปไกลที่สุดเท่าที่ขอบเขตเวทจะเอื้ออำนวย
ในขณะที่อีกสามร่างที่ติดอยู่ใน 《สโลว์เวิลด์》 ไม่อาจขัดขืนแรงกดทับจาก 《กราวิเบิร์น》 ได้ และถูกบดขยี้จนพังพินาศ
———————————————
【โซโรฟิเลีย】
เผ่าพันธุ์: หัวใจแห่งความฝัน
Lv: 3122
HP: 2746 / 14049
MP: 952 / 14049
———————————————
ดูเหมือนจะถึงขีดจำกัดแล้วจริงๆ
แม้จะยังตั้งท่าดาบอยู่ แต่ก็หอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า ช่องโหว่มากมาย
คงแบ่งพลังให้ร่างแยกไปไม่น้อย
“…อย่างน้อย ขอให้นายได้จากไปอย่างสงบเถอะ”
ฉันเริ่มร่ายเวท
แม้จะไม่ค่อยใช้บ่อยนัก แต่กับโซโรฟิเลียที่อ่อนแรงแบบนี้ น่าจะได้ผล
“เวทมิติขั้นที่ยี่สิบ 《สะบั้นสายใยแห่งกรรม คาร์ม่าเบรกเกอร์》”
ฉันชี้ดาบวีรชนไปยังโซโรฟิเลีย
ร่างของมันถูกแสงสีขาวบริสุทธิ์ห่อหุ้มไว้
《คาร์ม่าเบรกเกอร์》 เป็นเวทที่ตัดขาดคำสาปหรือเวทเสริมพลังจากเป้าหมาย พร้อมโจมตีด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์
โซโรฟิเลียถูกทำลายจิตใจและความเป็นตัวตนไปจากคำสาป ถูกสร้างขึ้นเป็นเทพแห่งความกลัว ทั้งที่ภายในยังเต็มไปด้วยความสับสนและหวาดหวั่น
จากที่โนตส์พูดมา มันถูกจองจำอยู่ในสภาพแบบนั้นมาเป็นพันปี
แม้ฉันจะไม่สามารถคืนความเป็นมนุษย์ให้มันได้
แต่ขอเพียงให้สุดท้าย…มันได้พบกับความสงบสุขบ้างก็ยังดี
ภายในแสงสว่าง แขนขาของโซโรฟิเลียค่อยๆ ละลายหายไป
หน้ากากของมันแตกออก
เบื้องหลังคือใบหน้าของฉัน…แต่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ราวกับเด็กตัวเล็กๆ
“…ขอบ…คุณ…”
มันพึมพำเบาๆ แล้วค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงราวกับกำลังหลับใหล
แสงจางหายไป พร้อมกับร่างของโซโรฟิเลียที่เลือนหายไปจากโลกนี้
“โอ้…โซโรฟิเลีย…โซโรฟิเลียยยยยย! โซโรฟิเลียยยยยยย! เทพแห่งความกลัวอันเป็นที่รักของพวกข้าาาา!”
โนตส์โผลงกับพื้น ร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด
ในวินาทีนั้น คฤหาสน์การอนด์ที่ถึงขีดจำกัดมานาน ก็เริ่มพังทลายลง
“…ต้องหนีแล้ว”
ฉันกระโจนไปที่หน้าต่าง ก่อนจะหันกลับไปมองภายในคฤหาสน์อีกครั้ง
โน้ตส์ยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
ไม่รู้ว่าเขาไม่รู้ว่ามันกำลังจะถล่ม หรือรู้แล้วแต่เลือกจะอยู่ต่อ
“…คุณเองก็เป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่งเหมือนกันนะ”
ฉันเบือนหน้าหนีจากเขา แล้วจากคฤหาสน์ที่กำลังถล่มออกไป โดยไม่หันกลับมาอีกเลย
MANGA DISCUSSION