โพเมร่าจับคทาใหญ่ไว้แน่น แล้วหันไปเผชิญหน้ากับออคตาบิโอ
“จะว่าร้ายโพเมร่าก็ไม่เป็นไรค่ะ… แต่ถ้าจะมาว่าคานาตะซังล่ะก็ โพเมร่าไม่มีวันยอม! ช่วยถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!”
“อย่าทำกร่างให้มากนัก เจ้าพวกลอกแบบมนุษย์ไร้ค่า… คิดจะชี้คทามาที่ฉัน หมายความว่าอยากโดนฆ่าทิ้งงั้นสินะ?”
ออคตาบิโอขู่เสียงต่ำใส่โพเมร่า
แต่โพเมร่าก็ไม่หลบตา จ้องกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
ใบหน้าออคตาบิโอบึ้งตึงขึ้น เหมือนอารมณ์เดือดพล่านยิ่งกว่าเดิม
“หึ… ดูท่าแกจะอยากตายจริงๆ สินะ? เจ้าพวกลูกผสมป่าเถื่อนอย่างแกน่ะ กล้าทำท่าทางดูถูกฉันเรอะ?”
ฉันจึงก้าวออกมายืนขวางหน้าโพเมร่า
“ไม่ทราบว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่? ท่าทีแบบนี้มันไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่เลยนะครับ”
“แน่อยู่แล้ว! ไอ้พวกคุณหนูทำตัวหรูหราเล่นเป็นนักผจญภัยแบบงานอดิเรกอย่างแก คงไม่เข้าใจหรอก!”
ออคตาบิโอข่มจมูกฟึดฟัด ก่อนจะคว้าเอาขวานที่สะพายหลังออกมา
“แต่ก่อนก็ปล่อยพวกแกไว้ เพราะคิดว่าไม่มีเวลาจะมาเสียกับพวกแก หลังจากเจ้าออฟฟ์หายตัวไปอย่างลึกลับ… แต่หลังจากเห็นพฤติกรรมของพวกแกแล้ว มันก็ชวนหงุดหงิดจนทนไม่ไหว เลยรับคำร้องเดียวกันแล้วสะกดรอยตามมา”
เจ้าออฟฟ์ที่เขาพูดถึง น่าจะเป็นเจ้าคนแคระที่เคยอยู่ข้างออคตาบิโอ แล้วพยายามปล่อยฝูงก็อบลินใส่เราเมื่อตอนก่อนนั่นเอง
“คุณบอกว่าการกระทำของพวกเราทำให้คุณขัดใจ?”
“อย่ามาเล่นคำให้มาก! แกนี่มันน่ารังเกียจจริงๆ!”
ออคตาบิโอเบิกตากว้าง เส้นเลือดบนขมับปูดโปนขึ้น
“พวกอย่างแกที่ใช้เงินซื้อผลงาน ทำให้พวกฉันซึ่งเป็นนักผจญภัยตัวจริงต้องเดือดร้อนกันหมด! เรื่องที่แกเอาซากสัตว์ประหลาดมาขายที่กิลด์เพื่อปั๊มผลงานลับหลังน่ะ ฉันรู้หมดแล้ว! คนอื่นเขาก็พูดกันให้ทั่ว! ถึงกิลด์จะทำเป็นไม่สนใจขอแค่ได้กำไรก็พอ แต่สำหรับพวกฉัน มันเห็นชัดว่าเป็นของปลอมชัดๆ! พวกเศรษฐีโง่ๆ อย่างแก คิดว่าซื้อทุกอย่างด้วยเงินได้งั้นเรอะ!?”
…ที่แท้ก็ถูกเข้าใจผิดแบบนี้สินะ
ก็ไม่แปลกนักที่การที่นักผจญภัยเลเวล 7 อย่างโพเมร่ามาร่วมทีมกับฉันที่เพิ่งมาใหม่ และเราสองคนก็ไต่ระดับผลงานขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันอาจจะดูผิดปกติในสายตาคนอื่น
แต่ความสำคัญในครั้งนี้มันไม่ใช่ตรงนั้น
เพราะออคตาบิโอไม่ได้เริ่มตามรังควานพวกเราหลังจากที่เราสร้างผลงานขึ้นมาแล้วเท่านั้น เขาส่งออฟฟ์มาเล่นงานเราตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว ตั้งใจจะทำให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุระหว่างทำภารกิจ
พูดอีกอย่างคือ เขาแค่ “ไม่ชอบหน้า” ฉันกับโพเมร่า จนตามล่าไม่เลิกเท่านั้นเอง
“…เจ้าออฟฟ์ตัวเล็กนั่น ผมบอกเขาให้เตือนคุณแทนผมแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะหนีออกจากเมืองไปก่อนจะได้พูดสินะ?”
“พูดพล่ามอะไรก็ไม่รู้… แกมันก็แค่ซื้อตัวมันไว้ใช่มั้ยล่ะ? พวกคุณชายเจ้าสำราญแบบแกน่ะ ก็เป็นซะแบบนี้หมดล่ะว้า”
“แสดงว่าคุณได้ยินเรื่องของผมมาจากออฟฟ์ แล้วก็ยังจะมาหาเรื่อง แปลว่าตั้งใจมาทำร้ายเราตั้งแต่ต้นเลยใช่มั้ยครับ?”
ฉันเคยพูดไว้กับออฟฟ์อย่างชัดเจนว่า “ถ้ามายุ่งอีก จะไม่ไว้ชีวิต”
ฉันฆ่าสัตว์ประหลาดมาก็มาก… แต่ไม่เคยฆ่ามนุษย์มาก่อน
และยังไม่มีใจพร้อมสำหรับเรื่องแบบนั้น
แต่ถ้าออคตาบิโอถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่สามารถมามัวเมตตาหรือผ่อนปรนได้อีกต่อไป
อาจถึงเวลาที่ต้องใช้วิธีที่โหดเหี้ยมบ้างแล้ว
“พูดถึงความกล้าน่ะเหรอ? พวกแกนั่นแหละที่ควรเตรียมใจไว้! ฆ่าคนนอกเมืองน่ะ ยังไงมันก็ไม่มีใครมาตัดสินหรอก! อีกอย่าง แกมันก็แค่คุณชายที่หลุดจากบ้านมาเล่นสนุก ส่วนผู้หญิงข้างตัวก็เป็นขยะลูกผสมไร้ค่า พวกแกตายไป ใครเขาจะสนใจล่ะ? ทั้งเจ้าของทั้งสัตว์เลี้ยง ฉันจะฆ่าให้เรียบเลย!”
คำพูดของออคตาบิโอเริ่มทำให้ฉันรู้สึกโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว
เหตุผลที่เขาเอามาอ้างมันก็เหลวไหลแทบทั้งหมด
แต่อย่างหนึ่งที่ทนไม่ได้ คือการดูถูกโพเมร่าแบบหยามเหยียดสุดๆ
บางทีสิ่งที่ออคตาบิโอรับไม่ได้จริงๆ อาจไม่ใช่แค่ฉัน
แต่อาจเป็นเพราะ “โพเมร่า” ซึ่งเขามองว่าไร้ค่า กลับกลายมาเป็นผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนักผจญภัยระดับ C ก็ได้
โพเมร่ากำลังเม้มปากแน่นอย่างเจ็บใจเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
และนั่นยิ่งทำให้ฉันโกรธกว่าเดิม
ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอ
เพราะเธอเป็นคนที่ยอมเสี่ยงช่วยฉัน ทั้งที่ยังไม่รู้จักกันดี
เพราะเราทั้งสองต่างก็ได้ผลประโยชน์จากกันและกัน จึงร่วมเดินทางมา
โพเมร่าไม่ใช่ “ตัวถ่วง” อย่างที่เขาว่า
แม้แต่รอยเอง ตอนที่ฉันจะพาโพเมร่าไป ก็ยังพยายามขัดขวาง
ถ้าเธอไม่มีค่า เขาจะทำแบบนั้นทำไม
โพเมร่าพยายามเสมอที่จะช่วยเหลือผู้อื่น
มีทั้งความกล้า และความตั้งใจ
ต่อให้ตอนนั้นเธออาจจะมีเลเวลต่ำกว่ารอยบ้าง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอ “ไร้ค่า” สักนิด
ที่สำคัญ ตอนนี้เลเวลของโพเมร่า สูงกว่าออคตาบิโอเสียอีก
“…เข้าใจแล้วครับ งั้นเรามาพิสูจน์กันว่า ข้อกล่าวหาของคุณมันผิด”
“หา?”
ออคตาบิโอเลิกคิ้วอย่างงุนงง
“คุณลองสู้กับโพเมร่าแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ถ้าคุณแพ้ ก็อย่ามายุ่งกับเราสองอีก
แต่ถ้าเธอแพ้ คุณจะเอาถุงเวทนี้ หรือเอาชีวิตผมไปก็ได้”
“โ-โพเมร่าจะออกไปสู้เหรอคะ!? ท-ทำไมต้องทำแบบนี้… คานาตะซังจะออกไปเองก็ได้…”
“ฉันรู้สึกเจ็บใจแทนโพเมร่าน่ะสิ โพเมร่าไม่เจ็บใจบ้างเหรอ?”
“ก็…มันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเลยค่ะ…”
โพเมร่าหันมองออคตาบิโออย่างไม่มั่นใจ
ทั้งที่เธอก็รู้ดีว่าเลเวลของตัวเองสูงกว่ามาก
แต่เพราะไม่มีประสบการณ์สู้กับมนุษย์มาก่อน จึงยังไม่สามารถนึกภาพตัวเองตอนชนะได้ชัดเจน
“จัดการให้ราบเลยครับ โพเมร่าในตอนนี้ ทำได้แน่นอน”
“เ-เข้าใจแล้วค่ะ! โพเมร่าจะลองดู!”
โพเมร่ากระชับมือที่จับคทาใหญ่ แล้วเดินเข้าไปใกล้ออคตาบิโอ
“งั้นแปลว่าให้ฉันเริ่มฆ่าจากผู้หญิงนี่ก่อนสินะ? ถึงยังไงพวกแกก็ต้องตายทั้งคู่อยู่ดี… ดีล่ะ! ฉันจะจัดการเจ้าลูกผสมนี่ให้แหลกต่อหน้าแกเลย!!”
MANGA DISCUSSION