“โ–โพเมร่า… โพเมร่าอาจจะ…ไม่ไหวแล้วก็ได้ค่ะ… เหมือนยิง《ลูกไฟ ไฟร์บอล》ไปหมดทั้งชีวิตเลย… ตาพร่าไปหมด… เหมือนจะอาเจียนเพราะความกลัวกับความเหนื่อยล้าด้วย…”
โพเมร่านั่งทรุดอยู่บนพื้น หอบหายใจรัวๆ
แม้ว่าฝ่ายป้องกันจะเป็นหน้าที่ของฉันทั้งหมด แต่ในด้านการโจมตีนั้น เธอแทบจะสู้กับดาร์ควูล์ฟที่มีระดับสูงกว่าได้ด้วยตัวคนเดียว
ดูเหมือนมานาของโพเมร่าจะร่อยหรอจนแทบไม่เหลือแล้ว
ถึงจะเคยให้โพชั่นเวทไปหลายขวด แต่ของที่เธอพกติดตัวคงใช้หมดไปแล้วแน่นอน
โพเมร่าทิ้งไม้เท้าใหญ่ลงกับพื้น แล้วเอามือปิดหน้าตัวเอง
“ข–ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ คานาตะซัง… จริงๆ แล้ว ตอนที่คานาตะซังให้โพชั่นเวทไว้เมื่อวันก่อนก็รู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างแล้วล่ะค่ะ… เอ่อ…โพเมร่าอาจจะไม่เหมาะจะเป็นนักผจญภัยก็ได้นะคะ… โพเมร่า…อาจจะประเมินอาชีพนักผจญภัยต่ำเกินไป… แบบนี้…มันเกินจะทนไหว…”
“ขอบคุณสำหรับความพยายามนะ โพเมร่า! รอบนี้เลเวลขึ้นพรวดเดียวตั้งหกเลเวลเลยนะ! ไปต่อด้วยจังหวะแบบนี้กันเถอะ!”
ฉันตบบ่าโพเมราเบาๆ เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม
เรื่อง《เช็กสเตตัส》ฉันบอกเธอไปเรียบร้อยแล้ว และเธอก็ให้อนุญาตตรวจสอบสเตตัสเพื่อการฝึกซ้อมด้วย
“โพ–โพเมร่า…สู้ได้ดีแล้วเหรอคะ?”
“อืม เยี่ยมมากเลยล่ะ ฉันน่ะ ตอนแรกๆ ยังต้องให้อาจารย์เอาโกเล็มที่ขยับไม่ได้มาฝึกเลยนะ แถมยังเหนื่อยแทบตายอีก… พอเลเวลของโพเมร่าขึ้น ฉันก็รู้สึกดีเหมือนได้เลเวลขึ้นเองเลยล่ะ”
“เอ๋…เอ๊ะเฮะเฮะ… ม–ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ…แบบนี้มัน…น่าเขินจัง…”
โพเมร่าแก้มขึ้นสีเล็กน้อยแล้วหลบสายตา
“อ๊ะ…เมื่อกี้ ขัดจังหวะเธอพูดไปสินะ ขอโทษที พอดี…ตื่นเต้นเกินไปหน่อย…”
พอฉันพูดแบบนั้น สีหน้าโพเมร่าก็แข็งไปชั่วขณะ เหมือนกำลังใช้ความคิด
แต่เธอก็ยิ้มจางๆ ออกมา หยิบไม้เท้าที่ตกอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเม้มปากแน่น
“…ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ โพเมร่า…อยากลองพยายามให้ถึงที่สุดค่ะ! เพราะงั้น…ถึงจะรบกวนคานาตะซังอีกก็จริง…แต่ถ้าช่วยเป็นเพื่อนฝึกไปด้วยกันได้…โพเมร่าจะดีใจมากเลยค่ะ!”
โพเมร่าพูดพร้อมกับค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
ฉันก็พยักหน้ารับคำพูดของเธออย่างหนักแน่น
“อะ อ๊ะ!”
โพเมร่าเซจนจะล้มลง ฉันรีบคว้าตัวเธอไว้ทัน
“ข–ขอโทษนะ!”
ฉันรีบผละมือออกจากตัวเธอทันที
“ม–ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ…เอ่อ เหมือน…ไม่มีแรงจะยืนขึ้นเลย…”
ใช่แล้ว ฉันต้องให้ของนั่นกับเธอด้วย
ฉันล้วงมือลงในถุงเวท แล้วหยิบโพชั่นเวทออกมา
“โพเมร่า เอ้านี่”
“ขอบคุณค่ะ คานาตะซัง…”
“พอดื่มเสร็จแล้ว…เราไปให้ลึกกว่านี้อีกหน่อยดีมั้ย? ตอนนี้โพเมร่าเลเวลขึ้นแล้ว น่าจะเริ่มชินกับวิธีนี้แล้วด้วย คราวหน้าจะลองมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่านี้อีกหน่อย”
โพเมร่ากะพริบตา แล้วมองไปที่โพชั่นเวทในมือ
ทันใดนั้นเหงื่อก็ผุดขึ้นเต็มหน้าเธอ
“ม–หมายความว่า…ในว–วันนี้เหรอคะ…?”
“เอ๋…?”
คำถามเหนือความคาดหมายของโพเมร่าทำให้ผมพูดไม่ออก
“ม–ไม่ค่ะ ไม่มีอะไร! ไปกันเถอะค่ะ! โพเมร่าตัดสินใจแล้วว่าจะตามคานาตะซังไปค่ะ!”
โพเมร่ากระดกโพชั่นดื่มจนหมดในทีเดียว
“เอ่อ…ถ้ารู้สึกเหนื่อยเกินไปล่ะก็ จะพักก่อนก็ได้นะ…”
“ไม่เป็นไรค่ะ! โพเมร่าจะไม่ทรยศต่อความหวังดีของคานาตะซัง จะทำให้สำเร็จให้ได้ค่ะ!”
งั้นเหรอ…
ลูนาเอลเคยพูดว่า ในฐานะลิช เธอไม่ค่อยเข้าใจความเหนื่อยล้าทางจิตใจ
บางทีฉันเองก็อาจจะได้รับอิทธิพลจากลูนาเอลจนชักไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ในเมื่อโพเมร่าพูดแบบนี้…ก็คงจะไม่เป็นไรล่ะมั้ง
หลังจากนั้น ฉันกับโพเมร่าก็สู้กับคิลเลอร์แบร์ที่เจอระหว่างเก็บสมุนไพร
คิลเลอร์แบร์เป็นมอนสเตอร์ระดับ C ประมาณเลเวล 30
มันเป็นหมีตาเดียวขนสีฟ้าขาว และมีแขนใหญ่สี่ข้าง
ตอนแรกมีแค่ตัวเดียว แต่ระหว่างที่ผมกันการโจมตีด้วย《โล่มานาอาร์กอน》แล้วให้โพเมร่าโจมตี มันก็คำรามเรียกพวกมาอีกสอง จากนั้นพวกที่มาเสริมก็เรียกพวกอีก และไม่ทันไรก็กลายเป็นโดนคิลเลอร์แบร์ล้อมไว้เจ็ดตัว
ปกติแล้ว คงไม่ใช่มอนสเตอร์ที่ควรปล่อยเวลาให้ยืดยาวแบบนี้
ฉันกระโดดวนไปข้างหน้าคิลเลอร์แบร์ พร้อมใช้โล่เวทปัดการโจมตีของแขนทั้งสี่
“เว–เวทจิตภูติขั้นที่สาม 《ดาบสายลมแห่งภูติเขียว ซิลฟ์ซอร์ด》!”
แสงสีเขียวพุ่งออกมา กรีดใส่คิลเลอร์แบร์หนึ่งตัว
โพเมร่ายิงเวทต่อไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า เสียงสั่นไปหมด
“เวทภูติจะประหยัดมานาก็จริง แต่เพราะต้องใช้ผ่านภูติ จึงควบคุมยาก ถ้าไม่ตั้งสมาธิให้ดี แรงโจมตีก็จะไม่คงที่นะ”
“แ–แต่ว่า…แต่…ว้าย!”
ฉันรีบขยับไปขวางหน้าโพเมร่าก่อนหมัดของคิลเลอร์แบร์จะถึงตัว ใช้โล่ปัดออกจนหมีถอยกลับไปพร้อมนิ้วบิดงอ
…อาจจะปัดแรงไปหน่อยแฮะ
“เชื่อใจผมนะครับ คิลเลอร์แบร์แค่นี้ ผมไม่มีทางพลาดการป้องกันแน่นอน!”
“ค–ค่ะ…เข้าใจค่ะ แต่ว่า…แต่ว่า…ฮี้ยย!”
คิลเลอร์แบร์สามตัวพุ่งใส่โพเมร่าที่กำลังสร้างวงเวท
ผมชูโล่ขึ้นข้างหน้า รับมือกับพวกมันไม่ให้เข้าใกล้เธอได้
เมื่อการต่อสู้จบลง ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีเป็นยามเย็นแล้ว
โพเมร่ายืนอยู่ในท่าเตรียมรบ สีหน้าเหมือนวิญญาณหลุดจากร่าง
“โพเมร่า ตอนนี้เธอเลเวล 22 แล้วล่ะ! สุดยอดเลย!”
พอฉันร้องทัก ร่างของโพเมร่าก็ล้มพับลงกับพื้น
“พ–โพเมร่า! เป็นอะไรมั้ย!?”
“คานาตะซัง…การฝึกของวันนี้…?”
“ว–วันนี้คงถึงเวลาได้กลับเมืองแล้วล่ะ…”
“งั้นเหรอคะ…”
สีหน้าของโพเมร่าผ่อนคลายลง ยิ้มอ่อนๆ ออกมา
“ต้องรีบให้โพชั่นเวท…!”
“ว–วันนี้…ขอไม่ดื่มได้มั้ยคะ! ขอโทษค่ะที่เอาแต่ใจ…แต่ถ้าไม่ต้องฝึกแล้ว วันนี้ไม่อยากดื่มแล้วค่ะ!”
โพเมร่าลืมตาโพลง ยื่นมือห้ามฉัน
“อ–อ้อ งั้นเหรอ…”
ฉันเก็บโพชั่นเวทกลับเข้าถุงเวท
ฉันกับโพเมร่าเดินกลับเมืองไปพร้อมกัน เธอเดินโซซัดโซเซข้างๆ ฉัน
“พูดตรงๆ นะคะ…วิธีฝึกของคานาตะซังมันสุดยอดจนโพเมร่ารู้สึกว่าจะตามไม่ทัน…กลางทางก็กลัวมากค่ะว่าจะเอาไม่อยู่…แต่พอผ่านไปได้ทั้งวันแบบนี้ ก็เริ่มรู้สึกมั่นใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วค่ะ ตอนนี้รู้สึกว่า…คงจะไปต่อได้ค่ะ”
โพเมร่ายิ้มอ่อนๆ ทั้งที่ร่างกายแทบไม่มีแรง
“อีกหน่อยถ้าเลเวลขึ้นอีกนิด…จะลอง《กระจกต้องสาปแห่งแดนบิดเบี้ยว》กันนะ”
รอยยิ้มของโพเมร่าแข็งค้างทันที
“ม–มันคืออะไรเหรอคะ…ชื่อน่ากลัวจัง…”
“อาจจะอันตรายและทรหดนิดหน่อยครับ แต่ประสิทธิภาพสูงสุดๆ เลยล่ะ ถ้ามีใครถามว่าฉันมีอาจารย์กี่คน ฉันจะตอบว่าคนแรกน่ะยังไม่แน่ใจ…แต่คนที่สองต้องตอบว่า《กระจกต้องสาปแห่งแดนบิดเบี้ยว》 แน่นอนครับ”
โพเมร่าหยุดเดินกลางทาง ทรุดตัวลงกับเข่าอย่างหมดแรง
“โ–โพเมร่า!?”
“ค–คานาตะซัง…ข–ขอโทษค่ะ…อาจจะ…แค่รู้สึกไปเองก็ได้ค่ะ……”
MANGA DISCUSSION